..

มงกุฎแสงจันทร์ สุดท้ายจบจริงแล้ววันนี้






วันนี้สุดท้ายแล้วคะกับมงกุฏแสงจันทร์
ไม่จำเป็นที่แฟนคลับจะต้องเห็นตรงกับพี่แล้ว
จะแสดงความเห็นในทางเดียวกับพี่เท่านั้น
ที่นี้เปิดให้แฟนคลับแสดงความคิดที่เป็นประโยชน์ต่อแอนดริว
ความเห็นบางครั้งแฟนดริวอ่านและยิ้ม
หรืออ่านแล้วมันไม่ใช่ก็แย้งออกมา
เพราะผู้ที่รับประโยชน์คือแอนดริวที่เขาสามารถ
รับทราบความต้องการส่วนใหญ่ของแฟนๆๆ
เพราะเขาเองนั้นละที่บอกว่าทำทุกอย่างเพื่อแฟนคลับ
(แต่ว่าตามใจตัวเองมากว่านะ)
พอมาถึงวันนี้แฟนคลับก็จะเริ่มเหี่ยวหูตาก็จะคอยหาข่าวเรื่องต่อไป


ข่าวมาไกลๆๆว่า หัวใจนักรบ
เพื่อนจอมหาข่าว พี่เขาว่าเรื่องนี้คล้าย
มงกุฏแสงจันทร์ อีกแล้ว มีเจ้าชายเจ้าหญิง
ออกรบอีกแล้วหรือ.......


ตายกลุ้มใจจริงๆๆ ก็ค่ายละครนี้บริษัท ควิซ แอนด์ เควส จำกัด
มีงาน


ละครเรื่อง “สุดแต่ใจจะไขว่คว้า” ผลิตโดย บริษัท ควิซ แอนด์ เควส จำกัด
ผู้จัดฯ "ต่อ" วัชระ คุปตะวาทิน คว้าละครข้ามช่อง "ผยอง"
บัวแล้งน้ำ ค่ายควิสแอนด์เควส (ผู้จัดฯ คุณต่อ วัชระ คุปตะวาทิน)

“จำเลยกามเทพ”โดยผู้ จัด “นก”จริยา แอนโฟเน่ ฝีมือการกำกับของ ศุภฌา ครุฑนาค
หรือ “ต่อ”วัชระ คุปตะวาทิน


ที่กลุ้มคือเขาเป็นค่ายเล็กแม้ทำละครคุณภาพ
แต่ก็โดนดองมา 2 เรื่อง "ผยอง""บัวแล้งน้ำ "

ค่ายเล็กทุนน้อยสร้างเรื่องใหญ่

สุดท้ายก็ออกมากระป๋อง แบบมงกุฏแสงจันทร์
ไม่สมจริงสมจังที่จะเชื่อได้ว่าเป็นเมือง
น่าจะเป็นเรื่องของบ้านเศรษฐ๊ มากกว่าวัง


พ่อคุณยังไม่เข็ดอีกหรือ
ที่จริงอยากดูดริวเล่นละครสบายๆๆน่ารักสักเรื่อง
ไม่อยากจะพูดเลยค่ายที่ดริวเล่นแล้วทำไม
ไม่กลับไปเล่นอีกออกจะดัง
ไม่เหนื่อยที่จะลุ้นงานออกมาให้ดี
กับทุนน้อยๆๆแล้วไปสร้างละครที่เกินตัว
ทีมงาน คนเขียนบท ทุนมากมาก อย่างละครไท
























ขอบใจน้องปูเป้ สาวเทคนิคที่น้ิองชายรูปหล่อ
ไม่สบายเข้าโรงพยาบาล ยังทำข่าวมาฝากเพื่อนๆๆอีก
และยังมีอีกชุดหนึงไม่ใช่มงกุฏแสงจันทร์ ส่งมาให้
เอาไว้ดูตอนปีใหม่นะ






สุดท้าย เป็นกำลังใจให้คุณนิยา
ขอบคุณที่ที่นี่ ทำให้มีความสุขคะ

.
.
....พี่ก็ว่ามนนี่คึกน่าดูเดี๋ยวก็จะให้พี่ตบหัวอยู่เรื่ิอย
ติดใจมาจากไหนหรือ แต่อุ้มอาสาแล้วจะช่วยมน
กลับออกจากบ้านอุ้มเสาร์นี้อย่างเดินเซเพราะมึนก็แล้วกัน







 

Create Date : 18 ธันวาคม 2552    
Last Update : 25 ธันวาคม 2552 3:15:37 น.
Counter : 2293 Pageviews.  

มงกุฎแสงจันทร์ 2ตอนสุดท้าย กับความผิดหวังของแฟนคลับอย่างเรา






ที่จริงพี่คิดว่าจะขึ้นหน้านี้ตั้งแต่เมื่อวาน
แต่comment ที่เข้ามาอยู่ที่80กว่าๆๆ
เสียดายหน้า(ขอโทษนะอุ้มที่ขอให้พี่ขึ้นให้ใหม่เพราะอยู่ไกล)
พี่กลับเข้ามาจากการประชุมเห็นข้อความต่างๆๆเข้ามาเกินคาด

ใครจะว่าอย่างไรแต่จากการคุยกันกับเพื่อนๆๆที่มาระบาย
ถามพี่ว่าอย่างไร

พี่ให้เรื่องนี้แค่60%

พี่อยากจะขอโทษแอนดริว ที่อยากให้เล่นเรื่องนี้
เพราะพวกเราอ่านนิยายชอบมาก พี่ทีในหนังสือฉลาดมาก
วางแผนต่างๆๆได้ยอดเยี่ยม
ทำให้ลุงโกไว้ใจยอมมอบอำนาจมาอยู่ในมือ
ทำให้มสมารถโคนอำนาจลุงโก


ความรักของพี่ทีในหนังสือก็แสดงออกอย่างน่ารัก
ไม่ได้หื่นตามเฝ้าน้องศิจนไม่ได้ทำอะไรสักเท่าไร
น้องศิก็ไม่เคยที่จะทำร้ายพี่ทีโดยการตบแล้วตบอีกอย่างนี้
ความรักในหนังสือเพราะความดีของพี่ที
พระเอกฉลาดมากยึดอำนาจจากลุงโกมาได้
จะหอมจะจูบน้องศิก็เป็นเหตุผลที่ทีน้องศิยินยอมให้จูบ


การที่แฟนคลับเข้าไปcomment ที่เป่าจิงจง
เรื่องบทรัก ก็เป็นเพราะในเรื่อนไม้สีเบจ
ดูแอนดริวไม่หวานกับนางเอกเลย
เกือบจะไม่จับมืออะไรเลย ทำให้คนดูสงสัยว่าน้องมุขท้องได้ไง

ขอให้เป่าจิงจงช่วยให้แอนดริวแสดงตรงนี้หน่อย
แต่ไม่ใช่ว่าแฟนคลับจะชอบให้มันมากมายจนไม่มีความสำคัญ
ที่จะรอดูฉากนี้เพราะมาให้เห็นเป็นประจำจนเบื่อและ
พี่ทีจากพระเอกกลายเป็นไอ้หื่นไปเลย

แล้วจุดสำคัญที่พี่ทีน่าจะมีบทบาทในเรื่องกลับกลายเป็นน้องกัน
ที่ในหนังสืออกมาแค่3ตอนเอง
แต่กลับกลายเป็นน้องกันออกมามากกว่าพี่ทีวางแผนต่างๆๆ
แม้นแต่ฆ่าลุงโกซีนสำคัญน้องกันก็เอา่ไปซะเองอีก


จากเรื่องที่พระเอกรู้ว่าอจาจะมีการวางยากับน้องนางเอก
ก็ป้องกันเอาไว้ให้สามารถที่จะแก้ไขได้ถ้ามีเหตุนี้เกิดขึ้น
ทั้งต้องออกรบเพื่อป้องกันแผ่นดินตองเจ็บปานตาย
พอกลับเข้ามาก็เจอปัญหาที่นางเอกเข้าใจผิดคิดว่าพระเอกจะ
ขึ้นมาครอบครองมุงกุฎแสงจันทร์แทนน้องชาย
ต่อว่าพระเอก
ที่ก็สามารถที่จะหาตัวลุงวิชัยที่หวังให้พระเอกได้ครองเมือง
และที่สุดฆ่าตัวตายเพื่อรับผิดชอบ

ซึงพี่คิดว่าสำคัญของเรื่องที่พระเอกน้อยใจนางเอกที่ไม่เห็นความดี
ทั้งลุงวิชัยที่รักเขาต้องฆ่าตัวตายเพราะเขาทำให้พี่ทีกับน้องศิแตกหักกัน
อันนี้สำคัญอีกที่หนึ่งของเรื่องและทำให้เรื่องนี้สนุกมาก


แต่เมื่อทำออกมาตัดแกนสำคญออกไปไปใส่ใหน้องกันเดินเรื่องแทน

รับไม่ได้จริงๆๆที่ทำอย่างนี้แม้จะพยายามให้เข้ากับปัจจุบัน
แต่มันก็สามารถแต่งให้แก่นของเรืองยังอยู่ได้


ที่ดูละครไม่สนุกอีกอย่างความสมจริงสมจัง
การที่เป่าจิงจงทุนไม่ถึงที่จะให้ละครอลังการ
กลับเป็นละครห่วยแตกมาก
ฉากต่างๆๆไม่สามารถทำให้เชื่อหรือเชื่อมโยงว่าเป็นสถาที่เดียวเมืองเดียวกัน

สรุปแล้วเรื่องนนี้เป็นเรื่องที่แย่ที่สุดของดริว
แต่ไม่ได้เกิดจากดริวหรือตัวแสดงต่างๆๆเล่นไม่ดี
แต่เกิดจากคนเขียนบทที่ไม่เอาไหน

เพราะวันแรกที่เปิดตัวละครใครๆๆก็พูดถึงดริวแม้นว่าการตัดต่อจะไม่เอาไหน
แต่พอการตัดต่อดีแล้วกลับกลายเป็นเนื้อหาของเรื่องที่ไม่สนุกมุ่ง
แต่ความหื่น หึงหวง กัน










ขอบคุณviolin ที่เป็นห่วงสุขภาพของเพื่อนๆๆ


ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมมาอ่าน


.
.
.

ส่วนเรื่องหนังสือพี่พูดคำไหนคำนั้น
เพราะอยากให้หนังสือมีความหมาย
ที่คนจองมีบทความของตัวเอง
เป็นผู้ร่วมสร้างหนังสือเล่มนี้ให้ออกมามอบแด่ดริว
ไม่ใช่พี่เป็นคนทำแต่ทุกคนที่จองเป็นคนทำมันขึ้นมา


ใครที่มาที่หลังก็ละอายใจที่พี่จะไปเอาเปรียบ
ที่ไม่ได้มีบทความอยู่ในนี้ต้อมมาหารเฉลี่ยกับพวกเรา

เอาเป็นว่าถ้าหนังสือมีเหลือจากการที่โรงพิมพ์เขาแถมให้
แล้วยังจะอยากได้กันอยู่ก็จะมาบอกอีกทีนะคะ


และถ้าดริวเขายังอยากจะให้มี เล่ม2 แล้วพวกเรายังอยากจะทำกันอีก
อาจจะได้ร่วมกันในเล่มหน้านะคะ








 

Create Date : 12 ธันวาคม 2552    
Last Update : 18 ธันวาคม 2552 3:53:36 น.
Counter : 5459 Pageviews.  

