All Blog
50 มุมมองข้อคิดดีดีให้ชีวิตเรา

Image

“50 ข้อคิด”
มุมมองเพื่อความเข้าใจในชีวิต


1. เมื่อเด็กกำลังเติบโตเป็นวัยรุ่น มีความต้องการเป็นตัวของตัวเองสูง ผู้ใหญ่ที่ไม่เข้าใจและใจแคบมักจะมองว่าเด็กดื้อ

2. คนเราจิตตกได้เป็นครั้งคราว อาจทำอะไรที่ไม่เหมาะสมได้ การรู้ตัวเองและให้อภัยตัวเอง จึงเป็นสิ่งสำคัญ

3. คนอกหักไม่อาจตัดความโศกเศร้าได้ด้วยเหตุผลเพียงอย่างเดียว เวลาเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการเยียวยาความรู้สึกดังกล่าว

4. ให้เคารพแนวคิดของผู้อื่นบ้าง เสมือนหนึ่งเป็นอีกแนวคิดหนึ่งที่ต่างไปจากเราเท่านั้นเอง

5. ตนเองเสียเมื่อไหร่ที่คิดดี คิดชอบเป็นอยู่คนเดียว

6. ทำไปเพราะไม่รู้ ให้อภัยกันได้ รู้แล้วยังทำ คือ ความดื้อ

7. ก่อนที่จะว่ากล่าวถึงนิสัยไม่ดีของลูกนั้น ให้มองตัวพ่อแม่เองก่อนด้วยว่า เรามีส่วนผลักดันให้เขาเป็นเช่นนั้นด้วยหรือเปล่า

8. ความทุกข์ของมนุษย์ 100% เกิดจากการพยายามฝืนความจริงของธรรมชาติ

9. หากต้องอยู่กับคนที่ไม่เกรงใจกันเลย พูดกับเขาให้น้อยลง เล่นกับเขาให้น้อยลง

10. หากอยากได้อะไร ก็ควรเสียอะไรบ้าง

11. ถ้าเราปล่อยให้โลก เร่งตัวเรา ควบคุมตัวเรา จนเราขาดอิสระภาพ เราก็จะทุกข์ ถ้าเราจะเร่งโลก ควบคุมโลกให้โลกนี้เป็นไปตามความต้องการของเรา เราก็ทุกข์เช่นกัน

12. ความฉลาดอาจหลอกคนได้ ความจริงใจต่างหากที่จะชนะใจคน

13. การให้ความสำคัญกับกฎเกณฑ์มากไป ทำให้เราลืมธรรมชาติ ลืมความเป็นจริงได้ง่าย

14. อารมณ์เป็นตัวกำหนดความคิด ความคิดกำหนดพฤติกรรม หากจะเข้าใจพฤติกรรมของคนให้ถูกต้อง จึงต้องอ่านอารมณ์ให้ออก

15. การมองอะไร ว่าดี ว่าเลว ขึ้นกับว่าอารมณ์ของเราขณะนั้นเป็นอย่างไร

16. ทำอะไรก็แล้วแต่ ควรมีหลักการบ้าง แต่ต้องระวังอย่ายึดเป็นกฎเกินไป

17. อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิดเป็นคำพื้นๆ ที่ใช้มาเตือนสติเราได้ดีตลอดกาล

18. การพยายามทำอะไรทุกอย่างให้ได้ การสงสัยอะไรทุกเรื่องเป็นความโง่ได้ก็เพราะว่าเรื่องต่างๆ ในโลกนี้มีตั้งหลายเรื่องที่ใช่ว่าเราจะรู้มันได้ง่ายและเรื่องอีกหลายเรื่องก็ไม่จำเป็นที่ต้องตอบให้ได้ด้วย

19. คุณธรรมส่อคุณค่าของมนุษย์มากกว่าความฉลาด

20. อะไรก็ตามแต่แม้ว่ามันจะจริง จะถูกต้อง แต่ถ้าการพูดออกไปนั้น มันไม่มีประโยชน์มีแต่ผลเสีย อย่าพูดดีกว่า

21. การขาดความเกรงใจต่อกัน ทำให้เราทะเลาะกันได้ง่าย การมีความเกรงใจต่อกันที่มากเกินไป ก็ทำให้เราไม่เป็นตัวของตัวเอง

22. ใครที่เขากล้าพูดความจริงกับเราออกมา นั่นก็เพราะเขามีความเชื่อมั่นว่าเราจะยอมรับเขาได้

23. การฝึกวินัยให้กับลูกนั้นแท้ที่จริงแล้วเป็นการฝึกวินัยให้กับพ่อแม่ด้วย

24. หากลูกเป็นคนเฉื่อยชา เราคงต้องช่วยกระตุ้นให้กำลังใจ หากลูกเป็นคนเอาจริงเอาจังเกินไป เราคงต้องช่วยสอนให้ลูกได้ปล่อยวางบ้าง กฎเกณฑ์การเลี้ยงลูกของคนๆ หนึ่ง จึงไม่เหมือนของอีกคนๆหนึ่ง

25. เมื่อคิดจะเสนอความคิดเห็นต่างๆ ที่มองว่าดี ต้องมองถึงความเป็นจริง ความเป็นไปได้ด้วยเสมอ

26. แต่ละคนมีศักยภาพของตัวเองอยู่แล้ว เราจึงควรต้องให้เกียรติต่อกันบ้าง

27. เมื่อเป็นคนก้าวร้าวคนอื่นไม่เป็น ก็มักจะถูกคนอื่นรุกรานได้ง่ายเช่นกัน

28. ถ้าเราเชื่อเรื่องกรรม การตายก็ไม่ใช่วิธีการหนีปัญหาได้ตลอดไป เนื่องจากกรรมนั้นๆ ยังไม่ได้ชดใช้ จนหมดวาระในตัวของมันเอง เกิดชาติหน้า กรรมเก่าก็จะติดตัวต่อไปอยู่ดี

29. การมองปัญหาในแง่มุมต่างกัน ในจุดต่างกันจะทำให้เข้าใจปัญหาได้ต่างกัน

30. เราจะให้อภัยตัวเอง กับผู้อื่นได้นั้น เราต้องเข้าใจในตัวเองและผู้อื่นได้ก่อน

31. การแก้ปัญหาทางบุคลิกภาพต้องอาศัยทั้งความจริงใจและการอดทนเป็นอย่างยิ่ง

32. ความเชื่อมั่นในตนเองเป็นเรื่องที่ดี แต่..ปัจจัยแห่งความสำเร็จนั้นก็หาได้ขึ้นอยู่กับเราคนเดียวไม่

