วิบากกรรมกับสถาปนิก

เมื่อตัดสินใจแน่ว่าจะสร้างบ้าน อันดับแรกจากที่คิดเรื่อง พื้นที่ใช้สอย ห้องต่างๆ งบประมาณ แบบในใจกับแบบในกระดาษ ก็ถึงเวลาที่ต้องหาสถาปนิก

สถาปนิกภาคแรก : แบบบ้านที่รอคอย(นานนนนมากกกก)
พอดีหลานสะใภ้มีญาติเป็นสถาปนิกหรือมัณฑนากร?(คือเขาถนัดออกแบบภายใน และเขา co งานกับสถาปนิกที่เขียนแบบสถาปัตย์ซึ่งเป็นสถาปนิกระดับ สสถ.- สามัญสถาปนิก และยังเป็นสมาชิกสภาวิศวกรด้วย) เห็นว่าถนัดทางทรอปิคอล ท่าทางจะตรงกับแนวเรา ถึงแม้จะกังวล ว่าจะติดต่อยากหรือเปล่า จะมาดูหน้างานให้หรือเปล่า เพราะ สถาปนิกอยู่กรุงเทพ แต่ก็ตัดสินใจจ้าง เพราะสะดวก ไม่ต้องไปตามหาสถาปนิกอื่นอีก ทั้งสถาปนิกก็เอาภาพ 3D มาเสนออย่างเร็วภายในเวลาไม่กี่วัน (มาสังเกตพบทีหลังว่าไฟล์ 3D นี้ทำขึ้นก่อนเราจะติดต่อกับสถาปนิกตั้ง 2 เดือน) และมาพบเราเพื่อสอบถามถึงรสนิยม ,lifestyle และถามไปถึงวงดนตรีที่ชอบโน่น (หลังจากคุยกันครั้งแรกแค่ไม่กี่วัน) พร้อมเสนอว่าออกแบบภายในด้วย (รวมในราคาสองแสนบาท) บอกว่าใช้เวลาเขียนแบบประมาณ 1 เดือนเสร็จ แถมคุยว่าสามารถซื้อของได้ในราคาลดพิเศษ เช่น สุขภัณฑ์ และกระเบื้อง ก็เลยตกลงเซ็นสัญญาและจ่ายงวดแรกไป 20,000 บาท เมื่อ 8 พ.ย. 2554 โดยมีสัญญาดังนี้

ค่าดำเนินการส่วนงานเขียนแบบออกแบบสถาปัตย์
โครงสร้างไฟฟ้า, สุขาภิบาล ตกแต่งภายใน
1. ไม่ครอบคลุม เซ็นต์ควบคุมงาน และควบคุมงาน
2. การยื่นขออนุญาตต่อราชการเป็นหน้าที่ของเจ้าของโครงการ
3. การเดินทางไป Site งาน เจ้าของเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย
การเดินทาง และที่พัก
4. ในขอบเขตงานไม่รวมการจัดทำราคาค่าก่อสร้าง
5. ไม่รวมการจัดทำ Model

ตรงนี้น่าเสียดายตรง ไม่มีการจัดทำ BOQ กลาง ในราคาจ้างระดับสองแสนบาท (ซึ่งน่าจะมี) ทำให้การต่อรองหรือตรวจสอบ BOQ ของผู้รับเหมาที่เสนอมา เป็นไปอย่างยากลำบากกับเราที่ต้องมานั่งถอดแบบบ้านเอง เพื่อหาปริมาณวัสดุที่ถูกต้อง (นั่นคือเหมือนกับเจ้าของบ้านต้องสวมวิญญาณเป็นสถาปนิกกับผู้รับเหมาเอง)

แววความปวดหัวเริ่มปรากฏ เมื่องานในขั้นตอนต่อๆมา เป็นไปอย่างเชื่องช้า ผ่านไปเดือนกว่า ( 25 ธ.ค. 2554) แบบก็ออกมาแค่ drawing plan ซึ่งยังต้องมาปรับแก้ให้ตรงความต้องการ ซึ่งทางเราก็ไม่ได้แก้อะไรมากเลย
อีก 1 เดือนต่อมา (28 ม.ค. 2555) แบบ สถาปัตย์โครงสร้างคร่าวๆ (มีขนาดแต่ไม่มีรายละเอียด วัสดุ ,ไม่มีรายละเอียดฐานราก-เสา-คาน และไม่มีการเซ็นของวิศวกร ไม่มีแบบไฟฟ้า สุขาภิบาล) ซึ่งไม่สามารถนำไปยื่นขออนุญาตก่อสร้าง หรือให้ ผรม. ถอด BOQ หรือยื่นธนาคารได้ ทางเราก็เร่งสถาปนิกว่าต้องการแบบโครงสร้าง แต่สถาปนิกก็เฉไปทำแบบเฟอร์นิเจอร์ ออกแบบโลโก้ของบ้าน(จะทำทำไมตอนนี้ บ้านยังไม่ได้ขุดหลุมเลย)

