Group Blog
 
All blogs
 

Review : กำจัดขนรักแร้ถาวร ด้วยเครื่องTKS Laser by Doctor Younger Clinic

  สวัสดีค่ะสาวๆ วันนี้เช่มีรีวิวที่ตั้งใจมาเขียนมากกก เพราะใช้เวลาติดตามผลมากที่สุด
นั่นก็คือการเลเซอร์ขนรักแร้ ขอบอกไว้ก่อนเลยว่าเช่เลเซอร์ขนรักแร้ที่Doctor Younger Clinic
เป็นครั้งที่2แล้ว ซึ่งรวมเวลาตั้งแต่ทำครั้งแรกจนถึงปัจจุบันคือ3เดือนเกือบ4เดือนเลยทีเดียว
ในการทำครั้งนี้เช่ใช้เทคโนโลยี TKS Laser (Thermokinetic Selectivity:TKS)
โดยเช่เข้ารับบริการที่ สาขาTerminal 21 พี่ๆพนักงานประจำสาขาน่ารักมาก บริการเป็นกันเอง
ให้คำแนะนำทั้งก่อนทำหลังทำตลอด ของเช่คือแพทย์หญิงณัฐพร อริยธนสุนภรณ์ ที่คอยดูแลค่ะ
ทุกการทำเลเซอร์หรือการรักษา ทางDoctor Younger Clinic จะมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน
อย่างแท้จริงรักษาเท่านั้น ดังนั้นจึงมั่นใจในความปลอดภัยและได้มาตราฐานได้แน่นอน 



 เชื่อเถอะว่าปัญหาเรื่องขนรักแร้ของผู้หญิง เป็นเรื่องที่กวนใจมากที่สุด เช่เองกำจัดขนมาหลายวิธี
เช่นการถอน การWax การโกน ซึ่งทุกอย่างที่ทำมามีผลเสียคือ เกิดขนขุด เป็นตุ่ม อักเสบบ้าง
ทำให้หมองคล้ำ และยิ่งการโกนจะรู้สึกได้ว่าขนขึ้นไวมากและดำขึ้น เวลาใส่เสื้อผ้าก็ไม่มั่นใจ

วิธีการจำกัดขนต่างๆ
การจำกัดขนมีทั้งแบบถาวรและไม่ถาวร ส่วนใหญ่มักแก้ปัญหาไม่ตรงจุด บางวิธีเจ็บและ
เกิดอาการอักเสบ ซึ่งทำให้ขนกลับงอกขึ้นมารวดเร็ว ตามธรรมชาตินั้นจะมีส่วนประกอบ
ที่ทำให้ขนงอกออกมาใหม่ได้คือ Bulge และBulb การจำกัดขนบางประเภทไม่สามารถทำลายได้
ซึ่งปัจจุบันได้มีเทคโนโลยีมากมาย เช่นการกำจัดขนถาวรด้วย Gentle Yag และIPL 
ใช้วิธีการส่งคลื่นลงไปทำลายเส้นขน แต่สามารถจับได้เพียงขนเส้นหนา หรือเส้นใหญ่ๆ
ส่วนขนเส้นบางไม่ค่อยได้ และคลื่นจะไม่สามารถลงลึกไปทำลายถึงรากขนได้ ซึ่งจะเหมือนเป็นการเผาทำลายได้เพียงพื้นผิวเท่านั้น จึงต้องรับการยิงเลเซอร์บ่อยครั้งเพื่อให้ขนที่บางๆหายไป

TKS Laser  (Thermokinetic Selectivity : TKS)
เทคโนโลยีTKSก็เป็นเทคโนโลยีกำจัดขนอีกประเภทนึง วิธีการคือดูดซับแสงของเม็ดสีในเส้นขน
เป็นตัวนำพาความร้อนของเลเซอร์ให้ลงลึกเข้าไปทำลายส่วนประกอบในการเกิดขนใหม่
นั่นคือBulgeและBulbให้หมดไป เป็นการทำลายลึกลงที่รากขน เส้นขนจึงไม่งอกใหม่



เช่ได้ทดลองทำเลเซอร์ขนครั้งแรก จึงทราบว่าการทำเลเซอร์ขนไม่ได้จบแค่ครั้งเดียว 
ต้องใช้เวลาค่อยเป็นค่อยไป ดังนั้นจึงไม่แปลกใจว่าทำไมเรามักจะเห็นครอสขายในราคาที่ถูกกว่า
การทำครั้งเดียว คุณหมอได้แนะนำว่าการทำครั้งแรกจะเห็นผล แต่ขนยังไม่หมดไป ต้องทำต่อเนื่อง
สัก5ครั้ง จะทำให้ขนที่งอกขึ้นมาใหม่หมดไป บางคนใช้เวลาเป็นปีกว่าจะมีขนขึ้นมาอีก
และขนที่ขึ้นมาใหม่ก็เป็นขนบางๆอ่อนๆ ไม่ได้เป็นเส้นดำหนาแบบที่เราเป็นก่อนทำเลเซอร์แน่นอน

ก่อนทำเลเซอร์ควรเตรียมตัวอย่างไรบ้าง
แนะนำว่าอย่าถอนขน เพราะไม่อย่างนั้นจะไม่มีรากขนเพื่อดูดซับแสง ควรปล่อยให้งอกปกติ
และใช้การโกนเอาจะดีกว่า เพื่อจะได้มีตัวนำพาเลเซอร์เข้าไปกำจัดต้นตอของปัญหา



ในการทำครั้งแรกได้โกนขนทิ้งหมดแล้ว สังเกตุได้ว่าภาพแรกจะเห็นจุดดำๆ นั่นคือเส้นขนที่หนา
มีขนคุด และโดยรอบมีรอยหมองคล้ำกับที่อักเสบ แต่เช่โชคดีที่ไม่มีปัญหาเรื่องเป็นหนังไก่
หลังทำ1ชั่วโมง สังเกตุได้ว่ามีจุดดำๆหนาขึ้น เพราะนั่นคือขนที่อยู่ใต้ผิวหนังจะหลุดออกมา
ขนพวกนี้แค่ดึงก็สามารหลุดออกได้ง่าย แต่คุณหมอแนะนำว่าให้ขนดันตัวขึ้นมาและหลุดไปเอง
หลังทำ2เดือน ขอบอกเลยว่าขนดันตัวออกมาเช่ก็ดึงหลุดบ้าง โกนออกบ้าง แต่ๆๆๆขนใหม่
แทบไม่ขึ้นมาเลย ประมาณเดือนนึงถึงขึ้นมา สังเกตุได้ว่าเล็กลงไปนิดนึงและไม่มีอาการขนคุด
อักเสบแต่อย่างไรเลย ครอบ2เดือนเช่จึงไปที่คลีนิกเพื่อเลเซอร์เป็นครั้งที่2  