มงกุฎแสงจันทร์ ดูแล้วเมื่อคืน ตอนนี้พวกเรากำลังเล่นบทไหนในเรื่องนี้






"เรายอมเนรคุณต่อคนชุบเลี้ยง แต่ไม่ใช่คนเนรคุณต่อบ้านเมือง ทุกคนกำลังทำเพื่อแผ่นดินเกิด"


"ฉันก็ทำ ทำในวิถีทางของฉัน ฉันคือคนที่กำลังจะเปลี่ยนแปลงปัญจารัตน์ให้เป็นดินแดนแห่งความร่ำรวยและโอกาส"


"โอกาสของลุงคนเดียว แต่ไม่ใช่ของทั้งหมด ที่ลุงยืนอยู่ได้มาจนถึงวินาทีนี้ ก็เพราะว่ามีราชวงศ์นี้ให้แผ่นดิน
ให้ความร่มเย็น เราเคยอยู่อย่างสงบจนลุงใช้เงินทำลายจิตใจชาวบ้าน"


"ฉันทำให้คนหูตาสว่าง ทำให้ทุกคนมีกิน มีความเจริญ พวกแกต่างหากที่กำลังรวมหัวกันเข้าข้าง คนที่นั่งเสวยสุขอย่างเดียว"


"กษัตริย์ไม่ได้นั่งเสวยสุข แต่กษัตริย์คือคนที่ทำงานหนักที่สุดเพื่อประชาชน ต่างกับลุง
ลุงเป็นตัวอย่างให้ผมเห็นว่า คนโลภที่มีอำนาจแล้วยังขาดศีลธรรม ขาดคุณธรรมมันน่ากลัวแค่ไหน
ถ้าลุงหยุดคิด หยุดฝันถึงอำนาจเกินตัว ถึงจะไม่ยิ่งใหญ่เท่าเก่า แต่ลุงก็จะไม่ลำบากไปกว่าตอนนี้
เพราะคนที่มีคุณธรรมที่สุดและปรานีลุงที่สุด ก็คือศิศิรากับธราเทพ สองพี่น้องที่ลุงฆ่าพ่อแม่ของเขา"




************************************




วันนี้เป็นวันแห่งความสุข 5 ธันวาคม ที่เราออกมารวมใจถวายในหลวงของเรา

ถามและตอบได้ทันทีว่าเรามีพระองค์ท่านอยู่ในใจ

เมื่อดูละครเมื่อคืนทุกคนก็คงจะนึกถึงบ้านเมืองเราตอนนี้
ถ้าทุกคนได้ดูและคิด
คิดว่าตอนนี้เราเป็นตัวละครตัวไหนในละครตัวนี้
เรากำลังชอบการแจกเงิน
เรากำลังจะมองหาความสะดวกผลประโยชน์ต่อตัวแค่ไหน

ตอนนี้เพลี้ย กำลังทำลายนาข้าว
มันมาจากที่เราเห็นแก่ได้ทำนาติดๆๆกันไม่หยุดที่จะปลูกพืชอื่น
ใช้ยาฆ่าแมลงเพื่อให้เสร็จไปไวๆๆ
ใส่ปุ๋ยเคมี รับจ้างนายทุนตัดไม้

ตอนนี้ไม่มีต้นน้ำป่าไม้ที่จะเก็บกักน้ำตามธรรมชาติ
การพักการทำนาปลูกพืชอื่นให้ดินได้พักให้เพลี้ยที่รอดจากการดื้อยา
ไม่มีอาหารส่งต่อให้มัน มันก็จะตายตามช่วงอายุของมัน
ปุ๋ยเคมีที่ใส่ไปในนาข้าวเห็นรวงข้าวแต่ข้างในรวงข้าวไม่มีข้าว
ชาวนาขาดทุน เพราะปุ๋ยยาฆ่าแมลงที่พวกค้าหามาให้ให้กู้ไปซื้อ
สุดท้ายไม่มีกำไร เพราะกำไรไปอยู่กับพ่อค้าหมดแล้ว
ถ้าใครได้ดูสารคดีชาวนาดีเด่นที่เข้ารับพระราชทานรางวัล
วันแลกนาขวัญ ที่เป็นชาวนาที่หันมาทำตามพระราชดำริ
เป็นชาวนาที่ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพและปริมาณมากทั้งนั้น
การดำเนินชีวิตที่พอเพียงตามพระราชดำรัส
แม้จะช้าไม่ทันใจ แต่ถ้าอดทนผลตอบแทนยั่งยืนตลอดไป




 

Create Date : 05 ธันวาคม 2552    
Last Update : 12 ธันวาคม 2552 17:30:31 น.
Counter : 2021 Pageviews.  

มงกุฎแสงจันทร์ ผ่านความหวานเข้าสู่ความเข้มข้นแล้ววันนี้




2 สัปดาห์ ที่ผ่านมา มงกุฏแสงจันทร์ ผ่านความสับสนของตัวละคร
ที่สงสัยกันเหลือเกิน ที่พี่ที ของแฟนๆๆเดินเข้าเดินออกวัง
อย่างกับสวนสาธารณะ ดอยตุง....
ทหารหายไปไหนหมด ...ภาวะเศรษฐกิจโลกอย่างนี้ แม้รถถังจะมีมาก
แต่งบเฝ้าวังน้อยเพราะตกหล่นไปอยู่ที่กลุ่มโกญจนาท หมด
ทหารรักษาพระองค์ก็ถูกแบ่งเป็น สามส่วน
เฝ้าราชินี เฝ้าเจ้าชาย เจ้าหญิง
แล้วจะเหลือสักกี่คนมาละ มันก็ดูไม่สมกับเป็นวังใช่ไหม

ที่เขียนมานี้ก็เป็นการคิดให้เข้ากับละครจะได้ดูสนุกกันขึ้น
ว่าทำไมทำไม...เลยดูไม่สนุก

อาทิตย์นี้ความเข้มข้นในตัวละครจะเพิ่มข้นโดยเฉพาะพี่ทีนี่
จะรับบทผู้ร้ายทำลายใจเจ้าหญิงให้น้ำตา นองห้องหอสักขนาดไหน
คุณลุงโก ของพี่ที จะเจออะไร...ก็นี่ละครรักชาติแต่ทำไมพี่ทีดันรักลุงโก


สัปดาห์นี่ไม่ดูก็เสียดายกันเลย





ขอบใจน้องบัวที่นำข่าวมาส่งเพื่อนๆๆไม่ขาด
ใครที่จะทบทวนความหวานของเรื่องนี้ไปที่

//www.bloggang.com/viewblog.php?id=mesaya&date=20-11-2009&group=20&gblog=6

หน้านี้ของน้องบัวมดเดินเต็มเลย
สำนวนสาวๆๆคุยกันกุ๊กกิ๊ก แก้มนี้แดงผลิกันไปเลยเมื่อเข้าหน้านี้ของน้องบัว


ขอบใจน้องอู๊ด และน้องโมคะที่สมัคร Photobucket
พี่ใช้หมดหน้านี้ของน้องโมนะคะที่พี่ใช้ฝากภาพ

ส่วนหนังสือลุ้นนะคะน่าจะได้เพราะพิมพ์เกินมาไม่กี่เล่ม
แต่เข้าใจไหมคะถ้าอ่านหน้าเดิมจะรู้ว่าเนื้อหา
ของหนังสือนี่ทำมามีเนื้อหาแบบไหน




มงกุฏแสงจันทร์ 27/11/52



ตอนที่ 12 (ต่อจากวานนี้)

ทีฑายุกลับมาที่ห้องปักไหมเห็นสินาตี กำลังบงการนารียาแม่ของเขา
ให้เร่งมือปักผ้าให้เสร็จทันงานเลี้ยงวันพรุ่งนี้ ทีฑายุไม่พอใจเดินมาดึงผ้า
ออกจากมือแม่ วางลงตรงหน้าสินาตี

"ถ้ารีบมากก็ให้ข้าหลวงมาช่วยอีก 10 คน"

"ข้าหลวงพวกนั้นมันไร้ฝีมือ" สินาตีสวนทันควัน

"งั้นก็ควรให้เวลาแม่ผมมากกว่านี้ งานปักละเอียดลออต้องใช้ฝีมือไม่ใช่ฝีปาก"

"ไอ้ ทีฑายุ" สินาตีโมโหจะเอาเรื่อง นารียารีบลุกขึ้นห้ามลูกชาย
บอกว่าแม่ทำได้ กัญญาภัคเห็นว่าเรื่องจะบานปลายจึงขยับมาหานารียา
บอกว่าเธอจะเรียกรักเร่มาช่วย แต่ทีฑายุปฏิเสธเสียงแข็ง

"ไม่ต้องหรอกกัญญาที่จริงเธอไม่ควรหวังดี จนพาแม่พี่มาที่นี่ด้วยซ้ำ"

"กัญญาเห็นว่ามันเป็นวันสำคัญของครอบครัวเรา"

"อย่า เรียกมันว่าครอบครัว พวกมันเป็นกาฝากมาพึ่งไม้ใหญ่อย่างเรา"
สินาตีขึ้นเสียง สีหน้าเหยียดหยันสองแม่ลูก ทันใดนั้นเองศิศิราก้าวเข้ามา
โดยมีญาณีตามหลัง ศิศิราสั่งญาณีไปตามนางข้าหลวงที่ปักผ้าเก่งที่สุด
ของเธอมาห้องนี้ให้หมด ญาณีรับคำแล้วหันกลับออกไปทันที

ทุกคนในห้องมองศิศิราเป็นตาเดียว กัญญาภัคหมั่นไส้ แขวะศิศิราฉลาดมาก
ที่คิดจะผูกใจแม่สามีด้วยการเป็นสะใภ้ใจบุญ แต่เปล่าเลย ศิศิราอธิบายว่า
ครั้งหนึ่งนารียาเคยให้ที่พักยามเธอหนีร้อนไปพึ่งเย็น บุญคุณวันนั้นเธอ
จะขอตอบแทนให้หมดสิ้นกันในวันนี้

"หม่อมฉันเข้าใจ แล้วเพคะ แม่ตัวก็ปกป้องไม่ได้มาคนนึงแล้ว
ก็เหลือแต่แม่สามีที่ยังพอจะเหลือรอดให้ช่วย แต่ก็ไม่แน่นักหรอกว่า
จะลงเอยแบบเดียวกันหรือเปล่า" ท้ายประโยคกัญญาภัคลดเสียงลง
ได้ยินกันแค่สองคน...นารียาเห็นสีหน้าศิศิราไม่ สู้ดี รู้สึกเห็นใจเธอเหลือเกิน...

