Group Blog
 
All blogs
 

Review : เซรั่มเมือกหอยทากSnail8 by Siam Snail






สวัสดีค่ะสาวๆ วันนี้เช่ขอหยิบItemใหม่ๆมาอัพเดตกัน เซรั่มเมือกอยทากนั่นเอง
Snail8 by Siam Sanil
  ผลิตภัณฑ์นวัตกรรมการบำรุงผิว พัฒนาและวิจัยคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ไม่มีใครไม่รู้จักส่วนผสมนี้แน่นอน ดังมากๆทั้งไทยและต่างประเทศ ว่าแต่เราเข้าใจเมือกหอยทาก
มากน้อยแค่ไหน วันนี้เช่มีรีวิวและมีบทความสั้นๆที่ให้ความรู้ความเข้าใจเพิ่มเติมกันค่ะ



หลายๆคนคงมีความเข้าใจไม่มากเกี่ยวกับเมือกหอยทาก หลังจากที่เช่ได้ข้อมูลและศึกษามา
จึงมาสรุปเกี่ยวกับเมือกหอยทาก และคุณสมบิติของเค้าดังนี้ค่ะ
เมือกส่วนแมนเทิล คืออยู่ด้านบนของน้องหอยทาก ทำหน้าที่ชโลมผิวปกป้องมลภาวะ ฆ่าเชื้อ
แบคทีเรีย ซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่มีบาดแผล อุดมไปด้วยสารอัลแลนโทอิน ไฮยาลูโรนิก ไกลโคลิก
โปรตีน เปปไทด์จะเป็นลักษณะเหลวใสซึมผ่านผิวหนังได้อย่างรวดเร็ว
เมือกจากเท้า เป็นส่วนที่เราเห็นเวลาน้องหอยทากเค้าเดิน ทำหน้าที่เพียงหล่อลื่นเท่านั้น
โมเลกุลใหญ่กว่า มีผลทำให้อุดตันรูขุมขน

หลายๆคนคงเข้าใจว่าเมือกคือส่วนเท้านี้ที่เอามาสกัด แต่ที่จริงแล้วส่วนของแมนเทิลต่างหาก
ที่มีคุณภาพอย่างแท้จริง และทางSnail8 ก็ใช้ส่วนของเมือกแมนเทิลเท่านั้น



เมือกที่ใช้ในSnail8 เป็นเมือกที่มีคุณภาพคงที่ มั่นใจได้เพราะเป็นเจ้าของ Siam Snail Eco Farm
ฟาร์มหอยทากเชิงนิเวศแห่งแรกของเอเชีย เลี้ยงในสภาวะแวดล้อมและอาการตามธรรมชาติ
ดังนั้นมั่นใจเรื่องความสะอาด ปลอดภัย ได้มาตรฐานสุดๆไปเลย
- ใช้เฉพาะเมือกจากแมนเทิล เหลวใส ซึมเข้าสู่ผิวได้ลึก ฟื้นฟูบำรุงจากภายใน
- เมือกหอยทากจากเขตร้อนชื้นที่ต้องเผชิญความหลากหลายของโรค เชื้อรา และแบคทีเรีย
สายพันธุ์ของไทยจึงผลิตสารเพื่อปกป้องและบำรุงผิวพรรณได้ดีกว่าหอยทากเมืองหนาว
-ใช้เมือกที่มีความเข้มข้นสูงกว่าเมือกอื่นถึง 30เท่า




ผลที่จะเกิดขึ้นกับผู้ที่ใช้ Snail8
ในกลุ่มของวัยรุ่น ริ้วรอยไม่มาก จะช่วยเรื่องการยับยั้งและรักษาสิวไปในตัว ลบเลือนซ่อมแซม
ริ้วรอยต่างๆ ช่วยรักษาฝ้าและผิวขาวกระจ่างใส
ในกลุ่มของวัย30 จะช่วยลบเลือนและซ่อมแซมริ้วรอย ลดความแก่คืนความอ่อนเยาว์ให้ผิว



แพคเกจเป็นขวดแก้วใส ทึบ ควรเก็บไว้อุณหภูมิปกติหลบแสง หรือไม่ก็เก็บไว้ในตู้เย็นคงที่เลย
บีบขึ้นมาหยดนึงตามปริมาณ แต่หัวหลอดเค้าบังทำได้ไม่ดีมาก ขึ้นบ้างไม่ขึ้นบ้าง
แต่ต้องขอชมว่าออกแบบแพคเกจมาดี แค่ดูจากกล่งก็รู้เลยว่าวางแบรนด์ไว้ในระดับพรีเมียม
ยิ่งเป็นแบรนด์คนไทยของไทย ทำออกมาได้อินเตอร์ขนาดนี้ ประทับใจมากค่ะ
แถมยังมีรางวัลการันตีอีกด้วย
1.รางวัลเหรียญทองจากSIIF 2015 ประเทศเกาหลีใต้
2.รางวัลเหรียญทองจากInvention of Geneva 2016 ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
3.รางวัลพิเศษจากAssociation "RHISTC" ในงานInvention of Geneva 2016



เนื้อเซรั่ม บางเบา เนื้อใสและซึมไวมาก ไม่ทิ้งความมันเหนอะหนะ จากที่เคยเข้าใจว่า
อะไรก็ตามที่ชูโรงมาว่าใส่เมือกหอยทาก จะพยายามทำTextureเลียนแบบให้หนืดๆหยุ่นๆ
แต่เซรั่มตัวนี้สกัดมาเข้มข้นสุดๆแล้ว กลิ่นแทบไม่มีเลย คือพยายามดมใกล้ๆมากๆ
ถึงได้กลิ่นอารมณ์แบบแป้งๆนิดนึง แต่น้อยมาก ทาเฉยๆเช่ไม่ได้กลิ่นเลยด้วยซ้ำ



มาดูBefore After

ก่อนอื่นขอบอกสภาพผิวของเช่ก่อน ก่อนหน้านี้เช่เองรักษาสิวอุดตันมาจนหาย ก่อนที่จะมาใช้
Snail8 ผิวเช่เลยค่อนข้างแห้ง แป้งติดยากถ้าบำรุงไม่พอ เช่เลยหยิบSnail8มาทดลอง
แต่ยังต้องใช้มอยเจอรไรเซอร์ตัวอื่นตาม เพราะไม่งั้นตอนกลางคืนผิวเช่แห้งสุดๆ

ผลหลังการใช้งาน1เดือน
สิ่งที่รู้สึกได้คือผิวแน่น กระชับฟูๆดี แต่เรื่องความขาวใสยังมองไม่ออกเท่าไหร่ แต่ถ้าไม่แต่งหน้า
จะมีคนทักว่าผิวใส รอยแดงเวลาเช่ไปดูดสิวเสี้ยนบริเวณจมูกจะหายไวกว่าเดิม
ช่วยลดการระคายเคืองได้ตามที่เคลม ส่วนเรื่องยับยั้งการเกิดสิวอักเสบ
ตัวเช่เองไม่ค่อยมีปัญหาด้านนี้เลยยังมองไม่ออกเท่าที่ควร