ก่อนทำเลเซอร์ครั้งที่2 สังเกตุได้เลยว่ามีตอขนอยู่ ถึงโกนแล้วก็ยังเป็นจุดดำๆแต่ไม่มาก 
ไม่อักเสบเหมือนก่อนทำครั้งแรก พอขนเริ่มขึ้นมาใหม่ก็ต้องมาเลเซอร์ย้ำเป็นครั้งที่2
หลังทำเลเซอร์1ชั่วโมง ผลก็เป็นเหมือนรอบแรกคือรากขนข้างใต้ดันออกมาทำให้เป็นจุดเข้ม
หลังทำก็สามารถหลุดออกอย่างง่ายดาย เช่ก็ใช้วิธีเดิมคือ โกนบ้างหรือดึงออกบ้าง
ปัจจุบัน บอกเลยว่าตอนนี้ปลื้มมาก พอขนหลุดไปหมดรู้สึกได้เลยว่าขนขึ้นช้า รูขุมขนเล็ก
ไม่มีการอักเสบ ไม่มีขนคุด คือเรียบเนียนขึ้นมาก แต่ก็ยังมีบ้างแค่นิดหน่อยเท่านั้น 
ถึงตอนนี้ใจชื้นขึ้นละว่ายังไงถ้าทำครั้งที่3 4 5 ต้องดีขึ้นกว่านี้แน่นอน ตอนนี้ใต้วงแขนไม่คล้ำ
เหมือนแต่ก่อนแล้ว คุณหมอบอกเช่ว่าทำสัก5ครั้งขนก็จะหายไป และใช้เวลานานเป็นปีกว่าจะขึ้น



มาถึงคำถามที่เชื่อเถอะว่ามีคนคิดแน่นอน เจ็บไหม?ความรู้สึกขณะทำเป็นอย่างไร?
เช่ไม่ได้ทายาชา ระหว่างทำจะมีเจลเย็นทาบรรเทาความเจ็บ ขณะรับบริการจะรู้สึกจี๊ดๆที่ขน
จะเจ็บช่วงที่ขนเส้นหนา อันนี้เป็นของแน่นอนอยู่แล้วนะคะทำใจได้เลย และขณะที่ทำ
จะได้กลิ่นไหม้ของขนด้วย ยังไงก็ต้องมีเจ็บบ้างนะคะ แต่ไม่ถึงขนาดทนไม่ได้แน่นอน เพราะเช่
ไปเลเซอร์ขนขามาเจ็บกว่ารักแร้มากมาย เพราะขนเส้นหนานั่นเอง วิธีการแบบเดียวกัน
ไว้เห็นลอย่างไรเช่จะมาเขียนรีวิวต่อให้ชม สำหรับใครสนใจเลเซอร์ขนขา รอติดตามกันนะคะ

วิธีการดูแลหลังทำเลเซอร์
ทางคลีนิกจะมียาทามาให้ ให้ทาตามคำแนะนำเลยค่ะ และที่สำคัญเลี่ยงแดดจะดีกว่า
เพราะบริเวณช่วงที่ทำเลเซอร์ผิวจะบางและไวต่อแดด ควรดูแลกันหน่อยสักอาทิตย์แรกจะดีกว่า
ทั้งก่อนทำและหลังทำเลเซอร์ จะห้ามแวกซ์ขน ห้ามถอน ใช้วิธีการโกนอย่างเดียว
เพราะไม่งั้นปัญหาขนคุดจะไม่หายไป 

สำหรับใครที่กำลังตัดสินใจอยากเลเซอร์ขน เช่แนะนำว่าทำเถอะค่ะ เพราะชีวิตสะดวกสบาย
กว่าแต่ก่อนมาก ไม่ต้องคอยถอนคอยโกนให้เป็นปัญหากวนใจ ตอนนี้มีความมั่นในในการ
ใส่เสื้อผ้าแขนกุด โดยไม่ต้องกังวลว่าจะเสียบุคลิกภาพ ประทับใจที่สุดเลยค่ะ

** ข่าวดีสำหรับBlogเช่ **
เพียงแค่บอกว่ามาจาก Blog Porscherta ทางDoctor Younger ใจดีให้ส่วนลด50%
จาก8ครั้ง ราคาเต็มอยู่ที่18,000บาท ลดไปเหลือ50% เหลือเพียง 9,000บาทเท่านั้น!!!

Call Center 02-261-3697-8




 

Create Date : 21 สิงหาคม 2556    
Last Update : 22 สิงหาคม 2556 16:47:46 น.
Counter : 28162 Pageviews.  

Review : โปรแกรมAlpha AV กานต์ชนกคลีนิก

 สวัสดีค่ะ วันนี้เช่มีรีวิวเกี่ยวกับคลีนิกและโปรแกรมที่น่าสนใจจากทาง กานต์ชนกคลีนิกค่ะ
เช่มีโอกาสได้รับเชิญจากทางคลีนิกกานต์ชนก ให้เข้าไปร่วมทดสอบโปรแกรม Alpha AV
ซึ่งเป็นเลเซอร์ประเภทนึง ซึ่งตัวเช่เองไม่เคยทำเลเซอร์หน้าอะไรที่ไหนเลย
ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ทำค่ะ พอมาถึงคลีนิกทางพนักงานก็ได้ให้ข้อมูลความเป็นมาของคลีนิก
วิสัยทัศน์ และได้ปรึกษา กับคุณหมอพัฒนะ (ต๊ะ) แบบตัวต่อตัว ปรึกษาเรื่องผิวหน้า
และเจาะลึกถึงโปรแกรม Alpha AV