ด้านองครักษ์ผู้จงรักภักดีอย่าง มาณสิงห์ เวลานี้เขาและธนูเพลิงกำลัง
ถูกทหารทรมานอยู่ในคุก ด้วยวิธีช็อตไฟฟ้าเข้าร่างกายจนดิ้นพราด
โดยมีรามปุระกับทาอูผู้บงการยืนดูอย่างสะใจ แต่วิชัยกับสันธิทนดู
ไม่ไหวเดินหนีไปอย่างหัวเสีย จนกระทั่งรามปุระกับทาอูก้าวออกมาพ้นคุก
วิชัยจึงเปิดฉากต่อว่าอย่างไม่เห็นด้วย

"แค่คุมตัวก็พอแล้ว ไม่ถึงกับต้องลงโทษแบบเชลย"

ราม ปุระเถียงว่า ทหารที่เอาระเบิดผูกติดตัวหวังฆ่าผู้บังคับบัญชาถือว่า
เป็นทหารชั้นเลวสุด ไม่ต่างกับเชลยสงคราม สันธิโต้ทันทีว่า
ลูกของตนทำตามคำสัตย์ ว่าทหารจะจงรักภักดี

"จงรักภักดีกับใครถึงคิดจะฆ่าประมุขอย่างท่าน โกญจนาท" ทาอูตั้งคำถาม
วิชัยทำท่าจะเถียง แต่ทาอูชิงดักคอ "นายพลวิชัยอย่าเพิ่งทำหน้าตา
อยากเถียงก็เห็นๆกันอยู่ว่า ประมุขในที่ประชุมเสนาบดีทุกครั้งคือท่าน
โกญจนาท ไม่ใช่กษัตริย์ธราเทพ"

"พวกแอบอ้างพระราชอำนาจ ไม่เคยตายดี" วิชัยคำราม

ทา อูกับรามปุระเหยียดยิ้มไม่กลัว ซ้ำยังปากกล้าเปรยกันว่า หลังงานเลี้ยงแต่งงาน
ของเจ้าหญิง เราจะเปิดศาลทหารสอบสวนไอ้พวกทหารดื้อด้านให้หลาบจำ..
.วิชัยตาขวางมองตามสอง คนไป ก่อนหันมากระแทกเสียงใส่สันธิ

"คนที่ผลักเจ้าหญิงไปสู่นรกขุมนี้...คือลูกชายท่าน"

สันธิฟังแล้วยิ่งเครียด...

ooooooo

หลัง จากญาณีไปเกณฑ์นางข้าหลวงฝีมือดีมาช่วยงานนารียาปักผ้าให้สินาตี
แม้เหตุผลของศิศิราจะฟังดูไม่ดีนัก แต่นารียาก็ซาบซึ้งเพราะรู้ว่าลึกๆแล้วศิศิราจิตใจดีเพียงใด

"ขอบ พระทัยเจ้าหญิงที่ทรงกรุณาหม่อมฉัน...หม่อมฉันขอแสดงความเสียใจ
กับความสูญ เสียของพระองค์ และขอได้โปรดอภัยในสิ่งที่ลูกชายของหม่อมฉันล่วงเกินพระเกียรติยศ"

"เราไม่อยากเห็นคนถูกทำร้ายเหมือนเรา แต่ก็ไม่ได้หวังว่าความดีจะชะล้างจิตใจหยาบกระด้างได้"

ทีฑายุรู้ตัวว่าถูกแขวะ ทำสุ้มเสียงกวนๆใส่ศิศิรา "อื้อหือ ไม่ทวงบุญคุณเลย"

"ลูกควรจะขอบพระทัยเจ้าหญิง"

"เอาไว้หลังงานเลี้ยงพรุ่งนี้ดีกว่าครับ ผมจะขอบพระทัยสองต่อสองให้หนำใจ"
ทีฑายุทำตาแพรวพราวใส่ ศิศิราเห็นแล้วโมโหเดินเร็วออกไป

"นิสัย หยาบคายไม่ให้เกียรติผู้หญิงไม่เคยมีอยู่ในสาย เลือดพ่อนะทีฑายุ"
ทีฑายุมองแม่ที่ดุด้วยความไม่พอใจ สายตาพลันอ่อนลง เจือด้วยความละอาย "
แล้วการแต่งงานสมควรเกิดจากความรักความผูกพันจากใจของคนสองคน"

"เกิดจากความอาฆาตก็ได้ครับแม่ มันจะได้ฝังลงไปในใจไม่ลบไปจากชีวิต"

"แม่ไม่เชื่อว่าองค์กษัตริย์สิปปภาสจะสั่งฆ่าพ่อ"

"แล้ว ใครล่ะครับ ที่จะใช้อำนาจบัดซบกลบความเลวไว้มิดชิด ขนาดที่ไม่มีใครกล้าเอ่ยถึง"
ทีฑายุย้อนด้วยแววตาคั่งแค้นกับอดีต...ข้างฝ่ายศิศิราหลบไปนั่งหน้าเศร้ารับ
ไม่ได้กับชะตากรรมที่ต้องแต่งงานกับทีฑายุจริงๆ โกญจนาทก้าวมายืนเบื้องหน้า
ถามศิศิราว่า เตรียมตัวเตรียมใจพร้อมหรือยังสำหรับงานฉลองที่ตนจัดให้

"มันไม่ใช่งานฉลอง แต่เป็นงานรวมตัวของคนอัปมงคลแก่แผ่นดิน"

"ราช นิกูลต้องเอ่ยแต่วาจาที่มีคุณค่านะพระเจ้าค่ะ ควรจะเตรียมตัวให้พร้อม
อย่าให้กระหม่อมต้องอายขายหน้ามหามิตรจากแคว้นนิราษิณอย่างองค์กษัตริย์รา
เชนทระ ที่ทรงสนิทชิดเชื้อกับครอบครัวเจ้าหญิงมานาน อย่าให้พระองค์ตำหนิได้ว่า
เราดูแลต้อนรับสมาชิกใหม่ของครอบครัวไม่สมเกียรติ หลานสะใภ้"
โกญจนาทยิ้มมีความสุข แต่ยิ่งเพิ่มความเกลียดชังให้ศิศิรา...

ooooooo

ตอนที่ 13

เช้า วันใหม่ ภายในท้องพระโรงถูกตกแต่งด้วยดอกไม้สวยงามสมกับเป็นงานวิวาห์
โกญจนาทสนทนากับราเชนทระกษัตริย์แห่งแคว้นนิราษิณ ห่างมาคือแม่ทัพสันชัย
ผู้ติดตามราเชนทระจับกลุ่มอยู่กับรามปุระ ทาอูและไมยาดิน

จากการสนทนากันไม่นานนัก ราเชนทระกับสันชัยก็พอจะรู้ว่า บัดนี้ปัญจารัตน์ตก
อยู่ในกำมือโกญจนาทเสียแล้ว

ศิ ศิรา...เจ้าสาวของงานยังนั่งน้ำตาคลออยู่ในห้องนอน ญาณีต้องปลอบ
และให้กำลังใจอยู่ครู่ใหญ่ กว่าศิศิราจะยอมแต่งตัวแล้วมุ่งหน้าไปท้องพระโรง
แต่ระหว่างทางศิศิราถูกสินาตีกลั่นแกล้ง โดยสั่งให้รักเร่แอบเอาน้ำสาดมาจาก
ชั้นบนจนศิศิราเปียกปอน นารียาต้องรีบพาศิศิราไปเปลี่ยนชุดใหม่ ส่วนญาณีวิ่งตาม
รักเร่ที่ผลุบหนีหายไปต่อหน้า จนไปเจอรักเร่ จนมุมมาลข่านอยู่ตรงสวนหลังวัง

สินาตีต้องการให้ลูกสาวของตัวเองโดด เด่นที่สุดในงานต่อหน้าราเชนทระ
และท่าทางก็จะสมใจสินาตีเสียด้วย เมื่อกัญญาภัคปรากฏตัวก่อนศิศิรา
กัญญาภัคเข้ามาแนะนำตัวกับราเชนทระด้วยหูตาแพรวพราว ซ้ำยังพูดคุยทุกเรื่องอย่างฉลาด
เฉลียว ไม่เว้นแม้แต่เรื่องการเมือง จึงได้รับคำชมจากราเชนทระไม่น้อย
แต่กับโกญจนาทเขารู้สึกไม่ชอบใจที่กัญญาภัคทำเก่ง จึงพูดหักหน้าก่อน
จะสั่งให้ไปตามเจ้าหญิงกับทีฑายุ

ศิศิรายังอิดออด ไม่อยากใส่ชุดใหม่ที่ข้าหลวงเอามาให้ จนทีฑายุต้องขู่บังคับ
และทำท่าจะเปลี่ยนให้ ศิศิราถึงยอมถอยไปหลังม่านจัดการกับตัวเองจนเสร็จเรียบร้อย
ทีฑายุเห็นแล้วถึงกับตะลึงในความงามของเธอ

"สีเหลืองนวล...สมกับเป็น เจ้าสาวแห่งราชวงศ์" ทีฑายุ ก้าวเข้ามา ศิศิราร้องห้ามพร้อม
กับจะเบี่ยงตัวหนี แต่ทีฑายุโอบเอวศิศิราอย่างรวดเร็ว แล้วกระซิบกรุ้มกริ่ม "อย่าอะไร..
.อย่าใจอ่อนหลงรักผมเป็นครั้งที่สองงั้นเหรอ"

ศิศิราเงื้อมือจะตบแต่ทีฑายุจับมือหมับ แถมกอดแน่นขึ้น กัญญาภัคเข้ามาเห็นภาพนั้นพอดี
จ้องศิศิราเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ

"ไม่นึกเลยว่าจะยับยั้งอารมณ์ตัวเองไม่ไหว อยากให้ คนอื่นมาเห็นภาพอุจาดตานอก
ห้องบรรทมเสียจริง"

"แสดงความรักกับเจ้าสาว จะที่ไหน เมื่อไหร่ เขาก็เรียกว่าหวาน" ทีฑายุพูดอย่างไม่แคร์
ศิศิราถือโอกาสนี้ยั่วกัญญาภัค

"นอกซะจากว่าเป็นคนอื่นที่ฝันจะใส่ชุดเจ้าสาว แต่ก็วาสนาไม่ถึง"

"งั้นกัญญาขอให้เจ้าหญิงรักษาวาสนาไว้ให้ได้นานที่สุด เพคะ เพราะรอยยิ้มมัก
จะตามมาด้วยความหายนะที่แทบไม่เหลือกระทั่งชีวิต"

"ได้ เวลาพี่ต้องพาเจ้าสาวไปประกาศตัวแล้ว ว่าเรากำลังจะเป็นผัวเมียกัน" ทีฑายุตัดบท
กุมมือศิศิราเดินออกไป กัญญา ภัคแค้นแสนแค้นที่ทีฑายุปกป้องศิศิรา
อยากจะอาละวาดให้ทุกอย่างกระเจิง...