ถ้าใครอยากผิวสวย ของอย่างนี้ต้องขึ้นอยู่ปัจจัยอื่นๆด้วยนะคะ เช่นการพักผ่อน การดื่มน้ำ
การทาครีมกันแดด ไม่ใช่ว่าเราใช้ผลิตภัณฑ์ดีมากแค่ไหนแต่ลืมการใส่ใจอย่างอื่น ผลก็จะเท่าเดิม
เรื่องของการบำรุง ยิ่งอายุเพิ่มขึ้น ยิ่งต้องใส่ใจความชุ่มชื้นของผิว วิธีการใช้Skin care
ในแบบฉบับของเช่ตอนนี้คือ หลังล้างหน้าให้รีบใช้เอสเซ้นหรือโทนเนอร์เพื่อเปิดรับการบำรุงผิว
ตามด้วยเซรั่มของSnail8เต็มหลอด จากนั้นทามอยเจอไรเซอร์อื่นๆตาม แค่นี้ผิวใสแล้วค่ะ



SNAIL8 by Sian Snail บรรจุปริมาณ 15ml. ราคา 1,400บาท
มีช่องทางการจัดจำหน่ายที่
www.snail8.com

................................
สุดท้ายนี้ขอขอบคุณSnail8 by Siam Snail ผลิตภัณฑ์ดีๆมีคุณภาพของคนไทย
ไม่แพ้ของแบรนด์ต่างประเทศเหมือนกันนะคะ สาวๆสนใจคลิกดูที่ลิ้งด้านบนเพื่อสั่งซื้อได้เลยค่ะ




 

Create Date : 27 มิถุนายน 2559    
Last Update : 20 กรกฎาคม 2559 17:38:21 น.
Counter : 6922 Pageviews.  

Review : แป้งเจ้านาง แป้งพัฟคุณภาพแบรนด์คนไทย









  สวัสดีค่ะสาวๆ วันนี้เช่หยิบitemที่เช่ได้มาทดลองใช้สักพักใหญ่ เป็นแบรนด์คนไทยแท้ๆ
ส่งมาให้ลองได้เกือบเดือนนึงแล้ว ไม่มีการเคลมอะไรมาเลย คือขอให้ลองใช้จริงๆ
ชอบไม่ชอบค่อยว่ากัน ชมได้ติได้ไม่ว่ากัน เราเลยโอเค! มาเลยเพราะอยากทดสอบเหมือนกัน



 Perfect Bright UV 2 Way Powder Foundation เช่เรียกสั้นๆว่า"แป้งเจ้านาง"
แป้งผสมรองพื้นสูตรพิเศษ เน้นการปกปิด เกลี่ยง่าย กันน้ำกันเหงื่อติดทนนาน ไม่เป็นคราบ
สีแป้งไม่เปลี่ยนไม่หมองคล้ำระหว่างวัน ช่วยให้ผิวฉ่ำวาวแลดูสุขภาพดี พร้อมด้วยการบำรุง
จากสารสกัดน้ำมันตับปลาฉลาม SPF20 PA+++ และมีเทคโนโลยีSoft Focus อำพรางริ้วรอย
และจุดบกพร่องให้เลือนหายไปในทันที



เช่เองขอสารภาพว่าเพิ่งอ่านคำเคลมตอนที่จะรีวิวบทความนี้แหล่ะค่ะ ตอนแรกได้มาก็หยิบดูสี
แล้วลองเปิดใช้เลย แบรนด์นี้มีมาตรฐาน แจกแจงส่วนผสมชัดเจนเลขที่จดแจ้ง 10-15880046
แบรนด์คนไทยที่วิจัยและพัฒนาโดยนักวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางค์โดยตรง



แพคเกจ  : ตามในรูปเลยค่ะพลาสติกขาวแบบไม่หนา ไม่เคยทำตกแต่คิดว่าอย่าตกดีกว่า
แพคเกจไม่แน่นหนาพอ  กลิ่นแป้งเจ้านางเค้าจะหอมเฉพาะตัวมากๆ แต่เชื่อไหมว่าไม่ได้ใส่น้ำหอม
แต่เป็นกลิ่นแป้งโดยตรงล้วนๆ แบรนด์เค้าเคลมมา ดังนั้นใครกลัวแพ้น้ำหอมตัวนี้สามารถใช้ได้ค่ะ

สี : มี2สี เบอร์01สำหรับผิวขาว เบอร์02สำหรับผิวสองสี ซึ่งเช่เลือกใช้เบอร์นี้ค่ะ



เช่ปาดสีให้ดูที่แขน สีเค้าแน่นชัดเจนดีนะ พูดถึงเรื่องสีของแป้งกันก่อนดีกว่าค่ะ
เช่เลือกใช้เบอร์02 ที่จริงเช่ใช้ได้ทั้ง2สี แต่เบอร์01จะขาวกว่านิดหน่อยและติดชมพูมากกว่า
ซึ่งเช่ไม่ชอบแป้งโทนอมชมพู ชอบอมเหลืองดังนั้นเบอร์02จึงตอบโจทย์เช่มากกว่า



ในส่วนของเนื้อแป้งนั้นนนนน เนียนมากกกกก ไม่อยากเคลมเยอะแต่เนียนมากจริงๆ
กลัวจะหาว่าอวยเค้ามากเกินไปดูภาพดีกว่าไม่ต้องพูดมาก



เช่จะลองแป้งให้ดูกันครึ่งๆหน้า โดยแค่ทากันแดดสีเบจเท่านั้น ไม่มีรองพื้นแต่อย่างใด
สภาพผิวเช่ : รักษาสิวมาเรียบร้อย รอยไม่มี มีแต่รอยแดงรอยกระเล็กๆน้อยๆ
ผิวหลังใช้ : ดูใกลๆเห็นชัดเลยใช่ไหมว่าผิวเนียน และสีเป๊ะมากถ้าเทียบกับผิวตัวผิวคอ



ยังดูไม่ชัดงั้นมารูปนี้ ซูมดูจะเห็นว่าถ้าเช่ใช้รองพื้นหรือคอนจะปิดกระได้กริ๊บกว่านี้
เช่เคลมให้เองแทนแบรนด์ : ตัวนี้เบลอรูขุมขนได้ดีมาก ตบซ้ำหน้าไม่หนาเนื้อยิ่งเนียน
ส่วนที่ผิวแห้งมากๆเช่นหน้าผาก ตัวนี้รอด ข้างจมูกแต่ก่อนเช่ลอกเพราะใช้BHAรักษาสิวเสี้ยน
ตัวนี้เอาอยู่ไม่เป็นคราบแตกระแหง คือมันดีมาก ดีกว่าแบรนด์ไทยบางตัวที่เคยได้ลอง