โปรแกรมAlpha AV
คือนวัตกรรมใหม่ของการดูแลรักษาฝ้า กระ และรอยหมองคล้ำ พร้อมกระชับรูขุมขนในหนึ่งเดียว 
โดยเครื่องเลเซอร์ประเภท Q-Switched Nd:YAG ซึ่งใช้เทคโนโลยีชนิดพิเศษ นอกจากนี้ยังมี
DEO Techhnology ที่ทำให้แสงเลเซอร์ที่ปล่อยออกมาในรูปแบบของ Fractional Q-Switched Nd:YAG Laser ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาคามผิดปกติของเม็ดสีผิวชั้นลึก
รักษาฝ้า กระ ลบรอยสัก  ผลข้างเคียงน้อยกว่าการยิงแบบปกติ อีกทั้งยังมีความปลอดภัย
และได้รับการรองรับรองมาตราฐานจากองค์กรอาหารและยาจากประเทศสหรัฐอเมริกา(US FDA)
ซึ่งกานชนกต์เป็นคลีนิกแรกที่นำเครื่องเข้ามาใช้ในประเทศไทย

คุณสมบัติของโปรแกรม Alpha AV 

- ปรับสภาพผิวให้สม่ำเสมอ รักษาความผิดปกติของเม็ดสี
- กระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน
- ลบรอยสักสีเข้ม เช่น สีดำ สีแดง สีฟ้า สีเขียว 
- รักษาฝ้า กระลึก ปานดำ ปานน้ำตาล หรือริมฝีปากที่คล้ำ 
- ลดปัญหารูขุมขนกว้าง ลดเลือนริ้วรอยเพื่อความยืดหยุ่นของผิว




คุณหมอได้ให้ความรู้เกี่ยวกับโปรแกรมเลเซอร์ ดูสภาพผิว และถามความต้องการของเช่ในการ
รักษาครั้งที่ เช่มัปัญหาคือกระตื้นบริเวณโหนกแก้ม กระแดดประปราย ซึ่งไม่มากมายเท่าไหร่
แต่พวกครีมไวท์เทนนิ่งไม่สามารถทำให้กระตื้นจางลงได้ ในโปรแกรม Alpha AV ลบกระนั้น
จะต้องมีระยะเวลาหลังการรักษา และต้องดูแลอย่างดีหลบแดด ซึ่งจะเป็นแผล และสะเก็ด
แต่เช่ไม่พร้อมรับรักษาแบบต้องมีเวลาดูแล เพราะหลังจากที่ทำเช่ต้องออกแดด
ไม่มีเวลาพักรักษาตัวอยู่ที่บ้าน จึงตัดสินใจทำเบื้องต้นก่อน คุณหมอการันตีว่า
หลังยิงเลเซอร์ผิวขาวเนียนขึ้นแน่นอน เพราะเลเซอร์ตัวนี้ไปลดเม็ดสีบนใบหน้า ซึ่งส่วน
แรกที่เห็นคือ ขนบนใบหน้าจะจางเป็นสีขาวจึงทำให้ใบหน้าดูขาวสว่างขึ้น น่าสนใจมากมาย 



เริ่มขั้นตอนการเลยค่ะ ด้วยการคลีนซิ่งเครื่องสำอาง ทางกานต์ชนกใส่ใจตั้งแต่ขั้นตอนแรก
คือการนวดหน้ากดจุด เพื่อความผ่อนคลายและสบายผิวประมาณ15นาที หลังจากคลีนซิ่งแล้ว
ยังมีการทำOxybrite ซึ่งเป็นการเติมเต็มด้วยOxygen เข้าทำความสะอาดรูขุมขนอย่างล้ำลึกมากกว่าการล้างหน้าปกติ หลังทำรู้สึกสดชื่นผิวหน้ามากๆ ตอนทำรู้สึกจี๊ดนิดๆบริเวณโหนกแก้ม



การทำเลเซอร์ครั้งนี้ไม่ทายาชานะคะ เพราะเช่ไม่ได้ทำลึกขนาดลบรอยสัก แต่ถ้าใช้การลบ
รอยสักที่เม็ดสีมาก ต้องใช้ยาชาเฉพาะจุด แต่กรณีเช่ทำแบบธรรมดา ไม่ได้เจาะลึกขนาดนั้น
แอบกังวลกลัวเจ็บเพราะเป็นครั้งแรกที่ทำอะไรกับบนหน้าโดยที่ไม่ใช้ยาชา TT
คุณหมออนุญาติให้ถ่ายก่อยช่วงเลเซอร์ เพราะช่วงทำจะให้ช่างกล้องออกจากห้อง



มาถึงความรู้สึกขณะรับบริการ คุณหมอลองเทสยิงเลเซอร์ว่าเจ็บไหม เจ็บค่ะหมอ เจ็บค่ะ
คุณหมอจึงค่อยๆลดลงจนรู้สึกว่าพอทนได้ คุณหมอจะทำการเลเซอร์2รอบ รอบแรก
จะทำให้ขนบนใบหน้าจางกลายเป็นสีขาว รอบแรกจะรู้สึกดีดๆจี๊ดๆผิว เพราะเพราะขน
บนใบหน้าเป็นตัวสะท้อนอยู่ ตอนที่ทำยิ่งเป็นช่วงหนวด น้ำตาไหลเล็ดเลยค่ะ TT
แต่รอบสองไม่ค่อยเจ็บแล้ว ชิวมากค่ะ คุณหมอทำทั้งหน้านะคะ ระหว่างทำก็จะมีคุณพยาบาล
คอยประคบเย็นตาม ตอนทำเช่ปิดตา เช่รู้สึกเหมือนอารมณ์เลเซอร์ขนรักแร้ ใครเคยทำน่าจะ
พอนึกออกคือได้กลิ่นไหม้นิดๆ แต่ทำที่หน้าไม่ได้เหมือนกับรักเเร้นะคะ จะรู้สึกซอฟกว่า