เมื่อทีฑายุควงแขนศิศิราเข้ามาในท้องพระโรง ศิศิราผละออกจากทีฑายุตรง
ไปถอนสายบัวตรงหน้าราเชนทระ

"เราขอนำความยินดีและความชื่นชมจากใจจริงของประชาชนชาวนิราษิณ
มามอบแด่วันอันเป็นมงคลของเจ้าหญิงศิศิรา"

"ขอบพระทัยเพคะ หม่อมฉันดีใจเหลือเกินที่เห็นพระองค์ ไม่คิดเลยว่าชีวิตนี้จ
ะมีโอกาสได้พบมิตรแท้ของเสด็จพ่อเสด็จแม่อีกครั้ง"

"นิราษิณจะเป็นมิตรที่ดีกับปัญจารัตน์ไม่มีวันเสื่อมคลาย" ราเชนทระกล่าวหนักแน่น

โกญจนาท ปั้นยิ้มแนะนำทีฑายุหลานชาย แล้วพยายาม จะพูดเรื่องความร่วม
มือทางทหารระหว่างสองแคว้น เพื่อกวาดล้างพวกที่ซ่องสุมทำตัวเป็นภัยกับบ้านเมือง
แต่ราเชนทระขอให้พักเรื่องทหารไว้สักครู่ น่าจะคุยกันเรื่องสบายๆในวันมงคล
กัญญาภัคเลยฉวยโอกาสนี้แขวะศิศิรา

"เจ้า หญิงคงให้คำแนะนำเรื่องสถานที่ท่องเที่ยวงดงามของปัญจารัตน์ได้เพคะ
เพราะพระองค์กับพี่ทีฑายุชอบใช้เวลาตามลำพังดั้นด้นไปในที่ที่ยังไม่มีใคร พบ"

"แสดงว่าปัญจารัตน์ยังมีธรรมชาติที่น่าค้นหาอีกหลายแห่ง"

"หาก พระองค์ต้องการทราบเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับราชการงานเมืองที่ปัญจารัตน์
ลูกกัญญาภัคของหม่อมฉันก็ยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่จะได้ถวายงานเพคะ
ไม่ว่าจะเป็นที่ไหน เวลาใดที่ต้องพระประสงค์" สินาตีเปิดทางเต็มที่ ราเชนทระยิ้มชอบใจ
แต่ทว่าโกญจนาทมองเขม่นสองแม่ลูก

ครั้นมีจังหวะอยู่กันตามลำพัง โกญจนาทจึงตำหนิสินาตีทำน่าเกลียด เสนอตัวลูกสาว
ออกนอกหน้าเหมือนเป็นผักปลาในตลาด

"ไม่ดีเหรอคะ ถ้าลูกกัญญาได้เป็นราชินีแห่งนิราษิณ ก็เท่ากับเราปิดตายทางรอดของศิศิรา"

"ไม่ต้องคิดจะช่วย ฉันมีวิธีของฉัน"

"ด้วยการใช้แค่สายเลือดเดียวกันอย่างทีฑายุเท่านั้น"

"เธอ ได้ในสิ่งที่เธอต้องการแน่ สินาตี แต่ถ้าฉันรู้ว่าเธอสองแม่ลูกดิ้นรนจะทำ
อะไรเกินตัว พวกเธอจะไม่มีที่ซุกหัวอยู่บนแผ่นดินนี้" โกญจนาทคาดโทษแล้วเดินจากมา
สินาตีเริ่มรู้สึกว่าตัวเองอาจจะถูกทอดทิ้ง

ส่วนอีกด้าน กัญญาภัคกำลังหว่านเสน่ห์ราเชนทระ โดยมีสายตาไมยาดินจับจ้องไม่พอใจ
จนเมื่อกัญญาภัคแยกตัวออกมาด้วยรอยยิ้มพิมพ์ใจ ไมยาดินจึงเข้ามาค่อนแคะ

"กษัตริย์ราเชนทระคงมีเรื่องสนุกๆเล่าให้เธอฟังเยอะแยะ ใบหน้าเธอถึงไม่คลายรอยยิ้ม"

กัญญา ภัคไม่ตอบโต้ กลับทำท่าลำบากใจ บีบน้ำตาแต่งเรื่องหลอกไมยาดินว่าเธอไม่ได้
เต็มใจทำแบบนี้ แต่เป็นความต้องการโกญจนาท ที่ให้สร้างความพอใจเล็กๆน้อยๆแก่ราเชนทระ

"ท่านโกญจนาททำไม่ถูก"

"อย่าว่าท่านเลย เรายินดีสละชีวิตและเลือดเนื้อช่วยเหลืองานของแผ่นดิน"

"นิราษิณตกลงจะช่วยเราปราบปรามพวกใต้ดินที่อาจจะเป็นกองกำลังของสันธิอยู่แล้ว"

"ท่านคงอยากให้แน่ใจยิ่งขึ้น ท่านทำเพื่อความมั่นคงของตำแหน่งประมุขของปัญจารัตน์"

"ยังไงท่านโกญจนาทก็ต้องได้เป็นกษัตริย์องค์ต่อไป"

"ไม่เป็นไรหรอกไมยาดิน เกิดเป็นหญิงอย่างเราต้องทนให้ได้ ต่อให้ยิ้มแย้มทั้งๆ
ที่หัวใจกำลังร้องไห้ เราก็ต้องทำ"

ไมยาดินมองกัญญาภัคด้วยสายตาสงสาร กัญญาภัคลอบยิ้มสมใจ

ooooooo

ขณะ งานเลี้ยงยังคงดำเนินไป ศิศิรากลับหลบเข้ามาอยู่กับนารียาที่ห้องปักไหม
เมื่อทีฑายุไม่เห็นเจ้าสาวจึงเดินตามหาให้ควั่ก กว่าจะมาพบในห้องนี้
ทีฑายุต่อว่าศิศิราเอะอะก็หนีคนมาหลบอยู่แต่ในห้อง ศิศิราเลยย้อนเข้าให้ว่า
เพราะเธอตีสองหน้าไม่เก่งเหมือนเขา

"ก็หัดๆไว้บ้างสิ ซื่อเกินไป ชีวิตถึงได้ลำบาก"

"ทีฑายุ อย่าพูดกับเจ้าหญิงโดยไม่มีความเคารพ" นารียาเตือนลูก

"ผมพูดในฐานะสามีที่ต้องสั่งสอนภรรยาครับ"

"เราไม่เคยคิดว่าตัวเองอยู่ในฐานะภรรยาของศัตรู"

"ทำใจซะศิศิรา ยังไงศัตรูอย่างฉันก็คือที่พึ่งเดียวของเธอ"

"ที่ พึ่ง...อย่าพูดเพื่อให้ค่าตัวเองเลยทีฑายุ เพราะทุกวันนี้เรากับคนของเรา
ก็ดูแลตัวเองได้ดีกว่าอยู่แล้ว" ศิศิราเชิดหน้าแววตาถือดี ในขณะที่ทีฑายุก็
มองศิศิราอย่างดื้อดึง ถือดีไม่แพ้กัน นารียามองทั้งคู่แล้วพูดไม่ออกบอกไม่ถูก
ได้แต่ ถอนใจกลัดกลุ้ม

ฝ่ายรักเร่ที่บังอาจแกล้งศิศิราจนเปียกปอน ก็ถูกญาณีกับส้มเสี้ยวเอาคืนซะกระอักเลือด
ท่ามกลางความขยาดกลัวของพวกมาลข่าน แล้วทั้งสามหนุ่มก็ผละไป
เพื่อไปเตรียมตัวบรรเลงเพลงกล่อมหอให้เจ้าหญิงกับทีฑายุ

แต่กัญญาภัค ทนไม่ได้ที่จะเห็นศิศิราเข้าหอกับทีฑายุ กัญญาภัคแอบลงไปที่คุก
แล้วพูดจาหว่านล้อมมาณสิงห์ให้ออกไปช่วยศิศิรา มาณสิงห์รู้ทันว่ากัญญาภัคจะหลอก
ให้เขาเข้าไปตายในวังต่อหน้าทุกคน แต่เมื่อกัญญาภัคทิ้งกุญแจห้องขังไว้ให้ก่อนออกไป
มาณสิงห์กลับตัดสินใจปล่อยตัวเองออกไปพร้อมธนูเพลิง กัญญาภัคที่แอบดูผลงานตัวเอง
ในมุมมืดถึงกับแสยะยิ้มสะใจสมใจ

"หนีไปเลยไอ้องครักษ์คนซื่อ แล้วก็รีบเข้าไปทำลายงานแต่งงานคืนนี้ให้พังพินาศ
แล้วก็พาคนรักของแกหนีไปซะ หรือไม่ก็ตายไปพร้อมๆกัน"

ooooooo

ในงานเลี้ยง โกญจนาทเฝ้าจับตาศิศิราที่ไม่ค่อยอยู่ใกล้ชิดทีฑายุ พอเห็นเธอจะเดิน
ไปทางกลุ่มของราเชนทระ โกญจนาทก็รีบตามประกบ

"เจ้าสาวควรอยู่ใกล้เจ้าบ่าวตลอดเวลา"

"เราไม่ใช่หุ่นที่จะจับนั่งนิ่ง ไม่ต้องพูดจากับใคร"

"ถ้า จะไปพูดจาเล่าเรื่องที่ประสบพบเจอมาให้กษัตริย์ ราเชนทระเห็นใจ ขอเตือนว่าอย่า
องค์ธราเทพยังอยู่ในเงื้อมมือเรา อย่าลืม" เห็นทีฑายุเดินเข้ามาหาศิศิรา
โกญจนาทจึงสั่งให้ทีฑายุพาเจ้าสาวกลับไปที่โต๊ะ...ทีฑายุทำหน้าเบื่อหน่าย
เตือนศิศิราให้อยู่เฉยๆเสียบ้าง ศิศิรากลับยืนทำหูทวนลม

อีกครู่ต่อ มา ญาณีก็มากระซิบบอกศิศิราว่าได้ข่าวมาณสิงห์กับธนูเพลิงหนีออกจากคุก
ศิศิราจึงนำหน้าญาณีหลบไปทางสวนหลังวัง แล้วก็พบมาณสิงห์ที่นี่จริงๆ

ขณะ เดียวกันนั้น ทีฑายุกำลังบรรเลงเพลงร่วมวงกับเพื่อนๆ แต่พอหันมองรอบทิศไม่เห็นศิศิรา
จึงผละออกมาเดินหา เมื่อกัญญาภัคยิ้มหวานเข้ามาถามหาเจ้าสาว หรือว่ามีใครมาดักชิงตัว
ไปเสียแล้ว ทีฑายุนิ่วหน้ามองกัญญาภัคอย่างสงสัย กัญญาภัคเลยกลับคำว่าล้อเล่น...

ศิศิราต้องการให้มาณสิงห์รีบหนีไป ส่วนตัวเธอคงหนีไปไหนไม่ได้อีกแล้ว มาณสิงห์รู้สึกผิด
ทรุดลงคุกเข่าขอร้อง

"กระหม่อมผิดที่ทำให้เจ้าหญิงต้องแต่งงาน แต่กระหม่อมอยู่ตรงหน้าเจ้าหญิงแล้ว
ให้กระหม่อมพาเจ้าหญิงหนีตอนนี้"

"จะ พาไป...ขออนุญาตผัวเขาหรือยัง" เสียงทีฑายุดังขึ้นก่อนจะก้าวเข้ามาด้วยสีหน้า
ไม่พอใจอย่างแรง ด้านหลังมีทหารจำนวนหนึ่ง...ญาณีถูกทหารคุมตัว ส่วนที่เหลือประทับปืนเล็ง
ไปที่มาณสิงห์ ทีฑายุผลักมาณสิงห์ออกห่างจากศิศิรา แล้วกระชากเธอมาในวงแขน

"ไม่เคยเข็ด ไม่เคยจำ"

"เอามือแกออกจากเจ้าหญิง" มาณสิงห์ตวาดสั่ง ทีฑายุกลับยิ่งกอดศิศิราแน่นขึ้น

"ไหนๆวันนี้ก็เป็นวันที่ฉันมีความสุขกับเมีย ฉันก็ควรจะมีความเมตตาปรานีเป็นทานแก่สัตว์ผู้ยากไร้
เร่ร่อนหารัก"

"ไอ้สารเลว..."