อ่ะ!ทาหมดหน้าเนียนมะล่ะ ส่วนตัวเช่นะคะ เช่ไม่ซีเรียสเรื่องแป้งเท่าไหร่ขอให้ทาเซ็ทรองพื้นได้
ก็คือโอเค เพียงพอ เช่บ้ารองพื้นแบรนด์มากกว่าถ้าติดตามกันจะรู้ ดังนั้นเช่จึงไม่เสียเงินกับการ
ซื้อแป้งสักเท่าไหร่ ใช้อะไรก็ได้ มีแค่ล่าสุดอยากลองแป้งชาแนลก็สอยมาใช้ แต่จะบอกว่าเค้าแพ้
เจ้านางตรงเรื่องความแมทที่มากเกินไป ชาแนลแห้งแมทเกินผิวเช่ไปนิด เจ้านางเค้าก็ให้ลุคแมท
เช่นเดียวกัน แต่พอทาแล้วก็ไม่ได้แห้งเกินไปจนทำให้ผิวแตก โดยเฉพาะบริเวณร่องข้างจมูก ชาแนลทาแล้วแตกเป็นคราบชัดเจน แต่แป้งเจ้านางไม่เป็นนะคะ ตรงจุดนี้เลยทำให้ประทับใจมาก



ติดทนไหม! ถ้าคุณอยู่ห้องแอร์ 5ชั่วโมงสำหรับผิวผสมมันทีโซน เอาอยู่ค่ะ แต่ถ้าคุณต้อง
ออกแดดเหงื่อออก คุณต้องทัชอัพระหว่างวัน เช่เคยทดสอบประมาณ7ชั่วโมง
จะเป็นภาพแบบขวามือนะคะ เห็นความมันวาวบนผิวไหม นั่นคือเหงื่อและตากแดดด้วย
แต่ขอย้ำ! ว่าสำหรับเช่มันไม่ไหล เคยเห็นคนรองพื้นกับแป้งไหลเป็นคราบไหม ตัวนี้ไม่เป็น
ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับการใช้ประเภทรองพื้นด้วยนะคะ แป้งเจ้านางจะมันวาวเป็นเนื้อเดียวกับ
รองพื้นไปเลย ขอให้ซับๆตบแป้งสักนิดจะได้ลุคแมทตามเดิม



สรุป : ไม่ต้องพูดเยอะ ผ่านค่ะ ลองใช้ให้ใครก็ชอบนะ ราคาตอนนี้โปรโมชั่น 300บาท
ราคาเมื่อเทียบกับคุณภาพแล้วเริศมาก สมเหตุสมผลและไม่แพง สบายกระเป๋าใครก็ซื้อได้
www.facebook.com/chaonangthailand
สนใจคลิกดูที่เฟสบุคเลยค่ะ และถ้าใครอยากดูรีวิวแป้งเจ้านาง ในรูปแบบคลิปHow To
คลิกชมเลยค่ะ ขอบคุณแบรนด์เจ้านางที่ส่งผลิตภัณฑ์ดีๆให้เช่ทดลองใช้ค่ะ





 

Create Date : 26 พฤษภาคม 2559    
Last Update : 27 พฤษภาคม 2559 10:22:49 น.
Counter : 22248 Pageviews.  

Review:รองพื้นคุชชั่นแบรนด์Hi-endที่ปลื้ม13แบรนด์ YSL/Chanel/Dior/impress/Estee/Nars/Shu




สวัสดีค่ะวันนี้ขอไม่เกริ่นอะไรให้มากความ เช่ขอหยิบรองพื้นมารีวิวเฉพาะชิ้นที่ประทับใจ
ในนี้มีของได้ฟรีมาด้วย แต่ส่วนมากคือซื้อเอง เครซี่รองพื้นมากๆ ที่จริงมีแบรนด์hi-end
ที่เช่ได้มาฟรีแต่ไม่ได้หยิบมารีวิว นั่นก็เพราะว่าไม่ค่อยปลื้มนั่นเอง ดังนั้นไม่ต้องกังวล
นี่เป็นความเห็นจริงๆของคนที่บ้ารองพื้นเอามากๆ แอบสะสมมานาน ถึงเวลามารีวิวแล้ว



แต่รีวิวนี้จะไม่ได้เจาะลึกแบบDeep Review เพราะต้องแยกเป็นหลายepisodeเลยทีเดียว
เป็นการเปรียบเทียบสี เนื้อรองพื้น และความคิดเห็นโดยรวมเท่านั้น!
สภาพผิว : ผิวผสม จะมันมากระหว่างวันช่วงT zone มีแต่รอยกระไม่เยอะมาก ไม่มีรอยแดง



ESTEE LAUDER Double Wear SPF10 PA+++ ราคา1,750บาท
คงไม่มีใครไม่รู้จักเนาะ ตัวนี้ใช้กันทั่วหล้าฟ้าเมืองไทย เช่เห็นเมคอัพอาร์ติสหลายคนต้องมี
ขวดแรกเช่ได้รับมาฟรีจากเพื่อนสนิทเช่ค่ะ แต่งตอนรับปริญญา เชื่อไหมคะคุณขา
ทนทายาททั้งวัน รองพื้นเป็นรองพื้น ไม่เยิ้มไม่ลอก นั่นคือแรงบันดาลใจอย่างแรกที่
อยากสอยรองพื้นแบรนด์นี้เพิ่มอีก ออกลูกออกหลานมีอีก2ขวด



มีทั้งหมด3สี เช่ชอบแบรนด์นี้คือ สีโทนเหลืองมีเยอะ ผิวขาวยันผิวคล้ำมีครบทุกโทน
เนื้อของเค้าไม่ได้เกลี่ยยากขนาดนั้น เนื้อที่เทออกมาค่อนข้างเหลว เกลี่ยทีละจุดๆเอา
หลังเกลี่ยเสร็จผิวจะไม่แมทนะคะ บางตัวจะผิวแมทไปเลย แต่ตัวนี้ยังไม่แมทจนกว่าจะลงแป้ง
บางคนบอกเกลี่ยยาก เช่ว่าไม่ได้เกลี่ยยากอะไรขนาดนั้นนะ เรื่องติดทนปกปิดให้ไปเลย10/10
อยากได้ลุคบางๆใสๆก็ใช้ปริมาณน้อยหน่อย แต่ถ้าต้องการให้ติดทนมากๆก็ใช้ปรืมาณมากขึ้นมา
นิดนึงแล้วใช้ฟองน้ำไข่จะช่วยให้เกลี่ยเนียนขึ้นมากๆ มีข้อเสียคือแพคเกจไม่ทำแบบหัวปั๊ม
เวลาเทเกินเทกลับก็สกปรกอีก ทำใจปาดทิ้งหลายรอบเพราะรองพื้นก็มีอายุเช่นกัน
สรุป : ควรมีรองพื้นยี่ห้อนี้สักขวด หรือใครใช้ไม่หมดหาซื้อแบบหลอดเทสเตอร์ก็ได้



REVLON Colorstay ราคา350-550บาท
ไม่Hi-endแต่ไม่พูดถึงไม่ได้ค่ะ นี่คือตัวตายตัวแทนเอสเต้
เรียกว่าฝาดำในตำนาน รุ่นนี้เช่เคยใช้ตั้งแต่เป็นรุ่นเก่าเหม็นๆเป็นแบบเท แต่ตอนนี้เค้าออกแบบ
มาใหม่แล้วนะเออ กลิ่นหายและเป็นฝาปั๊ม แต่ๆๆๆ แอบมีความรู้สึกว่าทำไมมันไม่เหมือนรุ่นเก่านะ



