When people think you're dying, they really, really listen to you, instead of just...waiting for their turn to speak, FIGHT CLUB

 
กุมภาพันธ์ 2554
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728 
 
26 กุมภาพันธ์ 2554
 

ปริศนาอาชีวะ

ขอ บ่นการเลือกกลุ่มย่อยเล็กน้อย..บางครั้งเราก็ไม่รู้ว่าควรจะเลือกอยู่ใน กลุ่มหัวข้อย่อยอะไรที่จะตรงหรือสื่อความมากที่สุด ถ้าเราไม่ชอบจะอยู่ในกลุ่มจิปาถะหรือไดอารี่ชีวิต เข้าใจว่าเรามาอาศัยในบล็อกแห่งนี้ เราก็สมควรทำตามกรอบของเจ้าของเว็บ เเต่มันก็มักจะสร้างปัญหาวุ่นวานเล็กๆในใจ อาจจะเช่นเดียวกับการเลือกสีรองพื้น ถ้าสีที่มีให้เลืิอกมันไม่ตรงกับหนังหน้า เราก็อาจจะขุ่นข้องหมองใจเล็กน้อย จบการบ่น (ตรูจะจิงจังไปไหน 555+)

เปิด ไปเจอบล็อกนึงพูดถึงว่า ทำไมอาชีวะต้องตีกัน ซึ่งตรงกับสิ่งที่เราสงสัยมาตลอดมากๆ ราวกับเรื่องนี้อยู่ในมิติลี้ลับที่คนนอกอย่างเราไม่มีวันเข้าใจ จะว่าไปคนนอกอย่างเราก็อยากมีส่วนร่วมนะ คิดว่าเรื่องนี้จะเเก้ไม่ได้เชียวหรือ ขอลองเสนอความเห็นแบบเดาๆดูนะ

ครั้งหนึ่งเคยสงสัยว่า ในเหตุการณ์ความรุนเเรงในช่วง 14 ตุลา/พฤษภาทมิฬ ที่ว่านักศึกษาธรรมศาสตร์ออกมาเรียกร้องประชาธิปไตย ซึ่งในช่วงเวลาเดียวกันนั้น เราสงสัยว่าเด็กมหาลัยศิลปกร วังท่าพระ ซึ่งอยู่ติดกับม.ธรรมศาสตร์ อยู่ตรงไหนของประวัติศาสตร์การเมืองไทย? (อันนี้เป็นคำถามที่เกิดจากการเดาๆ นะคะ คือเราจบ ป ตรี ศิลปากร ทับเเก้ว และก็ไม่ค่อยทราบประวัติศาสตร์การเมืองเท่าไหร่ เพียงเเค่สงสัยเล็กๆ จริงๆ ว่าพวกเขาอยู่ที่ไหน ในเวลานั้น? ใครรู้ช่วยบอกหน่อยนะคะ)

อีกอย่างเราก็ไม่ค่อยเห็นข่าวเด็กเพาะช่างตีกะใครใช่ไหม (หรือมีเเต่เราไม่รู้ อย่างน้อยนั่นก็เเสดงให้เห็นว่า มีการตีกันน้อยมาก) หลายคงอาจจะงงว่าเเล้วมันเกี่ยวอะไรกะอาชีวะตีกัน 55+ เหอะๆ ก็คือข้อสันนิษฐานของเราว่า...

ผู้เรียนศิลปะ มักไม่ให้ความสนใจกับความรุนเเรงหรือไม่ ถ้าเป้นเช่นนั้นศิลปะแก้ความรุนเเรงได้ไหม?

คือ ถ้าเปรียบเทียบกัน ระหว่างวัยรุ่นที่ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย...ต่างอะไรกับวัยรุ่นที่ต่อสู้ เพื่อศักดิ์ศรีของสถาบัน...ไม่ได้เปรียบเทียบเชิงคุณค่านะคะ เเต่เปรียบเทียบในเเง่กรอบคิด เเล้วก็ไม่ได้บอกว่าการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยเป็นเรื่องไร้ค่า...เเต่ส ำหรับเรา เราเองก็คิดว่าเราไม่มีทางรู้จริงๆ ว่า อะไรถูกหรือผิด อะไรคือเบื่องหลังของปรากฏการณ์ทั้งหมด เราคิดว่าทุกอย่างช่างเป็นเรื่องนามธรรม ที่เราไม่จำเป็นที่จะต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งชัยชนะใดๆ จิตใจเราต่างหากที่เราต้องย้อนกลับมาดูเเล (ยืมคำคนอื่นมาพูดดังที่ว่า เงินทองคือมายา ข้าวปลาสิของจริง---เกี่ยวมั้ย เหอๆ)

เหล่านี้คือ การต่อสู้หรือใช้ความรุนเเรงด้วยอิทธิพลของแนวคิดบางอย่าง ที่คนนอกไม่มีทางเข้าใจ เเละเราคิดว่า กรอบคิดอันนั้นจำเป็นต้องได้รับการเปลี่ยนเเปลง

