space
space
space
<<
ตุลาคม 2564
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
space
space
16 ตุลาคม 2564
space
space
space

หัวข้อมา บรรยายไป
1.สิ่งที่เมแสดงในสมัยเก่าที่เข้าไปพัวพัน

- เรื่องประถมหนึ่งและสองที่ได้ระบายในบลอคไปก่อนหน้านี้แล้วว่า ช่วงปีที่มาพบเมเพียงสองปีว่าไปแสดงการพัวพัน ไปหอมหน้าผากหอมศีรษะ จึงมีโทษมีผลกรรมใส่กี้เพราะลืมสาวคนแรกสุด 
ทำไมการสืบของคุกกี้ถึงได้บอกออกมาว่า เมยังไม่ใช่คนแรกที่เกี่ยวกับคุกกี้ในเรื่องทำสัญญา .... ก็คือการสัญญาเกิดขึ้นมาก่อนตอนหอมหน้าผากแล้วสิ่งหนึ่งที่คุกกี้เข้าใจความหมายตอนเป็นผู้ใหญ่ คือ เหมือนเมจะทำอาการเศร้าจะร้องไห้ออกมา อาการจะร้องไห้ คือ เมจะไม่อยากให้มายุ่งแล้วที่หล่อนจะไม่ได้อธิบายออกมาแต่คุกกี้ใช้การคิดวิเคราะห์ได้ว่าเธอบอกว่า เฮ้ยๆ เดี๋ยวๆๆ คนแรกน่ะ คนแรกของแกล่ะ แกทำความผิดล่ะ นี่ล่ะครับ  ส่วนชีวิตวัยเด็กตอนนั้นน่ะ ถึงจบประถมสองไม่ได้มีเมอีกก็ใช้ชีวิตไปต่อและคุกกี้อะก็ลืมเมอีกด้วยซ้ำ แม้ว่าจะมีตัวแทนใบหน้าเมในประถมห้าเธอมาเป็นแม่สื่อของคนแรกสุด อือ ตอนเด็กกี้ก็ยังโง่ต่อไปไม่สนอะไรกับคนที่มาเป็นแม่สื่ออีกตังหาก 

แต่การที่พอจะรู้ภาพใบหน้าเมได้บ้างลางๆ ไม่รู้ภาพใบหน้าคนเก่าแก่เลย 

2.เริ่มกินผักตอนไหน

- จริงๆมันก็เริ่มจากเด็กที่เคยยี้ ขมง่ะ ให้กับบรรดาผัก การเริ่มฝึกมันเริ่มจากมอห้าน่ะที่บ้านมีอาหารเย็นเป็นสลัดผัก การกินมันก็เริ่มจากฝึกกินผักราดน้ำสลัด ถ้าใครได้ลองกินกับน้ำราดของมันแล้วก็ทำเป็นไม่ยี้กับมัน มันจะชินในการยัดเข้าปาก  อย่าไปใส่ใจรับรู้รสของผัก เราก็เคี้ยวแล้วก็กลืนลงไป ทำตัวปกติ ต่อมาคุกกี้ก็กินแบบไม่ต้องพึ่งน้ำสลัดด้วยเน่อ และช่วงมอหกช่วงปัญหาบุ๋มจากปานวาดเพราะลืมคิดเรื่องจอยก็สามารถฝึกหัดจากคะน้าหมูกรอบนี่ก็เริ่มชินกับผัก เวลาผ่านไปพบเห็นผู้หญิงสั่งคะน้าหมูกรอบมาแต่กลับกินแต่หมูกรอบ บางทีรู้สึกยังไงไม่รู้เมื่อเห็นแบบนั้น

วงการชาบูในประเทศไทยเริ่มมีมากมาย คุกกี้ไปชาบูนอกจากกินเนื้อก็ได้กินผักด้วย มีคนเขาประหลาดใจเรื่องที่คุกกี้จะไม่ใช้น้ำจิ้มช่วยทำไมจึงกินอย่างเอร็ดอร่อยได้

