|
|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | |
|
 |
|
|
A : เฮ เฮ ไอ้คุกกี้มันเรียนนิเทศจนจบแล้ว B : อย่างนี้คุกกี้จะหางานอะไรหว่า คุกกี้ : .....งานหรอ ฉันก็ไม่รู้ C : เลือกนิเทศกว้างๆแบบนั้น อะไรที่น่าจะเก่งที่สุด คุกกี้ : ฉันทำอะไรหลายอย่างในช่วงเรียนนิเทศ แต่ไม่ได้เก่งอะไรเป็นพิเศษ A : มีคนแนะนำสายงาน สถานที่จะให้ไปสมัครมั้ย คุกกี้ : อย่างเจ้าหัวโตมันจะพาไปแกรมมี่ แต่คิดดูแล้วมันจะง่ายขนาดนั้นจริงๆหรือ ฉันไม่มีคุณสมบัติอะไรไปทำงาน คงไปเสนอความห่วยแตกให้บริษัทไล่ออกเพียงไม่กี่วันที่ได้ทำงานหรอก ส่วนแจ้ฉันก็มีคุยบ้าง เห็นว่าถ้าทำงานอะไรได้แล้วจริงๆ จะได้ประสบการณ์ ตอนที่คุยกันในเฟสเขาก็บอกว่าการได้ลองงานดูไว้ฝึกหัด เช่น ถ่ายมิวสิควิดีโอ A : นั่นเป็นการเอาลักษณะตัวมานำเสนอ ออกสื่อ B : ถ้าดังจรืง ทำไมไม่มีใครพูดถึงมิวสิควิดีโอที่มหาวิทยาลัยเกริกทำประกวดเพลงลูกทุ่ง ที่ชื่อเพลงว่า คือบ่บอก ให้กับค่ายประกวด มันชื่อค่ายอะไรนะลืม คุกกี้ : ....ฉันก็ลืมชื่อว่ะ เออ มีแต่คนชมฝ่ายนางเอก A : Topline น่ะ B : คุกกี้ นายคาดหวังอะไรกับการทำงาน คุกกี้ : คาดหวังเรื่องค่าตอบแทน ฉันเอาเงินเดือนแรกไปให้พ่อแม่ก่อนเป็นอันดับแรก หรือถ้ามันเป็นธุรกิจที่เอาฉันเป็นตัวขายในการตลาด ถ้าดังจริงก็ยิ่งมีเงินเยอะเป็นก้อนใหญ่ แต่ฉันทำอะไรเป็นบ้างนี่สิ ถ้าฉันรู้ว่าภาษาสื่อสารฉันไม่มีปัญหาสติวิปลาศจนคล้ายออทิศติกนี่ ฉันอยากเขียนนิยายให้มันเก่งกว่านี้ C : พูดถึงรู้ไม่รู้อะไรในความจำ ทำไมตอนเด็กๆเอ็งยังมีความจำอยู่เลย และเพราะความจำนี่เป็นสิ่งที่เอ็งเป็นเด็กคิงเก่าในมัธยม คุกกี้ : ถ้าฉันมีความจำเร็วเหมือนเดิมอย่างตอนเด็ก ฉันคงไม่มีปัญหาต้องวิ่งหนีรามคำแหงกับสุโขทัยหรอกมั้ง A : เด็กคิงเก่าอย่างนาย ไหงมันกลายเป็นห่วยๆได้ขนาดนี้เชียว คุกกี้ : ก็น่ะ ฉันไม่มีอะไรจะอธิบาย ก็มันร่วงหล่นจากคิงมานานแล้ว และฉันก็เอาหูไปใช้ฟังเพลงมากเกินไป ไอ้ที่คาดหวังของพวกแกคืออะไร A : พวกเราสามคน คิดว่าแกได้เกรด 4 ทุกวิชา คุกกี้ : ... หา ขนาดนั้นเลยเหรอ ไอ้ตอนที่ฉันเรียนคิงก็ไม่ได้ทั้งหมดเป็น4สักครั้ง B : ออ ถ้างั้น มามหาวิทยาลัยเกริกแล้วไม่ได้ 4 นี่ ! ตบหัวซะหน่อย ไม่ยอมจำ คุกกี้ : ไอ้ B ฉันขอขยันที่มหาวิทยาลัยเกริก ไม่ได้โดนรีไทร์ก็บุญแล้ว ไอ้ห่าตบหัวกู มึงไปเรียนกับกูดิ มึงจะรู้ความงี่เง่าของกูที่เรียนไปต้องถามหาความรู้ไป จริงๆฉันก็ยังอยากรู้ขีดความสามารถอีกทีเมื่อฉันขอพ่อกับแม่เอามหาวิทยาลัยเกริก ไม่ได้ไปได้ดีที่ศรีปทุมที่พ่อกับแม่ให้ ฉันเอาหัวใจไปให้เกริกนั้นฉันจะเรียนนิติศาสตร์รอดด้วยความขยันของฉันได้หรือเปล่าหนอ แม้ว่าจะผ่านไปเส้นยาแดงผ่าแฝด A : ถ้ามหาวิทยาลัยเกริกไม่ใช่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีศิลป์สังคม แต่มีวิศวะเครื่องกลให้เลือกด้วยนี่ คุกกี้ : ฉันจะเรียนนะ มันเป็นแรงบันดาลใจทั้งมหาวิทยาลัยและความโหดร้ายของสาขาเครื่องกล แรงบันดาลใจฉันที่มีเป้่าหมายเรื่องเครื่องกลมาแทนสัตวแพทย์แล้ว ฉันจะลองดูว่าจะรอด C : เหอะ ตอนเอ็งเป็นเด็กๆ เอ็งไม่ใช่สายเครื่องกลเลย ชอบวาดแผนผังเกมส์มิกกี้เมาส์ crazy castle เป็นงานอดิเรกในวัยประถม และอีกอย่าง คุณอา น้องชายของพ่อแกน่ะจบวิศวะโยธา มันบ่งบอกว่า ตระกูลแกน่าจะเก่งโยธา คุกกี้ : ยุคสมัยเปลี่ยนไป คนอย่างฉันก็เริ่มเปลี่ยน C : เปลี่ยนแปลงให้ดีขึ้นแล้วไหงไม่มีใครจะมาชอบ คุกกี้ : ถ้ามันทำให้คนอิจฉาอยากชกหน้าฉันจริงๆ ฉันก็ไม่รู้หรอกจะว่าฝ่ายไหนทำความผิดกันแน่ A : ไม่หลงตัวเองเลยเหรอน่ะ คุกกี้ : ฉันดูคนทั่วไปอยู่ตั้งนานแล้ว คนอยากจะด่าฉันซึ่งๆหน้ามันก็ไม่มาอะนะ การพูดคุย หรือคำพูดติดปากพวกมันว่า ไงวะไอ้เหี้ย สบายดีมั้ยไอ้เหี้ย ไอ้สัด มันคุยกับเพื่อนมันแต่มันด่าฉันน่ะแหละทำไมมันไม่กล้ามาตรงๆ A : เปลี่ยนเรื่อง ถามอะไรหน่อย ทำไมนายเลือกที่จะเลี้ยงผู้ชายอย่างแจ้ผ่านตัวแมว คุกกี้ : ตอนที่ฉันต้องเจ็บปวดใจเรื่องบุ๋มบิ๋มและปานวาดสองใจนี่ฉันแอบไปรู้ว่า ช่วงเวลามัธยมปลายมอหก ว่าทำไมฉันถึงเห็นแจ้มันเจ็บปวด ฉันค้นหาเหตุผลอยู่หลายปีแล้ว จริงๆฉันไม่ได้คิดว่ามันเป็นคนแย่ แต่มันรักบุ๋มหรือไม่.....