นี่คือรองพื้นที่ราคาถูกกว่าเอสเต้3เท่า และคุณภาพใช่ย่อยนะคะ แต่ๆๆเนื้อเค้าจะเหลวกว่าเอสเต้
และพิกเม้นสีเรฟลอนไม่เท่าเอสเต้ แต่ที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใด ไม่ชอบเรื่องโทนสีเค้า
ชมพูไปไหน มีโทนเหลืองคือเบอร์300 ซึ่งเข้มกว่าผิวไปอีก เบอร์ไหนก็ไม่โอเคกับผิวเช่
ทั้งนั้น แต่เรื่องความทนนี่ติดดาวเลย ติดทนเลยค่ะ แต่ระหว่างวันสีดรอปลง เศร้า!
อาจจะเพราะมันคือโทนชมพูไม่ใช่โทนเหลือง มันเลยดรอปแล้วสีประหลาดๆ
สรุป:เป็นของดีราคาถูก ใครงบไม่สูงหรือไม่อยากซื้อเอสเต้ที่ราคาสูงกว่า สอยเรฟลอนดีกว่า



LUNASOL Water cream foundation ราคา1,800บาท
นี่ก็เป็นอีกหนึ่งลูกรัก กระปุกที่2แล้ว ไม่เปลี่ยนใจถ้าหมดยังไงก็ใช้ต่อ รองพื้นที่มีส่วนผสมของน้ำ
ไม่หนักหน้า ฉ่ำ ปกปิดระดับปานกลาง ที่สำคัญมีแบ่งโทนเหลือง ชมพูชัดเจน แต่สีเข้มสุด
อาจจะไม่ยังเข้มแบบที่คิดไว้ จะบอกว่าเค้าออกแพคเกจมาใหม่เป็นฝาอีกแบบ แต่เนื้อครีม
เหมือนกันรึเปล่าเช่ยังไม่ได้ถามBA ลูกค้าไปซื้อตามแต่บอกมาไม่ดีเท่าของเช่ ตัวครีมใหม่
อาจปรับสูครให้หนืดขึ้น เข้มข้นขึ้น แต่นี่ยังชอบฟีลลิ่งแบบกระปุกนี้อยู่



เนื้อโทนเหลืองสะใจ ฉ่ำมากกกก หลังทารองพื้นเสร็จไม่มีความแมท ต้องหาพวกแป้งฝุ่น
มาตบ นี่ขนาดปาดแล้วทิ้งไว้นานก็ยังไม่แมท ปกปิดกลางๆไม่มากเท่าไหร่ สาวๆผิวแห้งชอบมาก
ช่วงที่เช่ต้องใช้BHAรักษาสิว หรือหน้าแห้งๆไม่สมดุล อยากใช้รองพื้นหยิบตัวนี้ตัวเดียว
เพราะไม่เป็นคราบ ไม่หนา แต่เค้าไม่ทนแดดทนน้ำแค่นั้นเอง ระหว่างวันไม่หมองแต่จมูกมัน!



RMK Creamy Foundation ราคา 1,870บาท

ตัวนี้เช่ใช้มาตั้งแต่เป็นกระปุกไซต์จริง แต่ที่ในรูปเป็นไซต์เล็กเพราะได้WSกับทางRMK
เลยได้มาอีก ไม่รู้ทำไมตัวนี้ไม่ดังเลย แต่ที่จริงแล้วเนื้อเค้าดีงามพระรามแปดมากเลยค่ะ
ขอเรียกเป็นพี่เป็นน้องของLunasolเลยนะ ถ้าให้เลือก2ตัวนี้ก็เลือกไม่ได้อยู่ดีเพราะคนละฟีลกัน



เนื้อเค้าจะข้นจะเข้มกว่า Lunasol ติดทนมากกว่า เกลี่ยไม่ยากเลยสักนิด เนื้อสมูทมาก
ตัวนี้คนผิวผสมน่าจะชอบ ยิ่งตอนเซทตัวจะฉ่ำๆแบบผิวดี๊ดี บวกกับโทนสีที่เป็นสีเหลือง
บอกเลยว่าประทับใจพอสมควร แต่โทนสีรู้สึกว่าไม่เข้มมากเท่าไหร่ รองพื้นฉ่ำๆเช่ชอบ
ของโซนญี่ปุ่นมากกว่าเกาหลีอีก ตัวนี้เป็นตัวที่น่าสนใจแต่หลายคนเมิน ใครไปลองเทสที่เคาเตอร์ดู



L'oreal Lucent Magique ราคา400-500บาท
รองพื้นตัวนี้เป็นอีกตัวที่ชอบ ได้มารีวิวเป็นสปอนเซอร์ค่ะ ที่จริงแล้วไลน์ของlorealมีหลายตัว
รุ่นTrue Matchตัวเก่าน่ะชอบมากใช้จนหมด แต่พอมาเป็นTrue Matchรุ่นใหม่
ที่ออกมาไม่ค่อยประทับใจสักเท่าไหร่ แห้งๆเป็นคราบ ดังนะมีรุ่นนี้แหล่ะที่ปลื้มปริ่มกับเค้า



เนื้อเหลวพิกเม้นสีแน่น แต่พอเกลี่ยไปแล้วก็จะสมูท สีเข้มมากเลยเบอร์G7 แบ่งเป็นโทนชมพู
โทนเหลือง เช่เคยรีวิวแบบDeepไว้แล้วลองกดดูตามลิ้งนี้เลยค่ะ แต่การปกปิดตัวนี้ต่ำมาก
ไม่คุมมัน และระหว่างวันซับก็จะหลุดบ้าง ต้องเติมระหว่างวัน เช่เน้นเอาไปผสมกับรองพื้น
ที่สีไม่ได้ เช่นเรฟลอนฝาดำ จะรู้สึกค่อยยังชั่วสักหน่อย ตัวนี้เหมาะกับคนที่ผิวเนียน ดีอยู่แล้ว
ในระดับนึง แต่ถ้าอยากปกปิดแน่นๆก็เรฟลอนฝาดำ ราคาใกล้ๆไม่ทิ้งห่างกันเท่าไหร่



 NARS Sheer Glow Foundation ราคา 1,400-1,650บาท
NARS All Day Luminous Weightless Foundation ราคา 1,850บาท