เนื่องจากเราจำเป็นต้องเริ่มสร้างให้ทันช่วง พ.ค. จึงตัดสินใจลงเสาเอกไปก่อน กับ ผู้รับเหมา(19 มี.ค. 2555) โดยที่ไม่มีแบบฐานราก และแบบเสาตอม่อ งานนี้หลังจากพยายามเร่งสถาปนิกไปหลายดอก สถาปนิกก็หายเข้ากลีบเมฆไปเป็นเดือน เข้าใจว่าไปบวช

จนกระทั่ง 10 พ.ค. 2555 แบบสถาปัตย์ โครงสร้าง ไฟฟ้า สุขาภิบาล จึงแล้วเสร็จ (ยังไม่มีแบบตกแต่งภายใน) รวมแล้วใช้เวลาจากเริ่มเซ็นสัญญา 6 เดือน (หลังจากผ่านการติดต่ออันแสนลำบาก เช่น โทรไม่ติด ติดไม่รับ ตามตัวไม่ได้ โทรศัพท์หาย คอมพิวเตอร์พัง ป่วยบ้าง และอื่นๆบรรยายไม่หมด)

สถาปนิกภาคสอง : การต่อรองกับผู้รับเหมาที่ล้มเหลว
สำหรับภาคนี้รออ่านรายละเอียดในตอน “ฟาดฟัน BOQ กับผู้รับเหมา” สรุปว่า สถาปนิกไม่มาตามที่ตกลงไว้ ใช้วิธีคุยทางโทรศัพท์ และ skype กับ ผู้รับเหมาและเจ้าของบ้าน โดยสถาปนิกเสนอให้ผู้รับเหมาเพิ่มค่าดำเนินการจาก 5% เป็น 12% เพิ่มกำไรให้ผู้รับเหมาจาก 5% เป็น 13% (นี่คือวิธีต่อรองราคาของสถาปนิก ...อึ้งงง) ซึ่งผลก็ออกมาดังในหัวข้อด้านบน

สถาปนิกภาคสาม : การควบคุมงานก่อสร้าง (ที่ไม่มีแม้เงาของ สถป.)
พอเริ่มงานก่อสร้างตั้งแต่ มิ.ย. 2555 ไม่เคยเห็นตัวเป็นๆของสถาปนิกอีกเลย (ความจริงเห็นครั้งสุดท้ายน่าจะ ม.ค. 2555) และข้อสงสัยในแบบทั้งหลายที่เมลไปถาม ก็ยังคงเป็นปริศนาชั่วนิรันดร์ ที่ไม่มีคำตอบมาจนทุกวันนี้ ดังนั้นเมื่อถึงภาคนี้เราจึงตัดสินใจเลิกติดต่อกับสถาปนิกไปแล้ว และคิดว่าการที่เขาไม่เคยติดต่อกลับมาเลยเป็นเวลา 4 เดือน เรื่องราวน่าจะจบ

สถาปนิกภาคสี่ : แบบตกแต่งภายใน (ช่างกล้านัก)
ผิดคาดหมาย ปรากฏว่า 21 พ.ย. 2555 สถาปนิก โทรมา(ด้านเหลือเชื่อ!) บอกว่าจะทำแบบ interior ขอเบิกเงินงวดแรก 15,000 บาท ก่อน คุยว่าเย็นวันนี้จะประชุมกับน้องๆ ทีมงานและจะเร่งงานให้ได้ตามที่เราตกลง ผ่านไป 4 ชั่วโมง โทรมาอีกว่าเลขที่บัญชีที่ให้ไปผิด(ความจริงถูก) ประมาณเร่งให้โอนเงินเร็วๆ เราก็จำใจโอนไปให้ (ยังไม่เข็ด) ในใจก็คิดว่า เอาวะ ยอมเสียเงินอีกหมื่นห้า(ค่าที่โชคร้ายดันมาเป็นญาติกันได้) ดูสิว่ายังจะด้านหน้ามาขอเงิน แต่ไม่ค่อยทำงานอีกไหม

