สร้าง ‘คาร์บอนเครดิต’ ในบ้าน

‘คาร์บอนเครดิต’ เป็นศัพท์วิชาการที่เราชักจะคุ้นเคยทันทีที่โลกตื่นตัวในการแก้ปัญหาภาวะโลกร้อน อันเนื่องมาจากการสะสมของก๊าซเรือนกระจก โดยเฉพาะก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศ

ลองคำนวณดูว่า ในการเผาไหม้ของน้ำมันรถยนต์ 1 ลิตร คือการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 2.3 กิโลกรัม แต่ละวันจะมีปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ปล่อยขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศสักเท่าไร

​ไม่กล้าคูณด้วยจำนวนประชากรโลก 6,000 ล้านคน !

​ในแง่ขององค์กรธุรกิจขนาดใหญ่แทบทุกแห่งในโลก ต่างสนับสนุนกิจกรรมการปลูกต้นไม้เพื่อลดปัญหาโลกร้อน นอกจากนี้ประชาชนที่อยู่รอบแปลงปลูกป่าสามารถใช้ประโยชน์จากป่าได้ถึง 2,000 ล้านบาทต่อปี

​ในโครงการปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสทรงครองราชย์ปีที่ 50 จำนวน 1 ล้านไร่ ที่ ปตท. ดำเนินงานตั้งแต่ปี พ.ศ.2537-2545 มีแปลงปลูกป่า 413 แปลง (Forest Plantation Tarket : PTT) ใน 48 จังหวัดทั่วประเทศ ศูนย์วิจัยป่าไม้ คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เข้ามาทำการวิจัยผลสัมฤทธิ์ (เมื่อปี พ.ศ.2551) พบว่าป่า 1 ล้านไร่นี้ สามารถดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 18.17 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์และคายก๊าซออกซิเจนคืน 14.5 ล้านตันออกซิเจนคิดเป็นมูลค่าป่าในการกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์ 6,052 ล้านบาท นอกจากนี้ประชาชนที่อยู่รอบแปลงปลูกป่าสามารถใช้ประโยชน์จากป่าได้ถึง 2,000 ล้านบาทต่อปี

​ต้นไม้ที่โตเต็มที่ 1 ต้น สามารถดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ประมาณ 8 กิโลกรัมต่อปี ร่มเง่าต้นไม้ยังช่วยลดความร้อน ลดแสงสะท้อน ลดเนื้อที่กระจายความร้อน รักษาหน้าดินไม่ให้แตกระแหง ในพื้นที่แห้งแล้ง ต้นไม้ก็ช่วยเพิ่มความชื้นในอากาศ ไม้ยืนต้นสามารถดูดความร้อนแฝงระหว่างการคายน้ำ พร้อมกับคายออกซิเจนออกมา ทำให้บริเวณรอบๆ มีอุณหภูมิลดลง ส่วนผิวใบ กิ่ง ก้าน ก็เป็นตัวจับฝุ่นละออง เกสรดอกไม้ (ถึงจะดูสวย แต่ก็คือสารกระตุ้นภูมิแพ้ดีๆ นี่เอง) ทำให้มลพิษในอากาศบางลง และการคายน้ำ ยังทำให้ฝุ่นละอองเล็กๆ ในอากาศมีความชื้น มีน้ำหนักตกลงมีสู่พื้นเร็วขึ้น ไม่สงสัยเลยว่าทำไมเวลามีฝนหมาดๆ ถนนจึงลื่น นั่นก็เพราะฝุ่นละอองที่จับอยู่ตามต้นไม้ทิ้งตัวบนพื้นถนนนั่นเอง ลองสังเกตถนนสาธารณะที่ไม่มีต้นไม้ จะแลคลุมเครือเพราะฝุ่นละออง ส่วนพุ่มไม้สีเขียวที่มีความหนาแน่นก็สามารถก็สามารถกรองอากาศได้ทำให้ปริมาณฝุ่นลดลงได้มาก คนโบราณจึงมักปลูกไม้พุ่มเป็นรั้วบ้าน ทั้งยังทำหน้าที่เป็นเครื่องหมายบอกแนวเขตบ้านอีกด้วย บ้านที่อยู่ใกล้ทะเล การปลูกไม้ยืนต้นคือการสร้างปราการป้องกันพายุที่มีต้นทุนถูก แต่ได้ผลเลิศเมื่อคราวเหตุการณ์สึนามิที่ภาคใต้ (ปี พ.ศ.2547) ชุมชนที่ปลูกป่าชายเลนในจังหวัดสตูลรอดจากความรุนแรงของคลื่นสึนามิ ก็เพราะความหนาทึบของป่าชายเลน การปลูกเรือนในยุคบรรพบุรุษ ก็ปลูกต้นไม้เพื่อทำแนวให้ต้นไม้ช่วยเบนทิศทางลมให้ผ่านเข้าบ้านพอประมาณแบบที่เรียกว่า ‘ช่องลม’

Create Date : 03 มีนาคม 2557		0 comments
Last Update : 3 มีนาคม 2557 13:14:26 น.
Counter : 1041 Pageviews.
Share Tweet