Zero Dark Thirty (2012) : เที่ยงคืน 30 นาที บินลาเด็นต้องตาย! กำกับ : Kathryn Bigelow เขียนบท : Mark Boal แสดงนำ : Jessica Chastain, Joel Edgerton, Chris Pratt ความยาว : 157 นาที ประเภท : Drama / Suspense / Thriller  IMDb 7.7/ 21,805 votes (คะแนนยังไม่นิ่ง เนื่องจากเพิ่งเริ่มลงโรงฉายในวงกว้าง)  นักวิจารณ์ชอบ 93 % คนดูชอบ 86 % นี่คือภาพยนตร์ 1 ใน 9 เรื่องที่เข้าชิงชัยบนเวทีออสการ์ปีนี้ ว่ากันว่านี่คือหนังอื้อฉาวที่ได้รับ classified material หรือข้อมูลลับจากทางราชการ ในปฏิบัติการปลิดชีพ บินลาเด็น แล้วนำข้อมูลมาใช้สร้างภาพยนตร์ ทั้ง 9 เรื่องที่เช้าชิง ผมอยากดูเรื่องนี้ที่สุดครับ เพราะค่อนข้างอินกับเหตุการณ์ 9/11 จำได้ว่าตอนเครื่องบินชนตึกแฝด ตอนนั้นยังอยู่แค่ชั้นม.1 แค่ได้ดูถ่ายทอดทางทีวี ยังรู้สึกสะเทือนใจเอามากๆ ซึ่งวันนั้นมีผู้เสียชีวิตกว่า 3,000 คน นับเป็นโศกนาฏกรรมที่เป็นเหมือนฝันร้ายของอเมริกันชน และจากนั้นชื่อของ โอซามา บินลาเด็น ก็กลายเป็นผู้ก่อการร้ายหมายเลข 1 ที่ทั่วโลกต้องการตัวมากที่สุด หนังไล่ล่าบินลาเด็นเรื่องนี้ ได้แคทเธอรีน บิเกโลว์ ผู้กำกับสาวคนเก่ง ดีกรีออสการ์ จาก The Hurt Locker มานั่งแท่นกำกับ และนำแสดงโดย เจสสิก้า แชสแทน เต็งหาม นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมออสการ์ปีนี้ เรื่องย่อ  หนังสร้างจากเรื่องจริง เกี่ยวกับปฏิการณ์ไล่ล่า เด็ดหัวผู้ก่อการร้ายหมายเลข 1 โอซามา บินลาเด็น เล่าเรื่อง ผ่านการทำงานของ "มายา" เพชรฆาตสาวสวยมือ 1 ของ CIA ที่เธอพยายามสืบหาตัวคนส่งสาร ที่ชื่ออาบู อาเหม็ด โดยเชื่อว่าเป็นคนนำสารจาก อาบู ฟาราจ สมาชิกระดับสูงของอัลกออีดะห์ ส่งไปยังบินลาเด็น เธอจำเป็นต้องหาอาบู อาเหม็ดให้เจอ เพื่อเชื่อมโยงไปถึงบินลาเด็น...และปลิดชีวิตทิ้งซะ ความประทับใจ (ไม่สปอยล์) ได้มีโอกาสดูเรื่องนี้ที่ paragon cineplex ซึ่งเป็นรอบพิเศษ ดูจบแล้วประทับใจและฟินสุดๆ แม้จะเป็นหนังที่เราจะรู้ตอนจบมาแล้วก็ตาม โดยใน2ชั่วโมงแรก คือหนังสืบสวนชั้นยอด ส่วนครึ่งชั่วโมงสุดท้าย ลุ้นระทึกสุดๆ เหมือนอยู่ในเหตุการณ์นั้นจริงๆ และรู้สึกว่านี่มันไม่ใช่หนัง!! ชอบการเล่าเรื่องมากๆ คล้ายๆ Argo เลยนะ แต่ชอบเรื่องนี้มากกว่า หนังดำเนินเรื่องเรื่อยๆ แต่ชวนติดตามตลอด ตอนดูตั้งใจดูมากไม่มีหลุดเลย แล้วค่อยๆเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ  ลำดับภาพและเหตุการณ์ดีเยี่ยม เข้าใจง่าย บทแน่น ข้อมูลรายละเอียดเป๊ะโคตร