เที่ยวให้ทั่วไทย ไปตามหัวใจ
|
|||
เจ้าแม่ "ตะเคียน"
นางตะเคียน หรือ เจ้าแม่ตะเคียน
ถ้าพูดถึงต้นตะเคียน เชื่อว่าหลายๆคนต่างก็เคยได้ยินชื่อเสียงถึงความอาถรรพ์ ความศักสิทธิ์ โดยมีเรื่องเล่าสืบทอด มาจากคนเถ้าคนแก่ ความเชื่อเกี่ยวกับนางตะเคียน หรือ เจ้าแม่ตะเคียน จะมีดังนี้  บริเวณผืนป่าที่ผีนางตะเคียนสิงสู่อยู่จะสะอาดสะอ้านเหมือนมีคนมาปัดกวาดอยู่เสมอๆ ก็คงเหมือนกับคนอยู่บ้านต้องออกมาปัดกวาดหน้าบ้านตัวเองให้สะอาดอยู่ตลอดเวลานั่นเอง นางตะเคียนมักมีรูปร่างหน้าตาสะสวย หมดจดงดงาม ผมยาว ห่มสไบ ใส่ผ้าถุง บางที่ก็ว่าแต่งตัวเหมือนสาวบ้านป่าทั่ว ๆ ไป ผีนางตะเคียนมักจะเป็นจำพวกหวงที่อยู่ และจะดุร้ายมากหากใครคิดจะรุกรานที่อยู่ของตน ผู้คนที่มีความเชื่อเรื่องนี้ มักเชื่อว่าต้นตะเคียนมักมีผีนางตะเคียนสิงอยู่ การจะนำเอาต้นตะเคียนมาขุดเป็นเรือ (เรือสมัยก่อนใช้วิธีขุดขึ้นจากต้นไม้ทั้งต้น) หรือนำไม้ตะเคียนมาสร้างบ้าน จำเป็นจะต้องทำพิธีบวงสรวงขออนุญาตจากนางตะเคียนก่อน ทั้งนี้ เมื่อต้นตะเคียนที่ถูกนำมาแปรสภาพเป็นยานพาหนะ หรือสิ่งปลูกสร้างแล้ว นางตะเคียนที่สิงสถิตอยู่ในต้นตะเคียนนั้นก็จะเปลี่ยนแปลงสถานะตามไปด้วย เช่น ถ้าเป็นเรือ นางตะเคียนก็จะกลายเป็นแม่ย่านางเรือ หรือ ถ้าเป็นบ้าน นางตะเคียนก็จะเป็น เจ้าที่ หรือ ผีบ้านผีเรือน เมษกัญจน์ สิ่งอาถรรพ์ 10 อย่าง ถ้ามีไว้ในบ้านจะไม่ดี
ที่พักอาศัยของเราถ้ามีสิ่งที่เป็นอัปมงคล อยู่ในบ้าน ก็จะทำให้คนที่อยู่ในบ้านได้รับผลกระทบ จากพลังด้านลบไปด้วย ส่งผลให้สุขภาพไม่ดี การงานการเงินคิดขัด ลองมาดูกันนะครับว่า 10สิ่งอาถรรพ์ ที่ไม่ควรมีไว้ในบ้านคืออะไร  1.ต้นไม้ที่เหี่ยวเฉาหรือตาย การที่เรานำต้นไม้มาปลูก ไม่ว่าจะปลูกไว้ในกระถางในบ้าน หรือปลูกไว้นอกบ้าน จะต้องดูแลให้ดี ถ้ามีต้นไม้เหี่ยว เฉา หรือตาย ต้องเอาออก เพราะจะเป็นการดึงเอาพลังด้านลบ และสิ่งไม่ดีเข้ามาในบ้าน และ ความโชคร้ายก็จะเข้ามา  2.ของแต่งบ้านที่เป็นรูปงู งูเป็นสัตว์ที่อาฆาต มีความเคียดแค้น หมกหมุ่นในกามตัณหา ดึงดูดพลังด้านลบ ทำให้ไม่มีความสุข จิตใจว้าวุ่นไม่สงบ  เก้าอี้โยกที่ไม่มีคนนั่ง หรือเก้าอี้โยกเก่า จะดึงดูดพลังด้านลบ และ ยังแสดงถึงความไม่มั่นคง อ่อนแอ ความเหนื่อยล้า จึงไม่ควรมีไว้ที่บ้าน เพราะจะทำให้คนที่อยู่ในบ้านเจ็บป่วยได้  4.