ระหว่างทำคุณหมอก็น่ารักค่ะชวนคุยลดการตื่นเต้นตลอด คุณหมอแนะนำว่าเช่ไม่ได้มีปัญหาเรื่อง
ผิวมาก การทำเลเซอร์ไม่ว่าจะเป็นAlpha AV หรือ Facial VL อื่นๆ ให้ทำแค่เดือนละ2ครั้งพอ
เพราะบางที่อาจเชียร์ให้เราทำจนเกินไป คุณหมอน่ารักมากค่ะช่วยแนะนำเป็นกันเอง
ไม่ได้ยัดเยียดหรือโฆษณาอะไรที่โอเวอร์เลย บอกเลยว่าอยากเป็นลูกค้าตามที่ Onn Baby
Beauty Blogger ที่มาร่วมทำโปรแกรมนี้ด้วยกัน แต่ออนเป็นลูกค้าประจำคุณหมอมา 2ปีแล้ว



หลังจากทำเสร็จจินตนาการไว้ว่าหน้าคงแดงแน่เลย TT BBที่เตรียมมาจะกลบรอยแดงมิดไหม
ลืมหยิบคอนซิลเลอร์มาอีก คือจินตนาการไปใกลมาก พอเห็นในกระจกเท่านั้นก็โล่งใจ
ไม่มีรอยแดงหรือรอยอะไรเลย คุณหมอบอกว่าบางกรณีถ้าผิวอาจระคายเคืองหลังทำ
เวลากลับไปที่บ้าน ให้งดสกินแคร์ที่อยู่ก่อน เน้นมอยเจอร์ไรเซอร์ กันแดด และหลบแดดด้วย
เพราะทำให้ผิวไวต่อแดด ให้ดูแล2วันก็โอเคแล้ว หลังทำเช่ได้ลงทรีตเม้น เพื่อลดอุณหภูมิ
บนใบหน้าต่อ ชื่อทรีตเม้นคือ " Cyro Light Therapy " เป็นการผลักวิตามินบริสุทธิ์
(สูตรเฉพาะของกานต์ชนกคลีนิก) ทาบริเวณใบหน้า ช่วยให้ผิวหน้ากระจ่างใส
โปรแกรมนี้จะดูดซับความร้อนจากเลเซอร์ ลดการแดงของผิว ช่วงหน้าผากที่เห็นสีแดงๆ
เป็นที่เจลวิตามินนะคะ ไม่ใช่รอยแดงจากทำเซอร์ค่ะ 



หลังจากกลับห้องมาคลีนหน้าออก คือรู้สึกได้เลยช่วงขมับขาวขึ้น คือตอนแรกมีขนอ่อนช่วงขมับ
แต่เช่ไม่ได้ถ่ายBeforeไว้ เพราะไม่รู้ว่าผลจะแสดงจุดไหน แต่ๆๆๆๆ คุณหมอบอกว่าขน
จะจางและเป็นสีขาว เช่แอบส่องกระจกเห็นเลยค่ะว่าขนบางๆสีขาว เลยหยิบกล้องมาถ่ายรูป
ไม่แน่ใจว่าเห็นไหม ฟลุครูปนึงจากสิบรูป555 พอซูมแล้วเห็นชัดม๊ากกก บริเวณเหนือคิ้ว
ช่วงขมับ ขนบางและเป็นสีขาวชัดเจน พอเราดูรวมๆบนใบหน้าจึงรู้สึกว่าผิวขาวกระจ่างใส
ขึ้นจริงๆ ในกรณีเช่ทำครั้งต่อไปก็จะลึกลงไปใต้ผิวหนังที่เป็นเม็ดสีผิวที่จางลง ทำให้ขาวขึ้น
จริงๆตามที่เค้าเคลมไว้ เวลาแต่งหน้าผิวก็เนียน เครื่องสำอางติดง่ายจริงๆ ประทับใจค่ะ



ผลเป็นที่น่าพอใจและตามที่เค้าเคลมไว้จริงๆ ใครที่อยากลบรอยฝ้า กระ จุดด่างดำ
คงต้องปรึกษาคุณหมอเป็นกรณีๆไป เพราะอาจจะเป็นสะเก็ดแผลหรือต้องมีการระมัดระวัง
เรื่องผิวโดนแดด ส่วนตัวเช่ไม่ได้ทำลึกถึงขั้นนั้น จึงทากันแดดเท่านั้น
ทุกวันนี้ก็ยังรู้สึกผิวเนียนอยู่ ใครสนใจ ลองติดต่อได้ที่ 086-191-1910
www.kanchanokclinic.com www.facebook/lovekcn
คลีนิกกานต์ชนกมีหลายสาขา ลองเข้าดูในเวปไซต์ได้ค่ะ ขอบคุณกานต์ชนกอีกครั้งค่ะ 




 

Create Date : 29 กรกฎาคม 2556    
Last Update : 16 สิงหาคม 2556 21:15:48 น.
Counter : 5453 Pageviews.  

Review : OXY Plus Treatment ทรีตเม้นเพิ่มความขาวใสชุ่มชื้นกับผิวที่Doctor Younger

สวัสดีค่ะสาวๆ ช่วงนี้เช่ติดฝึกงานเลยห่างหายจากการเขียนและการอัพเดตเรื่องราว
ต่างๆไปสักหน่อย เพราะเวลาเช่ส่วนใหญ่ทำงานช่วงเที่ยงวันถึงเที่ยงคืน
เลยไม่รู้จะเอาเวลาตอนไหนมาอัพเดตTT มีหลายอย่างดองไว้มากมาย เช่เองก็กำลัง
พยายามหาเวลาว่างปั่นออกมาทีละบล็อก555 เอาล่ะเลิกบ่น!เข้าเรื่องได้แล้ว 

เดือนที่เเล้วประมาณวันที่24 เช่มีโอกาสได้ไปร่วมทำทรีตเม้นที่ DOCTOR YOUNGER
สาขาTerminal21 ไม่ใช่แค่ทรีตเม้นอย่างเดียว มีพวกเลเซอร์ขนและปรัปรูปหน้า
ก่อนหน้านั้นอีก แต่เช่จะมาอัพเดตและรีวิวในสิ่งที่สามารถทำได้ก่อน เพราะอีก2ตัว
มันต้องใช้เวลาในการสังเกตุผล ซึ่งอาจจะนานแต่เช่คอยเก็บภาพเอาไว้ตลอด



