ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

10 บัญญัติขจัดโรคน้ำท่วม

หากแม้นคันกั้นน้ำและประตูน้ำคือด่านป้องกันเมืองจากมวลน้ำมหาศาลแล้วไซร้ ตัวท่านก็คือด่านกั้นโรคที่สำคัญที่จะป้องกันมวลเชื้อโรคจำนวนมหาศาลที่จ้องจะผ่านเข้าสู่ร่างกายไปอยู่ทุกขณะ นพ.กฤษดา ศิรามพุช ผู้อำนวยการศูนย์เวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ เผย 10 บัญญัติขจัดโรคในช่วงน้ำท่วม

เริ่มจากบัญญัติข้อแรก 'อย่าเพิ่งตัดเล็บเท้าหรือเล็บมือช่วงน้ำท่วม' รวมถึงการตะไบเล็บด้วยในกรณีที่ต้องแช่น้ำท่วมอยู่บ่อยครั้ง เพราะจะเป็นการเปิดช่องให้เชื้อน้ำเน่าพากันแห่เข้าเท้าราวกับเป็นศูนย์อพยพชั้นดี

บัญญัติข้อถัดมา 'อย่าให้มีหวัดหรือรีบรักษาภูมิแพ้คัดจมูกให้หาย' ไม่เช่นนั้นมีสิทธิ์กลายเป็นปอดบวม ติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนล่างได้ถ้าต้องเปียกติดน้ำอยู่นาน

ต่อด้วยบัญญัติข้อสาม 'เริ่มเป็นหวัด ให้กินยากันไว้ก่อน' ใช้ยาสามัญอย่าง ยาแก้แพ้คลอเฟนิรามีนก็ได้ครับ ช่วยให้หลับได้แล้วหวัดที่เป็นน้อยอาจหายได้เลยครับ

บัญญัติข้อสี่ 'เลี่ยงนอนทั้งหัวเปียก' และเมื่อผมเปียกแล้วต้องสระผม เพราะความเย็นจากศีรษะส่งให้โพรงจมูกเย็นเป็นที่แบ่งตัวดีของไวรัสหวัด ให้สังเกตว่าเรามักเป็นหวัดเมื่อหัวเย็นครับ

ในบัญญัติข้อห้า 'ลดการนอนเปิดแอร์' บ้านเรามีเด็กติดแอร์เยอะครับ เพราะคุณพ่อคุณแม่ส่วนใหญ่ต้องเปิดแอร์ให้ลูกนอน ตอนน้ำท่วมอากาศชื้นอยู่แล้ว การเปิดแอร์จะทำให้อุณหภูมิศีรษะต่ำลงเป็นที่อาศัยของเชื้อหวัดดีกว่าปกติ

ตามด้วยข้อหก 'ให้งีบหลับพักผ่อนบ้าง' จะเป็นกลางคืนหรือกลางวันก็ได้ ให้พักกันเข้าไว้ถ้าไม่อยากพลาดข่าวด่วนอาจสลับเวรกันนอนได้ ขอให้คิดว่าจะได้ตื่นมามีแรงสู้ต่อในวันรุ่งขึ้นครับ

ส่วนบัญญัติประการที่เจ็ด 'งดการกินมากสิ่ง' ยิ่งกินหลากหลายมากในตอนน้ำท่วมก็ยิ่งเพิ่มสิทธิ์ป่วยมากขึ้น เพราะความเสี่ยงในการปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรียอย่าง อี.โคไล จากน้ำสกปรกมีมากในช่วงนี้ครับ

นอกจากนี้ บัญญัติข้อแปดให้ 'พักสมองด้วยการลองพักเสพสื่อน้ำท่วมเป็นระยะ' กำหนดเวลารับข่าวต่อวันเป็นรายชั่วโมง เพื่อลดความเครียดสะสมจากการจมอยู่กับข่าวที่น่าหดหู่

และข้อเก้า 'ล้างมือล้างเท้าเป็นประจำ' เพราะเป็นทางด่วนนำเชื้อน้ำท่วมเข้าตัวที่สำคัญ แค่ล้างมือ-เท้าอย่างเดียวยังไม่พอขอให้ซับแห้งทุกครั้ง จะได้ไม่ดูดเชื้อโรคเข้ามาเกาะง่าย

บัญญัติสุดท้าย 'ล้างปากแปรงลิ้นและแปรงฟันทุกวัน' ไม่ว่าจะติดน้ำนานแค่ไหนเพราะช่องปากเป็นปราการด่านสำคัญที่รับเชื้อเข้าทางเดินอาหาร,เข้าหลอดเลือดและเข้าหัวใจได้

แต่ที่สำคัญนอกเหนือจากบัญญัติทั้งหมดที่กล่าวมา นพ.กฤษดา เน้นเพิ่มว่า 'อย่าลืมรัก' คือความเมตตาที่มีให้กัน หากมองตากันด้วยสายตาแห่งรักที่คิดว่าจะช่วยอะไรกันได้บ้าง จะเห็นสายน้ำงามได้แม้ในห้วงทุกข์สาหัส.

takecareDD@gmail.com นสพ.เดลินิวส์




 

Create Date : 01 พฤศจิกายน 2554   
Last Update : 1 พฤศจิกายน 2554 15:11:35 น.   
Counter : 1158 Pageviews.  