ที่จริงแล้วตัวเช่เองชอบSheer Glowนี่คือขวดที่2 แต่ที่เอารุ่นใหม่มาเปรียบเทียบเทียบเพราะ
ว่าได้สปอนเซอร์มา เลยอยากเอามาเปรียบเทียบได้ดูกันว่าตัวใหม่เช่ไม่ค่อยปลื้มเท่าไหร่
รุ่นsheer glowหรือรุ่นโมเมพาเพลินแนะนำโทนเหลืองโทนชมพูก็มี ส่วนรุ่นAll Day
สีคนละชื่อกับอีกรุ่น แพคเกจดีกว่าฝาที่เป็นยางๆไม่เหนอะหนะ รุ่นsheer glowออกแบบแย่
ถ้าใส่หัวปั๊มทำให้ไม่พอดีกับฝา อยากกัดลิ้นตาย ทำไมไม่ทำให้ครบและเพอเฟคไปเลยทีเดียว



sheer Glow ใช้ง่ายไม่เป็นคราบ เม็ดสีแน่น และระหว่างวันโกลวๆแบบแบรนด์ญี่ปุ่น
ใช้แล้วหน้าเนียนนวลผ่องเป็นยองใยถ้าเลือกโทนสีถูก เหงื่ออกยิ่งผ่อง ติดทนกลางๆ ปกปิดกลางๆ
All Day เนื้อแน่นมาก เม็ดสีแน่นมาก แน่นจนตกใจ ไม่ฉ่ำเลย แอบเกลี่ยยากนิดๆ
ตอนที่ผิวแห้งๆไม่หยิบมาใช้แน่นอนเพราะพัง แต่ใครชอบแน่นๆน่าจะชอบ ปกปิดดีมาก
แต่เนื้อพอเกลี่ยจะแห้งเลย คนละฟีลกับEstee สีแทบไม่ดรอป สีตอนแรกเป็นยังไงทิ้งไว้
ก็เป็นแบบนั้น แนะนำให้เลือกสีเดียวกะผิวเป๊ะๆ ตัวนี้ไมค่อยประทับจายยย



CHANEL Teint Innocence ราคา2,000บาท up
CHANEL Perfection Lumiere ราคา2,200บาท

2ตัวนี้สอยมาคนละเวลา ตัวแรกเป็นตลับรีฟิลเช่ซื้อมาจากInternetเลยทำให้ดูสีพลาด
แทบไม่ค่อยได้ใช้เพราะเข้มมาก แต่เนื้อเค้าดีมากจริงๆ ส่วนอีกตัวPerfection ซื้อตามทีหลัง
ที่จริงมีหลายรุ่นที่น่าสน สุดท้ายหวยลงที่ตัวนี้แล้วตามด้วยแป้งมาอีก1ตลับ ราคาโหดร้าย



CHANEL Teint Innocence ฟีลลิ่งเค้าจะเหมือนเนื้อบาร์ม เนื้อดินน้ำมัน ควรใช้คู่กับฟองน้ำ
เกลี่ยไม่ดีเป็นคราบ เพราะค่อนข้างแห้งไว ตัวนี้เนือแน่นมาก เข้มข้นมาก แตะนิดเดียว
ใช้ได้เยอะสุดๆ ไม่ควรใช้มือเกลี่ยเด็ดหาด ขอฟองน้ำไม่ก็ใช้แปรงปาดและฟองน้ำทัชตาม
เคยใช้ทั้งหน้าแบบลุคแทนๆ ทนน้ำเหมือนกันแฮะ ดรอปไหมไม่รู้เพราะสีเข้มมากอยู่แล้ว

CHANEL Perfection Lumiere เนื้อเกลี่ยง่ายสมูทมาก แต่เค้าซึมไว ซึมปุ๊ปแห้งปั๊บ เหมือนแป้งน้ำ
แมทมากก ถูไม่หลุด แต่ปกปิดอยู่ระดับปานกลาง รอยสิวพอได้แต่รอยดำไม่ได้แน่นอน
ยิ่งใช้คู่กับแป้งเค้าจะแมทมาก คนผิวมันน่าจะชอบสีเซ็ทกับผิวไวมากกกก ตอนแรกจะซื้อ
สีที่เข้มกว่า20 เพราะติดนิสัยซื้อเข้ม BAยืนยันว่าลองก่อนเบอร์นี้ก่อน สรุปเข้าท่ามากๆ
ขอบคุณพี่BAจริงๆ ตัวนี้ไม่หมองเหงื่อยิ่งออกยิ่งผ่อง หน้าหนาวไม่อยากลงแป้งตามเลยค่ะ
ดูผิวเนียนๆเรียบๆ ไม่เหมาะกับคนที่ชอบรองำื้นเพื่อการปกปิด ต้องใช้คอนซิลเลอร์ช่วยนะคะ



DIOR SKIN Star ราคา2,000บาท ฟองน้ำซื้อแยก
DIOR SKIN Forever ราคา2,000บาท

ตัวstarหลงใหลในคำเคลมของเค้า ผิวสวยทุกสภวาะแสง แค่ฟังก็เลอค่าแล้ว
ตัวนี้ได้มาใหม่ล่าสุด เห่อสุด แต่พอมานั่งคิดๆดูรุ่นForeverก็ไม่แตกต่างมากสักเท่าไหร่
รุ่นนี้คนใช้เยอะมาก ไม่มีใครไม่รู้จักแน่นอน รุ่นนี้ก็เป็นหนึ่งในใจ หลายรีวิวเปรียบเทียบกันชัดเจน



DIOR SKIN Star ตอนแรกเข้าใจว่าเนื้อน่าจะเหลวกว่า ฉ่ำๆกว่า วาวๆสะท้อนแสงอะไรแบบนี้
แต่ไม่ใช้เลยเนื้อตอนปาดพร้อมกัน2นิ้ว แอบรู้สึกว่าStarหนืดกว่านิดนึง ปกปิดระดับดี
เม็ดสีแน่น ชัด จัดเต็ม 2รุ่นนี้ถ้าให้เช่นิยามจะแตกต่างตอนที่อยู่บนผิวสัก5ชม.
Starจะหลุดง่ายกว่าForever เห็นมีบางรีวิวบอกมีไหล น่าจะจริงเพราะดูแล้วเค้าไม่ทนเหงื่อ
เท่าที่เราคาดหวังไว้ ถ้าพูดตรงๆStarไม่ได้จำเป็นอะไรขนาดนั้นถ้าจะให้เลือก เค้าเหมาะกับการ
แต่งหน้าปุ๊ปออกงานปั๊บ ถ่ายรูปแฟลชเริ่ดๆแบบผิวกระเบื้อง  แต่ถ้านานหรือเหงื่อออก หลุดค่ะ

DIOR SKIN Forever รุ่นนี้เค้าชอบบบ ปกปิดดีติดทน เนื้อสัมผัสจะคนละฟีลกับEsteeที่ว่าติดทน
แต่เค้าจะมีความนุ่นนวลกว่า ผ่องกว่า ยิ่งเหงื่ออกยิ่งผ่อง ซับไม่หลุด แต่แอบไปดูรีวิวหลายท่าน
ก็ไม่ปลื้มบ้าง ขึ้นอยู่กับสภาพผิว บอกไม่ถูกแต่ใช้แล้วรู้สึกผิวผู้ดี๊ผู้ดี กลิ่นOKกว่าesteeเยอะ
ราคาเค้าสูงกว่าEstee แต่ให้ความรู้สึกคนละแบบ ตัวนี้ต้องลองไปเทสดูจริงๆนะ



IMPRESS Liquid Foundation ราคา4,400บาท
ตัวนี้ราคาโหดสุด เมคอัพอาร์ติสมี แบรนด์ญี่ปุ่นที่ใช้มาก็มีเยอะแต่ตัวนี้เค้าต้องมีอะไรดี
ทำไมราคาถึงดีดขนาดนี้ทิ้งห่างแบรนด์ในเครือKaneboไปพอสมควร แต่พอลองแล้ว
ก็มีความรู้สึกว่า เข้าใจแล้วว่าทำไมเค้าแพง แต่ถ้าให้ซื้อซ้ำอีกก็คงไม่