เช่ชอบที่นี่อย่างนึงสำหรับการรีวิวสปอนเซอร์คือ คุณอยากทำอะไร? ไม่ใช่ว่าให้เราทำ
ในสิ่งที่เค้าอยากให้ทำและโปรโมต มันทำให้เราได้แสดงความคิดเห็นแลกเปลี่ยนมุมมอง
และปรึกษาได้ก่อน หลายๆคนไม่กล้าเดินเข้าคลีนิกแบบนี้เพราะกลัวการถูกยัดเยียดคอร์ส
กลัวการเลี้ยงไข้เลี้ยงยาบลาๆๆๆ ใช้ค่ะ!ขนาดเช่เป็นสื่อยังกลัวเลย เช่ต้องการปรึกษา
กับคุณหมอให้เข้าใจอย่างละเอียดก่อนที่จะตัดสินใจทำอะไรลงไปสักอย่างกับใบหน้า 

ก่อนอื่นขอบอกว่าDoctor Youngerก็มีหลายการดูแลไม่ว่าจะเป็นเรือนร่าง ผิวหน้า
เลเซอร์ขน หรือรักษาสิว ที่ดีอีกอย่างคือมีลิสรายชื่อคุณหมอและตำแหน่งในเวป
และไม่ใช่คุณหมอรักษาผิวหน้าแบบเพิ่งจบหน้าละอ่อนแน่นอน



พูดถึงคลีนิกนี้เช่ถือว่าประทับใจและสามารถให้เช่เลือกทำในสิ่งที่เราเห็นสมควรว่า
เหมาะกับตัวเราเอง ปัญหาของเช่คือผิวแห้งบ้างผสมบ้างเพราะพักผ่อนไม่เป็นเวลา
ดูสภาพผิวก็ไม่เป็นสิวง่ายแต่มีรูขุมขนบ้าง ผิวหน้าหมองพอตากแดด(อันนี้สังเกตุตัวเอง)
คุณหมอเลยแนะนำให้เช่ทำ OXY Plus

เช่เลยนัดสาขาTerminal21เพราะเดินทางสะดวกและติดBTS คลิกนิกอยู่โซนญี่ปุ่น
เช่ถ่ายภาพในคลีนิกมาให้ชมเล็กน้อยไม่กว้างและไม่แคบจนเกินไป บรรยากาศสะอาด
แต่ไม่ได้ผ่อนคลายแบบสปาหรือแบบอโรม่า อยากให้เปิดเพลงผ่อนคลายให้เค้าหน่อยจิ่555



OXY Plus
เป็นเทคโนโลยีนำพาเอาอ๊อกซิเจนและเซรั่มบำรุงผิวเข้าสู่ผิวหน้าอย่างล้ำลึก ช่วยในเรื่อง
ผิวขาวกระจ่างใสไม่หมองคล้ำ ขณะทำจะรู้สึกสบายผิวไม่เจ็บ มีประสิทธิภาพสูงในการช่วย
สร้างคอลลาเจนและอิลาสตินเพื่อให้ผิวหน้าอ่อนเยาว์ และเสริมด้วยเซรั่มพิเศษจากอิตาลี
1.Lifting Serum ยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยให้กระชับเต่งตึง
2.Whitening Serum เพื่อให้ผิวเนียนขาวใส ไร้รอยหมองคล้ำ
3.Filling Serum เพื่อเติมเต็มริ้วรอยร่องลึกบนผิวหน้า
..........................................



ขั้นตอนการทำจริงจะล้างเมคอัพออกก่อนให้หมด สำหรับใครไม่อยากแต่งตาก็ขอเค้าเว้น
ช่วงตาช่วงคิ้วได้ แต่เช่ขอให้ล้างออกให้หมดเลยสบายหน้าดีค่ะ เช่ไม่เคยทำทรีตเม้นนานๆ
แบบนี้มาก่อน เคยแต่นวดเท่านั้น ครั้งนี้เลยตื่นเต้นหน่อยๆ อธิบายคร่าวๆคือจะทาเซรั่ม
แล้วใช้เจ้าเครื่องนี่วนๆที่หน้า มันจะปุดๆๆแบบเสียงดังนะ เหมือนดันอากาศ ครั้งแรกที่รู้สึก
แบบจั๊กจี้อยากหลุดขำมาก 555 ส่วนการทาเซรั่มจะค่อยๆทาและทำแบบนี้ทีละส่วนๆ
ไปจนทั่วใบหน้า ระหว่างการทำเย็นสบายม๊ากกก แต่หลับไม่ลงนะเพราะเสียงมันดัง



เช่มีสิวเล็กๆที่คางเกิดจากการทานยาเลื่อนประจำเดือนเพราะจะไปลั้ลลาทะเล แต่หลังการทำ
ทรีตเม้นสิวไม่ได้อักเสบไม่เห่อ นุ่มชุ่มชื้นผิวมากกกกก ผิวไบรท์สุดๆ คือจากผิวล้าๆ
เจอความเย็นความชุ่มชื้นรู้สึกฟิน คิดว่าทำอาทิตย์ละครั้งน่าจะขาวใสขึ้น



หลังจากเช่ทำแล้วเช่ไปทะเลเลยจร้าตากแดดตากลมผิวแขนไหม้เลยนะ ผิวด่างไปเลย
ปกติเวลาตากแดดเช่จะแสบโหนกแก้มสุด แต่รอบนี้ไม่แสบโหนกแก้มเลย 
คือแอบคิดว่าผิวเรามีความชุ่มชิ้นแล้วทากันแดดแบบจัดเต็ม ผิวไม่ไหม้ไม่ลอกไม่แสบ
กลับมาดำลงแต่ไม่มาก โอเคมากมายชอบสุดใครสนใจอยากสอบถามคิดต่อไปดู
สาขา เมกกะบางนา Tel. 02-10514789
สาขา เทอมินอล21 Tel. 02-10807501
สาขา เควิลเลจ Tel. 02-66134202
สาขา สุขุมวิท23 Tel. 02-66570578
สาขา รามคำแหง12 Tel. 02-71621123
สาขา ธัญญะศรีนครินทร์ Tel.02-10861689

02-26136978  info@doctoryounger.com
www.facebook.com/DoctorYoungerFan
www.doctoryounger.com




 

Create Date : 09 มิถุนายน 2556    
Last Update : 22 กรกฎาคม 2556 11:49:52 น.
Counter : 2380 Pageviews.  