และแล้วก็เป็นดังคาด หลังโอนเงินไป 17 วัน ก็ไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ หลังจากพยายามติดต่อจนหมดปัญญา เราจึงต้องจ้างร้านกระเบื้อง สุขภัณฑ์ ออกแบบห้องน้ำ 4 ห้อง ห้องครัว 1 ห้อง ทางร้านส่งแบบให้ใน 5 วัน ระหว่างเลือกกระเบื้องก็ให้นึกถึงที่หลายคนเล่าว่าเวลาเขามาเลือกกระเบื้อง สุขภัณฑ์ สถาปนิกของเขาก็มาเดินช่วยเลือกด้วย (กรรมของเราจริงๆ)
สรุปแล้วตั้งแต่ ทำสัญญากับสถาปนิกเมื่อ 8 พ.ย. 2554 ถึงปัจจุบัน (ธ.ค. 2555) เจอตัวสถาปนิกจริง ๆ ตั้ง 2 ครั้ง คือ พ.ย. 2554 กับ ม.ค. 2555 - - “

ข้อแนะนำสำหรับสถาปนิก มัณฑนากร
- รับงานแล้วไม่รู้เสร็จเมื่อไหร่ กรุณาอย่ารับ
- เวลาจะเอาเงินพูดอย่างโน้นอย่างนี้ รับปากสารพัด ถึงกำหนดส่งงานเป็นใบ้ โทรศัพท์หาย คอมเสีย ป่วยกะทันหัน กรุณาอย่ารับ
- เวลาจะเอาเงิน โทรเช้า สาย บ่าย เย็น เวลาถึงกำหนดส่งงาน หายหัวเป็นเดือนๆ กรุณาอย่ารับงาน
และต่อไปนี้คือข้อความที่copy มาจากเว็บบอร์ดในสมาคมสถาปนิกสยาม//www.asa.or.th/?q=node/114154
“มีการวิจัยหรืออย่างไรมิทราบได้ รู้แต่ว่าในการจะเปิดเสรีการค้าอาเซียน AEC (Asean Economic Community) ในวันที่ ๑ มกราคม ๒๕๕๘ นั้น หลายประเทศได้เตรียมการไปเยอะแล้ว
ยกตัวอย่างเช่นสิงค์โปร์ มีหลักสูตรสอนเรื่อง “CEO for ASEAN” ซึ่งเป็นหลักสูตรสร้างผู้บริหารเพื่อบริหารคนในอาเซียน เป็นต้น
การบริหารทั้งหลาย จะต้องรู้ “จุดเด่น” และ “จุดดับ” ของคนที่จะบริหาร ซึ่งสถาปนิกไทยก็ต้องโดนศึกษาอยู่แน่นอน และจุดดับของสถาปนิกไทยนั้นมีเริ่มต้นอยู่ ๕ ประการคือ....
๑.. สถาปนิกไทย = ไร้วินัย
๒.. สถาปนิกไทย = อ่อนเรื่อง Q.S. และ เรื่อง Budget Control
๓.. สถาปนิกไทย = ทำเอกสารไม่เป็น ชอบ Copy & Press
๔.. สถาปนิกไทย = อ่อนเรื่องกฎหมาย และ Code & Standard
๕.. สถาปนิกไทย = ออกแบบโดยไม่สนใจ Construction Process “

ที่เขียนมานี้ ไม่ได้หมายความว่าสถาปนิก มัณฑนากร จะเป็นอย่างนี้ไปหมด เราอาจจะบุญน้อยไป จึงมาเจอสถาปนิก มัณฑนากรแบบนี้ บางคนโชคดี ได้ว่าจ้างสถาปนิกระดับอาจารย์มหาวิทยาลัย ในระดับราคาพอๆกับเรา สถาปนิกทำงานมีวินัย ตรงเวลา ไม่โยกโย้ ทำโมเดลให้ เข้า siteงาน ตรวจงาน ให้คำปรึกษา ช่วยเลือกวัสดุให้ เรื่องเหล่านี้มีจริง

Create Date : 30 ธันวาคม 2555 Last Update : 30 ธันวาคม 2555 13:39:54 น. Counter : 2015 Pageviews.		1 comments
Share Tweet