ดูตัวอย่าง ประชาชนชาวเยอรมันในช่วงหนึ่ง ที่เห็นด้วยกับฮิตเลอร์ในการฆ่าล้างเผ่าพันธ์ชาวยิว นั่นเพราะกรอบคิดอันหนึ่ง ที่มองว่าชาวยิวคือเชื้อโรค หาได้มีคุณค่าในความเป็นมนุษย์ไม่ใช่หรือ (มองปรากฏการณ์เสื้อเหลืองเสื้อเเดงปัจจุบันก็ได้) .....จึงไม่ค่อยแปลกใจแล้วว่า ทำไมเด็กอาชีวะจึงต้องตีกัน

กรอบ คิดของเด็กอาชีวะคืออะไร ซึ่งกรอบคิดนี้ถูกปลูกฝังในช่วงที่พวกเขาเข้าสู่สถาบันนั้นๆ...คือเราก็ไม่ ค่อยรู้ล่ะ เเต่เชื่อว่าส่วนหนึ่งต้องเป็นเรื่องของศักดิ์ศรีสถาบันเเละความเป็นชาย (เข้าเรื่องความเป็นชายอีกเเระ 555+) จริงหรือไม่ว่าเรื่องศักดิ์ศรีไม่ใช่ประเด็นสำคัญของผู้หญิง "ความสวย" ต่างหากที่ครอบงำหญิง
ถ้าพวกเขาถูกสอนมาเหมือนเราว่า (เราก็ไม่รู้หรอกว่ามันจริงหรือไม่ เเต่เราคิดว่าหากเราเชื่อเช่นนี้จะมีประโยชน์ในการดำเนินชีวิตมากกว่าการ เชื่ออีกเเนวคิดหนึ่ง) ทุกอย่างล้วนถูกประกอบสร้างขึ้นมา ไม่มีอะไรที่เกิดมาพร้อมกับเรา ขออ้างเเนวคิดของนักทฤษฎีเรื่อง "performativity" ที่ว่า อัตลักษณ์ต่างๆ คือการ doing (ทำ) ไม่ใช่ being (เป็น) และจะถือว่า being เฉพาะในช่วงเวลาที่เรา repeated doing (ทำซ้ำๆๆ) ต่างหาก

เช่น เขาเป็นเด็กอาชีวะ ก. เชื่อเเนวคิดของรุ่นที่ที่ปลูกฝังว่า ต้องเกลียดอาชีวะ ข. ซึ่งเเน่นอนว่า หากเขาเลือกที่จะเข้า อาชีวะ ข. แต่เเรก เขาย่อมกลายเป็นเด็กอาชีวะ ข. และเกลียดอาชีวะ ก. เราจะเห็นว่า สถาบันต่างหากที่เป็นผู้มีอิทธิพลต่อเเนวคิดของเด็ก เด็กจะเป็นอาชีวะ ก. ให้เป็นที่ยอมรับของสถาบัน ก็ต่อเมื่อเขา keep doing เกลียดอาชีวะ ข. เเละอาจต้องเเสดงออกด้วยการยกพวกตีอาชีวะ ข. เป็นต้น

สถาบันในที่นี้ คือ แนวคิดที่หล่อมหลอมครอบงำกลุ่มรุ่นพี่ แล้วส่งต่อเเนวคิดนั้นให้รุ่นน้อง ด้วยกรรมวิธีต่างๆ เช่น อาจพาไปรับน้องด้วยวิธีโหด ถึงขั้นเข้าไอซียูกันเลย หรือการว๊าก โน่นนี่นั้น (เราเกลียดการว๊ากมาก ไร้สาระ เเละเเน่นอนการว๊ากก็คือการเเสดงอย่างหนึ่ง ((performativity)) ที่พยายามเเสดงว่าตนเองโหดร้าย สวมบทโหด เพื่อให้เป็นรุ่นพี่ที่น่านับถือเป็นต้น ซึ่งครังหนึ่งเขาก็เคยถูกว๊ากมาก่อน ซึ่งนี่คือเบื้อหลังของ ระบบ Seniority เห็นหรือยังว่าไม่มีอะไรที่ติดตัวเรามาตั้งเเต่เกิด) หรือการชื่นชมเมื่อเห็นรุ่นน้อง/รุ่นพี่/เพื่อนไล่ตีฝ่ายตรงข้าม