Beauty Surgery : กระฉากไขมันจากต้นแขนด้วยVaser Plasma HD

เมื่อ3เดือนก่อนเช่มีโอกาสได้ทำ"Vaser Plasma HD"ช่วงต้นแขน
โดยทางThe Klinique เป็นสปอนเซอร์ให้ สาเหตุที่เช่ตัดสินใจจะทำคือ
1.ตัวเช่เองเมื่อลดน้ำหนักจนหน้าเริ่มตอบขาเล็ก แต่ช่วงท้องแขน
และแผ่นหลังมันไม่ลดตาม เช่ทั้งออกกำลังกายไปด้วยลดได้ช้ามากๆ
2.เป็นกรรมพันธุ์จากทางบ้านอยู่แล้ว เพราะฝั่งบ้านคุณแม่เช่เอง
ก็เป็นลักษณะคล้ายๆกันแบบนี้ การสะสมไขมันช่วงบนเยอะ

Beforeภาพนี้เช่ได้มาจากกล้องพี่พลอยCocoไม่ได้ตัดแต่งอะไรเลย
ท้องแขนกับช่วงปีกแผ่นหลังใหญ่มาก บิดดูไขมันทั้งนั้น น้ำหนักช่วงนั้น53-54ได้
เช่ถือว่าเกณฑ์ปกติ แต่พอแขนใหญ่ถ่ายรูปเหมือนอ้วนไปหมด...รับไม่ได้!

มาฟังเช่เล่าขั้นตอนการทำนะคะ ย้ำว่าใครสนใจจะทำช่วงต้นแขนขอให้ฟัง!!
เช่เล่าทุกขั้นตอนณที่อยู่ในห้อง ตัดสินใจฉีดยาชาเพราะอยากมีสติไว้เก็บข้อมูล


*เข็มที่ใช้เช่เห็นไม่ถนัด แต่ความรู้สึกไม่ใหญ่มาก

สัดส่วนจากคลีนิกวัดให้ก่อนทำคือ
ต้นแขนซ้ายบน 30cm / ล่าง 24cm
ต้นแขนขวาบน 31cm / ล่าง 24 cm
สัดส่วนที่วัดเองปัจจุบันหลังทำ3เดือนคือ
ต้นแขนซ้ายบน 25cm / ล่าง 22cm
ต้นแขนขวาบน 26cm / ล่าง  22.5cm



เล็กลงจริงค่ะหายไปมากด้วย แต่ยังไม่หมดเพราะเวลาเช่แนบแขนแล้ว
เนื้อล้นส่วนนึงมาจากท้องแขน และปีกแผ่นหลัง ตรงนั้นคุณหมอบอกต้อง
หาท่าบริหารยกเอง เพราะช่วงแผ่นหลังแผลหายช้าและเจ็บ

ข้อดีการทำVaser : ไขมันหายออกไปสะใจมาก!สะใจที่สุด! โดยที่ไวมาก
และกว่าไขมันจะสะสมแบบเดิมได้น้อยมาก แต่ยังมีโอกาสถ้าไม่ควบคุมน้ำหนัก
ข้อเสียการทำVaser : หลังทำต้องมีเวลาพักฟื้นอยู่เฉยๆอย่างน้อย1สัปดาห์
ถ้าหลังทำเสร็จออกมาใช้ชีวิตปกติ จะหายช้ามาก เพราะร่างกายไม่ได้พักฟื้น
หลังทำต้องใส่ปลอกรัดแขนเพื่อกระชับ ช่วงแรกจะอึดอัดและเจ็บมากต้องอดทน
คำแนะนำ : 1.ใครกลัวและคิดมากแต่อยากทำ ขอยาคุณหมอกินก่อนเข้าห้อง
คุณจะไม่กังวล ความดันไม่ขึ้น แต่ควรหาคนรับกลับไม่งั้นจะเบลอยา

Before หลังจากทำได้1เดือนกว่าๆ ยังไม่หายปกติเพราะเจ็บแขนอยู่
กว่าเช่จะหายปกติแบบยืดแขนได้ นอนทับแขน ว่ายน้ำ รวมระยะเวลา3เดือนกว่าๆ
ในภาพเช่แนบแขนสุดๆแล้ว ยังมีแอบปลิ้นเล็กๆด้านหลังเพราะช่วงแผ่นหลังไขมันยังอยู่



Q:ตอนทำเจ็บไหม/นานไหม?
ไม่เจ็บค่ะ เพราะคุณหมอฉีดยาชารอบนึง และใช้เข็มผสมยาห้ามเลือด/ยาชาอยู่ในน้ำเกลือ
ถ้าฟังในคลิปจะรู้ว่าการใส่เข็มมี3ขั้นตอน แต่ละขั้นตอนทำหน้าที่ต่างกัน เข็มขั้นตอนแรก
ใส่น้ำเกลือที่ว่า ขั้นสองเหมือนเข็มที่ใช้แสงอัลตราโซนิกสลายเซลไขมัน ส่วนขั้นตอนสุดท้าย
ถึงดูดออกมามีทั้งไขมันและน้ำเกลือในขั้นตอนแรก เวลาประมาณ1.30ชั่วโมง

Q:หลังทำมีรอยฟกช้ำเขียวแดงม่วงเหลืองที่ไหนบ้าง?
1.รอยแผลที่สอดเข็มเข้าไป เย็บแผลเข็มนึงได้ ไม่กว้างมากแต่เป็นแผลเป็น มียาทาให้
2.หลังทำเช่ใช้งานแขนทันที ข้างขวาบริเวณรอบแผลมีรอยแดงช้ำเหมือนห้อเลือด
(ถ่ายรูปเก็บไว้แต่ภาพหาย ถ้าเห็นภาพมันคงน่ากลัวมาก แต่กดไปไม่เจ็บเท่าไหร่)