อีกด้านหนึ่งตอนมัธยมปลายช่วงมีคลั่งปานวาด หัวโตกลับมีบทบาทสำคัญนะ ว่าน่าจะเป็นคนที่ดูเป็นยอดนิยมขึ้นมา ฉันเคยถามแมววรางคณา ฉันถามดูว่าวะรักพี่หัวโตหรือ A : ถามวรางคณา แล้วช่วยบอกให้ว่าใช่ วรางคณากับการแต่งงานของเธอล่ะ ไม่ใช่หัวโต? คุกกี้ : ฉันพอจะเข้าใจให้มันลึกลับซํบซ้อนได้นะ เมื่อเวลาหลายสิบปีก่อนที่เคยคุยกับแมวตัวนั้นก่อนมันจะหายไป มันเป็นช่วงเวลาที่ฉันเจ็บปวดเรื่องบุ๋มฝ่ายเดียวน่ะ ฉันอาจจะเข้าใจวรางคณากล่าวว่าบุ๋มน่ะแหละรักหัวโต B : นี่ ก็ในเมื่อหัวโตหน้าตามันเป็นอย่างนั้นแล้ว บุ๋มจะต้องรักเขามันแปลกมากนะ คุกกี้ : การที่บุ๋มรักหัวโต จากการค้นพบคำตอบนี่ ผู้หญิงมีอีกหลายคนเลยนะที่รักหัวโต B : เอ๋ คุกกี้ : ตอนแรกฉันก็ไม่ได้ยอมรับหน้าอะไรมันเช่นกัน แต่วรางคณาตอนที่มันอยากเกลียดฉันยังบอกว่าเป็นคนที่รักหัวโต ผู้หญิงน่ะมีผู้ที่หญิงจำนวนหนึ่งไปรักหัวโตจริง ไม่ใช่เรื่องหน้าตาหรอกมั้งที่เขาจะคิดรักได้ A : ตอนไหนหรอที่วรางคณาตัวใหม่มาแล้วนายบอกว่ามันอารมณ์สลับกับบุ๋มบิ๋มเลยใช่มั้ย คุกกี้ : แมวแก่ๆอย่างแจ้มีมาเกินสิบปี เคยหายไปแล้วก็กลับมาแล้ว ส่วนวรางคณาตัวใหม่มาปีที่แล้ว มันมีแมวตัวเล็กๆสีขาวลายจุดดำมาอาศัย ที่ฉันคิดว่าอาจจะเป็นวรางคณาโดยไม่เกลียดฉันแล้ว แปลกใจอยู่เหมือนกัน และที่แมวแจ้มันดันขู่มันจะกัดกับวรางคณา A : นายเลี้ยงแจ้ผ่านตัวแมว นายจะดูใจ ดูอาการ เพราะนายไปแอบรู้อะไรแจ้มาหรือเปล่า คุกกี้จุดบุหรี่สูบ : ... จริงๆตอนที่ฉันสองใจที่ยังไม่ตัดปานวาด ฉันถูกเพื่อนคนหนึ่งบอกในแชท msn เองอะ บอกถึงแจ้โกรธเพราะมันรักบุ๋ม แต่เป็นเพราะคนอื่นมันบอก ตัวแจ้ไม่ได้บอก เลยแอบมาคิด แล้วช่วงเข้ามหาวิทยาลัยครั้งแรก ฉันก็ค้นหาเหตุผลมาตลอด ฉันเริ่มเรียกแมวเป็นชื่อคนเพราะฉันจะลองดู ในเมื่อคนบางคน.... C : คนบางคนมันเสือกมีอาการอะไรไม่รู้ เป็นไอ้เหี้ยเหมือนคุกกี้นี่หรือเปล่า คุกกี้ : เออ ตอนที่เข้ามหาวิทยาลัยราชภัฎจันทรเกษมน่ะ มันเริ่มมีคนบอกว่าเขาเป็นไอ้เหี้ย