"ความ เป็นชาย" ก็เช่นกัน เรายังคงเห็นโฆษณามากมายที่ยังปลูกฝังความคิดว่า สิ่งเหล่านั้นมันมีอยู่จริงๆ เเละติดตัวเรามาตั้งเเต่เกิด เช่น โฆษณากาแฟชนิดหนึ่ง ที่ต้องการปลุกความเป็นชายในตัวคุณ...ภาพในโฆษณาก็คือ ผู้ชายก้ามใหญ่ กล้าหาญ ลงไปในน้ำตกเพื่อช่วยชายอ่อนเเออีกคนหยิบจี้รูปหัวใจให้แฟน ซึ่งมีภาพชายอ่อนเเอใส่เเว่นโมโห ที่ไอตานี่เเย่งซีน เพราะตัวเองกำลังเอาไม้เขี่ยอยู่เเต่มิกล้าลงไปในน้ำ

อึมมม คือ จะเป็นชายที่เเท้จริงได้ ต้องก้ามใหญ่เเละกล้าหาญนั่นเอง (วันหลังค่อยเขียนเรื่องความเป็นชายอย่างละเอียด)
หรือ โฆษณา "สัญชาติญาณความเป็นเเม่" ที่โอบลูกน้อยที่ตายไปเเล้วฟื้น ด้วยพลังของเเม่....ทำไมต้องเป็นพลังของเเม่ (ความจริงมักเกิดจาก)พลังหมอ หรือพลังพ่อไม่ได้รึ โม้หมอยมากๆ

โอเคร เสนอทางเเก้เลยละกัน (เเบบมั่วๆ เหมือนกันนะ)

แทน ที่จะเรียนเเต่เครื่องยนต์ เหล็ก ปูน ไม้ เราอยากสนับสนุนให้ ประชาชนทุกคนบนโลกใบนี้เป็นศิลปิน มีศิลปะวรรณกรรม เเละปรัชญาในหัวใจ อย่างน้อยเพื่อลดความรุนเเรง ดังนั้นเพื่อปลูกฝังเเนวคิดศิลปะวรรณกรรมปรัชญา เราสนับสนุนให้เด็กอาชีวะได้มีโอกาสอ่านวรรณกรรม ฟังเพลง ถกเถียงกัญเรื่องปรัชญา ให้เขาได้ลองอ่านวรรณกรรมฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ วรรณกรรมเกี่ยวกับทาสผิวดำในอเมริกา เพื่อให้เข้าใจจิตใจของเหยื่อผู้ถูกกระทำ เพื่อให้เข้าใจจิตใจเพื่อนมนุษย์ หรือง่ายๆ กว่านั้นหนังก็ได้ รวดเร็วดี เเละลองให้พวกเขาทำหนังสั้น หรือเอ็มวี ไรงี้ น่าสนุกดี
อ้อ เราเสนอให้อาจารย์เก่งๆ ด้านทฤษฎีวิจารณ์วรรณกรรม ปรัชญา ศิลปะ ได้มีโอกาสเข้าไปพูดคุยเเลกเปลี่ยนกับนักเรียนเหล่านั้น (ต้องเปลี่ยนเเปลงตั้งเเต่ครูเลย ต้องเปลี่ยนเเนวการสอน) บางครั้งพวกเขาอาจจะเจอพรสวรรค์ที่ซ่อนอยู่ เเละกลายมาเป็นศิลปินเอกของโลกเลยก็ได้ อยากจะบอกว่าฟังสายนี้เเล้วเพลินอ่ะ มันไม่เคลียดเเบบสาววิทย์เเน่นอน คอนเฟิร์มมม!
images by free.in.th
Thanks: ฝากรูป ประกันภัยขนส่งสินค้า
(ภาพจอนห์ เลนนอน ศิลปินอมตะผู้ใช้บทเพลงปฏิวัติสงคราม)

คุก สถานพินิจ การไปเป็นทหาร หรือให้ตำรวจมาคุม คงไม่ใช่ทางออกที่ยังยืน เราต้องเปลี่ยนไปถึงข้างใน เเละรัฐบาลก็ต้องให้ความสำคัญกับอาชีวะไม่น้อยกว่ามหาวิทยาลัยหรือมัธยมปลาย ควรจัดให้เด็กอาชีวะได้เข้ามามีส่วนร่วมกับมหาลัยเเละมัธยมไม่ใช่กันเขาออก ไป

อึมมม พล่ามมาตั้งนานไม่รู้จะช่วยได้จริงหรือป่าว ไม่รู้สิ เเต่เราเชื่อว่า ถ้าน้องๆ ได้อ่านเหมือนที่เราอ่าน น้องๆ จะเข้าใจคุณค่าในตนเองเเละผู้อื่นมากขึ้นเเน่ๆ
images by free.in.th
Thanks: ฝากรูป ประกันภัยขนส่งสินค้า




 

Create Date : 26 กุมภาพันธ์ 2554
0 comments
Last Update : 26 กุมภาพันธ์ 2554 18:55:33 น.
Counter : 1819 Pageviews.

 
Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

midnight OWL
 
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




อยากเกิดเป็น ปิ๊ปปี้ เด็กน้อยผู้มีจินตนาการเสรี
[Add midnight OWL's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com