space
space
space
<<
สิงหาคม 2563
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
space
space
10 สิงหาคม 2563
space
space
space

ฟีรูสจอมดื้อ

           มีม้าอยู่ฝูงหนึ่ง อาศัยอยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่ มีคุณปู่ คุณย่า คุณตา คุณยาย คุณพ่อ คุณแม่ และ   ฟีรูสเป็นลูกม้าตัวผู้ในครอบครัว
           ฟีรูสเป็นเด็กเอาแต่ใจชอบวิ่งเล่นสนุกไปเรื่อยๆ ไม่ค่อยอยู่ในกลุ่มทำให้ทุกตัวต่างก็เหนื่อยใจ แต่เพราะฟีรูสเป็นลูกม้าเพียงตัวเดียว ทำให้ตัวอื่นๆ ต่างก็ตามใจ อยากได้อะไรก็ได้ อยากทำอะไรก็ทำ และฟีรูสยังเป็นเด็กชอบประจบเอาใจผู้ใหญ่ ทำให้ผู้ใหญ่โกรธไม่ลง
           อยู่มาวันหนึ่ง คุณตาที่มีอายุมากแล้ว เริ่มทานอะไรไม่ค่อยได้ จึงทำให้หมดเรี่ยวแรงที่จะยืน จึงนอนลงกล่าวกับฟีรูสว่า “ฟีรูส หลานรักของตา ต่อไปเจ้าจงเป็นเด็กดี เชื่อฟังคำสั่งสอนของพ่อแม่ให้ดี และปฏิบัติตามคำสอนเหล่านั้น” แต่ฟีรูสกลับไม่สนใจที่จะฟัง คิดว่าคุณตาคงเหนื่อยไม่อยากวิ่งเล่นกับเขาอีกแล้ว จึงไม่สนใจ แล้วออกไปวิ่งเล่นตามลำพัง
           เมื่อฟีรูสกลับมาที่พักของครอบครัวก็พบว่า มีสัตว์กลุ่มหนึ่งกำลังกัดกินอะไรสักอย่าง เขาค่อยๆ เดินเข้าไปใกล้ๆ แล้วก็ต้องหยุดเมื่อได้ยินเสียงของคุณพ่อเรียก คุณพ่อบอกว่า “ตามพ่อมา” ทั้งสองตัวก็เดินจากสัตว์กลุ่มนั้นไป
           ฟีรูสและพ่อของเขาค่อยๆ เดินออกไปเรื่อยๆ จนกระทั่งพบกับครอบครัวของตนเอง ทุกตัวมีท่าทางโศกเศร้า ทำให้ฟีรูสสงสัย และพูดขึ้นว่า “เกิดอะไรขึ้น” แต่ละตัวต่างเงียบ คุณยายก็ร้องไห้ แล้วคุณพ่อก็พูดว่า “คุณตาได้จากพวกเราไปแล้ว” ฟีรูถามว่า “คุณตาไปไหน สัตว์กลุ่มนั้นกำลังกินอะไรอยู่ แล้วทำไมพวกเราถึงต้องมาอยู่ที่นี่”
           คำถามของฟีรูสทำให้ทุกตัวต่างนิ่งงัน เวลาผ่านไปสักครู่ คุณปู่ก็เอยขึ้นว่า “ตาของเจ้าตายแล้ว สัตว์กลุ่มนั้นคือ ไฮยีน่ากำลังกินศพของตาเจ้าอยู่ พวกเรามาอยู่ที่นี่เพื่อหลบไฮยีน่ากลุ่มนั้น”
           ฟีรูสยังคงสงสัยต่อไป “ตายคืออะไร ทำไมต้องหลบไฮยีน่าด้วย” คุณยายมองฟีรูสแล้วกล่าวว่า “ตายคือการไม่หายใจ ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ และที่ต้องหลบไฮยีน่า เพราะไฮยีน่าเป็นสัตว์กินเนื้อ พวกมันจะรวมตัวอยู่เป็นกลุ่ม หากพบสัตว์ที่ตายแล้วมันจะมากินซากสัตว์นั้น และในบางครั้งไฮยีน่าก็รวมตัวกันเพื่อล่าสัตว์ด้วย หากอาหารเกิดขาดแคลน ดังนั้นพวกเราจึงต้องหลบมาจากตรงนั้น เพื่อไม่ให้ไฮยีน่าเห็นพวกเรา”