ต้นนางแย้มป่า แม้ดอกจะสวย แต่ห้ามปลูกไว้ในบ้าน หรือ บริเวณบ้านโดยเด็ดขาด เพราะต้นนางแย้มป่าตามความเชื่อ จะมีวิญญาณร้ายอยู่ และอาจจะหลอกหลอนผู้คนในบ้าน ให้ไม่มีความสุข หรือเจ็บไข้ได้ป่วย  5.นาฬิกาตาย นาฬิกาตาย จะเหมือนกับจบสิ้น หยุด ถ้ามีอยู่ในบ้านจะเป็นอัปมงคลมากเพราะ หมายถึงความสูญเสีย ล้มหายตายจากของคนในบ้าน ควรจะเปลี่ยน หรือนำไปซ่อมให้เป็นปกติ  6.ภาพยักษ์หรือรูปปั้นยักษ์ ไม่ควรอย่างยิ่งที่จะนำภาพยักษ์,รูปปั้นยักษ์ รวมถึงรูปภาพที่ดูน่ากลัว ไปไว้ในบ้าน เพราะจะทำให้คนในบ้านร้อนรุ่ม ประสบอุบัติเหตุ คนในบ้านจะเจอแต่ความเดือดร้อน  7.ของเก่าที่ไม่ทราบที่มา ของเก่าที่ไม่ทราบที่มา ถ้านำมาประดับไว้ที่บ้าน อาจจะมีวิญญาณที่ผูกพันธ์กับสิ่งของเหล่านั้นอยู่ ถ้านำเข้ามาไว้ที่บ้าน อาจจะเจอเรื่องร้าย สิ่งเร้นลับ และ พลังด้านมืด  8.นาฬิกาทราย นาฬิกาทรายเปรียบเสมือนการวนไปวนมา ส่งผลให้คนในบ้าน เหน็ดเหนื่อย เจ็บป่วย ทำอะไรไม่ประสบผลสำเร็จ อยู่บ้านอย่างไม่มีความสุข  9.ไม้กวาดที่ก้านไม้กวาดหลุดลุ่ย ตามความเชื่อจะทำให้บ้านนั้น หากินไม่ขึ้น ฐานะทางบ้านจะแย่ ฉะนั้น ถ้ามีไม้กวาดแบบนี้ ควรเอาไปทิ้ง และเปลี่ยนใหม่  10.ต้นไม้ที่มีหนาม การที่นำต้นไม้มีหนามมาปลูกที่บ้านหรือรอบๆบ้าน ก็เหมือน สิ่งชักนำโชคร้ายเข้ามา คนในบ้านมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกัน และหนามแหลมอาจทำอันตรายคนที่อยู่ในบ้านด้วย ทั้งหมดนี้คือสิ่งของต้องห้ามที่ไม่เหมาะจะนำมาประดับตกแต่ง หรือมีไว้ในบ้าน แต่ผู้เขียนก็ขอให้อยู่ในดุลพินิจของผู้อ่านเอง ทีจะเป็นคนตัดสินใจ เพราะความเชื่อของแต่ละบุคคลไม่เหมือนกัน สิ่งมงคล 10 อย่าง ที่ควรมีที่บ้าน
สิ่งมงคลที่จะเอ่ยถึงนี้ บอกได้เลยครับว่า ควรเป็นอย่างยิ่งที่จะมีครอบครอง ไว้เพื่อเป็นสิริมงคล หรือเป็นที่ยึดเหนี่ยวทางใจ และผู้ครอบครองต้องประพฤติตัวให้เหมาะสมกับจารีตประเพณี และอยู่ในศีลธรรมอันดี สิ่งมงคลก็จะช่วยหนุนให้ผู้ครอบครองเจริญรุ่งเรือง ลองมาดูกันครับว่าสิ่งมงคลทั้ง 10 อย่างนี้ ท่านมีไว้ครอบครองหรือไม่  1.