|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
14 มีนาคม 2553
|
|
|
|
บทเพลงอันงดงาม คู่ควรกับวีรบุรุษ (ขอมอบแด่ท่าน พันตำรวจเอกสมเพียร เอกสมญา)
ตอนแรกตั้งใจว่าจะเขียนบล็อกต่อๆไปเป็นภาษาอังกฤษ เพราะจะได้ฝึกใช้ไปในตัว แต่ครั้งนี้... ขอเป็นเขียนเป็นภาษาไทย... เพราะสุดที่จะบรรยายเป็นภาษาอังกฤษ... เรื่องมันมีอยู่ว่า "เพลง" กับ "คน" เพลงนั้นชื่อเพลง "ทานตะวัน" แต่งเนื้อร้องโดย อ.เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ทำนองโดย อ.ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี คนๆนั้นชื่อ "พันตำรวจเอกสมเพียร เอกสมญา"
เพลงๆนี้ผมได้ฟังครั้งแรกเมื่อสมัยเด็กๆ เพราะพ่อผมชอบเพลงบรรเลง เวลานั่งรถ พ่อจะเปิดเพลงพวกนี้เสมอ เพลงนี้อยู่ในอัลบั้ม "ลมไผ่ ฤดูกาล" ของ อ.ธนิสร์ ซึ่งเพลงนี้มีทั้งเวอร์ชั่นบรรเลง และ มีคนคนร้อง ตอนนั้นผมคงไม่เข้าใจว่าเนื้อร้องนั้นจะสื่อถึงอะไร เพราะ อ.เนาวรัตน์ ใช้ภาษาที่ค่อนข้างสูง...แต่สวยงาม ผมรู้สึกได้ว่าสวยงามในขณะนั้น แต่ไม่อาจเข้าใจได้ เพราะประสบการณ์ยังน้อย ผ่านอะไรมาไม่มาก
เพลงทานตะวันสื่อถึงบุคคลที่ต้องจากบ้านเกิดเมืองนอน เพื่อไปปฏิบัติหน้าที่ ภาระกิจ การงาน ที่จำเป็นต่อการดำเนินชีวิตต่อไป ด้วยจิตใจที่มั่นคง ไม่ย้อท้อต่ออุปสรรคใดๆ แต่ถึงอย่างไร พวกเขายังคงคิดถึงบ้านเกิดเมืองนอนของพวกเขาเสมอ โดย อ.เนาวรัตน์ ท่านได้เปรียบเทียบดอกทานตะวันกับขวัญกำลังใจของผู้คนเหล่านี้ แม้แสงแดดจะร้อนแรงแผดเผาสักเท่าไร ดอกทานตะวันจะหันหน้าเข้าสู้แสงแดดเสมอ ผู้คนเหล่านี้ก็เช่นกัน พวกขาไม่เคยย่อท้อต่อความยากลำบาก
พันตำรวจเอกสมเพียร เอกสมญา ผมขอยกย่องท่านโดยสดุดี ผมเห็นข่าวของท่านแล้วรู้สึกสะเทือนใจ จุกลำคอ กลืนน้ำลายแทบไม่ลง สี่สิบปีในพื้นที่อันตรายอย่างนั้น ใครก็คงไม่อยากจะอยู่ ท่านเป็นบุคคลในอุดมคติ เป็นแบบอย่างที่ดีต่อการดำรงตนในหน้าที่อย่างสง่าและงดงาม ไม่มีข้อสงสัยใดๆต่อการทำงานของท่าน ทุกอย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง "ท่านคือวีรบุรุษ"
ผมอยากให้ท่านได้ย้ายไปอยู่จังหวัดตรังกับครอบครัวจังเลย ยิ่งรู้ว่าท่านโดน"การเมือง"แกล้ง... ผมไม่รู้เขียนมันอย่างไร ถึงจะเขียนด่าใครให้สะใจ มันคงไม่ช่วยอะไรให้ดีขึ้นไปกว่านี้อีกแล้ว เมื่อไรบ้านเมืองนี้จะมีความยุติธรรมอย่างแท้จริงสักที... แต่ ช่างมันเถอะ เรื่องเลวร้ายผมจะไม่จำ แต่ผมจะจำคุณงามความดีของท่าน ฝังมันเอาไว้ในความรู้สึกนึกคิดและจิตใจ...
ท่วงทำนองที่สวยงาม เนื้อความที่สละสลวย เปี่ยมไปด้วยความหมาย คู่ควรที่จะหมายถึงบุคคลในอุดมคติ... ทุกครั้งต่อๆไป ที่ได้ยินเพลงนี้ นั่นคือจิตใจจะสำนึกถึงท่านเสมอ...
ตะวันส่องใส แดดฉายลงมา ทาบทาทิวทุ่ง แผ่วลมผ่านโรย เหมือนโปรยกลิ่นปรุง ดอกฟางหอมลอย ดอก หญ้าดาว วับวาวทางเกลื่อน เหมือนดังหยาดพลอย แตะนิดต้องน้อย ราวมณีร่วงพรู พัดพรายลงดิน
จะอยู่แดนไหน สุดฟ้าแสนไกล คะนึงถึงถิ่น ด้าวแดน แผ่นดิน ที่เราจากมา เนิ่นนานแสนนาน ดอกหญ้างาม งดงามดังก่อน หรือร่อนร่วงราน แดดร้อนดินแล้ง ลมระงมแผ้วพาน บ้านนาป่าเขา
ทุ่มกายทุ่มใจ เข้าโหมแรงไฟ หัวใจแรงเร่า ยิ่งสร้างยิ่งทำ ระกำหนักเบา ดิ้นรนหนทาง เจ้ามิ่งขวัญ ยิ่งวันยิ่งเดือน ยิ่งเลือนยิ่งราง ทอด ทิ้งทุ่งร้าง วันและวันผ่านเยือน เหมือนเดินทางไกล
ตะวันส่องแสง สาดแสงลงมา ทาบทาทางใหม่ ร่วมจิตร่วมใจ ก้าวไปก้าวไป ฝ่าภัยร้อยพัน มิ่งขวัญ เอ๋ย หัวใจเรามั่น เหมือนทานตะวัน เฉิดแสงแรงฝัน กลางรวีตะวัน สีทองส่องใส ...
Create Date : 14 มีนาคม 2553 |
|
2 comments |
Last Update : 14 มีนาคม 2553 21:18:53 น. |
Counter : 439 Pageviews. |
|
|
|
| |
โดย: ipod IP: 125.24.137.224 14 มีนาคม 2553 23:47:00 น. |
|
|
|
| |
โดย: ลูกเทวดา IP: 118.172.207.135 6 มกราคม 2554 21:42:09 น. |
|
|
|
| |
|
|
วัยรุ่นบ้านนอก |
|
|
|
|