7 วิธี ดูแลผิวสวยใสในหน้าหนาว


เมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูหนาว อุณหภูมิจะลดลง ความชื้นในอากาศจะลดลง ทำให้อากาศรอบๆตัวเราแห้ง น้ำในผิวหนังจะระเหยผ่านผิวหนังออกมาสู่บรรยากาศ ดังนั้น คนที่ไม่ดูแลผิวหนัง ปล่อยปะละเลย จะเริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติเร็วมากกว่าคนที่มีสุขภาพผิวสมบูรณ์ ที่เห็นชัดๆ ก็คือผมจะหวียาก คันหนังศีรษะ แห้ง กระด้าง ริมฝีปากจะแห้งเป็นร่อง เป็นขุย เจ็บ ผิวหนังก็จะแห้งเป็นขุย คัน มีผื่น บางคนเกาเป็นแผลมีสะเก็ด ใส่เสื้อผ้าแล้วเจ็บ มีไฟฟ้าสถิตดูดเสื้อผ้า แต่ยังไม่สาย เพราะเรามี 7 วิธี ที่จะทำให้คุณมีผิวสวยใส ในฤดูหนาวมาฝากกัน

1. อย่าทำให้ผิวแห้งมากขึ้น อย่าทำลายสารเคลือบผิวธรรมชาติของเราได้แก่ อย่าอาบน้ำร้อน อย่าใช้สบู่แรง ควรเลือกใช้สบู่ที่เป็นกรดอ่อน ไม่อาบน้ำบ่อยเกินไป เลี่ยงการขัดผิว พยายามใช้โลชั่น ครีมหรือออยทาหลังอาบน้ำเสร็จทุกครั้งและระหว่างวัน
2. เลือกแชมพูสระผมอ่อนๆ และควรใช้คอนดิชันเนอร์ทุกครั้งหลังสระ เพื่อปรับสภาพปะจุไฟฟ้า ผมไม่ชี้ฟู หวีง่าย
3. ทาวาสลินริมผีปาก เท้า มือ บ่อยๆ
4. ใส่เสื้อผ้าปกปิดมิดชิด เพื่อลดการสัมผัสกับความแห้ง เป็นการลดการเสียน้ำจากผิวหนัง
5. หลีกเลี่ยงแดด ลมแรง ใช้โลชั่นหรือครีมกันแดดสม่ำเสมอ
6. การใช้ยาบางชนิด อาจทำให้ผิวเกิดการระคายเคือง เช่น ยารักษาสิว ถ้ามีโรคประจำตัว เช่น ความดัน ไขมัน และทานยาลดไขมัน ยาขับปัสสาวะ ทำให้ผิวแห้งมากขึ้นได้ จำเป็นต้องดูแลมากกว่าปกติ เช่นเดียวกับผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีผิวแห้งอยู่แล้ว ถ้าดูแลแล้วยังเอาไม่อยู่ เกิดอาการคัน มีผื่น รีบพบแพทย์ผิวหนังรักษาแต่เนิ่นๆ
7. ทานผักผลไม้ทานน้ำให้มากๆ งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ชา กาแฟ


... แล้วฤดูหนาว จะเป็นฤดูกาลที่มีความสุข ถ้าคุณดูแลสุขภาพผิวพรรณ


นพ.ธัญธรรศ โสเจยยะ
อายุรแพทย์โรคผิวหนัง รพ.วิภาวดี





 

Create Date : 01 พฤศจิกายน 2554   
Last Update : 1 พฤศจิกายน 2554 15:11:03 น.   
Counter : 1659 Pageviews.  

แฟชั่น "ชุดแฟนซีน้องหมา" สุดน่ารัก


1. Three Headed Dog



2. Chinese Food Dog



3. Metro Card Dog



4. Fast Food Dogs



5. Wolfgang Pup



6. Bridal Party Dogs



7. Eaten By An Anaconda Dog



8. Silence Of The Lambs Dog



9. Pot Roast Dog



10. Orange Juice Dog



11. iPhone Dog



12. Millipede Dog



13. Cinco De Mayo Dog



14. Skunk Dog



15. Mermaid Dog



16. Flying Monkey Dogs



17. King Mutt



18. Hooters Dog



19. Eeyore



20. Oscar



21. Indiana Jones Dog



22. Lego Dog



23. Marie Antoinette



24. John Deere Dog



25. ?
(ชุดดีอ่ะ คิดไม่ออก)


ที่มา buzzfeed.com




 

Create Date : 01 พฤศจิกายน 2554   
Last Update : 1 พฤศจิกายน 2554 15:10:33 น.   
Counter : 2017 Pageviews.  