ปลาคู่ทองคำ ความหมายของปลาคู่ หมายถึง ความอุดมสมบูรณ์ และ ความมั่งคั่ง เชื่อกันว่า ถ้ามีไว้ใน บ้าน ก็จะช่วยเสริมมงคลให้คนในบ้านมีความมั่งคั่ง ร่ำรวย ครอบครัวมีแต่ความสุข  2.ภาพม้ามงคล ม้า จะสื่อถึงความกล้าหาญ ขยันขันแข็ง และว่องไวปราดเปรียว ถ้ามีติดไว้ที่บ้านจะเสริมให้การค้าเจริญก้าวหน้า ส่งเสริมตำแหน่งหน้าที่การงานให้ดีขึ้น  3.เรือสำเภา เรือสำเภาจะช่วยเสริมให้ธุรกิจดี การค้าขายราบรื่น การเงินไม่ติดขัด เจรจาซื้อขายประสบความสำเร็จ  4.ส้มมงคล ในบ้านควรจะมีตะกร้าใส่ผลส้มตั้งอยู่อย่าให้ขาด เพราะเสริม เรื่อง ความผาสุก อยู่อย่างร่มเย็น สุขภาพดี  5.ไข่ ไข่ถือเป็นสิ่งมงคล ที่ช่วยเสริมให้บ้าน มีความอุดมสมบูรณ์ ความสมปราถนา ความสงบสุข และยังมีความหมายถึงการถือกำเนิด การริเริ่ม ดังนั้น ควรมีไข่ติดไว้ในครัวที่บ้านอยู่ตลอด  6.ดอกไม้สด เสริม ให้การเงินงอกงาม บรรยากาศในบ้านสดชื่น และขับไล่สิ่งชั่วร้าย แต่ต้องคอยเปลี่ยนถ้าดอกไม้เริ่มเฉา  7.กระดิ่ง,กระพรวน มีไว้เพื่อสร้างความมีชีวิตชีวา เรียกทรัพย์เข้าบ้าน มีความร่มเย็น เสริมให้คนในบ้านให้มีความสุข รักใคร่ปรองดองกัน  8.ต้นไม้มงคล บริเวณบ้านถ้าปลูกต้นไม้มงคล ก็จะนำแต่สิ่งดีๆเข้ามาในบ้าน คนในบ้านจะอยู่กันอย่างมีความสุข นำพาความรุ่งเรือง ร่มเย็นให้แก่คนในบ้าน  9.กิเลน กิเลนเป็นสัตว์ 5 ชนิดอยู่ในตัวเดียวกัน คือ มังกร,กวาง,ม้า,วัว และ ปลา ถือว่าเป็นสิ่งมงคลที่ช่วยปัดเป่าสิ่งที่ไม่ดี ขับไล่สิ่งชั่วร้าย ออกจากบ้าน และ ชักนำสิ่งดี สิ่งมงคลเข้าบ้าน  10.น้ำพุ หรือน้ำที่มีการเคลื่อนที่ ช่วยเสริมทำให้บ้านร่มเย็นเป็นสุข อยู่กันอย่างสงบปรองดอง ชักนำเงินทองโชคลาภ และ พลังงานที่ดี เข้ามาสู่บ้าน การนั่งวิปัสนาเพื่อให้เกิด "ญาณ"
 ในบทความนี้ต้องบอกก่อนว่า เป็นประสบการณ์และความเชื่อส่วนบุคคล ที่ผู้เขียนได้ไปปฏิบัติและได้เจอมาด้วยตัวเอง การที่ผู้เขียนนำมาถ่ายทอดให้ผู้อ่านได้รับรู้ เพื่อเป็นอีกช่องทางหนึ่ง สำหรับผู้อ่านท่านใดที่สนใจในเรื่องนี้...ผู้เขียน ไม่ได้บอกให้เชื่อ แต่ให้ผู้อ่านได้คิด ได้ตัดสินใจเองครับ..เรื่องมีอยู่ว่า ช่วงปลายปี 2018 ผมได้มีโอกาสไปปฏิบัติธรรม โดยการ นั่งวิปัสนา และเดินจงกรม ที่สถานปฏิบัติธรรม ป่านะฤาชา ซึ่งผมได้เดินทางไปถึง สถานปฏิบัติธรรม ป่านะฤาชา ซึ่งตั้งอยู่ ถ.