แม้จะหนักแต่ไม่จับยัด ชอบมากครับ คงได้มือดีอย่าง มาร์ค โบล มาเขียนบทด้วย ทุกอย่างเลยดูลงตัวไปหมด และหนังยังได้แรงบันดาลใจ จากข้อมูลจริงของพยานในที่เกิดเหตุด้วย ชื่นชอบการปูพื้นตัวละครซึ่งทำได้ดี และที่เด่นที่สุดคือการแสดงของ เจสสิก้า แชสแทน  ซึ่งชอบมาตั้งแต่ The Help แล้ว เธอเอาอยู่ทุกบททดสอบครับ เก่งทุกอิริยาบท ทั้งสีหน้าแววตา คำพูด ลงตัวหมด  ชอบความเป็นสาวมั่นของเธอ คำพูดนี้ของเธอโดนใจมากครับ  " A 100 % he's there. OK, 95 because I know certainly freaks you guys out. But it's a 100! " จะทำอะไรให้สำเร็จต้องเด็ดเดี่ยว กล้าได้กล้าเสียแบบนี้สิครับ  เล่นเอาผมขนลุกเลย คนดูในโรงก็ฮือฮา  ความมุ่งมั่นพยายามของเธอ มีให้เห็นตลอดเรื่องครับ ลุ้นและเอาใจช่วยเธอตลอด ดูจบอยากประเคนออสการ์ให้เธอทันทีเลย ถ้าปีนี้เธอไม่ได้ ก็คงใจร้ายเกินไปหน่อย หนังมีความรุนแรงอยู่ตลอดทั้งเรื่อง การตัดต่อภาพ เทคนิค CG ล้วนสมจริงเอามากๆ ทำให้อินไปกับทุกเหตุการณ์ บางฉากสะดุ้งเลยก็มี หนังมีประเด็นให้ตามเยอะ ค่อนข้างเครียด คนดูเงียบเลย แต่ถึงเวลาปล่อยมุกก็ฮากันแทบทั้งโรง ชอบมากมุกกัดจิก เสียดสี ตลกร้าย ตอนจิกโอบามาก็แสบได้อีก หนังมีพูดถึงกรุงเทพฯด้วยนะ หลังจากชมการสืบสวน สอบสวนที่เข้มข้นมาเกือบทั้งเรื่อง ก็มาถึงครึ่งชั่วโมงสุดท้าย  ลุ้นเยี่ยวเหนียวครับช่วงนี้ บีบหัวใจมาก รู้ทั้งรู้ว่าเหตุการณ์จริงมันลงเอยยังไง แต่ดูแล้วยังลุ้น บีบหัวใจสุดๆ ทุกอย่างสมจริงไปหมด เหมือนไม่ใช่ภาพยนตร์ เหมือนเราหลุดไปอยู่ในเหตุการณ์นั้นจริงๆ แล้วจบได้น่าประทับใจครับ ในทุกสงครามล้วนมีการสูญเสีย ซึ่งคงไม่มีใครภูมิใจนักกับชัยชนะที่ได้มา  ซึ่งอเมริการู้เรื่องนี้ดี เพราะต้องสูญเสียงบประมาณและชีวิตทหารไปมากมาย  เพื่อแลกกับชีวิต บินลาเด็น  ไม่รู้ตอนประธานาธิบดีโอบามา ประกาศว่าบินลาเด็นตาย ชาวอเมริกันจะรู้สึกยังไง สะใจ สุขใจ หรือเสียใจ? นี่อาจเป็นสิ่งที่หลายคนคิด แต่ไม่เคยตั้งคำถามออกสื่อ บางทีอาจมีคำตอบรออยู่ในหนังเรื่องนี้ก็ได้ ปล. - หนังเรื่องนี้เริ่มสร้างก่อนที่บินลาเด็นจะเสียชีวิต ภายหลังการสังหาร ทีมสร้างจึงต้องปรับบทกันใหม่       - แปลกใจอย่างยิ่งที่ผกก.สาวแกร่งไม่ได้ชิงออสการ์ ทั้งๆที่หนังเหนือชั้นขนาดนี้       - ชอบมากจนต้องไปดูที่พารากอน 2 รอบ หนังในดวงใจเรื่องล่าสุด ความชอบ : 9.5/10 Grade : A    Create Date : 19 มกราคม 2556 6 comments Last Update : 25 มีนาคม 2556 15:08:30 น. Counter : 3834 Pageviews. Share Tweet