Q:กว่าจะหายเป็นปกติกี่เดือน?
สำหรับเช่ใช้เวลา3เดือน ก่อนหน้านั้นอาจจะไม่เห็นแผลไม่เห็นรอยฟกช้ำ แต่ถ้าใครมาโดน
หรือมาตีแขนจะเจ็บมาก เหมือนมันช้ำข้างใน ไม่สามารถยกแขนขึ้นแนบหูได้เพราะตึงแขน

Q:เห็นบอกว่าหลังทำเวเซอร์เสร็จเดินชิลต่อได้เลย ไม่เจ็บ?
ที่ไม่เจ็บเพราะยาชายังอยู่ ไม่สามารถเดินชิลได้เพราะถ้าคุณหมอดูดเอาน้ำเกลือออกไม่หมด
มันจะย้อนไหลออกมา ออกมา ออกมา ซึ่งมันทำให้แผลที่หมอเย็บปิดไปเปียกชื้น
ต้องคอยซับน้ำออกมาให้หมด และแผลแห้งมันก็จะสมานกันไว

Q:เวเซอร์ทำตรงไหนได้บ้าง?
ทำได้ทุกที่ที่มีไขมัน ใต้คาง,แก้ม,หน้าท้อง,ต้นขาด้านในหรือนอก,แผ่นหลัง,สะโพก
คุณหมอบอกเวลาทำเวเซอร์ แขนเจ็บน้อยที่สุด แต่เจ็บระหว่างทำจนบางคนต้องดมยาคือ
หน้าท้อง ต้นขา เพราะเส้นประสาทอยู่เยอะ แต่หลังทำถ้าใช้แรงช่วงนั้นมาก ก็จะหายช้า

ข้อมูลการทำเพิ่มเติมคลิกดูที่เว็ปไซต์ The Klinique
ราคามีตามโปรโมชั่นไม่แน่นอน หลายเดือนก่อนคือจุดละ1หมื่นบาท



เช่ไม่ได้สนับสนุนหรือห้ามให้ไปทำ แต่เช่อยากให้ทุกคนลองคิดให้ดีก่อน
การศัลยกรรมทุกอย่าง คิดว่าทำไปแล้วคุณจะพอใจแค่นั้นไหม จะหยุดแค่นั้นไหม
แต่สำหรับเช่พอใจมากกับมันและยอมรับกับผลเสียที่ตามมา เมื่อพอใจแล้วหยุด
เพราะทุกอย่างถ้าเยอะเกินก็ไม่งาม
ถ้าน้อยไปก็ขาดความมั่นใจ สุดท้ายขอฝาก
ให้ลองคิดกันดูนะคะ ใครสงสัยอะไรสอบถามเพิ่มเติมได้ค่ะ

www.theklinique.com




 

Create Date : 03 สิงหาคม 2555    
Last Update : 21 กรกฎาคม 2556 22:12:27 น.
Counter : 3515 Pageviews.  

Beauty Surgery : แชร์ประสบการณ์ฉีดFillerจมูก ที่The Klinique

เมื่อเดือนที่ผ่านมาทางThe Klinique ได้เชิญให้เข้าร่วมMakeover
เป็นการทำครั้งแรกในชีวิตที่เจอแบบหนักๆแบบนี้ ทั้งฉีดฟิลเลอร์ อัลเทอร่า
ร้อยไหม ฉีดโบท็อก ทุกอย่างภายในวันเดียว! ของเช่ดูแลโดยคุณหมอเติ้ลค่ะ



ภาพแรก -ก่อนทำ รีเควสคุณหมอไปว่าอยากเพิ่มช่วงปลายจมูกให้โด่งและ
ยาวลงมาสักนิด หน้าจะได้ไม่ดูแบนแต๊ดเกินไป TT...
ภาพสอง -หลังทำ30นาที จมูกดูแข็งๆเป็นแท่งๆตามแบบในรูปเลย เป็นแบบ
นี้อยู่ประมาณ3วัน วันถัดไปก็จะดูซอฟเป็นธรรมชาติ
ภาพสาม -หลังทำ12วัน เริ่มรู้สึกเริ่มเข้าที่เข้าทาง ขยับได้บีบจมูกเล่นได้อยู่


คลิกดูขั้นตอนการทำกันนะคะ


ช่วงแรกเราจะทายาชาทั้งหน้าเลย เพราะว่าทำหลายอย่าง แต่ถ้าแค่จมุก
ก็จะโบ๊ะยาชาแค่ช่วงจมูกเท่านั้น คุณหมอเริ่มฉีดไล่จากสันลงมา บีบๆปั้นๆ
เหมือนดินน้ำมันก้อนนึงขนจมูกTT ยังไม่รุ้สึกเจ็บอะไรมากมายเท่าไหร่
...........
แต่พอฉีดปลายจมูกเท่านั้นแหล่ะค่ะ ย้ำว่าเจ็บพอตัวเลย น้ำตาไหลพรากๆ
เพราะตรงนั้นส่วนใหญ่เป็นเส้นประสาท คุณหมอบอกเจ็บเป็นเรื่องปกติ!



หลังทำได้เสร็จก็จะมีแท่งเย็นๆมาประคบเอาไว้ พอกลับมาหลังสัก7-8ชั่วโมง
ตรงจุดที่ฉีดก็จะแดงๆบวมๆอยู่ โดยเฉพาะช่วงปลายเพราะว่าฉีดไปเยอะหน่อย




หลายคนบอกว่าบวมช้ำม่วงเขียวอะไรก็ว่าไป แต่ของเช่ไม่เป็นจะแดงๆ
ตรงช่วงปลายเท่านั้น พี่สาวเพื่อนเช่ที่เป็นพยาบาลแนะนำว่า
หลังจากทำให้นอนหนุนหมอนสูงสัก2-3วัน เลือดจะได้ไม่ไปคลั่ง
เช่ก็ลองทำตามดูก็ไม่เขียวไม่ช้ำ ยาที่หมอให้เช่กินแค่2วันแล้วก็เลิก
เพราะไม่ชอบทานยา TT