เรื่องสุขภาพของคุกกี้ คุกกี้มีความสงสัยจะถามผู้คนว่า บริโภคผักมากมายมาจากชาบูแต่ทำไมยังอ่อนแอ ถ้าจะแข็งแรงเร็วเขาก็บอกว่ามันต้องควบคู่ไปกับการออกกำลังกายและความไม่แข็งแรงมาจากการสูบบุหรี่ด้วย  ส่วนตอนเด็กที่เป็นคนตัวใหญ่อาจเพราะมีการดื่มนมกินอะไรเยอะหรือเกิดมาตัวใหญ่อยู่แล้วเพราะข้อมูลจากร.พ.ที่แม่ให้กำเนิดชั่งน้ำหนักคุกกี้ได้3.9 กก. เกือบจะ 4 เลย

3.กรณีที่บุ๋มบิ๋มหายไปกับภาพลักษณ์ที่เริ่มไม่เป็นอย่างที่คิด

- ช่วงเข้ามัธยมต้นเขมาภิรตารามปี 2543  คุกกี้สอบปรับพื้นฐานมาจากกลุ่ม 11 ได้ มอ1 / 1 (คือคิง)   ตอนนั้นก็มีเพื่อนที่รู้จักจากโรงเรียนประถมที่การัญของกลุ่มหัวกะทิการัญชื่อเบิ้ลได้มาห้องเดียวกันในมัธยมเขมาภิรตารามแล้วเรียนไป ไปบอกเพื่อนเรื่องการมองคนนั้นคนนี้ ว่า ไปพบบุ๋มถอดแว่นน่ารักดี เพื่อนก็เลยเอาไปประกาศในห้อง บุ๋มรู้บุ๋มต้องโกรธและเราก็ดื้ออยู่บ้างพยายามจะพูดจะเข้าหา แต่ตั้งแต่ตอนนั้นมาคุกกี้เป็นคนที่ไม่เคยคุยกับหล่อนได้เลยสักคำ 

แล้วประสบการณ์ที่เราเคยพบผ่าน เรื่องบุ๋มกับการเรียนสูงเป็นที่ต้นๆเป็นที่หนึ่งเรียน 4.00 ตอนแรกทำไมเราไม่ได้คิดก่อนว่านี่คือความเป็นจริงหรือเปล่าที่เราต้องการ เราก็แบบเชื่อในด้านบวกว่าสาวแว่นเป็นสิ่งฉลาดอย่างนั้น เวลาผ่านไปเราเกือบจะไม่ได้อยู่มอ 2 / คิง และฟลุคที่ยังอยู่ พอขึ้นมอสองมาได้ หัวใจเริ่มมีปัญหาแล้ว จะอยากได้หล่อนมาครองแล้วจากภายในใจที่มีรู้สึกมาน่ะ แต่ยังไงกันนะ เราเริ่มจะคิดว่าการที่มีระดับการเรียนดีๆ การที่เราพบเจอความเงียบขรึมเป็นเธอ เราไปเพ้ออย่างไรได้แต่เจ็บใจหลงไหล หล่อนไม่ได้บอกอะไรไม่ได้ยุ่งกับเราเลยนะ ปากเราก็บอกไปว่าคิดชอบ ความเข้าใจทั้งหมดจริงๆยังไม่เข้าใจ มีแต่ความทุกข์ตลอด ถ้าใครรักบุ๋มก็เพราะคนนั้นรักหรือเปล่า มามอสามเราเปลี่ยนชีวิต เราป่วยโรคปอดอักเสบแล้วรักษาตัวที่ร.พ.ทรวงอก1สัปดาห์ สมองเปลี่ยนไปกลายเป็นไม่ค่อยจำ อะไรคือความจริง สมองเรานี่ก็เป็นเรื่องจริงสินะที่ไม่ใช่คนจำเร็ว ถ้าตอนมอสามนั้นบุ๋มเองก็เริ่มเปลี่ยนไปแล้วถึงแม้มอสามเทอมสองเราไม่ได้เห็นกับตาว่ามอสามเทอมสองหล่อนไม่ใช่ที่หนึ่งแล้ว คือเหลือ 3.7 หืม....  เพื่อนทุกคนที่เห็นเราคลั่งบุ๋มก็เริ่มหมั่นไส้เราหมดแล้วว่าเราลืมคิดอะไรไปแล้ว (น่าจะเกี่ยวกับจอย)