แอบสปอยล์ตรงบรรทัดสุดท้ายก่อน ปล. นะ !!   โดย: ++NatCha++ IP: 110.49.250.181 19 มกราคม 2556 17:18:24 น.

แก้ให้แล้วจ้ะณัชชา ประโยคสั้นๆนั้นมะช่ายสปอยนะ แต่แก้ให้ดีกว่าเพื่อความสบายใจ^^   โดย: เพื่อนที่ดีที่สุด 19 มกราคม 2556 18:16:11 น.

ที่ไปชมเพราะดารานำฝ่ายหญิงนี่แหละ เธอเล่นได้หลายบทบาททีเดียว แต่ที่โดนใจจาก The Help ส่วนผู้กำกับหญิงคนนี้ไม่เข้าทางเอาเสียเลย ชอบงานของอดีตสามีเธอมากกว่า ไม่อินกับเรื่องสงคราม เพราะไม่ชอบ ลึกๆ แล้วคิดเหมือนกับตอนดู Argo เลย ไปบีบเขาถึงแก่นจนประเทศเล็กๆ ทนไม่ได้ เลยต้องทำสิ่งที่ไม่น่าเชื่อ อยู่ดีๆ คนเราจะออกมาประกาศสงครามทำไม ถ้าไม่จนตรอก หรือบ้าอำนาจ ผมคลางแคลงใจกับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพของโอบามาเหมือนกัน ไม่คิดว่าการแก้แค้นจะจบเรื่องนี้ไปได้หรอกครับ แล้วคอยดูกัน การให้อภัยเท่านั้นที่จะจบเรื่องทุกอย่างได้ ไม่อินกับหนังสงครามเลยจริงๆ อย่ามีมาให้ทำหนังอีกเลยนะครับ ขอร้อง   โดย: คนขับช้า 19 มกราคม 2556 18:28:03 น.

ไปๆๆๆไปดูแน่นอน ชอบมาตั้งแต่ The Hurt Locker.. แต่จริงๆ งวดชิงOscarนั้น เชียร์และชอบ Jame Cameron มากกว่า เพราะI see you ดู Avatar ถึง 3 หนในโรงหนังและหลายหนในCable แถมเขียนบทหนัง ภาคพิศดาร ใน"ตะพาบ" ให้อีก เฮ้อ!!บางที ในประเทศศิวิไล เหมือนจะ แฟร์ๆกันเนี่ยะ ก้ไม่ได้จะให้ เครดิต ผู้หญิงสักเท่าไหร่..ดอก   โดย: เริงฤดีนะ 19 มกราคม 2556 22:42:03 น.

@คนขับช้า สงสัยพี่เอกจะไม่เข้าทางผกก.คนนี้จริงๆ ฮ่าๆ เห็นด้วยเลยครับ หนังสงครามมันดูสนุก แต่สงครามจริงๆมันไม่สนุกเลย @เริงฤดีนะ งั้นแนะนำเรื่องนี้เลยครับ พรุ่งนี้รอบพิเศษวันสุดท้ายแล้ว^^ จากนั้นจะฉายจริงก็ 31 มกราโน่นเลย   โดย: เพื่อนที่ดีที่สุด 19 มกราคม 2556 23:22:52 น.

ดูเรื่องนี้หลัง อาร์โก ง่วงนอนโคตรๆ หลับแล้วหลับอีก มาสนุกตอนจะจบ และทำสำคัญออสการ์สำหรับหนังเรื่องนี้แห้วหมดทุกรายการ 55   โดย: ผมคุณชาย IP: 58.8.39.187 26 กุมภาพันธ์ 2556 18:51:20 น.