ครบ1เดือน แต่ก่อนต้องเฉดจมูก แต่ตอนนี้ไม่เฉดก็รู้สึกOK
.................................................................
ฉีดสารอะไรเข้าไป?
Hyaluronic acid หรือ HA เป็นfillerชนิดหนึ่ง มีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำ
ได้มากกว่าน้ำหนักโมเลกุลของมันถึงพันเท่า และมีลักษณะเป็นเนื้อเจล
มีความยืดหยุ่นสูง สามารถใช้ได้หลายอย่าง เช่นเติมเต็มริ้วรอย หลุมสิว ร่องแก้ม
ทำให้บริเวณนั้นเต็มขึ้น HAจะค่อยๆถูกmetabolize ในร่างกายสลายออกไป

อยู่ได้นานเท่าไหร่?
คุณหมอบอกเช่12เดือน ขึ้นอยู่กับการดูแล ทานน้ำให้เยอะๆ หลังจาก6เดือน
มันก็จะค่อยๆยุบไปเองตามกระบวนการธรรมชาติ

แล้วต่างจากซิลิโคนทำจมูกยังไง?
ซิลิโคน
ข้อดี - ราคาถูกกว่า ทำครั้งเดียวอยู่ถาวรได้นานไม่ต้องคอยเติม ทำปลายหยดน้ำได้
ต้องดูฝีมือการเหลาของหมอ หรือเอากระดูกหลังหูมาเพิ่มปลายเอา
ข้อเสีย - ถ้าเป็นซิลิโคนราคาถูกความยืดหยุ่น ความเเป็นธรรมชาติก็จะหายไป มีแผล
เพราะต้องผ่าตัด ดังนั้นต้องใช้เวลาพักฟื้นนานพอสมควรกว่าจะเข้ารูป
ฟิลเลอร์
ข้อดี - ไม่ต้องผ่าตัด ระยะการพักฟื้นน้อยกว่าแบบซิลิโคน จะมีแค่แผลจากรอยเข็ม
ไม่กี่วันก็หาย ได้ความเป็นธรรมชาติมากกว่า บิด/ดึง/งอจมูกได้
ข้อเสีย - ราคาสูงกว่าและไม่อยู่ถาวร 7-8เดือนก็ควรเติมเพิ่มถ้ายังพอใจในรูปทรงนั้น
คิดเฉลี่ยแล้วราคาสูงกว่าซิลิโคนแน่นอน เกิดพังผืด ถ้าเช่จะไปทำแบบ
ซิลิโคน ของเช่จะกลายเป็นเคสงานแก้ทันที สรุปง่ายๆสลายไปไม่หมดนั่นเอง

จะทำแบบซิลิโคนหรือฉีดฟิลเลอร์ดี?
ถ้าคุณมีเป็นคนมีเนื้อจมูกเยอะ แนะนำทำเป็นซิลิโคนดีกว่า อยากได้แบบ
ธรรมชาติปลายหยอดน้ำ ก็ต้องดูที่ฝีมือคุณหมอกับประเภทซิลิโคนที่จะทำ
แต่ถ้าคุณมีเนื้อจมูกน้อย ฉีดฟิลเลอร์ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะอย่างน้อย
มันจะไม่ดูดึงจมูกรั้งออกมามากนัก ไม่เสี่ยงกับปลายจมูกจะทะลุ

บทความดีๆที่อยากให้อ่าน
ตัดสินใจฉีด ต้องถามให้ดีว่าสารอะไร ตัวไหน และศึกษาก่อน รวมถึงปัจจัยอื่นๆ
เช่น สถาบันนั้นๆหรือคุณหมอได้รับการรับรองไหม เคสที่แย่ก็มีเช่นในลิ้งค์ 
//gamesbbclinic.blogspot.com/2012/04/filler.html
............................................................................



สรุปโดยรวม:ส่วนตัวเช่พอใจและชอบในความเป็นธรรมชาติ ไม่ต้องกังวล
หรือวิตกมากมายเวลาบีจมูก แคะจมูกก แต่ถามว่าทำต่อไหม คิดว่าไม่ดีกว่า
เพราะคิดแล้วว่ายังไงถ้าเราทำเป็นซิลิโคนซะทีเดียว แต่เลือกคุณภาพดี
และฝีมือคุณหมอ ก็น่าจะคุ้มกว่าต้องไปฉีดไปเติมเรื่อยๆ

สำหรับเช่จมูก คือสิ่งที่ถ้าคิดจะทำต้องขอคิดนานๆราคาสูงไม่เกี่ยงแต่ขอให้เข้ารูปหน้า
รูปทรงเหมาะสม คุณภาพซิลิโคนต้องดี เพราะจมูกอยู่จุดศูนกลางใบหน้า และมันโดดเด่น
โหนกแก้มสูงกรามบานยังเอาผมมาปิดมาบังได้ แต่จมูกจะเอาอะไรมาบัง
เช่คงรอให้มันสลายไปก่อน อีกสักปีนึงอาจจะกลับมารีวิวแบบซิลิโคน ใช้กระดูกอ่อน
ต่อปลายจมูก มันเป็นสิ่งที่แพลนไว้ในอนาคต แต่ไม่แน่อาจจะมีเทคโนโลยีใหม่ๆมาเพิ่มอีกก็ได้
เพราะสมัยนี้มันเยอะไปหมด บางทีเราเองรู้สึกตามไม่ทัน ^^
................................................
วันนี้ไปแล้วครั้งหน้า มีทั้งBotox ร้อยไหม อัลเทอร่า และที่สำคัญ ไปVaser
กระชากเอาไขมันใต้แขนออก สะใจมาก!อยากแชร์ให้ฟังสุดๆ อย่าลืมติดตามกันค่ะ >.<

ขอบคุณสปอนเซอร์จากทาง The Klinique
//www.theklinique.com/




 

Create Date : 06 พฤษภาคม 2555    
Last Update : 21 กรกฎาคม 2556 22:10:34 น.
Counter : 7528 Pageviews.  

1  2  

porscherta
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 52 คน [?]




Hits Since December 8, 2010!

Free Hit Counter by Pliner.Net
Friends' blogs
[Add porscherta's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.