บุ๋มไปต่อมหิดลวิทยานุสรณ์ เราเริ่มซึมๆเจ็บๆ ข่าวอะไรนี่จอยรู้แล้วมั้ง
เพื่อนสาวเขมาภิรตารามบอกว่าบุ๋มเรียนเหลือ 3.5
ตอนม.ปลายหัวโตกลับมาติดต่ออีกครั้งกับช่วงที่คุกกี้เรียนสายวิทย์ไปแบบตกต่ำ จริงๆ หัวโตมันก็อยากจะให้เราเห็นกับบุญกุศลมาให้ว่ารักเรา แม้ว่าเราจะแตกต่างไปจากบุญกุศลนั้น เขาอยากให้รู้ความแตกต่างเรื่องจอยกับบุ๋มแล้วล่ะ มอ5 ปี 2547 สังคมรู้ไปหมดแล้วเรื่องบุ๋ม ทำไมการเติบโตขึ้นในชีวิตถึงเริ่มมีอะไรที่เปลี่ยนภาพลักษณ์สาวมีหนังสือ สาวเรียน4.00 ขรึม สาวใส่แว่นดีทุกอย่างมันไม่ใช่แล้ว  คนมีแว่นสายตาจริงๆใครมีปัญหาสายตามันอาจจะไม่ใช่นักบุญเลยน่ะสิ เพื่อนๆมันก็หมั่นไส้ว่าคิดได้หรือไม่ได้ หัวโตแสดงออกให้ว่าเข้าใจมั้ยด้านนึงมีบุญมาหา ด้านนึงท่องเที่ยวแรดๆ และเราก็เตร็ดเตร่ สร้างวีรกรรมโน่นนี่อีก ยิ่งทำเรื่องแย่ทุกทีที่ไมมีความสบายใจ

คบไม่ได้

หมายถึงคุกกี้ไปรักแต่บุ๋มแล้วมีแต่รักอย่างเดียวจนขาดการต้องแยกแยะก่อนว่าการที่จะมีคนไม่รักคุกกี้ก็มีบ้าง
เรื่องที่มันแย่จนบุ๋มเขามองแล้วว่าไอ้ห่านี่บ้าเอาแต่รักมากขึ้น คุกกี้คงต้องรู้จักหัวใจผู้หญิงไปให้ใครแล้ว 

ช่วงที่ตกต่ำเพราะเหมือนจะเป็นคนแย่สุดๆ ไม่มีบุ๋มรัก เพื่อนไม่คบ แต่หัวโตมาเพราะบอกว่ามีคนที่คิดเรื่องคุกกี้ด้วยความจริงใจ แล้วคุกกี้ก็เข้าสู่ยุคใบหน้าคล้ายบิ๊ก D2B  ไปคลั่งปานวาดที่ปานวาดซี้มาก่อนตั้งแต่ 2546 

หะ อะไรกันเนี่ย หน้าบิ๊กไปตะลุยอะไรปานวาดว่ะ เออ มันช่วงเวลาหนึ่งที่ทำไมคุกกี้พบใบหน้าบ๊องๆแบ๊วๆ