ทาที่ผิวหน้าแล้วนึกถึงกำมะหยี่เลย เนื้อเนียนเซ็ทผิวสวย ใช้ได้ดีกับนิ้วมือ วอร์มครีมให้อุณภูมิ
สูงขึ้นนิดนึงพอทาแล้วจะฟินมาก แต่เบรดเอี๊ยดดดเรื่องการปกปิด ปกปิดไม่มากจัดในระดับ
กลางๆแต่เม็ดสีแน่น เกลี่ยง่ายทาเสร็จแอบสะท้อนแสงเล็กๆ ไม่ทนแดดทนฝน
เคยลองเอาNARS Sheer GlowผสมกับCHANEL Perfection ได้ผลลัพธ์ใกล้เคียงมาก
ตัวนี้จะหยิบมาต่อเื่อผิวช่วงนั้นดี๊ดี อยากแต่งหน้าเพิ่มความแพงให้ผิว หยิบImpressเลย



SHU UEMURA Blanc Chroma cushion ราคา1,700บาท รีฟิลแยกตลับ

ตัวนี้เช่ได้รับมาฟรีค่ะ ช่วงนี้แบรนด์HIหลายๆตัวต่างเปิดตัวคุชชั่นออกมาตามเทรน
แต่ที่จริงแล้วเช่เอชอบคุชชั่นฝั่งนี้มากกว่าฝั่งเกาหลี มีน้อยตัวฝั่งเกาที่ชอบคือEtude Innisfree
ที่รู้สึกว่าเป๊ะ ไม่เยิ้ม หลายๆแบรนด์ลองแล้วมันไหลระหว่างวัน ส่วนคุชชั่นของลุงชู
ทำสีออกมาครอบคลุมดี แต่ส่วนมากจะขาวนะ โทนเข้มก็ยังไม่ถึงขนาดผิว2สีใช้ได้



พัฟเป็นกำมะหยี่จิกเนื้อคุชชั่นได้เยอะมากกก นุ่มมาก แตะนิดๆก็เกลี่ยได้เยอะแล้ว
ส่วนของแพคเกจชอบมากที่ไม่ใช่ฟองน้ำเหมือนลังโคมเลย คือมีแผ่นใยสังเคราะห์รูปแบบตาข่าย
กันการแห้งระเหยของเนื้อได้ดี และคุมปริมาณเหมาะสม เค้าบอกว่าตัวนี้คือsmart cushion



ดูเนื้อสิ่ดีมากกก มันดีมาก ใช้วิธีกดๆห้ามปาด ใช้เสร็จผิวผ่องเหมือนกระเบื้องเคลือบ
ได้ลุควาวๆแต่ปกปิดเนื้อหนา ระหว่างวันผ่องเด้งไม่ดรอป ยิ่งเหงื่อออกยิ่งเด้ง จะมีแค่ช่วงจมูก
ที่รู้สึกว่าหลุดนิดนึง มีทริคนิดนึงตอนผิวแห้งๆห้ามลงคุชชั่น จะดูหนาไม่เซทตัวกับผิว
นี่คือข้อเสียที่ไม่เหมือนแบบเกาหลี ต้องลงคุชชั่นลุงชูตอนที่ผิวชุ่มชื้นจะสวยกว่า



YSL LE CUSHION ENCRE DE PEAU ราคา 2,300บาท
เปิดตัวมาราคาสะพรึงเหมือนกันเนอะ ตัวนี้เช่ได้มาฟรีเช่นกันค่ะ คุชชั่นเป็นอะไรที่เช่จะเสียทรัพย์
เองยากมาก ชอบแบบขวดมากกว่า555 แต่ตัวนี้เห็นบลอกเกอร์หลายคนกรี๊ด เราดูรีวิวไปเหมือน
โดนสะกดจิตหมู่ เออน่าสนน่าลอง ตัวนี้เคลมว่าเหมือนและใกล้เคียงรองพื้นรุ่น
Fusion Ink
เช่ก็มีใช้แต่ไม่ปลื้มเท่าไหร่ ฟีลลิ่งแปลกๆ แต่พอมาเป็นคุชชั่นรู้สึกว่าน่าจะOKกว่า



ตัวนี้เป็นแบบฟองน้ำเหมือนคุชชั่นทั่วไป ไม่ค่อยชอบเพราะแห้งง่าย ต้องพลิกไปมา จะชอบรู้สึก
ว่ามันไม่สะอาดเท่าไหร่ ที่ไม่ชอบคุชชั่นเพราะเค้าจะแห้งไวระเหยไว ปริมาณน้อยกว่ารองพื้น
ราคาเท่ากันถึงแพงกว่า เลยไม่ค่อยเสียทรัพย์กับคุชชั่น แต่แพคเกจของYSLนี่แบบเทใจไปเลย
เลอค่าเลอราคามาก คือหรูดูดีควักมาใช้แล้วพราววว แต่ก็แลกกับราคาที่จัดว่าสูงม๊ากก



เช่ได้เบอร์20 เบอร์ของคุชชั่นแบรนด์นี้ประหลาดมาก สีโดดไปมาสีเข้มกว่าก็ใช้ได้
สาวๆผิวแทนชอบแน่เพราะผิวเข้มสุดนี่เข้มจริงๆ เนื้อเค้าบางเบาปกปิดปานกลางไม่มากเท่าไหร่
เนื้อพอทำมาเป็นคุชชั่นชอบมากกว่าเป็นรองพื้นแฮะ แตกต่างที่คุชชั่นจะมีความวาวมากกว่า
แต่ยังให้ลุตแมท ระหว่างวันมีตกร่องช่วงข้างจมูกบ้างเล็กน้อย แต่โดยรวมฟินนิชลุค
จะรู้สึกว่าผิวสวยผ่องๆ ดรอประหว่างวันเหมือนกันนะ ใครชอบHi-endต้องไปลองสีที่เคาเตอร์ดีๆเลย

-----------------------

หมดแล้วค่ะรองพื้นที่ชอบและหยิบใช้บ่อย ส่วนมากในลิสนี้ก็จะเสียทรัพย์เองมากกว่า
บางตัวที่ไม่เสียทรัพย์เช่นคุชชั่น แต่เอามาลงเพราะเห็นหลายคนน่าจะสนใจกัน
ในรีวิวแต่ละตัวเช่ไม่ได้เจาะลึก แต่จะพยายามสรุปโดยย่อมาแล้ว ขึ้นอยู่กับสภาพผิว
และการดำเนินชีวิตประจำวันด้วย ทำให้ผลการใช้งานของแต่ละคนแตกต่างกันไป
ใครชอบตัวไหนโดนตัวไหนก็ลองไปเทสที่เคาเตอร์ได้ ไม่ต้องกลัว ขอลองแต่ยังไม่ซื้อ
เพื่อเทสเนื้อรองพื้นก่อน เช่ทำประจำค่ะ ยิ่งhi-endสองพันกว่า เช่กลับมาตัดสินใจที่บ้านตั้งนาน
ขอให้เจอรองพื้นที่ใช่ ที่ชอบทุกคนนะคะ สวัสดีค่ะ





 

Create Date : 12 เมษายน 2559    
Last Update : 18 เมษายน 2559 12:26:10 น.
Counter : 6058 Pageviews.  