ทหารยกปืนพรึ่บ มาณสิงห์จำต้องหยุด

"ฟัง ดีๆ มาณสิงห์ ฉันเบื่อที่จะด่าให้กะโหลกหนาๆของแกสำนึกเต็มที ฉันจะขอลุงอภัยโทษให้
ถ้าแกคุกเข่าตรงหน้าฉัน เลือกเอา ประหารตัดหัวเจ็ดชั่วโคตร
หรือว่าคุกเข่ามีลมหายใจต่อ...ไว้คิดถึงเมียฉัน"

มาณสิงห์จำใจย่อตัวคุกเข่าลงตรงหน้าทีฑายุ ศิศิราตาแดงก่ำ ทีฑายุเสยเท้าเข้าหน้ามาณสิงห์
แล้วกระทืบซ้ำ พร้อมกับสำทับเสียงกร้าว

"ศิศิรายังเป็นเจ้าหญิงของแก แต่จำไว้ด้วยว่าเจ้าหญิงน่ะเมียฉัน เอามันไปขัง"

"ไหนว่าจะอภัยโทษมาณสิงห์" ศิศิราท้วงขึ้นทั้งน้ำตา

"ไม่ใช่คืนของเรา...ศิศิรา ยังไม่ใช่คืนนี้ เอามันไป"

มา ณสิงห์ถูกทหารคุมตัวลากออกไปพร้อมญาณี ทีฑายุสั่งทหารที่เหลือ
พาเจ้าหญิงกลับไปที่ห้อง อย่าปล่อยให้ออกมาเห็นเดือนเห็นตะวันอีก...
จากนั้นทีฑายุกลับเข้ามาในงานพูด คุยกับโกญจนาท กัญญาภัคแกล้งเดินม
าหยิบเครื่องดื่มด้านหลังคอยลอบฟัง

"มาณสิงห์หนีมาได้ถึงที่นี่ แต่ตอนนี้ถูกจับตัวไปแล้ว"

กัญญาภัคสีหน้าขัดใจ...โกญจนาทส่งสายตาไปที่รามปุระกับทาอู ทั้งคู่จึงเดินเข้ามาหา

"ไปดูไอ้องครักษ์มันหน่อย ดูแลให้แน่นหนากว่าเดิมด้วย" โกญจนาทสั่งการ
เสร็จแล้วจะขยับไปแต่ทีฑายุรีบพูดขึ้น

"ผมขอชีวิตมาณสิงห์"

โกญจนาท ไม่ตอบแต่ให้ทีฑายุตามเขาไปที่ท้องพระโรง ทีฑายุจึงก้าวตาม
ส่วนรามปุระกับทาอูแยกไปอีกทาง กัญญาภัค มองทุกคนอย่างไม่สบอารมณ์
แล้วกระแทกแก้วเครื่องดื่มลงบนโต๊ะ

"ไอ้องครักษ์โง่ ทำไมไม่พาเจ้าหญิงหนีไป"

สิ นาตีซึ่งไม่ชอบใจที่เมื่อครู่เห็นกัญญาภัคส่งสายตาหว่านเสน่ห์ไมยาดิน
พอเข้ามาเตือนกึ่งตำหนิ เลยถูกกัญญาภัคเสียงแข็งใส่ก่อนสะบัดจากไป

"หยุดเตือนได้แล้ว ตอนนี้กัญญาไม่มีอารมณ์จะฟัง"

ooooooo

มา ณสิงห์ถูกยัดกลับเข้าไปในห้องขัง รามปุระกับทาอูจ้องมองอย่างหงุดหงิด
เพราะแทนที่จะได้อยู่ รื่นเริงในงานเลี้ยงกลับต้องมาเฝ้ามาณสิงห์ แล้วยิ่งอารมณ์เสีย
เมื่อคาดคั้นมาณสิงห์ให้บอกมาว่าใครเป็นคนปล่อยตัว แต่มาณสิงห์กลับไม่ปริปากสักคำ...

ด้านสองลุงหลานที่อยู่ในท้องพระโรง...โกญจนาทสีหน้าดุดันไม่ชอบใจที่ทีฑายุ
กล้าเอ่ยปากขอชีวิตมาณสิงห์

"ฉันไม่อภัยโทษให้มาณสิงห์"

"แต่มาณสิงห์จะเป็นตัวล่อชั้นดีให้เราจับพวกที่เหลือ ยังไงมันก็ไม่หนีไปจากเจ้าหญิง"

"จำ ได้มั้ยว่าเราเคยตกลงกันว่ายังไง" ทีฑายุมองโกญจนาท แววตาวูบไหวเมื่อนึกถึงสัญญา
"แผนแรก...คือฉันฆ่าครอบครัวกษัตริย์ทั้งหมด แล้วสถาปนาตัวเอง แต่แกเป็นคนห้ามว่า
อาจจะถูกต่อต้าน ทำให้ฉันต้องมีแผนที่สอง"

"ผมต้องทำให้เจ้าหญิงรัก และแต่งงานด้วย"

"ใช่ เพื่อให้กำเนิดสายเลือดที่ช่วยให้ฉันมีสิทธิในมงกุฎแสงจันทร์ แต่แกกลับทำเกินกว่า
ที่เราตกลง ทำตัวเป็นพระเอกเสียสละเอาอกเอาใจเจ้าหญิงสารพัด นานจนฉันรอไม่ไหว
แกมันไม่เด็ดขาด แค่ผู้หญิงคนเดียวจะมีปัญญามีแรงมาขัดขืนอะไรนักหนา"

"ผมไม่ชอบเรื่องบังคับขืนใจ"

"งั้นแกก็อย่ามาขวาง ถ้าฉันจะกลับไปใช้แผนแรก ฆ่าซะให้สิ้นซากทั้งเจ้าหญิงเจ้าชาย
แล้วทุกคนที่จงรักภักดีกับมัน"

"ขอเวลาผมหน่อย...อย่าเพิ่งฆ่าใครอีก"

"นั่น หมายความว่า นับตั้งแต่วันนี้ไปอีกแค่ 2 เดือน ฉันจะต้องได้ยินข่าวดีว่า
เจ้าหญิงมีลูกกับแก...หรือไม่ก็ให้เลือดนองพื้นวัง อีกครั้ง" โกญจนาทยื่นคำขาด
แล้วเดินออกไป ทีฑายุหน้าเครียดอย่างเห็นได้ชัด

ooooooo

(อ่านต่อพรุ่งนี้)




 

Create Date : 27 พฤศจิกายน 2552    
Last Update : 5 ธันวาคม 2552 11:01:31 น.
Counter : 1981 Pageviews.  

คุยกันต่อเนื่องมงกุฎแสงจันทร์






สวัสดีคะแฟนคลับแอนดริว

พี่มาขึ้นหน้าใหม่แล้วเพราะวันนี้เป็นวันสำคัญที่จะได้ชมละครแห่งการรอคอย
ได้พูดได้คุยภาษาแฟนคลับ
ถ้าใครอยากจะเอมคุยกันกับเพื่อนๆๆก็นำemail
ด้านขวามือaddไว้ แลเอย่างลืมที่จะกำกับที่ชื่อเพื่อนๆๆว่าเป็นแฟนคลับ
แอนดริวเพราะพี่จะได้รู้ว่าต้องการคุยกันพี่ก็จะนำเข้าวงสนทนาให้
แฟนคลับสาวๆๆมีการนัดพบเจอกันที่จะดู
พี่ก็อยากจริงๆๆ ปี่นี้พี่ออกจะเฉื่อยชามาก
แต่เป็นบรรยากาศที่พี่ไม่เคยอยู่ร่าวกับแฟนคลับ
ที่มาร่วมชุมนุมอย่างนี้ เคยทำเวลาไม่มีละครที่ดูว่าจะทำอะไรก็ทัน
แต่ตอนนี้ข้อมูลมากมายจนคนแก่ๆๆอย่างพี่ไม่ไหว
ดีที่ไได้น้องๆๆมาส่ง ข่าวต่างๆๆ
พี่ก็จะรวบรวมข่าวต่างๆๆเป็นหมวดหมู่อย่างที่เคยทำ
ภาระนำข่าวด่วนทั้งหลายก็คงยกหน้าที่ให้น้องๆๆนำมาให้เพื่อนๆๆ
ได้รับทราบกัน ขอบคุณน้องๆๆแทนแฟนคลับทั่วโลกด้วย

พี่มีเรื่องที่จะบอกว่าน้องปู ..สาวเทคนิคของเราได้อัดรายการทีวีพูล
ช่องเสรีมาให้เป็นเบื้องหลังการถ่ายทำ
กำลงจัดส่งมาถ้าได้พี่จะรีบนำขึ้นไม่เกเร


..ส่วนข่าวต่างๆๆที่ไม่มีแอนดริวโดยตรงพี่ขอให้ติดตามางหน้าbgน้องบัว

นี่พี่นั่งดูphotobucket ที่น้องๆๆทำให้
เื่อาฝากภาพจะทำหน้าใหม่ ช่างหายากจริงๆ
แม้จะมีฝากอยู่ไม่กี่ภาพในบางอันแต่เปอร์เซ็นที่
ให้ใช้ต่อเดือนเหลือน้อนมาก
ถ้าใครจะบริจากเพิ่มพี่ขอให้สมัครให้เลยได้ไหม
ขอระหัสผ่านpassword เป็นdrewdrew
เพราะมีหลายอันพี่ก็จะต้องจำมากแก่แล้วไม่หัวไวแล้วคะ


....อีกเรื่องพี่หมวยโทรมาเล่าให้ฟังตลกดีมาก
แถวบ้านหมวยใครก็รู้ว่าหมวยนะแฟนคลับแอนดริว
พอละครออกมาทุกคนก็ทักกัน
มีอยู่ท่านหนึงก็เรียกว่าเป็นผู้ใหญ่แล้วเห็นหมวยเดินเข้ามาในที่ทำงาน
เดินออกมาทักน้องหมวยลูกสาวพี่(เรียนปีหนึ่ง)
โทรมาหาพี่บอกว่าแม่เปิดดูละครมงกุฎ พระเอกหล่อมาก
ใครนะหนูไม่รู้จักเลย


...พี่ฝากบอกแอนดริวด้วยนะ
แอนดริวเอ๋ยอย่าหายไปนานนะ
หรือแอนดริวจะเป็นดาราหน้าใหม่อีกรอบหรือ...