เดี๋ยวคุกกี้ขออธิบายนะ แม้ว่าจะมาคิดทีหลังตอนเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ว่า ปานวาดเข้าใจนะ ปานวาดขอให้แยกแยะเรื่องจอยและบุ๋มสิคุกกี้ ไอ้คุกกี้ก็ทำพุ่งเข้าใส่แบบไม่มีจอยไม่มีบุ๋มอะ ไปเครียดจะเข้าหาจริงจัง แล้วก็อาการเจ็บมันน่าจะมาจากเบื้องหลังคือการลืมเรื่องจอย ปานวาดเขาบอกใบ้อะไรให้อยู่ด้วย ส่วนคุกกี้วัยผู้ใหญ่สามารถเข้าใจแล้ว ตอนนั้นปานวาดหนีแล้วบอกว่าไอ้ห่าหน้าบิ๊กอะไรมาอาละวาดหน้าปานวาดหล่อนเขาให้คิดให้ได้ว่าหัดอายคนเขาสิ ดิฉันยังอายแทน ไอ้คุกกี้ก็คลั่งเข้าไป 

เออ พอมันถึงเวลาที่ได้โทรศัพท์ไปที่บ้านหล่อน ฉันมีโอกาสคุยกับแม่หล่อนแล้วปานวาดกำลังคิดเรื่องคุกกี้แล้ว ปานวาดเธอคงคิดไว้ว่าสำหรับคุกกี้ว่าจะไป จอย หรือ บุ่ม 

และที่เรื่องที่เกิดขึ้นมา การคุยกับแม่ของปานวาดทำให้มีอาการสองใจสองรักนะเองปีนั้น ปานวาดเขาแอบสืบสวนไปด้วย

ปี 2548 คุกกี้ ม.6 ปานวาด ม.5 

ความคิดส่วนตรงนี้มาจากการสมมตินะ ไม่ใช่ว่าไปมองปานวาดคิดอะไรอย่างนี้ได้จริง

ปานวาด : พี่บอซ(คุกกี้) มีเรื่องที่เขามีใคร แต่ก็ไม่ได้โอกาส พี่บอซจะคลั่งปอปานวาดตลอดมันก็แย่ พี่เขาดูโง่ๆ ถ้าเราลองเป็นผู้ให้พี่บอซสืบสวนด้วยอะไรได้ก็จะพยายามใบ้ ใบ้ให้ว่าปอปานวาดเองก็..... อืม จะคบหาให้เป็นคนไม่ค่อยมีอะไรเก่งอย่างพี่น่ะนะพี่บอซ  .... หืม โทรศัพท์.......  ฮัลโหลคะ ........  ที่รักหรอ เดี๋ยวนะ พี่บอซเขายังมองปอ ปอจะใบ้ยังไง.... แต่ปอดีใจเหลือเกินค่ะที่รักโทรมาจริงๆ ..ค่ะๆ อ่า ค่ะๆ .....พี่บอซ ... พี่บอซ คือ พี่บุ๋ม น่ะ พี่บุ๋ม

ปานวาดคุยโทรศัพท์ อารมณ์ที่ดีใจแล้วเดินยิ้มมาแล้วเดินผ่าน

และวันหนึ่งของคุกกี้ 
คุกกี้ : ปานวาด !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

ปานวาด  : โอยยยยยยยยยย!!!!!!!! ต้องโทรจิตมั้ยเนี่ย 

คุกกี้ : ไอ้ตี๋ ไอ้มาริษ(พงษ์วัฒนา) สูยะนันท์ ทำไมมึงจีบปานวาดวะ โธ่เว้ยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

วิ่งไล่ตี๋

ตี๋ : ...อย่านะ อย่า ปล่อยเดี๋ยวนี้เลย 
คำบอกจากน้องเขาก็เหมือนจะด่าคุกกี้ประมาณว่า เดี๋ยวพี่จะโดนอัดหรอก พี่มันก็บ้าเกินไปจริงๆ 

คุกกี้จึงปล่อย

และต่อมาช่วงเย็นวันหนึ่งคุกกี้ก็คุยกับเพื่อนคนหนึ่งด้วย msn เพื่อนสักคนไม่ใช่ไอ้เบิ้ลนะ เรื่องสถานการณ์ แต่เพราะเพื่อนมันคงคิดว่าไอ้คุกกี้จะใจเดียวใช่มั้ย ก็บอกคุกกี้ บุ๋มน่ะ บุ๋มไง แต่เพื่อนแอบบอกเรื่องแจ้ที่โวยวายในช่วงเวลานั้นก็มาจากบุ๋มอีกน่ะ คุกกี้จะเก็บเอาไว้คิด