Review : เจลว่านหางจระเข้ Smooto Aloe-E Snail Bright Gel

  สวัสดีค่ะสาวๆ วันนี้เช่มีผลิตภัณฑ์ใหมๆมาอัพเดตให้ดูกันค่ะ ตัวนี้รับรองถูกใจสาวๆแน่นอน
Smooto Aloe-E Snail Bright Gel ( สมูทโต๊ะ อโล-อี สเนลไบรท์เจล )
หรือเรียกสั้นๆง่ายๆว่าเจลว่านหางจระเข้ ช่วงนี้เช่เห็นหลายแบรนด์ชูผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับว่านหาง
เยอะมากๆไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ต่างประเทศหรือในประเทศ นับไม่ถูกเลยค่ะ



เรามาดูคำเคลมและส่วนผสมของเค้าดีกว่าว่าเด็ดอย่างไร
เจลว่านหางจระเข้ เข้มข้นสูงถึง 99.5% มีส่วนผสมของวิตามินอี และสารสกัดเมือกหอยทาก
เนื้อเจลอ่อนนุ่ม บางเบา ซึมซาบเร็ว เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผิวบอบบางแพ้ง่าย

Aloe vera : ฟื้นบำรุงผิวหลังโดนสารเคมี เลเซอร์ ทรีทเม้นท์ ผิวไหม้จากแสงแดดและมลภาวะ
Vitamin E
: ช่วยให้รอยแผลเป็น รอยสิว จุดด่างดำดูจางลง
Snail secretion
: ฟื้นบำรุงผิวให้แข็งแรง รูขุมขนกระชับ ลดการเกิดสิวผดสิวอุดตัน
Hyaluron
: ฟื้นบำรุงผิวแห้งกร้าน เป็นขุย ผิวขาดน้ำ ให้ความรู้สึกชุ่มชื้นผิว



บางคนอาจจะนึกถึงเจลว่านหางจระเข้เฉพาะเจอแผลร้อนผลุผอง เป็นยาแผนโบราณติดบ้าน
เรามาตั้งแต่ไหนแต่ไร อีกอย่างเนื้อวุ่นว่านหางจระเข้ทานได้และอร่อยมากๆด้วย
ส่วนนำมาใช้เรื่องความสวยความงานก็หลากหลายไม่แพ้กันค่ะ

- สามารถพอกหน้าหลังทำทรีทเม้นท์หรือเลเซอร์ ผิวอาจจะเเสบยุบยิบๆ ตัวนี้เลยค่ะ
- ทาบำรุงผิวกายบำรุงมือและเล็บ ทาข้อศอก ส้นเท้า หัวเข่า ให้นุ่มชุ่มชื้น
- พอกหน้าก่อนนอนทำเป็นSleeping Maskเก๋ๆไปเลย หรือแปะสำลีถุงใต้ตา ผิวคล้ำ อดนอน
-  ทาผิวหลังออกแดด หรือผิวไหม้แดดก็ได้ เช่จะใช้ประจำทาตามซอกนิ้ว เพราะไดร์ผม
ลูกค้าบางทีจะร้อนและพอง เช่ก็จะใช้ตัวนี้โป่ะเลยค่ะ
- ทารอยแผลเป็นสิว หรือรอยแผลเป็นเรียบ แผลเป็นนูน
- สามารถใช้เป็นสกินแคร์หลักทาก่อนแต่งหน้า เมคอัพติดทน ผิวไม่มันค่ะ



มาดูแพคเกจกันค่ะ อย่างที่สาวๆทราบกันว่าSMOTOOออกผลิตภัณฑ์มาจะเป็นแบบซองบีบ
เพื่อการใช้งานที่ง่าย พกพาสะดวก และสะอาด แอบเอาว่านหางที่ปลูกไว้มาเป็นพร๊อบเกร๋ๆ
เห็นไหมคะว่าว่านหางจระเข้สารพัดประโยชน์มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว



เนื้อเป็นเจลสีเขียวเล็กๆ กลิ่นหอมเชียวค่ะ แต่เช่ติว่ากลิ่นน้ำหอมแรงไปนิดนึง
แต่ถ้าทาพอกที่หน้าบางๆ กลิ่นก็จะไม่แรงมากกำลังดีเลยค่ะ



ปาดเนื้อเจลให้ดู เนื้อซึมไวไม่เหนอะหนะ ตอนแรกเช่คิดว่าจะซึมช้า เพราะเช่เคยใช้แบบที่เป็น
หลอดขายที่ร้านขายยา ซึมช้าเเละถ้าเปิดไว้นานกลิ่นเหม็นด้วยค่ะ



ยิ่งแช่ตู้เย็นแล้วนำมาทา สดชื่นมากๆ ช่วยให้รูขุมขนกระชับด้วย เป็นแบบซองนี่ดีค่ะ
พกพาง่ายได้ทุกที่ เดี๋ยวกลางเดือนเช่จะออกทริปทะเลใต้ พกไปใช้แน่นอนค่ะเพราะผิว
เบิร์นแดดแน่นอน กันแดดคงเอาไม่อยู่ ดังนั้นขอบำรุงจัดเต็มแล้วกัน



ผลการใช่งาน
- ที่เห็นชัดๆเลย เช่โดนเคมีฟอกผมกระเด็นเข้าที่คอและทิ้งไว้นาน จนเรื้อรังเป็นแผลไหม้
เช่หาหมอด้วยทายาคุณหมอ เช่ถามคุณหมอว่าสามารถใช้เจลว่านหางเย็นทาร่วมกันได้
หรือไม่ ปรากฏว่าทาร่วมกันได้ถ้าไม่มีน้ำหอมจะดีกว่า เช่เลยลองเอาตัวนี้ทาดู
แผลที่คันๆแดงๆดีขึ้นค่ะ ตามในรูปรีวิวเลย
- ทาผิวหรือพอกหน้า ก็ช่วยให้ชุ่มชื้นนุ่มขึ้นมากๆ ผิวล้าๆเช่ก็หยิบมาพอก ยิ่งเเช่เย็นยิ่งสดชื่น



ใครรู้สึกเหนื่อยล้ากับผิวหน้าที่ลองอะไรมาหนักๆไหม? ผิวแห้งขาดน้ำ อยากจะพักหน้า
ฟื้นฟูผิวใสเต่งตึง ฉ่ำน้ำ เช่แนะนำเลย
Smooto Aloe-E Snail Bright Gel
ราคา 49 บาทเท่านั้นแพงที่ไหนล่ะ! มีจำหน่ายแล้วที่ 7-11 ทุกสาขา
ขอบคุณSmootoที่ส่งผลิตภัณฑ์ใหม่ๆมาให้เช่อัพเดตนะคะ ตัวนี้10/10ค่ะ

www.smootojapan.com
Line : smootojapan IG : smootojapan Youtube: smootojapan
Call center: 02-806-0022, 090-907-1322




 

Create Date : 01 กุมภาพันธ์ 2559    
Last Update : 7 กุมภาพันธ์ 2559 19:06:46 น.
Counter : 4086 Pageviews.  