มงกุฎแสงจันทร์ 19/11/52


ตอนที่ 7 (ต่อจากวานนี้)

หลังจากหนีมาไกลพอสมควร ทีฑายุเห็นควรทิ้งรถแล้วหลบเข้าป่าเดินเท้าต่อไป
แต่เดินกันพักใหญ่ พ้นป่าไปเจอแม่น้ำทั้งกว้างทั้งเชี่ยว ศิศิราหวั่นว่าจะข้ามไม่ไหว
อีกทั้งกังวลว่ามาณสิงห์จะตามพวกเรามาถูกหรือเปล่า

ขณะที่ทุกคน นิ่งเหมือนไม่แน่ใจ ส้มเสี้ยวก็โผล่พรวดวิ่งมากอดศิศิรา
ส้มเสี้ยวดีใจที่เจ้าหญิงยังมีชีวิต และอาสานำทางไปเอง รับรองไม่มีใครตาย
เพราะเธอเชี่ยวชาญเส้นทางแถวนี้ แต่ถึงยังไงก็ต้องลุยน้ำ ทีฑายุจึงให้ศิศิรา
ถอดเสื้อคลุมตัวนอกที่ ทั้งหนาและหนักทิ้ง ไม่งั้นจะจมน้ำ ศิศิรานิ่งไปนิด
ก่อนตัดสินใจถอดเสื้อคลุมออกช้าๆ

"อย่าเสียดายเลย" ทีฑายุเสียงแผ่ว

"อย่างเดียวที่เราเสียดายคือมงกุฎแสงจันทร์ไม่ควรอยู่ในมือคนเลว"
ศิศิราหน้าหมอง ทีฑายุค่อยๆดึงเสื้อทิ้งลอยไปตามกระแสน้ำ

"เราต้องกลับไปแน่ๆ" ทีฑายุกล่าวหนักแน่น

"สัญญานะทีฑายุ สัญญาว่าจะช่วยเราเอามงกุฎแสงจันทร์ คืนมา"

ชาย หนุ่มยิ้มรับแทนคำตอบ...ครั้นข้ามไปถึงกลางป่าอีกฝั่งกันอย่าง
ทุลักทุเลไม่ น้อย ส้มเสี้ยวก็นำทางไปยังบ้านไม้ สองหลังที่เชื่อมต่อกัน
ซึ่งเป็นบ้านญาติของส้มเสี้ยว แต่ตอนนี้ ไม่มีคนอยู่ ส้มเสี้ยวแกล้งอำว่า
เจ้าของบ้านผูกคอตาย ดรัณย์ถึงสะดุ้งโหยง ส้มเสี้ยวเห็นเข้าก็หัวเราะลั่น

"แกโกหกเหรอ ไอ้ส้มเสี้ยว"

"ช่าย...อยากเห็นคนกลัวผี"

ดรัณย์เสียหน้า ญาณีถลึงตาปรามส้มเสี้ยวที่ยังหัวเราะชอบใจ แล้วหันมา
ถามศิศิราอย่างอาทร

"อยู่ได้มั้ยเพคะ"

"ทุกคนอยู่ได้ เราก็อยู่ได้"

"เดี๋ยว ส้มเสี้ยวไปทำความสะอาดให้ก่อนนะ" ส้มเสี้ยววิ่งเข้าบ้าน
ญาณีขอตามไปช่วย เพราะไม่แน่ใจว่าลิงค่างอย่างส้มเสี้ยวจะทำได้
ส่วนพวกประสันต์ ดรัณย์ และมาลข่านก็แบ่งหน้าที่กันกวาดถูฝั่งผู้ชาย
และหาอาหารสำหรับทุกคนด้วย

ทีฑายุมองศิศิราที่ยืนหน้าเศร้า แววตาอ้างว้าง สักครู่ ทีฑายุก็ขยับเดิน
ศิศิราถามทันทีว่า จะไปไหนเหรอ?

"ไม่ต้องถาม ตามมา" ว่าแล้วเขาเดินนำ ศิศิราเดินตามไปอย่างว่าง่าย

ทีฑายุเดินไปหยุดบริเวณที่มีดอกไม้ป่าสีสวย ศิศิราเก็บมาดมดอม
แต่สีหน้าไม่คลายแววกังวล ทีฑายุจึงพยายามปลอบ

"เจ้าชายธราเทพปลอดภัยแน่ๆ"

"ตราบ ใดที่โกญจนาทยังไม่ได้ตัวเรา" ศิศิรามั่นใจอย่างที่พูด ทีฑายุมอง
ไปไกลเหมือนหนักใจ...ศิศิรารู้สึกผิด "จะว่าเราก็ได้นะ ที่เอาความเดือดร้อนมาให้"

"เหนื่อยเปล่า"

ศิศิราหน้าจ๋อยลงทันใด ทีฑายุเหลือบมองด้วยความสงสาร

"พา มาดูดอกไม้ ยังทำหน้าเศร้าได้อีก ยิ้มหน่อยสิ" หญิงสาวหันมองแปลกใจ
ทีฑายุชะงัก รีบพูดแก้เกี้ยว "ยิ้มให้ดอกไม้" ว่าแล้วทำเหลือบมามอง
ศิศิราเลยยิ้มออก รู้ว่าทีฑายุอยากเอาใจเธอ

ooooooo

ขณะเดียวกันนั้น โกญจนาทนั่งบนบัลลังก์ในท้องพระโรง มองมงกุฎในมืออย่างเจ็บใจ
กัญญาภัค เดินเข้ามาสีหน้าเจ็บแค้นไม่แพ้พ่อ

"วัน แห่งเกียรติยศของเรา กลับถูกทำลายลงด้วยมือผู้หญิงอ่อนแออย่างศิศิรา
ลูกไม่มีวันให้อภัย มงกุฎต้องได้สวมลงบนศีรษะผู้มากบารมีอย่างพ่อ"

"พ่อ จะสวมมงกุฎแสงจันทร์ต่อหน้าเจ้าหญิง ให้ภาพมงกุฎแสงจันทร์ของพ่อติดตา
ศิศิราไปจนหมดลมหายใจสุดท้าย ให้มันจำไปบอกพ่อแม่มันในนรก
ว่ากษัตริย์โกญจนาทเท่านั้นคือผู้ครอบครอง"

กัญญา ภัคยิ้มมองพ่อด้วยสายตาเทิดทูน...ส่วนในห้องคนไข้โรงพยาบาลทหาร
สันธิโดนมัดแขนยึดกับเตียง ทั้งๆที่ มีสายน้ำเกลือสายเลือดระโยงระยาง
วิชัยเข้ามาเห็น อดต่อว่ารามปุระไม่ได้

"ท่านน่าจะให้เกียรติแม่ทัพแห่งปัญจารัตน์มากกว่านี้ สันธิทำความดีความชอบ
ให้บ้านเมืองมามาก"

"เป็นคำสั่งท่านโกญจนาท"

"โกญจนาทเป็นกบฏ" วิชัยเน้นย้ำ

"คน ชนะไม่เคยได้รับข้อหากบฏ คิดดีๆนะวิชัย ตอนนี้อำนาจอยู่ในมือใคร"
รามปุระมองวิชัย วิชัยกลับเบือนหน้าไปอีกทาง "หรือต้องให้ทหารของเรา
สาดกระสุนใส่กันเอง เพื่อราชวงศ์ที่ถูกลบชื่อออกไปแล้ว" รามปุระทิ้งทาย
แล้วเดินออกไป วิชัยถอนใจก่อนจะก้าวตาม สันธิที่แกล้งหลับลืมตาขึ้น
แววตาวิตกกับสิ่งที่ได้ยิน

ทันทีที่รามปุระกับวิชัยเดินพ้นตัวตึก ธนูเพลิงที่ลอบมองอยู่ในมุมมืดก็ยิง
ปืนขึ้นฟ้าหลายนัด สองคนหลบเข้าที่กำบัง โดยมีทหารส่วนหนึ่งคุ้มกัน
ขณะที่ผู้คนทั้งหมอและพยาบาลแตกตื่นตกใจวิ่งกันพล่าน มาณสิงห์
ฉวยโอกาสชุลมุนนี้แฝงตัวเข้าไปถึงห้องสันธิ เขาจะพาพ่อหนี
แต่สันธิเกรงว่าสภาพของตน แบบนี้จะพาลูกตายไปด้วย พอรู้ว่าองค์ราชินี
สวรรคตแล้ว สันธิถึงกับน้ำตาเอ่อ บอกลูกชายว่า พ่อก็ไม่สมควรมีชีวิตอยู่

"พ่อครับ เรายังมีหน้าที่กู้บัลลังก์ ตอนนี้เจ้าหญิงศิศิรา กำลังซ่อนตัว"

"ทรงอยู่ที่ไหน"

"อยู่กับทีฑายุ..."

"แล้วลูกจะทำยังไง ศัตรูล้อมรอบเราทุกตารางนิ้ว"

"ผม ก็ต้องไปลากเอาชีวิตชั่วช้าชีวิตนึงมาสังเวย เพื่อแลกกับอิสรภาพของเจ้าหญิง"
มาณสิงห์แววตาโหดเหี้ยม... จากนั้นไม่นาน มาณสิงห์ก็ไปปรากฏตัวที่หน้าบ้าน
โกญจนาท แล้วจู่โจมฉุดกระชากกัญญาภัคที่กำลังกระวนกระวายคิดถึง ทีฑายุ

"มาณสิงห์...ถ้าไม่อยากตายอย่างทรมาน ก็ปล่อยฉัน" กัญญาภัคพยายามดิ้น
มาณสิงห์ยิ่งบีบแขนเธอแรงขึ้น

"ให้ฉันตายอย่างทรมาน ยังดีกว่าปล่อยลูกสาวทรราชไปเดินลอยหน้าเพ่นพ่านอยู่ในวัง"

"โทษแกถึงยิงเป้าแน่ๆ"

"โทษ สั่งตาย ต้องมาจากคำสั่งของเจ้าหญิงศิศิรา อย่างเธอมันก็แค่ผู้หญิงใฝ่สูง
ตะเกียกตะกายแค่ไหน ก็มีค่าเท่ากับฝุ่นบนดินใต้ฝ่าเท้าเจ้าหญิงศิศิรา"

กัญญาภัคสุดเจ็บใจกับคำดูถูก จ้องมองมาณสิงห์อย่างอาฆาต..
.มาณสิงห์ไม่สนใจลากกัญญาภัคออกมาที่รถซึ่งธนูเพลิงจอดรออยู่

"พ่อฉันต้องให้ทหารทั้งกองพันตามล่าแก"

"ทหารดีไม่เคยกลัวตาย ไม่เหมือนทหารเลว ใช้อำนาจในทางที่ผิด"

ธนู เพลิงเข้ามาช่วยมัดมือกัญญาภัค ระหว่างนี้เองทหารยามเดินตรวจมาเห็น
กัญญาภัคร้องลั่นขึ้น ทหารยามหันขวับ พร้อมเล็งปืนในมือ มาณสิงห์ไวกว่ายิงปืน
ในมือทหาร ยามหลุดกระเด็น แล้วดันตัวกัญญาภัคขึ้นรถ ก่อนจะร้องบอกทหารยาม
ที่ยืนตัวเนื้อสั่น เลือดเต็มมือ

"บอกไอ้กบฏโกญจนาทด้วยว่าถ้าอยากได้ตัวลูกสาว ก็เอาบัลลังก์แสงจันทร์
มาคืนให้เจ้าหญิงศิศิรา"