33. เวลาที่พ่อแม่จะสะกิดฝีหนองให้ลูกนั้น พ่อแม่เองก็เจ็บปวดไม่น้อย

34. บางครั้งเราต้องการให้คนอื่นมาเข้าใจเรา มากกว่าที่เราอยากจะเข้าใจตัวเอง นั่นก็เพราะว่า เรายังเป็นมนุษย์ที่ยังมีความอ่อนแออยู่บ้าง

35. เรื่องที่คนเราประทับใจ มักจะลืมเลือนได้ยาก ก็เนื่องจากความประทับใจ ไม่ใช่ความจำนั่นเอง

36. จะมีเราอยู่.....เขาก็เป็นอย่างนั้น
ไม่มีเราอยู่.....เขาก็เป็นอย่างนั้น

37. หากเขาคิดจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง จริงๆ แล้ว เราเป็นได้แค่เพียงตัวกระตุ้นเท่านั้น

38. ถ้าเราเรียนรู้ธรรมะด้วยเหตุผลเพียงอย่างเดียว เราจะสัมผัส "การรู้" ได้ยากยิ่ง

39. ความสับสนในชีวิดมันเกิด ควรหาที่ยึดเหนี่ยวให้จิตใจได้พักเสียบ้าง

40. เรื่องของชีวิต มันมีจังหวะที่ต้องรอคอยอยู่บ้าง จะเรียกร้องให้มันได้ดั่งใจเสมอไปได้อย่างไร ความจริงใจ หากถูกแปลเป็นแง่ลบแล้ว ใครยังอยากจะกล้าจริงใจให้อีก

41. เพราะความอยาก..มันถึงได้วุ่นวายกันเพียงนี้

42. ไม่ใช่ว่า ห้ามโกรธ แต่ให้รู้ว่าโกรธ ไม่ใช่แสดงความโกรธแต่ให้พูดออกมาว่าโกรธ

43. จิตและอารมณ์เป็นของแท้ ความคิด คือ ตัวปรุง

44. หากเชื่อว่า "การบ่น" จะทำให้ลูกนิสัยดีขึ้นก็น่าจะลองดู ในเมื่อความเป็นจริงนั้น "การบ่น" มักจะยิ่งทำให้ลูกแย่ลงมากกว่าเดิมเสียอีก

45. ใครเขาจะเป็นอย่างไรก็ช่าง มันอยู่ที่..เรารู้สึกอย่างไรด้วยต่างหาก

46. หากพ่อแม่คาดหวัง อยากจะให้ลูกเป็นคนดีนั้น พ่อแม่ต้องช่วยให้ลูกเป็นคนดีด้วย (อย่าเพียงแต่หวัง)

47. พ่อแม่ หากมีความรักลูกมากไปแล้ว ก็ยากที่จะสอนวินัยให้กับลูกได้ดี

48. การเข้าใจคนอื่นได้ เป็นเรื่องที่ดี การเข้าใจตนเองได้ยิ่งเป็นเรื่องที่ดี เรื่องที่แย่ และก่อให้เกิดทุกข์ได้มากก็ คือรู้สึกว่าไม่มีใครเข้าใจเราเลย

49. กังวล เกินกว่าเหตุ..เชื่อมั่น มากเกินไป..ล้วนเป็นสิ่งที่เราต้องรู้จักตนเองอยู่เสมอ

50. การเร่งแก้ปัญหา โดยรีบคิดให้ตกทันที จะยิ่งสร้างปัญหาทางอารมณ์ได้มากยิ่งขึ้น

//www.dhammajak.net/dhamma/50.html




Create Date : 21 พฤศจิกายน 2555
Last Update : 28 ธันวาคม 2555 17:30:51 น.
Counter : 1135 Pageviews.

0 comment
บทความดีดี จริงใจ สบายจริง

Image
จริงใจ..สบายจริง


คงเป็นเรื่องน่าเศร้า
หากคนเราต้องบิดเบือนความจริงในใจ
แล้วใส่หน้ากากเข้าหากัน

เราคงมีชีวิตอยู่กับความสุขปลอมๆ
ท่ามกลางความกลัวที่จะผิดหวัง
ทั้งที่ในที่สุดก็ต้องเผชิญหน้ากับมันอยู่ดี

ถอกหน้ากากออกดีไหม
จะเป็นไรไป หากใครจะอ่านสายตาของเราได้
หรือแม้แต่จะมองทะลุถึงใจของเรา

เพราะเมื่อใดก็ตาม ที่เราไม่ต้องปิดบัง อำพราง
ไม่ต้องไว้ท่าไว้ทางหรือมีเล่ห์เหลี่ยมใดๆ
เมื่อนั่นใจของเราย่อมมีพลังอย่างเต็มที่
ที่จะสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ให้บังเกิดขึ้น

ซึ่งต่างค้นพบพลังแห่งความจริงใจ
เป็นพลังที่เกิดขึ้นอย่างเรียบง่ายเป็นธรรมชาติ
แต่มีอานุภาพเหลือประมาณ

ฉะนั้น..
อย่ากลัวเลย..ที่จะเป็นคนจริงใจ
เป็นคนซื่อๆ ใสๆ
ปากกับใจตรงกัน
ถึงแม้เราไม่เก่ง ไม่ดีเด่น
ไม่ได้เป็นคนสำคัญ
ขอเพียงเรามีความจริงใจต่อกัน
แค่นี้ก็สุขสบายใจ..

//www.dhammajak.net/dhamma/108.html




Create Date : 21 พฤศจิกายน 2555
Last Update : 21 พฤศจิกายน 2555 21:57:16 น.
Counter : 666 Pageviews.

0 comment
กำลังใจดีดี มีให้ตัวเอง

Image

กำลังใจดีๆ ให้ตัวเอง


.. ไม่มีใครเกิดมาไร้ค่า
แม้แต่คนโง่ที่สุดยังฉลาดในบางเรื่อง
และคนฉลาดที่สุด
ก็ยังโง่ในหลายเรื่อง ..

.. ไม่มีอะไรเสียเวลาไปมากกว่า
การคิดที่จะย้อนกลับไปแก้ไขอดีต

ไม่เคยมีอะไรช้าเกินไป
ที่จะทำใหสิ่งที่ตนฝัน ..

.. คนที่ไม่เคยหิว
ย่อมไม่ซาบซึ้งรสของความอิ่ม

ความสำเร็จที่ผ่านความล้มเหลว
ย่อมหอมหวานกว่าเดิม ..