มาทำ "ข้าวกล่องแองกี้เบิร์ด" กันเถอะ

วัตถุดิบที่ใช้
1. ข้าวญี่ปุ่น หุง 1+ 1/2 ถ้วย
2. แครอท
3. ฟักทอง
4.ไข่ไก่
5 สาหร่ายทะเลแผ่นใหญ่ 1 แผ่น
6.น้ำส้มสายชู+น้ำตาล+เกลือ
7. สีจากธรรมชาติ หรือสีผสมอาหาร

ข้าวญี่ปุ่นมีความเหนียวพอเหมาะที่นำมาปั้นเป็นรูปทรงได้ง่ายกว่า หากใช้ข้าวหอมมะลิที่มียางข้าวเยอะหน่อย หุงให้นิ่มก็ใช้แทนได้เหมือนกัน
ตักมาร้อนๆ ผสมกับน้ำส้มสายชูน้ำตาลเกลือที่เตรียมไว้ หากจะใช้สีผสมอาหารก็หยดลงไปในนี้ก่อนจะผสมกับข้าว
ใช้สีจากธรรมชาติ สีแดงใช้ซอสมะเขือเทศ สีเขียวใช้น้ำใบเตย สีน้ำตาลใช้ซีอิ้วดำค่ะ

มาเตรียมหน้าตาของเจ้านกหน้าดุกัน เริ่มจากเอาสาหร่ายมากดกับตุ๊ตตู่ที่ซื้อมาจากร้านขายของญี่ปุ่น ตรงส่วนลูกตาเนี่ยใช้กรรไกรตัดยาก เพราะมันเล็ก ตัดแล้วเบี้ยวไป ตาเขซะงั้น ใช้ตุ๊ดตู่ช่วยจะง่ายขึ้นเยอะค่ะ
ลูกตาเป็นไข่ขาวที่ทอดด้วยไฟอ่อนตัดให้กลมๆ ส่วนจมูกกับหูหมู ใช้ก้านบล๊อกเคอรี่มาตัดค่ะ

ตัวช่วยในการทำดอกไม้อย่างง่ายๆ เป็นสเตนเลสขอบคมที่หาซื้อได้ตามร้านอุปกรณ์ครัว อันละสิบกว่าบาทเอง

พอเตรียมของแล้วก็เริ่มปั้นกันเลย ข้าวนี่ควรปั้นตอนอุ่นๆ หากทิ้งไว้จะปั้นยากได้ค่ะ

เคล็บลับคือ ก่อนปั้นเอามือจุ่มน้ำให้เปียกแล้วค่อยปั้นข้าว จะทำให้ข้าวไม่ติดมือ เห็นอ่างข้างล่างนั่นไหมคะ นั่นแหละค่ะเคล็ดลับ พอปั้นแล้วข้าวเริ่มติดมือก็รีบเอามือไปจุ๋มน้ำเลย
แต่ถ้าเปียกมากไปข้าวแฉะ ปั้นไม่ได้ไม่รู้ด้วยนะ เอาแค่พอดีๆ นะคะ

เจ้าลูกกลมๆ สีดำๆ นั่นก็ทำไม่ยากเลย แถมอร่อยด้วย แค่ตัดสาหร่ายมาหน่อยนึง ตักข้าวมาปั้นให้เป็นก้อนเล็กๆ แล้วห่อด้วยสาหร่าย บีบและจัดทรงเป็นก้อนกลม เอาน้ำมาแตะๆ ให้สาหร่ายเชื่อมกัน กลายเป็นลูกหินสีดำประดับกล่องข้าว

เจ้านกหน้าดุกับหมูขี้ขโมยนี่ปั้นไม่ยากเลย แค่ปั้นให้กลมๆ แล้ววางตาหูจมูกปากลงไปก็เสร็จแล้วล่ะค่ะ

เบนโตะครั้งนี้เป็นข้าวล้วน ไม่มีเนื้อเลย พอดีมีกับข้าวแยกต่างหาก คราวหลังคงต้องหาวิธีนำกับข้าวมาอยู่ในกล่องเดียวกันซะแล้วค่ะ


ลองไปทำดูกันนะคะ เสียเวลานิดนึงแต่เพลินมาก ทั้งตอนทำและตอนกินค่ะ

Credit ://allahome.wordpress.com : by - Beambongga-




 

Create Date : 01 พฤศจิกายน 2554   
Last Update : 1 พฤศจิกายน 2554 15:09:17 น.   
Counter : 3034 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  

tukdee
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 51 คน [?]










ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


[Add tukdee's blog to your web]