มาณสิงห์พูดขาดคำ ธนูเพลิงก็ออกรถไปด้วยความเร็ว

ooooooo

เช้า ขึ้น โกญจนาทรีบร้อนมาที่บ้านพร้อมราม-ปุระและทหารอีกห้าคน
แต่สินาตีร้อนใจยิ่งกว่า จะให้ โกญจนาทส่งทหารไปตามล่า ทั้งประกาศ
ให้ค่าหัวมันด้วย เพราะมันจับกัญญาภัคไป ก็เท่ากับว่าเป็นกบฏต่อองค์กษัตริย์โกญจนาท

"ประกาศสิ้นคิดแบบที่เธอพูด เรื่องเล็กจะกลายเป็นเรื่องใหญ่"

"เรื่องเล็ก? มันจับลูกเราไป เรื่องเล็กเหรอคะ"

"ไมยาดินตามไปแล้ว" รามปุระพูดขึ้น

"กัญญาจะพาเราไปถึงตัวศิศิรา" โกญจนาทมั่นใจ สินาตีมองสามีอย่างนึกไม่ถึง

"นี่ท่านเอาลูกเป็นเหยื่อล่อ"

"เหยื่อ ที่วิเศษที่สุดคือคนที่มันคิดว่าเรารักมากที่สุดไง... อย่าโง่" โกญจนาทเสียงกร้าว
สินาตีเงียบ ไม่กล้าพูดอะไรอีก แต่เข้าบ้านก็ยังเดินวนไปวนมา แล้วปัดแก้วน้ำ
ส้มที่รักเร่เอามาเสิร์ฟซะหกตกกระจาย

"แกจะให้ฉันกินน้ำส้มใจเย็นรอฟังข่าวลูกฉันถูกฆ่าหรือไง"

รักเร่หน้าซีด รีบเก็บเศษแก้ว คลานงุดๆออกไป โกญจนาท มองสินาตีด้วยสายตาตำหนิ

"ไมยาดินไม่ปล่อยให้กัญญาตายหรอกน่า"

"ท่านก็พูดได้นี่ ท่านไม่เคยรักลูกเหมือนที่ฉันรัก ส่งลูกไปตาย ท่านยังทำได้ลงคอ"

"ฉันก็ถือว่ากัญญาเป็นลูก"

"แต่ ไม่ใช่ลูกที่เกิดจากความรัก ไม่ว่าหัวใจท่านจะอยู่กับใคร แต่จำไว้ว่าตอนนี้เมีย
ของท่านคือ สินาตี และตำแหน่งราชินีก็ต้องเป็นของเมียอย่างฉัน ฉันกับลูกกัญญา
รับใช้ท่านมาทั้งชีวิต ถึงเวลาท่านก็ต้องตอบแทนความจงรักภักดีของเราสองแม่ลูกบ้าง"

โกญจนาทถูกจี้ใจ จ้องสินาตีดุดัน แต่คราวนี้สินาตีกลับมองตอบโต้อย่างไม่หวั่นเกรง

ooooooo


มงกุฎแสงจันทร์ 20/11/52

ตอนที่ 7 (ต่อจากวานนี้)

กัญญาภัคเพิ่งรู้ว่ามาณสิงห์ไม่ได้หนี มากับศิศิรา เพราะสถานที่ที่มาณสิงห์
กับธนูเพลิงพาเธอมาไม่มีแม้แต่เงาของศิศิรา หรือพวกทีฑายุสักคน
เมื่อไมยาดินและทหารนับสิบตามมาเจอ ธนูเพลิงจึงเร่งมาณสิงห์ให้ตัดหัวกัญญาภัค
แต่มาณสิงห์กลับสั่งธนูเพลิงไปเตรียมรถ

ธนูเพลิงหันหลังออกไป กัญญาภัคเหงื่อแตกเต็มหน้า มองมาณสิงห์อย่างสุดจะคาดเดา

"ครอบครัวเธอนี่มันเกิดมาหนักแผ่นดิน" มาณสิงห์ กระแทกเสียงแล้วปล่อยมือจากกัญญาภัค

"ถ้าฉันไม่ตาย แกก็ต้องตายด้วยมีดเล่มนั้น"

พวก ไมยาดินเข้ามาใกล้ทุกที มาณสิงห์กำมีดในมือแน่น กัญญาภัคจ้องลุ้นระทึก
พลันเสียงไมยาดินก็ร้องเตือนพรรคพวกให้ระวัง มันฝังระเบิดไว้...

ไม ยาดินมองไปที่สลักเหนือพื้นดิน ขณะที่ข้างในบ้านร้างเงียบกริบ ไมยาดินและทหาร
ค่อยๆคืบคลานเข้าไป จนเห็นกัญญาภัคถูกปิดปากหัวห้อยมัดโยงอยู่กับขื่อด้วย
โซ่ขนาดใหญ่ ทหารรีบตัดเชือก ไมยาดินรอรับกัญญาภัคด้วยวงแขนที่ แข็งแรง
ใบหน้าของทั้งคู่อยู่ใกล้แทบสัมผัสลมหายใจของกันและกัน ไมยาดินถึงกับตะลึง
แต่อึดใจก็ได้สติเมื่อกัญญาภัคโวยวาย

"มายืนหน้าโง่ทำไม มันหนีไปแล้ว ไปตามมันสิ..." กัญญาภัคพูดไม่ทันขาดคำ
ธนูเพลิงก็ขับรถพุ่งเข้ามา มาณสิงห์ ยืนในรถกราดยิงไม่นับ ทหารล้มตายระเนระนาด
ไมยาดินคว้าร่างกัญญาภัคโอบและกลิ้งตัวหลบ มาณสิงห์กราดยิงอีกชุด ก่อนรถ
จะทะยานออกไปด้วยความเร็วสูง ไมยาดินได้แต่ยิงไล่หลังอย่างเจ็บใจ แล้วหันกลับมาที่กัญญาภัค

"คุณกัญญาเจ็บตรงไหนหรือเปล่า"

"เจ็บตอนที่แกปล่อยให้มันรอดไปนั่นแหละ" กัญญาภัคสะบัดเสียงใส่
ไมยาดินสลด ก้มหน้านิ่ง

เมื่อ กลับไปถึงบ้าน สินาตีซึ่งรอคอยลูกสาวสุดที่รักอย่างจดจ่อก็โผเข้ากอดลูก
แต่ลูกสาวแกะมือแม่ออก รีบเดินไปหาพ่อ บอกพ่อว่า ศิศิราต้องซ่อนตัว
อยู่ที่ไหนสักแห่ง แต่ไม่น่าจะเป็นแถวนั้น

"ขอบใจมาก" โกญจนาทแตะไหล่กัญญาภัคเบาๆ แล้วเดินออกไป

สิ นาตียังแค้นมาณสิงห์ไม่หาย ขณะเดียวกันก็ชื่นชมไมยาดินที่ไปช่วยลูกสาว
ของเธอทันเวลา แต่ดูเหมือนกัญญาภัคไม่ได้คิดเช่นนั้น เธอวางท่าเฉยเมยกับไมยาดิน
ซ้ำยังตอบกลับอย่างไม่ไยดี เมื่อไมยาดินแสดงความห่วงใย ไมยาดินจึงได้แต่
เก็บกดความไม่พอใจที่กัญญาภัคแบ่งชนชั้นพูดจาเหยียดเขา

เมื่อ อยู่ลำพังคนเดียว กัญญาภัคอดนึกถึงคำพูดดูถูกหยามหยันของมาณสิงห์ไม่ได้
มาณสิงห์จงรักภักดีต่อศิศิรา แต่กับกัญญาภัค มาณสิงห์บอกว่าเธอสวยก็จริง
แต่ยังไงก็เทียบไม่ได้กับหัวใจที่บริสุทธิ์งดงามของศิศิรา อีกทั้งคนอย่างพ่อของ
กัญญาภัคก็ไม่มีวันเป็นกษัตริย์ได้ เพราะกษัตริย์ทรงมีแต่ความรักความเมตตา

"ทำไมผู้ชายทุกคนถึงยอมตายถวายชีวิตเพื่อเธอ... ศิศิรา" กัญญาภัครำพึงออกมา
ด้วยความเกลียดชัง...

ที ฑายุก็เป็นอีกคนที่ปกป้องคุ้มครองศิศิราด้วยชีวิต ซึ่งศิศิรารู้สึกซาบซึ้งใน
ความช่วยเหลือของเขาทุกครั้ง และครั้งนี้ก็เช่นกัน เมื่อเขาได้รับบาดเจ็บที่ขา
เธอจึงช่วยทำแผลให้เขาเป็นการตอบแทน หลังจากนั้นทั้งคู่ก็ถือโอกาสชม
ธรรมชาติกลางป่า ขณะที่พวกเพื่อนๆทีฑายุ อีกทั้งญาณีและส้มเสี้ยวก็เหมือนจะรู้เห็นเป็นใจ

ตกค่ำ ทีฑายุสร้างความประทับใจให้ศิศิราโดยที่เธอไม่รู้ตัวมาก่อน ทีฑายุ
และคนอื่นๆช่วยกันตกแต่งจำลองวิหารร้างเป็นวัง แล้วทำมงกุฎดอกไม้ให้ศิศิรา
ซึ่งทีฑายุเน้นย้ำว่า นี่คือมงกุฎที่ชายไร้ฐานันดรศักดิ์ถักทอขึ้นจากละอองผิว
รอบดวงใจอันต่ำต้อย เป็นเพียงมงกุฎที่สามัญชนคนหนึ่งขอมอบให้ศิศิรา
เจ้าหญิงผู้เป็นดังน้ำค้างสดใสงดงามเหนือบัลลังก์ ทั้งๆที่รู้ว่าค่าของมงกุฎดอกไม้
ไม่อาจเทียบได้กับค่าแห่งมงกุฎแสงจันทร์

"หาก เป็นมงกุฎจากใจ ค่าก็มิด้อยกว่ามงกุฎใดๆเลย" ศิศิราย่อตัวลงให้
ทีฑายุสวมมงกุฎดอกไม้บนศีรษะ แล้วทั้งคู่ สบสายตาถ่ายทอดความรักอย่างลึกซึ้งให้แก่กัน

"ขอให้เจ้าหญิงศิศิรา เจ้าหญิงแห่งบัลลังก์แสงจันทร์ ทรงพระเจริญ"

"เจ้าหญิงศิศิราจะต้องเป็นผู้หญิงที่มีความสุขที่สุดในโลก"

ญาณี กับส้มเสี้ยวกล่าวด้วยรอยยิ้ม...ดรัณย์ ประสันต์ มาลข่าน ก้าวมายืน
เบื้องหน้าใกล้ๆกับทีฑายุ แล้วปฏิญาณตนขอเป็นสี่ทหารเสือที่จงรักภักดี
ต่อเจ้าหญิง พวกเราจะยอมตายเพื่อราชวงศ์

"ขอบคุณทหารกล้าของเราทุกคน ขอบคุณเพื่อนที่ดีที่สุด และขอบคุณสำหรับ
มงกุฎแสงจันทร์ ที่จะไม่มีวันโรยราไปจากใจเรา"

ศิศิรายิ้มให้ทุกคน และมาหยุดที่ทีฑายุเป็นคนสุดท้าย...