           ฟีรูสรักคุณตามาก เพราะคุณตาจะตามใจเขาเสมอและไปวิ่งเล่นด้วยเป็นประจำ จึงไม่เชื่อที่คุณยายพูด และบอกว่า “คุณยายโกหก คุณตายังไม่ตาย แล้วก็ไม่มีอะไรมาทำร้ายคุณตาได้” ฟีรูสแยกตัวเดินออกไปนอนเพียงลำพัง เริ่มร้องไห้เสียใจที่ต่อไปนี้ไม่มีคุณตาอยู่ด้วยอีกแล้ว
           ตอนเช้าฟีรูสกลับไปยังที่เดิม เขาเห็นเพียงกองเลือด และกองกระดูกทำให้เขาเสียใจมากยิ่งขึ้น คิดว่าจะแก้แค้นกลุ่มไฮยีน่ายังไงดี
           ฟีรูสเดินกลับเข้าไปพบทุกตัวแล้วพูดขึ้นว่า “ผมจะไปจัดการพวกไฮยีน่าที่มากินคุณตา” ทุกตัวต่างตกใจ คุณแม่พูดขึ้นว่า “ไม่ได้มันอันตรายมากนะลูก” คุณย่าก็เตือนว่า “เชื่อแม่เถอะหลานพวกไฮยีน่าอันตรายน่ากลัวมาก” ฟีรูสกระทืบเท้าด้วยความไม่พอใจ และบอกว่า “แม่กับย่าขี้ขลาด” แล้วฟีรูสก็หันไปทางคุณปู่กับคุณพ่อ ทั้งสองต่างส่ายหัวไปมาบ่งบอกว่า “ไม่ได้” ยิ่งทำให้ฟีรูสโกรธมากขึ้น ด้วยความไม่เข้าใจว่าทำไมทุกตัวถึงเป็นแบบนี้
           ฟีรูสเริ่มดื้อมากขึ้นเรื่อยๆ เขาไม่ได้สนใจทำตามคำสอนของคนตาก่อนที่จะเสียชีวิต ทำให้ตัวอื่นๆ ต่างเอือมระอา แล้วฟีรูสก็เริ่มออกจากครอบครัวหายไปครั้งละหลายๆ วัน ทำให้ทุกตัวต่างเป็นห่วงอย่างมาก แล้วในที่สุดฟีรูสก็ไม่ได้กลับมาอีกเลย ทุกตัวออกตามหาแต่ก็ไม่เจอ
           จนกระทั่งวันหนึ่งทุกตัวต่างประหลาดใจและดีที่เห็นฟีรูสกลับมา ด้วยความดีใจทุกตัวรีบวิ่งไปต้อนรับ แต่แล้วทุกตัวต่างก็ตกใจที่เห็นสภาพรูปร่างของฟีรูส
           ฟีรูสอยู่ในสภาพซูบผอมตามตัวมีรอยบาดแผลเต็มไปทั่วร่างกาย คุณปู่และคุณพ่อต่างเข้าไปช่วยพยุงฟีรูสไว้ แล้วพาฟีรูสไปพักผ่อน คุณแม่ คุณย่า และคุณยายต่างแยกย้ายไปหาน้ำ และอาหารมาให้ฟีรูส
           ระหว่างที่ฟีรูสทานอาหาร ดื่มน้ำ พักผ่อนนอนหลับ คุณแม่ก็ออกไปหาสมุนไพรมาทำแผลให้กับฟีรูส ตั้งแต่ฟีรูสกลับมาคุณพ่อ คุณแม่ออกไปหาสมุนไพรมารักษาฟีรูส ส่วนคุณปู่ คุณย่า และคุณยาย คอยช่วยกันเฝ้าดูแล ป้อนอาหารและน้ำให้กับฟีรูส
           เวลาผ่านไปฟีรูสอาการดีขึ้น เริ่มสามารถพูดได้ ทำให้ทุกตัวดีใจอย่างมาก คุณย่าถามว่า “ฟีรูสไปอยู่ที่ไหนมา ทำไมกลับมาในสภาพแบบนี้ พวกเราทุกตัวต่างเป็นห่วงเจ้าเป็นอย่างมาก”
