โอลด์ แทร็ฟฟอร์ดของแสลงคล็อปป์! 5 ประเด็น "แดงเดือด" ลิเวอร์พูล บุก แมนยู

ศึก "แดงเดือด" ที่คอลูกหนังเฝ้ารอหวนกลับมาปะทะกันเป็นคำรบที่สามในฤดูกาลนี้ โดยงานนี้ ลิเวอร์พูล ต้องบุกเยือน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถึงถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ในวันอาทิตย์ที่ 2 พฤษภาคมนี้ พร้อมกับแรงกดดันมหาศาลที่จะต้องคว้า 3 คะแนนให้ได้เพื่อโอกาสต่อลมหายใจลุ้นอันดับท็อปโฟร์

     อย่างไรก็ตามขึ้นชื่อว่าสงครามสีแดง ฟอร์มในช่วงที่ผ่านมาถือว่าให้ลืมไปได้เลย เพราะทั้งสองทีมพร้อมฟาดฟันกันแบบถวายหัว แต่งานนี้ เจอร์เก้น คล็อปป์ และลูกทีมต้องระมัดระวังให้ดี เนื่องจากเจ้าบ้านกำลังคึกสุดๆ แถมฟอร์มของผู้เล่นก็เข้าฝักทุกคน หากเล่นผิดพลาดเพียงแค่นิดเดียว มีสิทธิ์ได้น้ำตาตกกลับแอนฟิลด์ !!!
     ยามนี้ "หงส์แดง" ถือว่าเป็นรอง "เร้ด เดวิลส์" อยู่พอสมควรไม่ว่าจะเป็นเรื่องขุมกำลัง, ฟอร์มการเล่น และสภาพจิตใจ เพราะนับตั้งแต่ต้นปี 2021 จนกระทั่งถึงตอนนี้ ลิเวอร์พูล ไม่ใช่ยอดทีมเหมือนกับซีซั่นที่ผ่านมาแม้แต่นิดเดียว สวนทางกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่นับวันยิ่งเล่นยิ่งฟอร์มโหด

 

 
 

 

1. ต้องเลือกใช้ ฟาบินโญ่ หรือ ริส วิลเลี่ยมส์

     นั่นหมายความว่า คล็อปป์ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องขบคิดเรื่องเซนเตอร์แบ็ก เพราะปกติแล้วเขาจะจับ ฟาบินโญ่ ลงไปทำหน้าที่สำคัญนี้ควบคู่กับ โอซาน คาบัค และผลงานก็เกือบจะดูดีในช่วง 2 แมตช์หลังสุด ถ้าไม่โดนตีเสมอในช่วงท้ายเกม

     ปัญหาเรื้อรังที่ตามเกาะกินผลงานของ ลิเวอร์พูล มาตลอดทั้งซีซั่นคงหนีไม่พ้นเรื่องผู้เล่นเซนเตอร์แบ็กเดี้ยง และตอนนี้พวกเขาก็ยังเจอกันเรื่องนี้เหมือนเดิม เพราะ นาธาเนียน ฟิลลิปส์ ยังมีปัญหาบาดเจ็บไม่สามารถช่วยทีมในศึก "แดงเดือด" ได้อีกครั้ง
โอลด์ แทร็ฟฟอร์ดของแสลงคล็อปป์! 5 ประเด็น "แดงเดือด" ลิเวอร์พูล บุก แมนยู

 

     หากเป็นแบบนั้นจริงๆ นั่นคงทำให้ คล็อปป์ จำเป็นต้องเลือกใช้งาน รีส วิลเลี่ยมส์ ซึ่งลงเล่นตัวจริงครั้งล่าสุดในเกมแพ้ ฟูแล่ม คาบ้านเมื่อต้นเดือนมีนาคาที่่ผ่านมา แต่อย่าลืมว่า ดาวรุ่งผมฟูฟอง เคยโดน มาร์คัส แรชฟอร์ด เผาเรื่องมาแล้วในเกม "เร้ด วอร์" ฉบับเอฟเอ คัพ

     นี่เป็นสิ่งที่กุนซือชาวเยอรมันต้องขบคิดให้ถ้วนถี่ เพราะหากอยากได้แนวรับที่แน่นอน ก็ต้องเลือก ฟาบินโญ่ แต่ก็เสียนักเตะสไตล์บ็อกซ์ทูบ็อกซ์ แต่ถ้าเสี่ยงใช้งาน "เจ้าหนูริส" งานนี้แผงแบ็กโฟร์ของ "เดอะ เร้ดส์" คงได้งานงอกแหงๆ


2. โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ดินแดนสนธยาสำหรับ คล็อปป์

     อย่างไรก็ตามสิ่งหนึ่งที่ยังคงเป็นรอยด่างในผลงานของ คล็อปป์ ก็คือเขามักจะต้องเจอกับความยากลำบากในการนำทัพ "เดอะ เร้ดส์" บุกเยือน โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด และบ่อยครั้งการมาที่นี่ลูกทีมของเขาทำผลงานไม่ค่อยดีนัก อย่างในแมตช์เสมอเมื่อฤดูกาล 2018/2019 ถือเป็นหนึ่งในเกมที่เสียหายๆ ในการลุ้นแชมป์ลีกกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้