.. อันตรายที่สุดของชีวิตคนเราคือ การคาดหวัง
อย่ายอมแพ้ ถ้ายังไม่ได้พยายามอย่างเต็มที่
เหตุผลขอคนๆ หนึ่ง อาจไม่ใช่เหตุผลของคน
อีกคนนึง ถ้าคุณไม่ลองก้าว คุณจะไม่มีทางรู้เลยว่า
ทางข้างหน้าเป็นอย่างไร
ปัญหาทุกอย่างล้วนอยู่ที่ตัวเราทั้งสิ้น
ยินดีกับสิ่งที่ได้มา และยอมรับกับสิ่งที่เสียไป
หลังพายุผ่านไป ฟ้าย่อมสดใสเสมอ
มีแต่วันนี้ที่มีค่า ไม่มีวันหน้า วันหลัง ..

.. คนเรา
ไม่ต้องเก่งไปทุกอย่าง
แต่จงสนุกกับงานทุกชิ้น
ที่ได้ทำ ..

หัวใจของการเดินทางไม่ได้อยู่ที่จุดหมาย
หากอยู่ที่ประสบการณ์สองข้างทาง .. มากกว่า

เครดิต://www.dhammajak.net/dhamma/107.html




Create Date : 05 พฤศจิกายน 2555
Last Update : 5 พฤศจิกายน 2555 10:06:44 น.
Counter : 1158 Pageviews.

4 comment
21 เหตุแห่งความล้มเหลว

21 เหตุแห่งความล้มเหลวของท่านกว๋อฉาง (นักปราชญ์ชาวจีน)

มนุษย์ต้องทำงาน เมื่อทำงานเสร็จ ก็ต้องการความสำเร็จ หากสำเร็จ ก็ยินดี พอใจหากล้มเหลวไม่สำเร็จก็เสียใจ หดหู่ ท้อถอย ขาดความเชื่อมั่นในตนเอง

    การทำงานสิ่งใดก็ตาม ทำแล้วต้องมุ่งหน้ากระทำต่อไปให้สำเร็จจงได้ ไม่ท้อถอยเสียโดยง่าย ไม่เลิกละลงกลางคัน มีความบางบั่น มุมานะพากเพียรพยายาม กระทำซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่เรื่อยไป หนักๆ เข้า งานใดๆ ก็ไม่สามารถหลีกหนีความพยายามของมนุษย์ไปได้

    เมื่อเริ่มทำงานการสิ่งใดก็ตาม หากเริ่มต้นแล้วรู้สึกว่าสะดุดมีลางไม่ค่อยจะดีเสียเปรียบ มีท่าว่าจะไม่ประสบความสำเร็จ ก็ขอจงอย่าได้ท้อถอย ให้คิดไว้เสมอว่า "เสือเจ็บนั้นไม่ร้อง" เมื่อท่านพบกับปัญหาจงอย่าเอะอะเอ็ดตะโร หรือโวยวายว่า ทำไม่ได้ ๆ ไม่มีทาง ๆ งานนี้ยากเหลือเกิน ใครจะสามารถทำให้สำเร็จได้ ? ซึ่งการร้องแรกแหกกระเชอ พร่ำเพ้อ ไปเช่นนั้น มิได้ทำให้เกิดประโยชน์อะไรขึ้นมาเลย แต่หากหุบปากเงียบไว้ ตั้งหน้าตั้งตาลงมือทำ ฝ่าฟันบากบั่นต่อสู้กับภาระหน้าที่งานนั้นเรื่อย ๆ ในไม่ช้า ความสำเร็จก็จะเข้ามาสู่ตัวเราเอง

ท่านกว๋อฉาง(นักปราชญ์ชาวจีน)ได้กล่าวถึงเหตุแห่งความล้มเหลวของมนุษย์ไว้ 21 ประการ ดังนี้

1) ไม่เข้าใจผู้อื่น เป็นคนไม่รู้เขา ไม่รู้เรา เอาแต่ตนเองเป็นประมาณ มีความคับแคบในจิตใจ

2) ไม่ประมาณตน สำคัญตนเองผิด ไม่ทราบว่าตนเองอยู่ในสถานะใด ขาดความเจียมตนอยากใหญ่ อยากดัง อาจจะเป็นคนชอบยกตนข่มท่าน อวดใหญ่อวดโต

3) ไม่เดียงสาต่องาน ขาดความรู้ในหน้าที่การงานที่ปฏิบัติ ไม่ได้ร่ำเรียนมาโดยตรง ไม่ได้รับการฝึกฝนอบรมในเรื่องนั้นๆ ให้เกิดความเข้าใจอย่างแท้จริง ไม่มีความเข้าใจงาน ไม่เข้าใจบทบาทหน้าที่ของตนต่อการปฏิบัติภารกิจนั้น

4) ขาดความสำนึกรับผิดชอบ ไม่รับทราบว่า ในหน้าที่งานที่ตนเองต้องปฏิบัตินั้น ที่จริงแล้วมีสิ่งใดบ้างที่ตนเองจะต้องรับผิดชอบ หรือแม้จะทราบ แต่ก็แสร้งทำเป็นไม่ทราบ ไม่ยอมรับผิดชอบงานในหน้าที่ของตน หรือคอยจ้องแต่จะรับ "ความชอบ" ส่วนความผิดนั้น มักปัดสวะให้ผู้อื่นรับเอาไป ก็ทำให้เกิดความผิดพลาดเสียหายล้มเหลวได้อย่างมากมาย

5) โลภโมโทสัน เป็นคนมักได้ มักเอา เป็นคนขี้ขอ มีโลภะ เป็นเจ้าเรือน เห็นสิ่งใดมีอาการอยากได้มาเป็นของตนในทุกๆ เรื่อง อาการเช่นนี้ เมื่อมีในตนมากเกินไป ทำให้มีสภาพเป็นคนน่ารังเกียจ ไม่มีใครอยากเข้าใกล้ เพราะเขากลับว่า จะไปขอทรัพย์สินของเขานั่นเอง ไร้ซึ่งสัจธรรม คนพูดปด พูดมดเท็จ พูดหลอกลวง พูดเพ้อเจ้อ พูดสับปลับ พูดปากกับใจไม่ตรงกัน ไม่มีคุณธรรมประจำใจ ย่อมไม่มีคนเคารพนับถือ วาจาไม่เป็นที่เชื่อถือแก่ผู้ใดเลย คนประเภทนี้ จะเป็นนักบริหารที่ยิ่งใหญ่ได้อย่างไร ที่จะเป็นได้ ก็เป็นเพียงคนจรหมอนหมิ่น สิ้นไรซึ่งความดีงามประจำตนเท่านั้นเอง