แก่งคอย-สระบุรี ถ้าค้นหาในแผนที่ google map ก็เจอ ผมไปถึงเวลา 8.00 น. จากนั้นก็ไปลงทะเบียน เพื่อขอนั่งวิปัสนา เมื่อรอลงทะเบียนเสร็จ ก็จะได้ป้ายหมายเลขมาติดเสื้อ จากนั้น เจ้าหน้าที่จะให้ไปสถานที่ปฏิบัติธรรม ซึ่งเป็นอาคารสูง เปิดโล่งทั้ง 4 ด้าน เมื่อผมไปถึงอาคาร ก็รู้สึกประหลาดใจ เพราะมีผู้ที่ไปนั่งรอปฏิบัติธรรมเยอะมาก เป็นร้อยคน สำหรับผู้ที่มาปฏิบัติธรรม ส่วนใหญ่จะนุ่งขาวห่มขาว แต่ ถ้าไม่มี ก็ไม่บังคับนะครับ  เมื่อได้เวลาประมาณ 8.50 น. จะมีพระอาจารย์ มานำสวดมนต์ ระลึกถึงคุณพระศรีรัตนตรัย จากนั้น พระอาจารย์(พระสงฆ์)จะอธิบายถึงการปฏิบัติ ว่าจะต้องปฏิบัติอย่างไรบ้าง โดยในตอนเช้า จะเดินจงกรม 1 ชั่วโมง นั่งวิปัสนา 1 ชั่วโมง จากนั้นก็พักรับประทานอาหาร รอบบ่าย จะเดินจงกรม สลับกับ นั่งวิปัสนา 2 รอบ และในการนั่งวิปัสนารอบสุดท้ายเนี่ย จะมีอะไรที่พิเศษอยู่ ถ้าเราเกิด "ญาณ" ก็จะได้ไปนั่งวิปัสนา ที่ มอ ในตอนกลางคืน ประมาณ 2 ชั่วโมง ซึ่งการไปนั่งที่ มอ เพื่อให้สติไปจับที่ความกลัว และผมบอกได้เลยว่า อะไรที่ผมไม่เชื่อ ที่ผมไม่เคยรับรู้ ผมได้เจอที่ มอนี่แหละครับ แต่ผมได้เจอ ได้เห็นอะไร ต้องลองมาปฏิบัติเอง ต้องรู้ด้วยตัวเอง ถึงผมจะบอก อธิบาย ยังไง ก็ไม่มีใครเชื่อครับ และ เมื่อเราผ่านการนั่งวิปัสนาแต่ละครั้ง ก็จะมีสมุดบันทึกให้ด้วย    เอาละครับ เล่าให้ฟังแค่นี้ก่อน ยังมีอีกเยอะกับประสบการณ์เกี่ยวกับการนั่งวิปัสนา เช่น การเห็น หรือได้ยิน ได้กลิ่น อะไรบางอย่างที่อธิบายไม่ได้ โดยผมจะเล่าให้ฟังในบทความหน้า....ท่านผู้อ่านที่สนใจ ลองไปนั่งวิปัสนาดูนะครับ ที่ไหนก็ได้ ในส่วนตัว ผมว่ามันช่วยให้เรามีสติ มองโลกอย่างที่โลกมันเป็น ทำให้ใจสงบ..ลองปฏิบัติธรรมดูนะครับ.. เมษกัญจน์ |
เมษกัญจน์
 ฝากข้อความหลังไมค์ Rss Feed  ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] สวัสดีครับ ก่อนอื่น ต้องขอขอบคุณทุกท่าน ที่เข้ามาเยี่ยมชมบล็อกนี้ ถ้ามีข้อเสนอแนะหรือติชม ยินดีรับทุกความคิดเห็นครับ หรือ ถ้าอยากให้บล็อกนำเสนออย่างไร รบกวนช่วยแนะนำด้วยนะครับ Group Blog All Blog Link |
||
| Pantip.com
| PantipMarket.com
| Pantown.com
| © 2004 BlogGang.com
allrights reserved.
|
|||
