สะบายดี .. เวียงจันทน์-วังเวียง-หลวงพระบาง ธันวานี้ เจอกันแน่ !
หลังจากที่ได้ไปเยือนเมืองปากเซ ซึ่งอยู่ในแขวงจำปาสัก ของ สปป.ลาว มาเมื่อปลายปีที่แล้วซึ่งทริปปากเซนั้น สร้างความประทับใจให้เรามากๆคนลาว น่ารัก ใจดี มีมนุษยสัมพันธ์คุยกันก็รู้เรื่อง ด้วยภาษาที่ใกล้เคียงกันแต่ส่วนใหญ่เค้าจะฟังเรารู้เรื่องกว่าเราฟังเค้า ต้องยกความดีให้ละครไทยจริงๆนะเนี่ย :)ปีนี้ ก็เลยเกิดทริป เวียงจันทน์ - วังเวียง - หลวงพระบาง ขึ้นมาจริงๆ แล้ว จะบอกว่างบเดินทางน้อย มันก็ใช่อยู่เหมือนกันนะเพราะประมาณการดูแล้ว ทริปนี้ น่าจะไม่ทำให้กระเป๋าเราแฟบไปมากการเดินทาง จากกรุงเทพฯ ไปเวียงจันทน์เดิมทีคิดว่าจะไปทางรถไฟ จากกรุงเทพฯ ถึงหนองคายแล้วค่อยนั่งรถทัวร์ต่อเข้าไปในเวียงจันทน์อีกทีนึงแต่ด้วยความสูงวัยของสาวๆ ทั้ง 3ป้าๆ ทั้งหลายเลยตกลงจะว่า ไปสายการบินลาวแทนป้าๆ ได้ทำการศึกษาแล้วว่า การบินลาวเนี่ย เค้าเชื่อถือได้ดูจากหลายๆ คนที่มารีวิวไว้ เค้าก็บินดี ตรงเวลาการเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปยังเวียงจันทน์ โดยเครื่องบินนั้นใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงกว่าๆ โดยลงที่สนามบินนานาชาติวัดไต (Wattay International Airport) หลังจากนั้น ก็แล้วแต่ว่าจะเดินทางเข้าไปในเมืองยังไงคิดว่าน่าจะมีรถให้เช่า ขอเวลาศึกษาก่อนนะจ้ะ ส่วนที่พัก ก็คงต้องจองไปก่อนเพราะช่วงที่ไปถือว่าเป็น high seasonเมื่อวานมีที่พักที่นึงตอบเมลกลับมาบอกว่าเต็มซะแล้ว T_Tเลยต้องหาที่อื่นอยู่ เพราะไปถึงเวียงจันทน์ตอนดึกๆถ้าไม่จองที่พักไว้หละแย่แน่ต่อมา ขอเสริมความรู้เกี่ยวกับเวียงจันทน์นิดนึงนะเวียงจันทน์ หรือ Vientiane (เวียน-เทียน) เป็นเมืองหลวงของประเทศสปป.ลาว อยู่ในลุ่มแม่น้ำโขง เป็นหนึ่งในเมืองที่ยู่ในแขวงเวียงจันทน์ ซึ่งประกอบด้วย เวียงจันทน์ (เหมืองหลวง) จันทะบูลี สีโคดตะบอง ไซเสดถา สีสัดตะนาก และหาดซายฟอง คำว่า เวียงจันทน์ ในภาษาลาว จะหมายถึง เมืองแห่งพระจันทร์ (City of Moon) แต่ในภาษาอังกฤษ เขียนว่า Vientiane แทนที่จะเป็น Viangchan เนื่องจากเดิมที่ลาวตกอยู่ใต้การปกครองของฝรั่งเศสนั้น ชาวฝรั่งเศสมีปัญหาในการออกเสียง ch จะให้ใช้เป็น Vientiane นั่นเองสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในเวียงจันทน์มีหลายแห่ง แต่ส่วนใหญ่จะเน้นไปในเชิงวัฒนธรรม เช่น1. ประตูชัย หรือ Patuxayตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองเวียงจันทน์ บนถนนล้านช้างไปสิ้นสุดที่บริเวณประตูชัย สร้างเสร็จในปี พ.ศ. 2512 เป็นอนุสรณ์สถานเพื่อระลึกถึงประชาชนชาวลาวผู้เสียสละชีวิตในสงครามก่อนหน้าการปฏิวัติของพรรคคอมมิวนิสต์ ประตูชัยแห่งนี้มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า รันเวย์แนวตั้ง เพราะการก่อสร้างประตูชัยแห่งนี้ ใช้ปูนที่อเมริกาซื้อเพื่อนำมาสร้างสนามบินใหม่ในนครเวียงจันทน์ในระหว่างสงครามอินโดจีน แต่ไม่ทันได้สร้างเพราะอเมริกาแพ้สงครามในอินโดจีนเสียก่อน จึงนำปูนซีเมนต์มาสร้างประตูชัยแทน ลักษณะสถาปัตยกรรมได้รับอิทธิพลของประตูชัยในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เจ้าอาณานิคมในสมัยนั้น แต่ลักษณะสถาปัตยกรรมก็ยังมีเอกลักษณ์ของลาวปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นพระพุทธรูปศิลปะลาว ภาพเรื่องราวมหากาพย์รามายณะ แบบปูนปั้นใต้ซุ้มประตูโค้งของประตูชัย บันไดวันให้ขึ้นไปชมทิวทัศน์ของนครเวียงจันทน์ บนยอดของประตูชัยอีกด้วย ตลอดบันไดวนของประตูชัยจะแบ่งออกเป็นชั้นๆ ซึ่งแต่ละชั้นจะมีร้านจำหน่ายของที่ระลึก เปิดให้นักท่องเที่ยวได้ขึ้นชมวิวทิวทัศน์ทุกวัน2.