6) เย่อหยิ่งยโส คนอวดเบ่ง อวดหยิ่งยโสนั้น ไม่มีใครเขาเกรงกลัว และไม่เคารพนับถืออีกด้วย คนที่คิดว่าตัวเองเก่งนั้น ที่จริงเปรียบเสมือนกับคนที่ตายไปแล้ว เพราะคนที่หลงตัวลืมตนนั้นจะไม่ยอมศึกษาค้นคว้าสิ่งไดเพิ่มเติม เนื่องจากหลงตนคิดว่าตนเองเก่งกว่าใครๆ นั่นเอง

  7) ก่อหนี้สินล้นพ้นตัว คนประเภทนี้ เป็นพวกหน้าใหญ่ใจโต ไม่ประมาณตน เห็นช้างขี้ก็อยาก ขี้ตามช้าง เห็นเขานั่งคานหาม ก็อยากนั่งบ้าง แต่หาคานหามไม่ได้ เลยต้อง "เอามือประสานก้นแทน"

 8) คบค้าคนเสเพล คนที่คบค้าแต่คนพาล คนเสเพล ย่อมจะเป็นบ่อเกิดแห่งความพินาศฉิบหายไปด้วย ในอบายมุข 6 นั้น บ่งบอกว่า อย่าคบคนชั่วเป็นมิตร

 9) เกียจคร้านต่อการงาน การขี้เกียจตัวเป็นขน การงานไม่ยอมทำ กระทำตัวประหนึ่ง "ตุ๊ดตู่" ที่ในเรี่ยวในรูช่างอยู่ได้ ขี้เกียจหนักหนาระอาใจ เขาเรียกให้กินหมากไม่อยากพบ คนขี้เกียจระดับนี้เป็นพวก "กินแล้วนอนรอวันเชือดเหมือนหมู" ยิ่งนอนก็ยิ่งอ้วน ยิ่งนอนก็ยิ่งง่วงหนักมากขึ้น และยิ่งขี้เกียจมากขึ้นทุกที ๆ หนักเข้ากลายเป็นคนอดอยากยากจน เกียจคร้านไม่ยอมทำการงานอะไรให้เป็นชิ้นเป็นอัน หนักเข้าก็ต้องกลายเป็นยาจกเข็ญใจเที่ยวขอทานเขากิน

  10) ทำตัวเป็นนักเลงหัวไม้ การอวดเก่ง การดังด้วยการตีหัวหมา ด่าแม่เจ๊ก ทำร้ายคนอื่นเกะกะระรานหาเรื่องราวจากสุจริตชนไปเรื่อย ๆ นั้น เป็นบ่อเกิดความเสียหายในชีวิตของบุคคลและท้ายที่สุดอายุก็มักจะไม่ยืนยาว อีกด้วย มักจะถูกทำร้าย ถูกแก้แค้นให้บาดเจ็บ หรือถึงกับล้มตายเสียโดยง่าย มักจะไม่ได้ตายดี แต่จะกลายเป็น "ผีตายโหง" เสมอ

11) ไร้ซึ่งสัจธรรม คนพูดปด พูดมดเท็จ พูดหลอกลวง พูดเพ้อเจ้อ พูดสับปลับ พูดปากกับใจ ไม่ตรงกัน ไม่มีคุณธรรมประจำใจ ย่อมไม่มีคนเคารพนับถือ วาจาไม่เป็นที่เชื่อถือแก่ผู้ใดเลยคนประเภทนี้ จะเป็นนักบริหารที่ยิ่งใหญ่ได้อย่างไร ที่จะเป็นได้ ก็เป็นเพียงคนจรหมอนหมิ่น สิ้นไร้ซึ่งความดีงามประจำตนเท่านั้นเอง

12) ใจคอคับแคบ คนจิตใจคับแคบ เป็นคนเห็นแก่ตัว เห็นแก่ได้อย่างที่สุด เรียกได้ว่า "ขนาดอุจจาระเมื่อถ่ายออกมาแล้วยังไม่ยอมให้สุนัขกิน" นั้นเลยทีเดียว คนประเภทนี้ เรื่องที่ใครจะมาขออะไร ไม่มีทางที่จะให้แก่ใครเลย ส่วนทรัพย์สินสมบัติของคนอื่นๆ นั่น ตนเองจะจ้องตาเป็นมันด้วยความอยากได้มาเป็นของตัว และพยายามทุกวิถีทางที่จะให้ได้มาเป็นของตัว และพยายามทุกวิถีทางที่จะให้ได้มาเป็นสมบัติของตัวเองให้ได้ ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็เอาด้วยกลไม่ได้ด้วยมนต์ ก็เอาด้วยคาถาถ้าขอเขาไม่ให้ก็ลักขโมยเอา หรือแย่งชิงเอาซึ่งๆ หน้าก็ทำได้

13) คบคนไม่เลือก คนคบคนไม่เลือกนี้ เป็นคนไม่ฉลาด เป็นคนที่สิ้นคิด คนนั้นมีหลายร้อยจำพวก ที่ดีก็มี แต่ที่ชั่วก็มาก หากคบคนไม่เลือก มีโอกาสสูงมากที่จะได้คนพาล คนเลวทรามมาเป็นมิตร บุคคลเหล่านี้จะปอกลอก ล่อลวง ชักชวน ชักจูงให้หลงผิด อาจจะพาไปติดยาเสพติดไปเที่ยวหญิงคนชั่ว มีโรคร้ายที่สังคมรังเกียจติดตัวมา อายุอาจจะไม่ยืนยาว มงคลสูตรข้อแรก สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงได้บอกไว้ว่า อย่าคบคนพาล แต่จงสมาคมกับบัณฑิต จึงเป็นมงคลอันประเสริฐอุดมดี

14) คิดคดล่อลวง คนคดในข้อ งอในกระดูกนั้น คดในทุกเรื่อง เป็นคนที่ไม่ควรคบหาสมาคมเป็นอย่างยิ่ง คนประเภทนี้ ทำงานสิ่งใดมักจะประสบความล้มเหลวเสมอ เนื่องจากนิสัยที่ชั่วร้ายเลวทรามของเขานั้นเอง มีคำกล่าวสำคัญตอนหนึ่งว่า แม่น้ำคดเคี้ยวก็ควรจร ไม่คดทำศรพอเชื่อได้ เหล็กคดทำเคียวเกี่ยวข้าวใช้ แต่คนคดนั้นไซร้ไม่ต้องการ