ooooooo

ตอนที่ 8

สาย วันใหม่ ขณะทุกคนแยกย้ายกันพักผ่อนตามอัธยาศัย ไมยาดินกับทหา
รกลุ่มหนึ่งได้จู่โจมเข้ามาจับกุมตัวทุกคนอย่างไม่คาดคิด แม้ทีฑายุและเพื่อน
ทั้งสามพยายามต่อสู้ขัดขืน แต่ก็ไม่สามารถเอาชนะพวกไมยาดินที่มี
อาวุธครบมือได้ ทุกคนบาดเจ็บไปตามกัน ก่อนจะถูกจับเข้าวังพร้อมศิศิรา
ญาณี และส้มเสี้ยว

พวกทีฑายุถูกจับ ขังคุก ส่วนศิศิราถูกนำตัวเข้ามาในท้องพระโรงราวนักโทษ
รอการสอบสวน แต่เธอไม่แม้แต่จะมองโกญจนาทที่ยืนวางอำนาจอยู่เบื้องหน้า

"เจ้าหญิง บีบให้เราต้องทำเหมือนคนโหดร้าย ไม่มีมนุษยธรรม ยิ่งหนี
ยิ่งดิ้นรน ทางออกของเจ้าหญิงก็เหลือน้อยลง เพื่อให้บัลลังก์แสงจันทร์มั่นคง
และปัญจารัตน์มีความสงบสุข เราได้เลือกหนทางไว้ให้แล้ว...คือเจ้าหญิงต้องแต่งงาน"
ศิศิราเงยหน้ามองโกญจนาทด้วยแววตาตื่นตระหนก "ฟังไม่ผิดหรอก เพื่อบ้านเมือง
ขัตติยนารีอย่างเจ้าหญิงศิศิราต้องแต่งงานกับสายเลือดของโกญจนาท"

ศิ ศิรารู้สึกขยะแขยงที่สุด หันหลังวิ่งออกไปยืนร้องไห้ น้ำตาไหลพราก
แล้วยิ่งเจ็บช้ำจนแทบยืนไม่อยู่ เมื่อกัญญาภัคกับสินาตีตามมาเยาะหยันราว
กับเธอเป็นทาสก็ไม่ปาน ส่วนไมยาดินซึ่งได้รับคำสั่งจากโกญจนาทก็กำลัง
ปลดปล่อยพวกทีฑายุออกจากคุก เพราะในวังกำลังจะมีงานใหญ่ พวกขี้ข้าขี้
ครอกริมถนนพวกนี้จึงไม่สมควรจะถูกขังให้เป็นเสนียด

เมื่อ รู้ว่าศิศิรากำลังจะแต่งงานกับเจ้าบ่าวที่โกญจนาทเลือกเฟ้นมาให้ ทุกคน
จึงวางแผนให้ทีฑายุแอบเข้าไปพบศิศิรา โดยเพื่อนๆของเขาทุกคนและส้มเสี้ยว
จะคอยดูต้นทางให้...เมื่อศิศิราได้ยิน เสียงเป่าใบไม้ ก็รู้ทันทีว่าเป็นทีฑายุ
เธอจึงแอบออกไปพบเขาที่สวนดอกไม้ แล้วร่ำไห้ขอร้องให้เขาช่วยเธอด้วย
เธอไม่อยากแต่งงานกับสายเลือดของโกญจนาท ทายาทของกบฏ...ทีฑายุ
ได้แต่โอบกอดปลอบใจเธอ แต่ไม่รับปาก

วันต่อมา โกญจนาทรุกเร่งศิศิราให้ตัดสินใจเรื่องแต่งงาน ถ้าไม่อยากเห็นธราเทพต้องตาย
ศิศิราสุดคับแค้น แต่ยังไม่ตอบรับ จากนั้นก็หาทางพบทีฑายุอีกครั้งเพื่อให้
เขาช่วยชิงตัวธราเทพออกมาให้ได้ แต่ทีฑายุท้วงว่า เจ้าชายยังเด็กเกินไปกับความลำบาก

ในที่สุด โกญจนาทก็ข่มขู่บังคับจนศิศิราต้องยอมรับสภาพในวันรุ่งขึ้น...
ส่วนมาณสิงห์ ที่ถูกไมยาดินตามจับได้พร้อมธนูเพลิง ก็รู้ข่าวการแต่งงานของ
ศิศิราก่อนจะถูกจับยัดคุกหมดอิสรภาพ

ภายในท้องพระโรงที่เต็มไปด้วยทหารน้อยใหญ่ของโกญจนาท ศิศิราถูกควบคุมตัว
เข้ามายืนต่อหน้าโกญจนาทและสินาตีที่นั่งคู่กันบนบัลลังก์

"เพื่อ ความสุขสงบของบ้านเมืองปัญจารัตน์ เจ้าหญิงศิศิราจะทรงอภิเษกสมรส"
คำพูดของโกญจนาททำให้หลายคนที่ไม่รู้มาก่อนต่างส่งเสียงฮือฮาสงสัย
ไม่เว้นแม้แต่ทาอู

ทหารคนสนิทของโกญจนาท

"ใครกัน ท่านโกญจนาท" ทาอูเอ่ยถาม

"กับคนที่เหมาะสม คู่ควรที่สุดในแผ่นดิน"

"ต้องเป็นเจ้าชายผู้สูงศักดิ์ต่างเมืองแน่ๆเลย" น้ำเสียงทาอูประชดประชัน

"ไม่ใช่เจ้าชาย แต่พระสวามีของเจ้าหญิงศิศิราคือเลือดเนื้อเชื้อไขของสกุลเรา"

สิ้น เสียงทรงอำนาจของโกญจนาท ทีฑายุก็เดินเข้ามาช้าๆ ท่ามกลางเสียงฮือฮา
และสายตาตกตะลึงของทุกคน โดยเฉพาะกัญญาภัคที่ส่ายหน้ารับไม่ได้

"เขาคือทายาทคนเดียวที่จะสืบทอดทุกสิ่งทุกอย่างจากเรา เป็นสายเลือดที่เรารัก
และไว้วางใจที่สุด"

ที ฑายุก้าวเข้ามายืนเคียงข้างศิศิราที่รู้สึกชาวาบไปทั้งตัว มือที่กำมงกุฎดอกไม้สั่นเทา
นึกไม่ถึงกับความจริงที่พลิกผัน....กัญญาภัคจ้องทีฑายุกับศิศิราด้วยแววตา ลุกโชน
ไปด้วยความผิดหวัง ต่างจากโกญจนาทเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสมหวังปลื้มเปรม

"ทีฑายุคือหลานชายคนเดียวของเรา และจะเป็นสวามีของเจ้าหญิงศิศิรา"

"คง ดีใจจนอยากร้องไห้ สวมมงกุฎให้เจ้าบ่าวหน่อยสิ" ทีฑายุไม่พูดเปล่า
ทำท่าจะหยิบมงกุฎดอกไม้ในมือศิศิรา แต่ ศิศิรายกมงกุฎขึ้นฟาดหน้าเขาเต็มแรง

"เราไม่แต่งงานกับผู้ชายหน้าไหว้หลังหลอก"

"น่าเสียดาย มงกุฎดอกไม้จากใจชายต่ำต้อย" ทีฑายุ ยิ้มกวน

"เห็นทีจะเป็นวิวาห์มหาสนุก" ทาอูเยาะ

"สภาพแบบนี้ จะแต่งกันเข้าไปได้ยังไง" สินาตีเอ่ยอย่างขัดใจ โกญจนาท
สวนทันควันว่า

"ทำไมจะแต่งไม่ได้ ในเมื่อเป็นความต้องการของเรา"

"อย่า ได้ฝันว่าสองสายเลือดจะผสานกันเลย โกญจนาท เราไม่แต่งงานกับทีฑายุ"
ศิศิราประกาศกร้าว ทีฑายุเอียงหน้ามาเน้นย้ำให้ได้ยินกันสองคน

"ไม่แต่ง...น้องชายก็ตาย"

(อ่านต่อพรุ่งนี้)









 

Create Date : 20 พฤศจิกายน 2552    
Last Update : 27 พฤศจิกายน 2552 6:52:04 น.
Counter : 2853 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  

หนึ่งคิด
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




เพลง

..*

หนึ่งในความห่วงใยของพ่อหลวง.....

เยลลี่พระราชทาน แจกฟรี สำหรับผู้ป่วยมะเร็งช่องปาก

หรือผู้กลืนอาหารไม่ได้

มูลนิธิทันตนวัตกรรม ในพระราชูปถัมภ์

หน่วยทันตกรรมพระราชทานในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล

คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ

ร่วมกันพัฒนาเยลลี่โภชนาการ เพื่อผู้ป่วยมะเร็งช่องปาก

ซึ่งจะช่วยให้ผู้ป่วยมีภาวะโภชนาการและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

โดยผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมีลักษณะเป็นเจลกึ่งแข็งกึ่งเหลว

มีเนื้อสัมผัสที่พอดีไม่อ่อนหรือแข็งเกินไป

ง่ายต่อการเคี้ยวและการกลืน ผลิตจากนมที่ผ่านกรรม

วิธีย่อยแลคโต๊สซึ่งเป็นสาเหตุของการดื่มนมแล้ว

ไม่สบายท้อง ท้องเสียแล้ว ทำให้ผู้ที่มีปัญหา

เรื่องดื่มนมแล้วไม่สบายท้อง สามารถกินได้โดยไม่มีปัญหา

และเมื่อนำไปทดลองใช้กับผู้ป่วยมะเร็งช่องปาก

พบว่าผู้ป่วยไม่ต้องให้อาหารทางสายยาง

ผู้ป่วยสามารถกินได้เอง และผู้ป่วยที่กินเยลลี่โภชนา

การมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น 

ผู้สนใจที่มีปัญหาเรื่องมะเร็งช่องปากหรือ

มีญาติมิตรเป็นโรคดังกล่าว สามารถติดต่อขอรับได้

โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดใด ได้ที่ต่างๆ ดังนี้คือ

1. โรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา 044-235582, 081-955-9002

2. สถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรุงเทพฯ 02-3547025-35

3. ศูนย์มหาวชิราลงกรณ ธัญบุรี จ.ปทุมธานี 02-5461960-6

4. ศูนย์มะเร็งชลบุรี 038-784001-5

5. ศูนย์มะเร็งลพบุรี 036-621800

6. ศูนย์มะเร็งลำปาง 054-335262-8

7. ศูนย์มะเร็งอุดรธานี 042-207375-80

8. ศูนย์มะเร็งอุบลราชธานี 045-285610-5, 045-285637-40

9. ศูนย์มะเร็งสุราษฎร์ธานี 077-211625-8 ต่อ 1006

10.สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล 02-889-3489

ท่านสามารถติดต่อสอบถามได้ที่สถานพยาบาล ดังกล่าว

หรือ ติดต่อสอบถามมูลนิธิทันตนวัตกรรม

ได้ที่ คุณบัวขาว หงษาชุม โทรศัพท์ 089-664-4634, 02-218-9027

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ :http://bit.ly/UFCrZa

ขอขอบคุณภาพจาก: ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร Fan page

๙๙๙๙๙๙๙

----


widgeo
------------ โครงการบูรณปฏิสังขรณ์สถานที่ประสูติขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ณ ลุมพินีสถาน ประเทศเนปาล เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวโรกาสมหามงคล 60 ปีราชาภิเษก และ 84 พรรษามหาราชา
New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add หนึ่งคิด's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.