พระธาตุหลวง หรือ Pha That Luangตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของประตูชัย พระธาตุหลวงแห่งนี้ถือเป็นศาสนสถานที่สำคัญที่สุดของประเทศลาว เป็นสัญญาลักษณ์ประจำชาติและยังแทนความเป็นเอกราชและอำนาจอธิปไตยของประเทศลาวอีกด้วย พระธาตุนี้สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 16 พระธาตุองค์นี้มีรูปทรงที่ไม่เหมือนกับองค์อื่นๆ เพราะเป็นการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมในพระพุทธศาสนากับสถาปัตยกรรมของอาณาจักรในปัจจุบัน พระธาตุหลวงมีลักษณะคล้ายป้อมปราการ เพราะมีการสร้างระเบียงสูงใหญ่ขึ้นโอบล้อมรอบองค์พระธาตุไว้ พร้อมกับทำช่องหน้าต่างเล็กๆ เอาไว้โดยตลอด สำหรับประตูทางเข้านั้นเป็นประตูไม้บานใหญ่ ลงรักสีแดงไว้ทั้งหมด นอกจากนี้รอบๆ องค์พระธาตุใหญ่ยังมีเจดีย์บริวารล้อมรอบอยู่โดยรอบอีกหลายองค์ เมื่อเดินเข้าไปดูใกล้ๆ ก็จะเห็นสัญลักษณ์หนึ่งแสดงถึงความศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธศาสนาแห่งนี้ปรากฏอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นรูปแกะสลักพญานาค พระพุทธรูปปิดทองลายกลีบบัวประดับอยู่บนฐานปักษ์ และถัดจากประตูทางเข้าใหญ่ประมาณ 100 เมตร จะเห็นพระบรมรูปสมเด็จพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช ตั้งอยู่บนฐานสูง พระหัตถ์ทรงถือพระแสงดาบวางพาดไว้บนพระเพลา เล่ากันว่า พระแสงดาบเล่มนี้ทำหน้าที่ปกป้องพระธาตุหลวงซึ่งได้ถือว่าเป็นศูนย์รวมจิตใจของประชาชนชาวลาวทุกคน3. หอพระแก้ว หรือ Haw Phra Kaewตั้งอยู่บนถนน เชษฐาธิราช ติดกับทำเนียบประธานประเทศ แต่เดิมเป็นวัดหลวงประจำราชวงศ์ของลาว พระเชษฐาธิราชมีพระราชประสงค์ให้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2108 เพื่อใช้เป็นที่ประดิษฐานพระแก้วมรกตที่ได้อัญเชิญมาจากล้านนา เมื่อต้องเสด็จกลับมาครองราชบัลลังก์ล้านช้างหลังจากที่พระราชบิดาคือพระเจ้าโพธิสารสิ้นพระชนม์ลงในการทำศึกสงครามกับประเทศสยาม เมื่อปี พ.ศ. 2322 นครเวียงจันทน์ถูกกองทัพสยามตีแตก กองทัพสยามได้อัญเชิญพระแก้วมรกต พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของนครเวียงจันทน์ไป พร้อมทั้งกวาดต้อนราชวงศ์ชาวลาวกลับไปยังกรุงเทพฯมากมาย สำหรับหอพระแก้วที่นักท่องเที่ยวเห็นอยู่ในปัจจุบันเป็นของที่ถูกบูรณะขึ้นใหม่เกือบทั้งหมด ในปี พ.ศ. 2480-2483 ภายใต้การควบคุมดูแลการก่อสร้างของ เจ้าสุวรรณภูมา ผู้ที่จบการศึกษาทางด้านวิศวกรรมศาสตร์จากกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส และต่อมายังได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หลังจากได้รับเอกราชอีกด้วย แม้หอพระแก้ปัจจุบันจะไม่ใช่วัดอีกต่อไป แต่นักท่องเที่ยวชาวไทยที่เดินทางมาท่องเที่ยวยังนครเวียงจันทน์ก้ยังเดินทางมาสักการะบูชากันเป็นจำนวนมาก สำหรับส่วนในของพิพิธภัณฑ์นั้น จัดแสดงพระแท่นบัลลังก์ปิดทองจารึกพระไตรปิฏก ภาษาขอมและกลองสำริดประจำราชวงศ์ลาว สำหรับประตูใหญ่ทั้งสองเป็นของเก่าที่หลงเหลือมาแต่เดิม บานประตูจำหลักเป็นรูปองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า บริเวณโดยรอบของหอพระแก้วเงียบสงบ ร่มเย็น มีไหขนาดกลางจากทุ่งไหหิน ในเชียงขวางวางตั้งอยู่ 1 ใบ อาณาบริเวณรอบๆ วัดสีสะเกดและหอพระแก้วเคยถูกใช้เป็นศูนย์กลางของหน่วยงานปกครองของฝรั่งเศสสมัยอาณานิคมมาก่อนขอเล่าเกี่ยวกับเวียงจันทน์แค่นี้ก่อนละกันนะรูปสถานที่ต่างๆ ของจริงที่ถ่ายเองกะมือ จะมาให้ชมในเดือนธันวาคมนี้แน่ๆ :)ส่วนวังเวียง และหลวงพระบาง ติดตามชมตอนต่อไปนะจ้ะ
แล้วจะเอาข้อมูลมาแลกนะคะ