  15) สุรุ่ยสุร่าย เป็นความเลวทรามชนิดหนึ่งของมนุษย์ ที่มีนิสัยหน้าใหญ่ใจโต มือเติบ จับจ่ายใช้สอยอย่างไม่อั้น ได้น้อย หรือได้มากไม่คำนึงถึง แต่จ่ายมากเข้าไว้ก่อน คำกลอนรุ่นเก่าของสุนทรภู่ว่าไว้ว่า "เป็นผู้ดีมีทรัพย์เที่ยวจับแจก เหมือนเกี่ยวแฝกมุงป่าฉิบหาย" แล้วในที่สุดตนเองก็ต้องล้มละลาย อาจจะต้องถึงขนาดฉิบหายขายตัวไปด้วยกันเลยทีเดียว

16) ไร้อุดมการณ์ บุคคลที่สิ้นไร้ซึ่งอุดมการณ์ ไม่มีจุดยืนที่แน่นอน ไม่มีหลักการใดมา หน่วงเหนี่ยวให้จิตใจยึดมั่นเป็นหลักไว้เสียแล้ว ก็มีสภาพเป็นคนหลักลอย กระทำการสิ่งใดก็ล่องลอยไปเรื่อยๆ ใครทักว่าอย่างไร ก็คล้อยตามไปตามสิ่งที่เขาทักนั้น ไม่เป็นตัวของตัวเอง ไม่มีใครเขายอมรับ นับถือบุคคลประเภทนี้ หากต้องการความสำเร็จอย่างแท้จริงในการทำงานแล้ว ต้องเป็น "คนมีหลัก" หลักที่ว่านี้หมายถึง หลักเกณฑ์ หลักธรรมความประพฤติ มีคุณธรรม จริยธรรมแห่งวิชาชีพ แห่งหน้าที่ การงานของตน

  17) ลุ่มหลงการพนัน การพนันนั้น นับเป็นยาเสพติดที่ร้ายแรงที่สุดชนิดหนึ่งสำหรับมนุษย์เมื่อยังไม่เคยเล่น ก็ไม่รู้สึกอะไร เห็นเป็นสิ่งที่ไม่เข้าท่า ไม่ได้เรื่อง ไม่อยากเข้าไปเกี่ยวข้องวอแวด้วย แต่หากได้เข้าไปเล่นสักครั้งสองครั้งแล้ว อาจลุ่มหลงในเสน่ห์ มนต์มายาแห่งการพนันนั้น ในที่สุดก็ติดงอมแงม วันไหนไม่ได้เล่น ก็เกิดอาการหงุดหงิด กินไม่ได้ นอนไม่หลับ ตื่นเช้าขึ้นมาก็รีบล้างหน้าล้างตา ไปนั่งรอที่หน้าบ่อน เมื่อมีขาไพ่หรือขาอื่นๆ ครบพอที่จะเล่นกันได้ ก็โจ้กันได้เลยทีเดียวละ ต่อจากนี้ก็แทบจะไม่มีวันเลิกรา ไม่อยากจะจากกันไปเสียเลย ลูกเต้า สามี หรือภรรยานั้นลืมไปหมดแล้ว พวกเขาจะเป็นอยู่อย่างไรก็ช่างหัวมัน จะมีข้าวกินหรือไม่ จะมีเสื้อผ้าใส่หรือไม่จะได้ไปโรงเรียนหรือไม่ กลายเป็นเรื่องที่ไม่ใช่ธุระของฉันไปเสียแล้ว คนที่ลุ่มหลงการพนันขนาดหนักนี้หนัก ๆ เข้า ก็บ้านแตกสาแหรกขาด ต้องทิ้งขว้างร้างหย่าจากกันไป ครอบครัวใด หากสามีภรรยาเป็นผีพนันด้วยกันทั้งคู่ บาปกรรมก็ตกมาที่ตัวลูก ที่ถูกทอดทิ้ง ไม่ได้รับการอบรมเลี้ยงดูอย่างดีเท่าที่ควร อาจจะเสียคนได้ตั้งแต่วัยเด็ก อาจจะไปมีแฟนเมื่ออายุยังน้อย อาจจะหนีตามกันไปโดยมิได้แต่งงาน อาจจะกลายเป็นนักการพนันตามพ่อแม่ไปด้วย เพราะได้เห็นสิ่งเลวทรามเหล่านั้นติดตามาตั้งแต่ยังเด็ก และมีมิจฉาทิฐิเห็นว่าเป็นสิ่งดีงามที่ตนเองต้องเจริญรอยตามพ่อแม่ไปด้วย เพราะได้เห็นสิ่งเลวทรามเหล่านั้นติดตามาตั้งแต่ยังเด็ก และมีมิจฉาทิฐิเห็นว่าเป็นสิ่งดีงามที่ตนเองต้องเจริญรอยตามพ่อแม่ไปด้วย

18) หุนหันพลันแล่น คนประเภทนี้ เป็นพวกใจร้อน ใจด่วนได้ เมื่ออารมณ์โกรธ หรือโทสะจริตเป็นเจ้าเรือนอยู่เสมอ หากพอใจอะไรก็ทำได้ หากไม่พอใจก็สะบัดก้นลุกเดินหนีไปทันทีได้เช่นเดียวกัน โดยไม่มีอาการเสียดงเสียดายอะไรเลย คนประเภทนี้บางทีเมื่อดีก็ดีใจหาย เมื่อร้ายก็ร้ายแสนเลยทีเดียว หากต้องการจะเป็นนักบริหารที่ประสบความสำเร็จ ไม่ล้มเหลว บุคคลประเภทนี้จะต้องฝึกจิตใจเสียใหม่ ให้เยือกเย็น สุขุมคัมภีรภาพ ไม่ใจเร็วด่วนได้อย่างแต่ก่อนอีก การจึงจะสำเร็จอีก

    19) จิตใจโลเล คนประเภทนี้เป็นคนเหลาะแหละ เหมือนกับ "ไม้หลักปักเลน" อยู่แล้ว หลักนั้นย่อมโอนเอนไปมาเสมอ ไม่ตรึงแน่นอยู่กับพื้นได้ เนื่องจากเลนนั้นอ่อนเหลว หลักย่อมล้ม หรืออาจจะหลุดลอยไปจากพื้นเลนได้โดยง่าย การประพฤติตนเป็นคนโลเล เหลาะแหละ ไม่เอาจริงเอาจังในเรื่องใด ๆ ทั้งสิ้น คนย่อมไม่เคารพนับถือ เมื่อเชื่อถือในถ้อยคำ แล้วจะไปบริหารงานให้ประสบความสำเร็จได้อย่างไร ก็ต้องประสบกับความล้มเหลววันยันค่ำ หากต้องการความสำเร็จ ต้องเลิกละนิสัย "โลเล" นี้ให้ได้อย่างเด็ดขาด