Review : ครีมลดฝ้าหน้าใส Yanhee Mela Cream จากโรงพยาบาลยันฮี

สวัสดีค่ะ เช่แอบหายหน้าหายตาไปนานมากๆเลย กว่าจะกลับมาทำงานเขียนรีวิวได้
ต้องเรียบเรียงกันนานเลยทีเดียว มาค่ะเข้าเรื่อง!หลายสัปดาห์ก่อนมีโอกาสได้เห็น
ผลิตภัณฑ์ของโรงพยาบาลยันฮีวางขายใน7-Eleven แต่แค่เห็นผ่านๆยังนึกถึงแต่ก่อน
จำได้ว่าสองสามปีก่อนมีครีมของยันฮีติดต่อมา แต่ไม่ได้รับไว้เนื่องจากติดงานตัวอื่น
มาถึงวันนี้สามารถจำหน่ายที่เซเว่นได้เเล้ว ยังคิดอยู่ว่าเค้าประสบความสำเร็จดีแฮะ



ไม่มีสาวคนไหนไม่รู้จักยันฮี เพราะขึ้นชื่อเรื่องศัลยกรรมความสวยความงาม
ตัวเช่เองก็ไปใช้บริการของเค้าเช่นกัน รพ.ยันฮีก็เป็นโรงพยาบาลทั่วไปนะคะ
มีหลายแผนกรักษาปกติ แต่สาวๆอาจจะเข้าใจว่าเค้าทำด้านศัลกรรมอย่างเดียว วันนี้ยันฮี
ออกผลิตภัณฑ์มาใหม่ค่ะ "ยันฮี เมล่า ครีม" Yanhee Mela Cream
 ขนาด 20 กรัม ราคา 149 บาท ใบรับแจ้งเลขที่ 10-1-5823095



คำเคลมที่เค้าเคลมมาโดยย่อคือ “ ครีมทาฝ้ า สูตรเฉพาะของยันฮี เผยผิวกระจ่างใส
ลดเลือนฝ้า กระ รอยสิว จุดด่างดำ ”
* ฝ้า กระ รอยสิว จุดด่างดำ แลดูจางลง
* อุดมด้วยสาร Tranexamic Acid เป็น AHA ช่วยในการผลัดผิวเผยผิวกระจ่างใส



ผลิตภัณฑ์ของเค้าเป็นแบบนี้เลยค่ะ ใส่กล่องบรรจุภัณฑ์มาเรียบร้อย ด้านหลังบอกส่วนผสม
วิธีการใช้ของเค้าคือ ทาบริเวณใบหน้าประจำ วันละ1ครั้งก่อนนอน สามารถทาได้ทุกวัน



ตัวนี้เน้นไปที่การรักษาฝ้าและจุดด่างดำต่างๆโดยมีส่วนผสมหัวใจหลักคือ

* Tranexamic acid เป็นสาร Whitening ซึ่งใช้ในวงการแพทย์เพื่อรักษาฝ้า
* Licorice extract ช่วยให้ผิวขาวใสได้อย่างเป็นธรรมชาติ ปกป้องผิวจากรังสีและมลภาวะต่างๆ
* Tranexamic acid มีผลยับยั้งการสร้าง เม็ดสี ทำให้รอยฝ้าบนใบหน้าจางลง
และสามารถลดรอยแดงจากฝ้าบนใบหน้า โดยไม่มีอาการข้างเคียงที่รุนแรงใด ๆ
* Licorice extract สารสกัดจากรากชะเอม ( Licorice Extract ) สารสกัดชนิดบริสุทธิ์เข้มข้น
มีคุณสมบัติเป็นไวท์เทนนิ่ง ช่วยให้ผิวขาวใสอย่างเป็ฯธรรมชาติ




เนื้อครีมขอบอกเลยว่าข้นมาก ตอนแรกปาดดูที่ผิวคิดว่าหน้าจะหนักผิว แต่พอลองใช้จริงๆ
หลังล้างหน้าเช่จะใช้โทนเนอร์และใช้ครีมของยันฮีทา ปรากฏว่าลื่นผิวไม่หนักไม่มันแฮะ
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเช่ผิวผสม ช่วงโหนกแก้มแห้งและกระก็อยู่ช่วงแก้ม ทาเยอะไม่หนักนะคะ
ทาเฉพาะรอบเย็นก่อนนอนค่ะ สิ่งนึงที่ชอบคือไม่มีกลิ่นน้ำหอม



Before
เช่เป็นรอยสิวตรงจมูกนะ แกะแผลจนเป็นสะเก็ด ถ้าเปลือยหน้าจะเห็นได้ชัดมาก
รอยสิวใต้จมูกก็เช่นเดียวกันมือบอนไปแกะ ส่วนช่วงโหนกแก้มเป็นกระลึก
After รอยดำสิวจางลงไปมากเลยนะคะ ย้ำว่ามาก ตอนนี้ที่นั่งรีวิวอยู่เอากระจกมาส่อง
จางลงแทบจะปกติละ ส่วนกระช่วงโหนกแก้มยังไม่จางสักเท่าไหร่ต้องอาศัยระยะเวลา
และการดูแลมากกว่านี้ ผิวหน้าโดยรวมขาวขึ้นนิดนึง ผ่องขึ้น แต่อาจจะดูเหนื่อล้าเพราะ
ไม่สบายนั่นเอง โดยรวมผิวเช่ถือว่าดีขึ้นมากๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นขอย้ำว่ารอยดำเช่จางไว
โดยปกติเช่เป็นแผลเป็นไม่นานอยู่แล้ว และยิ่งได้ครีมยิ่งหายไว แฟนยังทักว่าจางไวมาก



สรุปโดยรวม ชอบค่ะรอยดำจางลงเห็นได้ชัดมากๆ ครีมไม่มีน้ำหอมด้วย สาวผิวมันอาจจะลด
ปริมาณการใช้สักนิด ใช้เฉพาะจุดด็ได้ เช่เน้นหนักตรงรอยดำรอยแดงสิว และช่วงกระ
ให้เยอะหน่อย ราคาตัวนี้ก็ซื้อได้ง่ายสบายๆกระเป๋าฝุดๆ



สนใจซื้อสินค้าได้ที่ : 7- Catalog on shelf ในร้าน 7-Eleven , Yanhee Shop , Lazada
หรือสั่งผ่านเวป // medocine.co.th หรือ โทร. 02-7847878
ขอบคุณรพ.ยันฮีที่ส่งผลิตภัณฑ์มาให้เช่ทดลองนะคะ




 

Create Date : 15 ธันวาคม 2558    
Last Update : 21 ธันวาคม 2558 16:16:33 น.
Counter : 5599 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  

porscherta
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 52 คน [?]




Hits Since December 8, 2010!

Free Hit Counter by Pliner.Net
Friends' blogs
[Add porscherta's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.