           ฟีรูสค่อยๆ เริ่มเล่าเหตุการณ์ตั้งแต่เริ่มออกจากฝูงเพื่อไปผจญภัยให้ทุกตัวฟังว่า หลังจากที่คุณตาได้ตายจากไป เขารู้สึกเสียใจ และรับไม่ได้กลับการจากไปของคุณตา เขาไม่อยากเชื่อว่าคุณตาได้ตายไปแล้ว และไม่มีวันกลับมาหาเขาอีกแล้ว ดังนั้นตนเองจึงเริ่มออกไปนอกบริเวณที่อยู่ด้วยกัน เมื่อได้ออกไปก็พบว่านอกบริเวณของฝูงนั้น มีอะไรมากมาย เขาค่อยๆ ไปไกลขึ้นเรื่อยๆ และรู้สึกเพลิดเพลินกับสิ่งที่ได้พบเห็น จนกระทั่งได้ตัดสินใจจากครอบครัวเพื่อไปผจญภัยโดยไม่ได้บอกใคร
           เหตุการณ์ที่เขาเจอทำให้เขาตื่นเต้นเป็นอย่างมาก มีสัตว์มากมายหลายชนิดทั้งที่รู้จัก และไม่รู้จัก ทำให้เขาได้ประสบการณ์แปลกใหม่ในชีวิต จนทำให้เขาลืมความเศร้าเสียใจที่คุณตาจากไป แต่นอกจากความสวยงามแล้ว เขาได้พบว่ายังมีอันตรายอีกมากมายด้วย เขาเห็นสิงโตวิ่งไล่ม้าลาย ฆ่าม้าลายนำมากิน เมื่อสิงโตอิ่ม เริ่มมีไฮยีน่าเข้ามากินชิ้นส่วนที่เหลือ ตามด้วยอีแล้งมาจิกกินซากของม้าลาย
           นั่นทำให้ฟีรูสรู้ทันทีว่าเขาไม่สามารถอยู่ตัวเดียวได้ เขาต้องรีบหาฝูงอยู่ ฟีรูสได้เข้าไปขออาศัยอยู่กับฝูงหนึ่ง ซึ่งฝูงนั้นไม่ค่อยยินดีต้อนรับเขาสักเท่าไหร่ เพราะบุคลิกของฟีรูสบ่งบอกว่าเป็นม้าดื้อ แต่ก็ยังมีม้า   บางตัวยินดีที่ให้เขาอยู่ด้วย ภายในฝูงนั้นมีม้าเพศเมียตัวหนึ่งชื่อลูน่า อายุใกล้เคียงกับเขา ได้เข้ามาพูดคุยและเป็นเพื่อนกับเขา ทั้งสองพูดคุยกันถูกคอ จึงเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน
           ฟีรูสได้รับอนุญาตให้ทานอาหารในบริเวณที่หัวหน้าฝูงกำหนดให้เท่านั้น เรื่องนี้จึงทำให้เขาไม่พอใจ และเกิดปากเสียงกับหัวหน้าฝูง ทั้งสองทะเลาะกัน ฟีรูสถูกหัวหน้าฝูงทั้งเตะและถีบหลายครั้ง และพูดว่า   “เจ้ามาทีหลังยังไม่รู้จักเคารพผู้ใหญ่ แล้วยังไม่มีมารยาทในการอยู่ร่วมกับผู้อื่น กลับเอาแต่ใจตนเอง ไม่รู้จักเกรงใจผู้อื่น รบกวนผู้อื่นจนทำให้ผู้อื่นรำคาญอีกด้วย”
           คำพูดของหัวหน้าฝูงยิ่งทำให้ฟีรูสไม่พอใจมากขึ้น ฟีรูสพยายามจะเข้าไปต่อสู้กับหัวหน้าฝูง นั่นทำให้ม้าตัวอื่นๆ ยิ่งไม่พอใจฟีรูส และจะเข้ามาทำร้ายฟีรูส แต่มีม้าอีกกลุ่มหนึ่งเข้ามาห้ามและขอโอกาสให้ฟีรูส ปรับปรุงตัวเอง โดยพวกตนเป็นผู้อบรมสั่งสอนเอง
           สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ฟีรูสรู้สึกสับสน และมึนงงว่าเกิดอะไรขึ้น เขายังอยู่กับฝูงนี้ต่อไปโดยมีกลุ่มม้าตัวเมียสลับผลัดกันมาอบรมสั่งสอนในเรื่องมารยาท มีมารยาทในการอยู่กับผู้อื่น การเคารพผู้ใหญ่ ไม่เอาแต่ใจตนเอง ต้องรู้จักเกรงใจผู้อื่นด้วย ไม่รบกวนผู้อื่นจนทำให้เขารำคาญ และต้องรู้จักช่วยเหลือผู้อื่นด้วย
           โดยแรกๆ ฟีรูสไม่พอใจกับคำสั่งสอนเหล่านั้น แต่เมื่อลูน่าได้เข้ามาช่วยเหลือ และอธิบายจึงทำให้เขาเข้าใจมากขึ้น แต่เขาก็ยังคงดื้อไม่ค่อยทำตามคำสั่งสอนเท่าไหร่นัก
           การที่ฟีรูสไม่ทำตามที่ได้รับคำสั่งสอนเท่าไหร่ จึงทำให้ม้าอาวุโสในฝูง เริ่มไม่พอใจ และมีการประชุมว่าจะทำอย่างไรกับฟีรูสดี
           ม้าตัวหนึ่งเสนอให้ไล่ฟีรูสออกจากฝูง แต่ม้าอีกตัวหนึ่งบอกว่าถ้าไล่ออกไปฟีรูสอยู่ตัวเดียว อาจได้รับอันตรายจากสิงโตหรือเสือได้ แล้วนั่นเป็นการที่พวกเราไล่ให้ฟีรูสไปตาย บาปก็จะตกอยู่ที่พวกเรา
           ม้าอีกตัวจึงเสนอขึ้นมาว่าให้ตั้งกฎของฝูง เพื่อให้ฝูงเป็นระเบียบ และถ้ามีใครฝ่าฝืนกฎจะถูกทำโทษ ถ้าเป็นแบบนี้ถือว่าทุกตัวเท่าเทียมกันและฟีรูสก็จะไม่สามารถมีข้ออ้างอะไรได้อีก หากฟีรูสรับกฎของฝูงไม่ได้  ก็ให้ฟีรูสออกจากฝูงไป หัวหน้าฝูง ผู้อาวุโส และม้าตัวอื่นๆ ต่างก็เห็นด้วย
           วันต่อมาหัวหน้าฝูงได้ประกาศกฎของฝูงให้ทุกตัวฟัง หากตัวไหนรับกฎไม่ได้ก็ให้ออกจากฝูงไป ซึ่งกฎที่ออกมาดังกล่าวเป็นพื้นฐานชีวิตในการอยู่ร่วมกันของฝูงอยู่แล้ว จึงทำให้ไม่มีตัวใดมีปัญหา ยกเว้นฟีรูส แต่เขาก็ไม่กล้าออกจากฝูง เพราะกลัวอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับเขาได้
           ฟีรูสพยายามทำตามกฎด้วยความฝืนใจ เมื่อเขาฝ่าฝืนกฎ เช่นไม่แสดงความเคารพผู้ใหญ่ หรือพูดจาไม่สุภาพ เขาจะถูกลงโทษให้อดอาหาร เป็นต้น ในช่วงแรกฟีรูสทนได้เพราะเขาอายุยังไม่มาก แต่เพราะว่าเขาฝ่าฝืนกฎหลายครั้ง จึงทำให้เขาเริ่มหมดเรี่ยวแรง และซูบผอมลง ไม่มีม้าตัวกล้าช่วยเขา และเห็นว่าฟีรูสสมควรถูกลงโทษจริงๆ
           ฟีรูสจึงได้คิดทบทวนว่าทำไมตัวเองต้องมาเป็นแบบนี้ เขาเริ่มทบทวนว่าทำไมถึงถูกทำโทษ สาเหตุนั้นมาจากการที่เขาฝ่าฝืนกฎ ซึ่งกฎเหล่านั้นเป็นสิ่งที่ม้าตัวอื่นๆ สอน และก็ปฏิบัติกันอยู่แล้ว สามารถทำได้ง่ายๆ ทำไมเขาจึงไม่ทำตาม เพียงแค่ทำความเคารพผู้ใหญ่ ไม่รบกวนคนอื่น และปฏิบัติตามมารยาทที่ได้รับการสั่งสอนมาเท่านั้น