20) อิจฉาริษยา คนขี้อิจฉานั้น คือคนที่เห็นคนอื่นดีกว่าตนแล้วทนไม่ได้ รู้สึกเดือดร้อน ไม่สบายใจ เกิดอาการริษยาตามมาอีก คือไม่อยากให้เขาดีไปกว่าตน อยากให้เขาเกิดความพินาศ ล้มเหลว หากเขาเป็นเช่นนั้นจริง ก็จะสุขสมในอารมณ์เป็นอันมาก เพราะการณ์เป็นไปสมตามที่ตนเองได้สาปแช่งเขาเอาไว้ คนประเภทขี้อิจฉานี้ ที่จริงแล้ว แทบจะไม่สามารถหาความสุขในชีวิตได้เลย เพราะเป็นคนที่ไม่เคยคิดดีๆ ต่อใคร ไม่เคยรู้จักคำว่า "ให้ ให้อภัย เมตตา กรุณา มุทิตา" แต่มีความอยากให้เขาเป็นทุกข์ ให้เขาเจ๊ง ให้เขาพัง ให้เขาเสียชื่อเสียง เห็นคนอื่นเป็นทุกข์ แล้วตนเองกลับเป็นสุข และเมื่อเห็นเขาเป็นสุข ก็พลอยอิจฉาตาร้อน ไม่อยากให้เขาได้รับความสุขนั้นเพราะตนเองมีแต่ทุกข์ และอยากให้เขาได้รับความทุกข์เหมือนตนหรือมากกว่าตน

21) นอกรีตดื้อรั้น คนนอกรีต นอกรอย นั้นคือ คนที่ไม่ยอมประพฤติตามจารีต ตามประเพณีที่ดีงาม ที่คนเก่ารุ่นก่อน ผู้ใหญ่รุ่นปู่ย่าตาทวดเขาได้สร้างสรรค์ขนบประเพณีที่ดีงามเอาไว้คนที่เป็น พวกนอกรีต และหัวดื้อหัวรั้น ผู้ใหญ่บอกก็ไม่ฟัง สั่งก็ไม่เชื่อ ชอบเถียง ชอบโต้แย้ง ชอบขัดขืนคำสั่ง (โดยชอบ) ของผู้บังคับบัญชาเสมอ ผู้ใหญ่ย่อมไม่พึงพอใจ เห็นว่ากระด้างกระเดื่อง ไม่เชื่อฟัง ทำให้เกิดความเสียหายในการปกครองบังคับบัญชา คนประเภทนี้เจริญได้ยาก การประพฤติตนอยู่ในรีตนั้นเป็นสิ่งดี กระทำตามๆ กันมา ชนิดที่เรียนกว่า "เดินตามผู้ใหญ่ หมาไม่กัด" แต่หากเป็นการอยู่ในรีตไปทุก ๆ เรื่อง คนเก่าคนก่อนเขาทำมาอย่างไร ก็ทำอย่างนั้น ไม่ยอมปรับปรุงเปลี่ยนอะไรเสียเลย ก็สร้างปัญหาได้เหมือนกัน เพราะสังคมนั้นจะประกอบไปด้วยบุคคลประเภท "ไดโนเสาร์เต่าล้านปี" ที่ไม่ยอมปรับเปลี่ยนอะไรให้รับกับยุคสมัยใหม่เสียบ้างเลย ฉะนั้นคำว่า "นอกรีต" นั้น มีความหมายสองนับ ดังที่ได้กล่าวมาแล้ว นัยหนึ่งนั้นการนอกรีต เป็นเรื่องเสียหาย แต่อีกนัยหนึ่ง การนอกรีตนอกรอย ก็เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการเตรียมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงอยู่บ้างเหมือนกัน

      สรุป หากอยากเป็นนักบริหารที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง ต้องทำตัวให้ห่างไกลจาก ความล้มเหลว 21 ประการ ที่ท่านกว๋อฉางได้กล่าวเอาไว้นี้ให้จงได้ และทำตนให้ตรงข้ามด้วยการใฝ่ฝัน กระทำตนมุ่งหน้าไปสู่ความสำเร็จให้จงได้




Create Date : 20 ตุลาคม 2555
Last Update : 20 ตุลาคม 2555 20:47:26 น.
Counter : 1256 Pageviews.

2 comment
กลยุทธ์ !ลงทุนให้เช่าที่พักอาศัย

ผลตอบแทนการลงทุนให้เช่าที่พักอาศัยเหนือดอกเบี้ยเงินฝากเลือกอสังหาฯอย่างรอบคอบเพื่อผลตอบแทนสูงสุด เฉลี่ยปี53 อยู่ที่ระดับ6.1%


อัตราดอกเบี้ยเงินฝากในธนาคารที่อยู่ในระดับต่ำในปัจจุบันเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดความต้องการลงทุนในตลาดให้เช่าที่พักอาศัย ซึ่งเป็นตลาดที่นักลงทุนคาดหวังที่จะได้รับผลตอบแทนเป็นรายปี และคาดหวังว่ามูลค่าอสังหาริมทรัพย์ที่ซื้อไว้จะเพิ่มขึ้นในอนาคต จากรายงานการศึกษาวิจัยของ ซีบี ริชาร์ด เอลลิส และจากธุรกรรมที่เกิดขึ้นจริงในการปล่อยเช่าที่พักอาศัย พบว่า อัตราผลตอบแทนเฉลี่ยโดยรวมของการปล่อยเช่าคอนโดมิเนียมที่อยู่ใจกลางเมืองกรุงเทพฯในปี 2553 อยู่ที่ระดับ 6.1% ซึ่งสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำที่อยู่ในระดับต่ำกว่า 2 % อยู่มาก

หัวใจสำคัญในการรักษาผลตอบแทนให้สม่ำเสมอ คือ การเลือกอสังหาริมทรัพย์ที่ถูกต้อง และการมีความเข้าใจในความต้องการและงบประมาณของผู้เช่า สิ่งสำคัญที่จะต้องใช้ในการพิจารณาเลือกอสังหาริมทรัพย์เพื่อนำมาปล่อยเช่า ได้แก่ ทำเลที่ตั้ง การเลือกอาคาร และขนาดห้องที่ถูกต้องเหมาะสม

นางสาวพรพิมล พึ่งเขื่อนขันธ์  ผู้อำนวยการแผนกซื้อขายที่พักอาศัยของ ซีบี ริชาร์ด เออลิส ประเทศไทยกล่าว
ว่า ทำเลนับเป็นปัจจัยสำคัญอันดับหนึ่งสำหรับตลาดให้เช่าที่พักอาศัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับตลาดผู้เช่าชาวต่างชาติซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของคอนโดมิเนียมย่านใจกลางเมืองในกรุงเทพฯ จากการวิเคราะห์ธุรกรรมการเช่าที่พักอาศัยโดย ซีบี ริชาร์ด เอลลิส ในปี 2553 พบว่า ผู้เช่าชาวต่างชาติยังคงให้ความสำคัญกับการเลือกทำเลเป็นพิเศษ  โครงการที่สามารถเดินทางไปยังสถานีขนส่งมวลชนต่าง ๆ และอยู่ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้เช่า อาทิ ร้านอาหาร ศูนย์การค้า โรงเรียน และ โรงพยาบาลนั้นจะเป็นที่ต้องการมากกว่าโครงการอื่นๆ