ไอ้ที่สองใจนั้น ใจด้านปานวาดหยุดหายไปกระทันหัน คุกกี้ตัดสินใจออกมา ไอ้เชี่ย คุกกี้ก็มึนงงอะดิ อะไรวะผู้คนไม่พอใจ บางคนแม่งเกลียดตัวเอง ด่าตัวเองก็เป็น พวกผู้คนมันเริ่มแปลกๆ

นรก นรกกินกบาล จะว่าทำตัวดีกวาเดิมแต่มันติดขัดอะไร อาจเป็นเพราะเหตุผลเดียว คือ ลืมจอยไปนานมากและไม่รู้เหตุผลนี้จนยุคเข้าราชภัฎจันทรเกษม

เรื่องปัจจุบันขณะนี้ เห็นบางอย่างว่าจอยน่าจะมีอะไรที่ผู้คนเกิดยึดติดแล้วเรื่องบุ๋มกับจอยน่าจะแตกต่างกัน เหมือนจอยจะทำให้คนชอบมากกว่า

เพราะอะไร


บางทีถ้าคุกกี้ค้นหาคำตอบ เหมือนต้องมีอะไรที่คนยึดติดกับจอยแตกต่างกว่ายุคเก่าไม่มีปัญหาหนักหนา

เรื่องบุ๋ม มี 2 คนที่น่าจะช่วยให้เรื่องจบเมื่อต้องการ คือ ไม่หัวโตก็แจ้


4.ใบหน้าแต่ละสมัย 

- ตอนเด็กเล็กๆถึงมอสองเป็นหม่ำ มอสามหน้าเปลี่ยนไปบ้าง ขอเรียกว่าหน้าที่ดูดีขึ้นนั้นออกมาคล้ายแมว แต่หน้าดีขึ้นกลับแลกไปกับสมองความจำต่ำ พอมามอ5 เริ่มมีมุมแสงเงาที่มองแล้วหล่อแบบบิ๊ก D2B  คือได้บางมุมที่หล่อฉิบหายเลย

จะว่าไปเรื่องผู้หญิงรักน่ะ มันก็เริ่มที่ใบหน้าหม่ำได้บ้างแล้วนะ ตอนเด็กๆ และตอนนั้นก็มัวแต่เรื่อยเปื่อยทิ้งขว้างเขา แล้วเสน่ห์คุกกี้เองจริงๆแล้วคุกกี้ยังงงมาก ว่าตอนหม่ำ ตอนแมว และตอนหล่อ ถ้าชีวิตตอนหล่อมันเกิดปัญหาจะมีคนหมั่นไส้เพราะหล่อนี่ ....

แล้วหัวใจคนมันให้บิ๊กหรือให้หม่ำ ชักยังไง บางทีคุกกี้คิดถึงสมัยหม่ำ เพราะตอนนี้หน้าบิ๊กก็มีจอยก็คิดรักหน้าบิ๊กเรามากเกิน เรามันจะเลือกคน ความคล้ายบิ๊กมีแต่ทุกข์ใจ ถ้าเป็นหม่ำจอยคงไม่เอามั้ง เอ แต่จอยมันก็น่าจะคิดตั้งแต่สมัยหน้าหม่ำได้ล่ะ

แล้วปุ๋ย นวดแผนไทยหล่อนแอบคิดเรื่องหน้าเราบ้างเปล่าเนี่ยเมื่ออยู่กันมา

============

 


Create Date : 16 ตุลาคม 2564
Last Update : 17 ตุลาคม 2564 14:30:35 น. 0 comments
Counter : 404 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
space

คุกกี้คามุอิ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






space
space
[Add คุกกี้คามุอิ's blog to your web]
space
space
space
space
space