แล้วฉํนก็รู้ด้วยว่ามันหมายถึงคนอย่างฉันมากกว่า แต่จริงๆฉันรู้วิธีใช้แมวเพราะมีคนอ่านจิตใจฉันได้โดยบังเอิญแหะๆ ก็เริ่มลองใช้แมวดู A : แกบอกว่า มีคนลองกล้าบอกแกเรื่องแจ้มันโกรธเพราะมันรักบุ๋มแล้ว แกจึงมีเหตุจำเป็นที่ต้องการอยู่กับแมวที่เรียกมันว่าแจ้ คุกกี้ : แมวแจ้ อยู่กันไป ฉันยอมรับจริงๆ มันไม่ใช่แมวซน ไม่ดื้อ ฉันรู้จักความน่ารักที่นิสัยดูดีของแจ้เขา ขนาดว่าเป็นแมวมันก็ยังดีขนาดนี้ C : แมวมันทำให้แกได้เห็นความน่ารักบ่อยๆ คุกกี้ : ก็ แมวมันไม่ดื้อไม่ซนอะไร แต่ก็ขอข้าวกินบ่อยๆ ตอนที่ฉันคลั่งเจ็บปวดบุ๋มบิ๋มมาถึงต้นปี 2556 ฉันบอกกับตัวเองว่า แจ้ ฉันรักแกว่ะ ฉันบอกอย่างนั้นมันช่วยให้ฉันไม่เจ็บปวดเรื่องเกี่ยวกับบุ๋มบิ๋มอีกเลย เวลาผ่านไปจนบัดนี้ฉันเริ่มใกล้ชิดบุ๋มบิ๋มได้มากขึ้นในปัจจุบัน ฉันรู้ว่าบุ๋มไม่เคยตอบไลน์และก็ไม่รับสายของไลน์ ทำไมเธอไม่ยอมทดลองสนทนากับฉันดู C : อย่างแมวแจ้มันดีมากๆ ถ้าไอ้กี้มันลองเอาชื่อตัวเองไปเรียกแมว คุกกี้ : มันน่าจะดื้อ ซนเลย แมวตัวนั้น แย่มากๆ ทางโน้นดีเกิน ทางนี้เลวเกิน A : นายกลุ้มใจบางอย่างในเรื่องบุ๋มบิ๋ม คุกกี้ : ฉันไม่ได้เจ็บปวดอีกแล้ว แต่ทุกวันนี้ก็เห็นแจ้ในเฟสที่ไม่แสดงความเจ็บปวดให้เหมือนตอนมอหก มันดูเหมือนไม่มีความเจ็บคลั่งเรื่องความเป็นอยู่ เหมือนยังดูปกติเพราะมันน่าจะแข็งแรงทั้งกายและใจ หรือมันเก็บเอาไว้นะ ถึงฉันจะไม่เจ็บปวดเรื่องรักบุ๋มบิ๋มอีก แต่ฉันกลับกลุ้มใจอีกหลายเรื่อง A : กลุ้มใจเรื่อง? คุกกี้ : เพราะฉันสืบหาผู้ชายที่คิดรักบุ๋มบิ๋มแล้ว......พวกแก ฟังนะ อย่าตกใจ A,B,C : อือ คุกกี้ : ถ้ามีแจ้เป็นคนที่รักบุ๋มคนหนึ่ง พวกแกรู้มั้ย ไม่มีใครรักบุ๋มบิ๋มเลยนะน่ะ ไม่เหมือนใครที่รักจอยเลย ปริมาณคนรักจอยมีมากกว่า A : จอยชนะหรอ? คุกกี้ : ฉันไม่อยากคิดมากว่านี่เป็นปัญหาที่ติดตัวฉันหรือเปล่า พอฉันเจอใครในชีวิตไปเรื่อยๆ ฉันเลยลองย้อนกลับไปวัยเด็กว่าเคยทิ้งขว้างใครไว้ ฉันคิดเดาว่าก่อนจอยเคยมีใครมาอีกสองคน และคนแรกฉันไม่รู้ใบหน้าเลย มันเก่าขนาดสามสี่ขวบอย่างนั้น B : แกไปสัญญาซี้ซั้วอะไรกับผู้หญิงคนแรก คุกกี้ : นั่นสิ แต่ฉันอยากจะยอมรับผิดจริงๆที่ฉันพูดกับเธอว่าสัญญาไปดื้อๆ ไม่ได้รู้สึกว่าอยากรัก หน้าตาเป็นยังไง ใครวะน่ะ ส่วนประถม1-2 ฉันคิดว่าฉันมีเม อาภาพร ฉันจำภาพลางๆ ถ้าฉันรู้ว่าใช่เม ฉันอาจจะผิดที่ทิ้งขว้างเธอ ฉันเชื่อว่ายิ่งอายุมากขึ้นฉันเห็นแม่สื่อของเม แม่สื่อของฉันน่ารักขนาดนี้ C : พวกแม่สื่อนี่ เอ็งเข้าใจว่าเขามาช่วยจีบนายเรื่องเม คนเก่าแก่ของเอ็ง ? คุกกี้ : แต่ .... ฉันนึกเรื่องเมได้ในปีที่แล้ว เวลาก็ผ่านไปอีกน่ะแหละ ทำไมฉันเหมือนคิดไปเองไปได้นะ ฉันหลงตัวเองเกี่ยวกับเม? จริงเหรอเนี่ย ที่ว่าตอนประถมนั้นเมไม่รู้สึกกับฉัน ฉันอาจจะเคยได้เข้าใกล้เมแล้ว ปีที่แล้วฉันอุตส่าห์อยากชดใช้กรรม แต่ไหง มันกลายเป็นว่าฉันคิดเรื่องเมไปเอง A : ไอ้ B แกพอจะทราบมั้ยว่าใครเป็นคนที่คุกกี้ต้องพบเจอแต่คนไม่พอใจ B : อืม ถ้าจอยมันก็น่าเป็นปัญหาของมัน คุกกี้ : นี่ล่ะ ฉันสงสัย ฉันกลุ้มจนต้องการเจอจอยให้ได้เหมือนกัน ฉันไม่รู้ทำไมเมจึงไม่ใช่คนรักฉัน แต่ทำไมกลับเป็นจอยที่หลายคนเขาบอกว่ารักฉันเพราะหมั้น C : อ้าว ไปหมั้นตอนไหน คุกกี้ : ฉันไม่ได้ทำเรื่องนี้ด้วยตัวเอง ไม่รู้ว่าอะไรทำให้มาเป็นปัญหา ฉันนี่แทบมึน ต้องเจอจอยสักครั้งแล้ว ต้องคุยให้รู้เรื่อง อะไรวะ นี่เมแพ้จอย จอยมันมีคนรักแล้วทำไมมากกว่าที่ฉันเข้าใจเรื่องเม เข้าใจเรื่องเมไม่ถูก ตกลงเรื่องเม ฉันไม่อยากจะเชื่อ ฉันไม่ได้ทิ้งขว้างเมให้เจ็บเหรอ แต่ได้ข่าวคิดเอาว่าเมน่าจะเป็นอดีตของฉัน แปลกว่ะ ไม่เห็นเข้าใจเลยว่าจอยมันจะมีอะไรที่คนชอบมากกว่าเม แต่จอยรักฉันนี่กลับเป็นปัญหา A : ปัญหาจอยมันเสือกชอบไอ้คุกกี้ ไอ้คุกกี้ก็เสือกไม่ได้คิด แล้วทำไมไม่ได้จำสัญญาเรื่องจอย คุกกี้ : สัญญา ? ฉํนเคยสัญญาจนผิดสัญญากับจอยหรอ ฉันน่าจะคิดว่าอดีตเก่ากว่านั้นน่ะที่สัญญาไป แต่ตอนประถมปลายฉันไปเขินจอยจริง ฉันอยากถ่ายรูป ตอนปัจฉิมเธอมาบอกว่าไม่ได้คิดจะรับของอะไร เธอไม่ได้มีการตอบรับรักอะไรหนิ ฉันไม่นึกว่าเรื่องมันจะมามีปัญหา A : แล้ว พอเข้ามัธยม ไอ้ตอนมอสองอายุสิบสี่นั้น นายไม่เข้าใจเรื่องเจ็บปวดของตัวเองเลยหรอ คุกกี้ : อือ ฉันไม่เข้าใจ บุ๋มเขาก็หนีห่างตลอดแหละ จนมอสี่เธอไม่ได้อยู่เขมาภิรตารามแล้ว และผ่านไป C : ไอ้เรื่องที่วรางคณามาอาศัยแล้ว วรางคณาไม่ได้แต่งงานกับเอ็งหนิ คุกกี้ : จริงๆมันเพราะอะไรนะ วรางคณาอาจจะมีเหตุผลหรือมีเบื้องลึก แปลกใจ ตั้งแต่การเริ่มต้นมันเป็นผู้ที่รังเกียจฉันและเอาแต่หนีฉันมาก่อน แต่มันยังมีอะไรที่ตรงข้ามจากเดิม อย่างบุ๋มบิ๋มรุ่นใหม่ นิสัยแมวมันแสดงออกได้ถึงการสลับกันเลย ทำไมฉันจะจำอารมณ์ที่บุ๋มบิ๋มโกรธฉันไม่ได้ ก็นั่นน้ะเป็นวรางคณาตอนเริ่มๆแรกเลย มันเกลียดแบบนั้นแหละ A : ถ้าเกิดว่าวรางคณามันไม่มีจุดประสงค์อะไร แต่มาช่วยจอยนี่ B : ไอ้คุกกี้ยิ่งไม่ต้องการเลย C : วรางคณามาช่วยจอย เอ่อ วรางคณามันคิดจะลงทุนดัดแปลงนิสัยอะไรอย่างนี้ช่วยจอย โอย แล้วแต่งงานแล้วด้วย A : แล้วแมววรางคณาที่มันสนใจแก คุกกี้ : ฉันอยากรู้จริงๆ ฉันยังคิดจะสนใจอะไรในวรางคณาไปทำไมนะ ถึงแม้วรางคณาจะเปลี่ยนอารมณ์ไปแล้ว แต่มันก็ไม่ได้แต่งงานกับฉันจนฉันต้องเสียดายหนิ C : เอ แต่ที่แมววรางคณาโผล่มาอาศัยแล้ว มาทะเลาะกับแมวแจ้ด้วยเหตุผลอะไร วรางคณาจึงมีเบื้องหลังอะไรกับเรื่องแจ้นี่หรือเปล่า มันก็ไม่ได้เป็นอะไรกัน แล้วมันอยู่มาถึงทุกวันนี้มั้ย คุกกี้ : จากปีที่แล้วที่มีแมวมาแอบอาศัยมันก็ได้หายไปหลังจากที่ฉันเขียนนิยายกำลังภายในหลุดโลกที่ชื่อบ็อกฉ่อย เดอะฉิบหาย แมววรางคณามันก็หายไปเลยล่ะ ฉันแอบไปดูข่าวคราววรางคณา คงไม่มีอะไรคืบหน้า แค่วรางคณาได้แต่งงานกับใครแล้ว B : มีคนที่รักเธอ ถ้าเทียบกับแกนะคุกกี้ เทียบไม่ได้เลยสินะ คุกกี้ : คนชื่อเปา มันเกรด 4 ทุกวิชาจากมัธยมต้นเขมาภิรตาราม ได้ม.ปลายที่มหิดลวิทยานุสรณ์ ได้วิศวะ จุฬา เลยนะน่ะ แต่ พีท สามีวรางคณาเป็นแค่พระจอมสักแห่งเอง ฉันไม่รู้ว่าพีทจะให้ฉันเข้าใจยังไง วรางคณามันเลิกเกลียดฉันฉันก็ไม่ได้แต่งงานกับวรางคณาหนิ B : เปา 4 หมด แล้วคุกกี้ไม่เทียบกับเขาได้หรอ คุกกี้ : เอ แกหวังอะไรในการเรียนของฉันวะเนี่ย A : นายจะกลับมาที่เมอีกมั้ย คุกกี้ : ฉันสองใจ เม กับ บุ๋มบิ๋ม น่ะ ส่วนใจที่สามอย่างวรางคณาแต่งงานแล้ว แต่ฉันไม่เข้าใจว่า เรื่องเม นี่ฉันหลงตัวเองจริงเหรอ C : แล้วไม่ใช่แค่หลงตัวเองหรอก หุุหุ เอ็งรู้มั้ยว่า จอย เอาชนะใจผู้ชายได้ชนะทั้งเมทั้งผู้หญิงคนแรกของแกตอนสามสี่ขวบ คุกกี้ : ................. อะไรฟะ ชนะคนแรกเริ่ม .... สรุป เรื่องเมนี่ฉันหลงตัวเองมากเกินไปเหรอ ? แล้วคนแรกใครวะ แล้วทำไมจอยมันทำได้ไงวะ เอาผู้ชายไปแดกทั้งหมด A : เห็นอย่างนี้นายอย่าไปดูถูกจอยนา คุกกี้ : ฉันกลุ้มใจ พวกแกคงรู้เหมือนกันแล้วใช่มั้ย .... ตั้งแต่ที่บุ๋มเข้าแพทยศาสตร์ศิริราชแบบซิ่วด้วยน่ะ ฉันก็เริ่มตะหงิดไปตลอด A : คนที่มีความสามารถทางการศึกษามันต้องเป็นที่ชื่นชมและมีคนรักสิ คุกกี้ : ...........นายคิดว่ามีเหรอ B : นายจะบอกว่า มันมีเหตุผลอะไรที่เป็นอีกมุมหนึ่งที่มันจะเป็นบุ๋มที่แท้จริงกลับไม่ดี คุกกี้ : ฉันรู้มาตั้งนานแล้ว C : …แล้วใครล่ะที่รักบุ๋ม คุกกี้ : พวกแก ถ้าคนที่รักบุ๋มเป็นแจ้นี่ ฉันหาข้อมูลผู้ชายไม่เจออีกเลยนะ มีแต่แจ้นะ แล้วถ้าผู้ชายที่มันหล่อ มันน่ารัก แข็งแรง ดูดีทุกอย่างแบบนั้นมันรู้ว่าบุ๋มเขาเป็นยังไง แต่ฉันคุยกับเขาไม่คิดว่าเป็นคนจะเสียสติเรื่องบุ๋ม A : นายก็เลยอยากเลี้ยงดูแจ้ผ่านแมว ดูอาการ มันนิสัยดีหนิ คุกกี้ : สักวันนึง ถ้าแมววรางคณาตัวใหม่มาอาศัยอีก ฉันอยากรู้จริงๆว่า ทั้งคู่จะเป็นยังไงกันอีก A : แต่วรางคณาไม่ได้ไปลงเอยกับแจ้ตามข่าวที่ว่าวรางคณาได้แต่งงานกับพีทหนิ คุกกี้ : นั่นก็รู้แล้ว ..........เออ จะดีหรือเปล่า ถ้าฉันจะดึงวรางคณามา C : ไม่ใช่ๆ เรื่องวรางคณานี่เอ็งต้องไปดึงพีทตังหาก คุกกี้ : ......... เดี๋ยว ฉันเคยชอบวรางคณามาก่อนแต่ทำไมให้ดึงพีทล่ะ C : หัวใจวรางคณา พีทจะมีคำตอบมาเอง คุกกี้ : เอิ่ม ....พืทมันก็ตอบน่ะสิ ว่าไม่รู้สึกอะไรกับฉันหรอก
Create Date : 11 เมษายน 2564 |
Last Update : 12 เมษายน 2564 12:46:57 น. |
|
0 comments
|
Counter : 791 Pageviews. |
 |
|
|
|
|
 |
|
|
|