จากข้อมูลดังกล่าวพบว่า 50% ของการปล่อยเช่ากระจุกตัวอยู่ในย่านสุขุมวิท  ช่วงระหว่างสุขุมวิทซอย 1 - 63 และสุขุมวิทซอย 2 - 42   ตามมาด้วยย่านสีลม/สาทร และย่านลุมพินี   ทั้งนี้ โครงการที่ได้รับความนิยมจากกลุ่มผู้เช่าชาวต่างชาติ ได้แก่ พลาซ่า แอทธินี ในซอยร่วมฤดี    พาร์ค ชิดลม และโดมัสในซอยสุขุมวิท 16 -18 โดยทั่วไป การขายต่อห้องชุดในโครงการที่สร้างเสร็จแล้วเหล่านี้จะมีน้อยกว่าโครงการทั่วไปเพราะมีโอกาสที่ดีในการปล่อยเช่า และผู้ลงทุนจำเป็นต้องอาศัยบริษัทที่เป็นตัวแทนเพื่อช่วยหาห้องชุดที่ยังมีการเสนอขาย

แม้ว่าราคาขายอาจจะแตกต่างกันอยู่มากตามทำเลที่ตั้งโครงการ  ทว่า อัตราผลตอบแทนจากการปล่อยเช่าในย่านสุขุมวิท  ลุมพินี   และสีลม/สาทรนั้นไม่ได้แตกต่างกันมากนัก   ราคาขายต่อตารางเมตรในย่านลุมพินีสูงกว่าในย่านสุขุมวิท   แต่จากสถิติพบว่า ย่านลุมพินีเป็นย่านที่มีกลุ่มผู้เช่าชาวต่างชาติที่มีงบประมาณในการเช่าสูงสุด     ตัวอย่างเช่น ราคาขายต่อคอนโดมิเนียมในโครงการพลาซ่า แอทธินีที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้สูงเกือบถึง 160,000 บาทต่อตารางเมตร ในขณะที่ราคาขายต่อคอนโดมิเนียมในย่านสุขุมวิทอยู่ระหว่าง 120,000 บาท - 130,000 บาท ต่อตารางเมตร

ห้องชุดขนาด1ห้องนอนผลตอบแทนสูงสุด7.2%

นอกจากนี้ การเลือกขนาดห้องชุดที่มีความเหมาะสมก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน  ห้องชุดขนาด 1 ห้องนอนให้ผลตอบแทนสูงสุดที่ 7.2% แต่อัตราการแข่งขันก็สูงมากที่สุด ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดแรงกดดันด้านผลตอบแทนที่ลดลง โดยความต้องการเช่าห้องชุดขนาดเล็กจะมาจากกลุ่มพนักงานบริษัทชาวไทย  ซึ่งต่างจากความต้องการห้องชุดขนาดใหญ่ที่มี 2 - 3 ห้องนอนอยู่ในโครงการระดับไฮเอนด์และระดับหรู ซึ่งจะมาจากผู้เช่าชาวต่างชาติที่มีงบประมาณในการเช่าสูง แม้ว่าอัตราเฉลี่ยของผลตอบแทนจากห้องชุดขนาดใหญ่จะต่ำกว่าโดยอยู่ที่ระดับ 5.6% แต่อัตราการเข้าพักอาศัยกลับอยู่ในระดับที่ดีกว่า

อย่างไรก็ดี จากการที่มีห้องชุดขนาด 1 ห้องนอนที่อยู่ในระหว่างการก่อสร้างราว 11,000 ยูนิตในปัจจุบัน ผู้ลงทุนควรมีความระมัดระวังในการเลือกซื้อโครงการที่เสนอขายห้องชุดจำนวนมากที่มีรูปแบบเดียวกัน และจำเป็นต้องประเมินถึงความต้องการเช่าห้องชุดเหล่านั้นในตลาดก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ

อีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญกว่าขนาดของห้องชุด คือ ประสิทธิภาพและประโยชน์ใช้สอยของผังห้องชุด ประกอบกับความน่าสนใจของทำเลที่ตั้ง ตัวอย่างเช่น ห้องชุดสไตล์โมเดิร์นขนาด 3 ห้องนอน พื้นที่ 150 ตารางเมตร ตั้งอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส สามารถปล่อยเช่าได้ในระดับราคาที่เทียบเท่ากับห้องชุดขนาด 3 ห้องนอนที่มีขนาดพื้นที่ใหญ่กว่าแต่ไม่ได้มีความน่าสนใจในแง่ของทำเลที่ตั้ง การวางผังห้อง การออกแบบ และการตกแต่งภายในห้อง

นอกเหนือจากการเลือกทำเลและขนาดห้องแล้ว การเลือกโครงการที่เหมาะสมถูกต้องก็มีส่วนสำคัญอย่างมากในการรักษาผลตอบแทนให้สม่ำเสมอ   การเลือกอาคารที่เหมาะสมนั้นจะช่วยให้นักลงทุนมั่นใจได้ว่าจะได้รับผลตอบแทนสูงกว่า 5% เช่นเดียวกันกับมูลค่าที่เพิ่มขึ้นของห้องชุดในระยะกลางจนถึงระยะยาว     นอกจากนี้ สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลางก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญในการพิจารณาของผู้เช่าเช่นกัน  ภายในโครงการควรมีสระว่ายน้ำ ห้องออกกำลังกาย ห้องซาวน่า/อบไอน้ำ รวมถึงพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจและพื้นที่สีเขียว  นักลงทุนควรพิจารณาถึงสิ่งเหล่านี้เป็นพิเศษหากต้องการจะลงทุนในห้องชุดขนาดใหญ่ที่มีกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้เช่าชาวต่างชาติที่เข้าพักอาศัยเป็นครอบครัวและมีสมาชิกในครอบครัวเป็นเด็กด้วย