หลังจากฟีรูสคิดทบทวนถึงความผิดของตนเอง เขาเริ่มปรับปรุงตัว เขาเริ่มเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น มีมารยาท เคารพผู้ใหญ่ รู้จักเกรงใจผู้อื่นมากขึ้น และนอกจากนั้นเขายังรู้จักช่วยเหลือผู้อื่นอีกด้วย คราวนี้จากฟีรูสจอมดื้อไม่มีใครชอบ เริ่มผู้ที่ชอบเขามากขึ้น รวมทั้งหัวหน้าฝูงจนเป็นที่ไว้วางใจของหัวหน้าให้ช่วยทำงานต่างๆ
           ในคืนหนึ่งขณะที่ทุกตัวกำลังพักผ่อน ฟีรูสได้ยินเสียงผิดปกติ เขายืนขึ้นมองไปรอบๆ แล้วเขาก็เห็นฝูงไฮยีน่ากำลังค่อยๆ เข้ามา ฟีรูสส่งเสียงร้องเพื่อปลุกทุกตัวในฝูงให้ตื่น และบอกว่ามีไฮยีน่ามา ม้าแต่ละตัวต่างพากันตกใจ และวิ่งหนีไฮยีน่าไปคนละทิศคนละทาง
           ฟีรูสพยายามปกป้องเพื่อนๆ ภายในฝูงให้หนีไป หัวหน้าฝูงเรียกตัวเมียและม้าเด็กๆ ให้หนีตามไป   ฟีรูสหันไปเห็นว่าผู้อาวุโสนอกจากจะไม่หนีแล้ว ยังคงยืนหยัดต่อสู้กับไฮยีน่าอีกด้วย ฟีรูสเห็นว่าไม่มีทางที่จะสู้ไฮยีน่าได้ จึงพยายามพาผู้อาวุโสหนี ฟีรูสถูกกัดหลายครั้ง หลายที่บนร่างกาย เขาเจ็บปวดมาก แต่ก็พยายามพาผู้อาวุโสหนีไปให้ได้ จนกระทั่งสามารถหลบไฮยีน่าได้
           ไม่ได้มีเพียงแต่ฟีรูสเท่านั้นที่ถูกทำร้าย ผู้อาวุโสก็ถูกทำร้ายเช่นเดียวกัน เมื่อทั้งสองเห็นว่าหลบ      ไฮยีน่าพ้นแล้ว เริ่มพูดคุยกัน โดยผู้อาวุโสเป็นผู้เริ่มก่อนว่า “ขอบใจเจ้ามากที่ช่วยข้าไว้ แต่ว่าข้าคงไม่รอดแล้ว อายุข้าก็มากแล้ว คงตายในไม่ช้า” คำว่า “ตาย” ทำให้ฟีรูสรู้สึกเสียใจและคิดถึงคุณตาขึ้นมาทันที ผู้อาวุโสบอกว่า “ทุกครั้งที่ฟีรูสทำผิดกฎ ไม่มีใครอยากทำโทษฟีรูส แต่เนื่องจากฟีรูสทำผิดซ้ำแล้วซ้ำอีก จึงได้ทำโทษฟีรูส เพื่อให้ฟีรูสำนึกผิดได้เอง แล้วตอนนี้ฟีรูสทำให้เห็นแล้วว่าฟีรูสเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น จึงขอให้ฟีรูสเป็นฟีรูส  ในปัจจุบันนี้ มีมารยาท เคารพผู้ใหญ่ รู้จักเกรงใจผู้อื่น เชื่อฟังผู้ใหญ่ต่อไป” คำพูดของผู้อาวุโสทำให้ฟีรูสนึกถึงคำพูดของคุณตาขึ้นมาทันที
           ฟีรูสพูดขึ้นว่า “ท่านผู้อาวุโสอย่าเพิ่งพูดอะไร นอนพักสักหน่อย พอเช้าพวกเราจะกลับเข้าฝูงด้วยกัน” ผู้อาวุโสได้เพียงแต่ส่งยิ้มให้ฟีรูสแล้วหลับไป