     สาวก "เดอะ ค็อป" ต่างก็ดื่มด่ำความยอดเยี่ยมของ คล็อปป์ มาตลอดนับตั้งแต่ที่เขาเข้ามากุมบังเหียน "หงส์แดง" และแน่นอนว่ากุนซือเลือดด๊อทย์ช ได้สร้างผลงานดีมีคุณภาพมากมาย รวมทั้งการนำแชมป์ที่ยิ่งใหญ่อย่าง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และ พรีเมียร์ลีก มาประดับตู้โชว์ที่แอนฟิลด์

 

โอลด์ แทร็ฟฟอร์ดของแสลงคล็อปป์! 5 ประเด็น "แดงเดือด" ลิเวอร์พูล บุก แมนยู

 

     ความจริงที่น่าตกใจก็คือ คล็อปป์ ยังคงรอคอยชัยชนะแมตช์แรกในการเยือน "โรงละครแห่งความฝัน" เพราะตลอด 6 แมตช์ที่เดินทางไปปะทะกับคู่อริตลอดกาล คล็อปป์ แอนด์โค. สะกดคำว่าชนะไม่เป็นเลยโดยแบ่งเป็นเสมอ 4 และแพ้ 2 แมตช์

     เกมล่าสุดที่ทั้งสองทีมดวลกันบนฟลอร์หญ้าที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ก็คือแมตช์ที่ แมนยู ชนะ ลิเวอร์พูล 3-2 เขี่ยผู้มาเยือนตกรอบ 4 เอฟเอ คัพ ฉะนั้นการบุกมาที่นี่ถือเป็นภารกิจสำคัญที่ คล็อปป์ ต้องการปลดล็อกพันธนาการนี้ให้สิ้นซากซะที 

 

3. นักเตะคนไหนที่อันตรายที่สุดของ แมนยู
     หากจะชี้ชัดฟันธงว่าผู้เล่นคนไหนของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะสร้างปัญหาอย่างหนักให้กับ ลิเวอร์พูล หลายคนอาจจะเลือกชื่อ บรูโน่ แฟร์นันด์ส แต่สำหรับในเวลานี้ต้องบอกเลยว่าทุกตำแหน่งของ "ผีแดง" อันตรายสำหรับ "หงส์แดง" อย่างแท้จริง

     ฟอร์มการเล่นของ แมนฯ ยูไนเต็ด พัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่องภายใต้การกุมบังเหียนของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เพราะตั้งแต่แนวรับยันแนวรุก พวกเขาเล่นกันได้อย่างเข้าขา โดยเฉพาะแผงมิดฟิลด์ที่ต้องบอกเลยว่าแข็งแกร่งยิ่งกว่ากำแพงเหล็กกล้า

 

 

โอลด์ แทร็ฟฟอร์ดของแสลงคล็อปป์! 5 ประเด็น "แดงเดือด" ลิเวอร์พูล บุก แมนยู

     ฟูลแบ็กสองฝั่งทั้ง ลุค ชอว์ และ อารอน วาน-บิสซาก้า ต้องบอกเลยว่าฟอร์มกำลังขึ้นสุดๆ โดยเฉพาะในรายของ ชอว์ ที่โดดเด่นทั้งเกมรุก และแข็งแกร่งในเกมรับ ขณะที่ วาน-บิสซาก้า อาจจะด้อยเรื่องการดันเกมขึ้นสูง แต่ในเรื่องการตั้งรับหากคู่แข่งไม่เจ๋งจริงคงยากจะผ่านเขาไปได้


     การมี เฟร็ด จับคู่กับ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ทำให้ "ผีแดง" ทำให้แดนกลางของพวกเหนียวแน่น และยังช่วงแบ่งเบาภาระ บรูโน่ ซึ่งสามารถเติมเกมรุกได้อย่างเต็มที่ ขณะที่ ปอล ป็อกบา ที่ถูกขยับไปยืนทางกว้างก็มีอิสระในการเล่นมากยิ่งขึ้น  ในส่วนของแดนหน้าหากไม่มีอะไรพลิกโผ "น้าลูกอม" คงเลือกใช้งาน เอดินสัน คาวานี่ กับ มาร์คัส แรชฟอร์ด ขณะเดียวกันก็ยังมี  เมสัน กรีนวู้ด ที่สามารถลงมาสร้างความแตกต่างในเกมนี้ได้ ฉะนั้นมองจากมุมไหนแล้ว ต้องบอกว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ชุดนี้แกร่งเกินกว่าที่ ลิเวอร์พูล จะต้านทานจริงๆ 

  

4. แมนยูสุดคึกสวนทางหงส์สุดกร่อย

     ลองย้อนกลับไปในช่วงหลายๆ เกมในฤดูกาลนี้ จะเห็นได้ว่า "เร้ด เดวิลส์" ในยุคของโซลชา มักจะคัมแบ็กกลับมาจากการตกเป็นรองคู่แข่งได้หลายต่อหลายครั้ง อย่างแมตช์ล่าสุดที่รับมือ โรม่า พวกเขาตกเป็นรองในครึ่งแรก แต่ครึ่งหลังจัดการพลิกนรกฉีกเนื้อ "หมาป่าเหลืองแดง" ขาดวิ่นสิ้นสภาพ