อายุการใช้งานของอาคารก็เป็นอีกปัจจัยที่ส่งผลกระทบโดยตรง ต่อระดับผลตอบแทน โดยทั่วไปแล้ว อาคารใหม่มีแนวโน้มให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า   แต่อย่างไรก็ตาม นักลงทุนอาจพิจารณาลงทุนห้องชุดในโครงการเก่าบางแห่ง เพราะตั้งอยู่ในทำเลทองที่ไม่สามารถหาได้อีก และตัวอาคารได้รับการดูแลรักษาอย่างดีมาโดยตลอด  เช่น โครงการสมคิด การ์เด้นส์ เป็นต้น

จากการศึกษาของแผนกวิจัย ซีบี ริชาร์ด เอลลิส พบว่า อัตราผลตอบแทนจากการปล่อยเช่าที่พักอาศัยประเภทต่างๆไม่แตกต่างกันมากนักมแม้ว่าอาคารบางแห่งสร้างมาแล้วเกินกว่า 10 ปี     ดังนั้น ตราบเท่าที่อาคารตั้งอยู่ในทำเลที่ดี และพื้นที่ส่วนกลางได้รับการดูแลรักษาและปรับปรุงอย่างสม่ำเสมอ  อาคารเก่าก็ยังคงสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีได้ เนื่องจากห้องชุดในอาคารเก่าจะมีราคาขายต่ำกว่า  ทำให้เจ้าของห้องชุดสามารถปล่อยเช่าในราคาที่ต่ำกว่าได้ในขณะที่ยังคงได้รับผลตอบแทนในระดับที่ใกล้เคียงกันกับห้องชุดในอาคารใหม่

อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่ควรทราบ คือ ผลตอบแทนที่สม่ำเสมอนั้นจะมาจากอาคารเก่าที่ได้รับการดูแลรักษามาเป็นอย่างดีโดยตลอดเท่านั้น  หากสภาพพื้นที่ส่วนกลางของอาคารไม่ได้รับการปรับปรุงหรือหากเจ้าของห้องชุดไม่ได้ทำการตกแต่งใหม่ ก็จะทำให้ผลตอบแทนลดลง    นอกจากนี้ อาคารเก่ายังมีแนวโน้มที่จะมีค่าใช้จ่ายมากกว่าในการดูแลรักษาและมีแนวโน้มที่จะมีความจำเป็นต้องใช้เงินทุนเสริม เพื่อใช้ในการยกระดับและปรับปรุงอาคารหากเงินกองทุนส่วนกลางมีไม่เพียงพอ      ดังนั้น เพื่อเป็นการรักษาระดับผลตอบแทนให้สม่ำเสมอและเพื่อเป็นการเพิ่มมูลค่าของอสังหาริมทรัพย์ให้อยู่ในระดับสูงสุด นักลงทุนควรรู้ถึงจังหวะที่เหมาะสมในการซื้อและขาย
การลงทุนซื้อที่พักอาศัยเพื่อการปล่อยเช่านั้นต่างจากการลงทุนในหุ้นหรือการฝากเงินในธนาคาร เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายต่างๆเข้ามาเกี่ยวข้อง เช่น ค่าใช้จ่ายในการจัดการพื้นที่ส่วนกลาง ค่าประกัน ค่าซ่อมแซมและบำรุงรักษาภายในห้องชุด รวมไปถึงช่วงที่ยังไม่มีผู้เช่าเข้าพัก  เมื่อพิจารณาค่าใช้จ่ายต่างๆเหล่านี้แล้ว ผลตอบแทนโดยเฉลี่ยที่ได้ก่อนหักภาษีจะอยู่ที่ระดับ 3.7% ซึ่งยังคงสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากในธนาคาร นอกจากนี้ การเลือกห้องชุดที่ถูกต้องนั้นจะช่วยเพิ่มมูลค่าของห้องชุดในอนาคตได้อีกด้วย

“ห้องชุดที่มีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์ทั้งหมดในข้างต้น มีแนวโน้มที่จะขายได้ในเวลาอันรวดเร็วหลังจากเปิดขายในตลาด ทีมงานแผนกซื้อขายที่พักอาศัยของเราติดต่อกับนักลงทุนที่มองหาห้องชุดที่เหมาะสำหรับการปล่อยเช่าอยู่เป็นประจำ    แต่ปัญหาที่นักลงทุนจำนวนมากประสบ คือ ห้องชุดที่ดีมักจะมีการซื้อขายที่รวดเร็วมาก นักลงทุนจำเป็นต้องคอยเปิดรับโอกาสใหม่ๆอยู่เสมอ และต้องเตรียมพร้อมที่จะตัดสินใจเมื่อมีโอกาสที่ดีมาถึง” นางสาวพรพิมล กล่าวย้ำ


ซีบี  ริชาร์ด เอลลิส จะนำคอนโดมิเนียมใหม่เกือบ 20 แห่งขึ้นบนเว็บไซต์ของบริษัทในแต่ละสัปดาห์ และส่งรายชื่อคอนโดมิเนียมใหม่ๆให้กับนักลงทุนที่ต้องการซื้อเพื่อนำมาปล่อยเช่าอยู่เป็นประจำ

ท่ามกลางภาวะอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำ และความกังวลเรื่องอัตราเงินเฟ้อในปัจจุบัน  ทำให้การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่พักอาศัย ซึ่งมีศักยภาพทั้งในด้านมูลค่าที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต และรายได้จากการปล่อยเช่า  รวมถึงเป็นการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราเงินเฟ้อ จะยังคงได้รับความสนใจของนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง

Cradit: bangkokbiznews


ERA ศูนย์บริการรับฝากขาย เช่า บ้าน คอนโด ที่ดิน เรายินดีทำงานให้ท่าน
" ต้องการขาย-เช่า บ้าน คอนโด ที่ดิน แต่ไม่มีเวลา
 ไม่ว่างรับสายเพราะติดงาน
เบื่อการต่อราคาแล้วไม่ซื้อ ปัญหาเหล่านี้จะหมดไป "

ERA
ศูนย์รับฝากขาย-เช่า บ้าน คอนโด ที่ดิน
ออฟฟิศ อสังหา โฆษณาให้ ฟรี 
ขายไม่ได้ไม่มีค่าใช้จ่ายใด ขายได้คิดค่าคอมมิสชั่น 3%

" ผมยินดีให้คำปรึกษา โทรมาที่ 084 452 4528  "
รับฝากขายบ้าน บริการรับฝากขายที่ดิน ศูนย์บริการรับฝากขายอาคารพาณิชย์




Create Date : 03 ตุลาคม 2555
Last Update : 21 พฤศจิกายน 2555 21:51:04 น.
Counter : 1967 Pageviews.

0 comment
1  2  3  4  5  6  

PR Real Estate
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]



สวัสดีครับผมภาวิช
ยินดีต้อนรับทุกท่าน