           เช้าวันรุ่งขึ้นฟีรูสตื่นขึ้นด้วยความเจ็บปวดจากบาดแผล เขาหันไปปลุกผู้อาวุโส แต่ผู้อาวุโสไม่ขยับ เนื้อตัวเย็นเฉียบ ฟีรูสเข้าไปใกล้ๆ จมูกของผู้อาวุโสทำให้เขาตกใจร้องว่า “ผู้อาวุโสตายแล้ว” ฟีรูสเสียใจได้แต่ร้องไห้ และทบทวนคำพูดของผู้อาวุโส แล้วฟีรูสตัดสินใจเดินทางกลับเข้าฝูง
           ฟีรูสทั้งวิ่งและเดินสลับกันเพื่อกลับเข้าฝูง เวลาผ่านไปหนึ่งวันหนึ่งคืน เขาจึงได้พบกับหัวหน้าฝูงและตัวอื่นๆ ทุกตัวดีใจที่เห็นฟีรูสกลับมา ต่างสอบถามความเป็นอยู่ของกันและกัน แล้วฟีรูสได้บอกกับทุกตัวว่า “ท่านอาวุโสตายแล้ว” ม้าทุกตัวต่างตกใจที่ได้ยิน บางตัวก็เริ่มร้องไห้เสียใจในการจากไปของท่านผู้อาวุโส หัวหน้าฝูงได้กล่าวปลอบขวัญทุกตัวว่า “ยังไงก็ไม่มีใครหนีความตายได้ จงทำวันนี้ให้ดีที่สุด”
           ฟีรูสอยู่กับฝูงอีกหนึ่งวัน เขาคิดทบทวนถึงเรื่องราวเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น แล้วเขาก็ตัดสินใจที่จะกลับไปหาครอบครัวของเขา เพื่อไปขอโทษ ดูแลปกป้อง และทดแทนบุญคุณของทุกตัว
           ฟีรูสได้กล่าวอำลากับฝูงพร้อมขอบคุณที่ทุกตัวสอนให้เขาได้เรียนรู้เรื่อง มารยาท การอยู่กับผู้อื่น การให้ความเคารพผู้ใหญ่ และการช่วยเหลือผู้อื่น แล้วฟีรูสก็ออกเดินทางกลับไปหาครอบครัว ระหว่างการเดินทางกลับ เนื่องจากฟูรีสเดินทางตามลำพัง ประกอบกับตามตัวยังคงมีบาดแผลที่ยังไม่หาย ทำให้มีกลิ่นเลือดของเขากระจายออกไป ทำให้สัตว์กินเนื้อตามกลิ่นและไล่ล่าเขา ฟีรูสต้องต่อสู้ วิ่งหนี ไม่ได้หยุดพักเพื่อ ดื่มน้ำ หรือทานอาหาร เพื่อเอาตัวรอดจนกระทั่งได้พบกับครอบครัว
           ฟีรูสบอกกับทุกตัวในครอบครัวว่าต่อไปเขาจะไม่ดื้ออีกแล้ว จะเชื่อฟังคำสั่งสอน ไม่ทำให้ทุกตัวเป็นห่วงแบบนี้อีก ทุกตัวต่างดีใจที่ได้ฟังเรื่องราวต่างๆ และการเปลี่ยนแปลงของฟีรูสอีกด้วย
           เมื่อฟีรูสอาการดีขึ้น ก็แสดงให้ทุกตัวเห็นว่าเขาได้เปลี่ยนแปลงไปแล้วจริงๆ ทั้งกริยา มารยาท     การพูดจา จึงทำให้ทุกตัวอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข

จี๋ กวางน้อย




 

Create Date : 10 สิงหาคม 2563
0 comments
Last Update : 10 สิงหาคม 2563 13:21:18 น.
Counter : 610 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

space

สมาชิกหมายเลข 4154448
Location :
ชลบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




บอกความจริง

space
space
[Add สมาชิกหมายเลข 4154448's blog to your web]
space
space
space
space
space