     ถ้าหากจะเทียบผลงานในช่วงเวลานี้ต้องบอกเลยว่า แมนฯ ยูไนเต็ด เหนือกว่า ลิเวอร์พูล หลายเท่า ไม่ว่าจะเรื่องขุมกำลังในทีม ฟอร์มการเล่น และที่สำคัญสภาพจิตใจของเหล่าพลพรรค "ผีแดง" แข็งแกร่งดั่งเหล็กกล้า

 

โอลด์ แทร็ฟฟอร์ดของแสลงคล็อปป์! 5 ประเด็น "แดงเดือด" ลิเวอร์พูล บุก แมนยู

     สวนทางการ ลิเวอร์พูล ที่เวลานี้ผลงานยังคงต่ำเตี้ยเรี่ยดิน แถมสภาพจิตใจก็ย่ำแย่เหลือเกิน โดยเฉพาะเกมลีก 2 แมตช์ล่าสุดที่เสมอ ลีดส์ ยูไนเต็ด กับ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด แม้เกมรุกจะอันตราย สร้างโอกาสได้เยอะ แต่ขาดความเฉียบคม ขณะเดียวกันเกมรับยังคงหละหลวม และเสียประตูในช่วงท้ายเกม 
  ผลงานสไตล์ "ผีลืมหลุม" แบบนี้ทำให้เหล่าพลพรรค์ผีแดงโปรเจกต์ต่างหวนนึกถึงวันวานยังหวานอยู่สมัยที่เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุมบังเหียน ซึ่งมีหลายครั้งที่พวกเขาสามารถพลิกสถานการณ์กลับมาคว้าชัยชนะ และบางแมตช์ยังสามารถยิงประตูในช่วงท้ายเกมได้ด้วย

     อาจจะดูเหมือนอวยไส้แตก แมนฯ ยูฯ จนเกินไป แต่ยอมรับความเป็นจริง และมองอย่างเป็นกลางสถานการณ์ของ ลิเวอร์พูล ในเวลานี้เป็นรองทุกด้าน สิ่งที่อาจจะทำให้ทุกอย่างกลับตาลปัตรก็คือ "หงส์แดง" ระเบิดฟอร์มโหดพร้อมทั้งมี "เทพีแห่งโชค" เข้าข้าง !!!

 

5. ชี้ชะตาโควตาแชมเปี้ยนส์ ลีก ?

    สถานการณ์ตอนนี้ "เดอะ เร้ดส์" รั้งอันดับ 6 มี 54 คะแนนตามหลัง เชลซี 4 คะแนน (เชลซี ฟัด ฟูแล่ม วันเสาร์นี้) ฉะนั้นการออกไปสู้รบปรบมือกับ "ปีศาจแดง" ในเกมนี้ไม่ใช่แค่ศึกแห่งศักดิ์ศรีของสองทีมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอังกฤษ เท่านั้น แต่ยังเป็นเหมือนการขยายโอกาสของแชมป์เก่าในการลุ้นตั๋วแชมเปี้ยนส์ ลีก
     คล็อปป์ ได้ลั่นวาจาเอาไว้แล้วว่าการเยือน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในเกมนี้พวกเขาต้องคว้าชัยชนะให้ได้ หากอยากต่อลมหายใจในการลุ้นคว้าอันดับท็อปโฟร์ เพื่อได้ตั๋วใบสุดท้ายไปลุยศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในฤดูกาลหน้า

 

 

โอลด์ แทร็ฟฟอร์ดของแสลงคล็อปป์! 5 ประเด็น "แดงเดือด" ลิเวอร์พูล บุก แมนยู

 

 

     โควตา "บิ๊กเอียร์" มีความสำคัญอย่างมากสำหรับ ลิเวอร์พูล ในช่วงซัมเมอร์นี้ เพราะมันจะทำให้พวกเขามีโอกาสได้เงินทุนมากยิ่งขึ้น และยังช่วยให้ทีมมีเสน่ห์ดึงดูดนักเตะระดับโลกที่อาจสนใจอยากจะย้ายมาเล่นในถิ่นแอนฟิลด์

     แต่ถ้าหากพวกเขาไม่สามารถทำได้ตามเป้าหมายที่วางเอาไว้ งานนี้คงยากที่จะเห็นแข้งชั้นนำย้ายมาอยู่กับทีมที่ทำได้แค่ลงเล่นในยูฟ่า ยูโรปา ลีก หรือไม่ได้เล่นถ้วยยุโรปเลย......




Create Date : 02 พฤษภาคม 2564
Last Update : 2 พฤษภาคม 2564 14:58:34 น.
Counter : 980 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

สมาชิกหมายเลข 6158852
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed

 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



พฤษภาคม 2564

 
 
 
 
 
 
1
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog