เรื่องดีเป็นทุน….เรื่องวุ่นเป็นกำไร..@@..แต่ตอนนี้ขาดทุนสะสม
 

โรคแพ้ความใกล้ชิด....ใครมีแววว่าได้ติดเชื้อแล้ว !!!!!!!!!

ศัพท์ทางการแพทย์เรียกโรคนี้ว่า
"thinking more than....spectolocomotif"
มีต้นกำเนิดจากประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
พบได้ทั่วไปทั่วทุกภูมิภาคของโลก

แต่ได้รับรายงานส่วนใหญ่ว่า
โรคนี้จะเกิดกับคนที่อ่อนแอทางจิตใจขั้นรุนแรง อาการเบื้องต้นของโรคนี้เริ่มจากเชื้อพาหะจะเข้ามาใกล้
สร้างความสนิทสนมกันตามประสาคนรู้จัก

แต่จะส่งผลถึงคลื่นไฟฟ้าในสมอง
ซึ่งจะแปรเปลี่ยนคลื่นความถี่จากความรู้สึกธรรมดาฉันท์เพื่อน พี่ น้อง ให้เป็นตามที่ใจตนเองต้องการ

ต่อจากนั้น เมื่อเชื้อโรคได้เข้าสู่ร่างกายแล้ว
จะกระจายตัวอย่างรวดเร็วด้วยระยะเวลาอันสั้น


ซึ่งจะแปรตามความสัมพันธ์ที่มีมากหรือน้อยระหว่างผู้รับเชื้อกับผู้แพร่เชื้อ
ยิ่งมีมาก เชื้อก็จะยิ่งแพร่กระจายได้ไกล

โดยที่สภาพอากาศมีส่วนช่วยกระตุ้นให้เชื้อโรคแพร่กระจายได้ด้วย

ฤดูฝน มีคนโทรมาห่วงว่ากลัวจะเป็นหวัด : เชื้อโรคแพร่ไวขึ้น 30%
ฤดูหนาว มีคนสัมผัสมือแก้หนาว : เชื้อโรคแพร่ไวขึ้น 70%
ฤดูร้อน มีคนชวนไปเที่ยวทะเล : เชื้อโรคแพร่ไวขึ้น 25%

อาการของโรคนี้ โดยมากแล้วจะเริ่มจากการคิดเข้าข้างตัวเอง
จากนั้นก็จะเริ่มมีอาการอ่อนแอทางจิตใจมากขึ้นเรื่อยๆ

จะส่งผลกระทบต่อไปถึงชีวิตประจำวัน เช่น ตื่นสายเพราะมัวคุย

ทางองค์การอนามัยโลก
จัดให้เป็นโรคที่อันตรายอีกโรคหนึ่ง

เพราะได้มีผลกระทบต่อทั้งตัวผู้ติดเชื้อเอง
ทั้งร่างกายและจิตใจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ผลการวิจัยของสถาบันการแพทย์ชั้นนำ
ได้ข้อสรุปตรงกันว่า โรคแพ้ความใกล้ชิดนั้น

อาการจะรุนแรงมากหรือน้อยต่างกันขึ้นอยู่กับตัวผู้รับเชื้อเอง
หากเกิดอาการอ่อนแอทางจิตใจยิ่งมีมากเท่าไหร่

อาการของโรคนี้ก็จะน่ากลัวมากยิ่งขึ้น

ผลกระทบจากโรคนี้คือ
เมื่อเชื้อโรคได้แพร่เข้าสู่หัวใจโดยทางเส้นเลือดนั้น
จะทำให้เกิดอาการท้อแท้ หมดหวัง สิ้นหวัง โทษตัวเอง น้อยใจชีวิต

ปัจจุบันนี้ ทางการแพทย์ยังไม่สามารถที่จะหาวัคซีนป้องกันได้
เพราะเนื่องจากเชื้อนี้เป็นไวรัส ไม่สามารถฆ่าให้ตายได้

ทำให้โรคนี้เมื่อเกิดขึ้นแล้ว จะเป็นๆ หายๆ
ไม่สามารถระบุได้ว่าจะเป็นอีกเมื่อไหร่ และจะหายเมื่อไหร่

ขึ้นอยู่กับผลกระทบที่เกิดขึ้นว่ารุนแรงมากน้อยเพียงใด
แพทย์หลายท่านระบุว่า " เวลา"
จะเป็นยารักษาโรคนี้ได้ดีที่สุด :P




 

Create Date : 10 พฤศจิกายน 2550    
Last Update : 10 พฤศจิกายน 2550 8:16:55 น.
Counter : 442 Pageviews.  

ความรักหรือภาวะพี่งพิง

ทันทีที่รู้ว่าคน (ที่เรา) รักจากไปสู่ที่ชอบๆ ...คือไปอยู่กับคนที่เขาชอบมากกว่าเรา และที่ชอบของเขาเป็นที่ไม่ชอบของเรา ไม่ว่าหญิงหรือชายจะเกิดอาการกินไม่ได้นอนไม่หลับ จะเป็นจะตาย
คำพูดที่ได้ยินอยู่เสมอจากปากของคนอกหัก หรือผิดหวังในความรัก คือ "ฉันไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไปอีกแล้ว ฉันอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเขา(หรือเธอ)" ฟังดูแล้วก็รู้สึกน่าเห็นใจ และออกจะเป็นห่วงผู้พูดเพราะเกรงว่าอาจจะคิดทำร้ายคนที่ตนรักและ/หรือทำร้ายตนเองเพื่อให้ตายด้วยวิธีการต่างๆ นานา เป็นการบูชาความรัก คนที่พูดคงจะลืมไปว่าก่อนที่จะพบจะมีเขาหรือเธอนั้น ตนเองก็ยังมีชีวิตอยู่ได้ แล้วทำไมทุกสิ่งทุกอย่างจะต้องจบลงเพียงเพราะ"ขาดเขาหรือเธอไม่ได้" ...จงอย่าเอาคำว่า "รักมากเหลือเกิน" หรือ "ถ้ารักกันแล้วเราขาดกันไม่ได้" มาลวงหลอกใจตัวเอง เพราะนี่คงจะเป็นความเข้าใจผิดเกี่ยวกับความรักที่พบบ่อยที่สุด
ความจริงแล้วคุณไม่ได้รักแฟนคุณหรอกครับ แต่เขาเรียกว่า.... “ภาวะพึ่งพิง” เพราะตราบใดที่คุณยังต้องพึ่งใครสักคนเพื่อความอยู่รอดของคุณ คุณก็ทำตัวเหมือนพยาธิ ในลำไส้ของเขา.... มันทำให้ชีวิตคุณไม่มีทางเลือกและขาดอิสรภาพ มันกลายเป็นภาวะจำเป็นมากกว่าความรัก
Dr.Scott Peck ซึ่งได้เขียนบรรยายเหตุการณ์เรื่องนี้ในหนังสือขายดิบขายดีชื่อ The Road Less Traveled ซึ่งท่านได้ให้แนวคิด เรื่อง "ภาวะพึ่งพิง" (Dependency) ไว้ด้วยความหมายว่า เป็นภาวะที่เราไม่สามารถดำเนินชีวิตโดยปราศจากการดูแลเอาใจใส่จากบุคคลอื่น ในภาวะปกติเราอาจต้องพึ่งพิงขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นในกรณีที่เราได้รับบาดเจ็บ หรือกำลังป่วย แต่หากเรามีสุขภาพร่างกายที่ดีแล้วยังต้องพึ่งพิงผู้อื่นทางจิตใจ เพื่อช่วยให้เรามีความสุข แสดงว่าสุขภาพทางจิตของเรากำลังย่ำแย่ เจ็บป่วยหรือบาดเจ็บ คนที่มีสุขภาพจิตดีจะให้ความรักแก่ตัวเองเป็น และดำเนินชีวิตได้โดยไม่ต้องพึ่งพิงใคร คนที่มีสุขภาพจิตดีจะรู้จักใช้เวลาที่ผ่านไปช่วยเยียวยาบาดแผลให้สมานจนหายสนิท พร้อมภูมิต้านทานทางใจที่มากขึ้น..

Dr.Scott Peck พูดกับคนไข้ด้วยภาษาต้นฉบับ " Love is the free exercise of choice. Two people love each other only when they are quite capable of living without each other but choose to live with each other " ถอดความว่า “ความรักที่แท้ต้องมีอิสรภาพ...คนสองคนจะรักกันได้ก็ต่อเมื่อเขาทั้งสองสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ตามลำพังอย่างไม่เป็นทุกข์ แต่เขาทั้งสองก็เลือกที่จะใช้ชีวิตร่วมกันเพื่อความสุขที่มากขึ้น”




 

Create Date : 06 พฤศจิกายน 2550    
Last Update : 6 พฤศจิกายน 2550 13:45:27 น.
Counter : 425 Pageviews.  

คุณเคยเห็นคนตาบอดไหม

คุณเคยเห็นคนตาบอดไหม

คุณเคยเห็นคนตาบอดไหม คนตาบอดที่เดินไปไหนต่อไหนด้วยกันเป็นคู่
คุณอาจเจอพวกเขาได้ ในที่ที่มีคนอยู่กันเยอะ ๆ เช่น ตลาดนัด
พวกเขาไปที่นั่นเพราะหวังว่า...คงจะมีคนใจบุญไปเดินอยู่ที่นั่นบ้าง
คนสองคน..ที่จับมือกัน...ค่อย ๆเดินกระเถิบไปด้วยกันทีละนิด..ที่ละนิด
เพราะต่างคน ต่างก็มองไม่เห็นอะไรกันทั้งคู่...
นอกจากไม้เท้าคนละอันแล้ว..ในมือพวกเขาถือวิทยุเก่า ๆ เครื่องนึง
กับไมค์อีกหนึ่งอัน..ที่ขาดไม่ได้ ก็คือขันอลูมิเนียม..อาวุธสำคัญที่ใช้หากินอยู่ทุกวัน
บางคนอาจไม่คุ้นหูกับเพลงที่เขาร้องนักหรอก..แต่ก็ดูว่าเขาตั้งใจร้องเหลือเกิน...
และดูเหมือนเขาก็ หวังว่าคุณจะต้องชอบมัน...
ฉันเห็นเขาจับมือกัน. วินาทีนั้น.ทำให้นึกอะไรบางอย่างที่เคยมองข้ามมาตลอด
คุณนึกถึงความรักของ..คนตาบอด..หรือเปล่า
คนตาบอดรักกันได้ยังไงนะ..เพราะคนตาบอดไม่เคยรู้เลยว่า
คนรักของเขามีหน้าตาเป็นอย่างไร..จะรู้จักก็เพียงจิตใจของคนรักของเขาเท่านั้น
เมื่อเขามีความพอใจกันและกัน..ไม่มีเกียรติยศ ศักดิ์ศรี..ให้กังวลใจ
เพราะต่างคนก็ต่างไม่มีสิ่งนี้.ต่างคน.ต่างก็ไม่มีเงิน.ตาสองข้าง ปิดสนิท.แต่เปิดใจเข้าหากัน
คนสองคนที่อยู่ด้วยกัน ด้วย \ ใจ \ ล้วน ๆ…ความรัก...ก็เกิดจากตรงนั้น
คนตาบอด พาคนที่เขารัก ไปด้วยกันทุกหนทุกแห่ง...คนตาบอด ไม่เคยกลับบ้านดึก...
คนตาบอด ออกจากบ้านพร้อมกัน...และกลับถึงบ้านพร้อมกัน..
พวกเขาเคยแยกกันบ้างหรือเปล่านะ
คุณรู้หรือเปล่า..คนตาบอด จับมือของคนที่เขารักไว้ เสมอ ๆ
เกือบตลอดทั้งวัน.. คุณเคยทำอย่างเขาบ้างไหม
₪₪₪₪₪₪₪₪₪₪₪₪₪₪₪₪₪₪₪₪₪₪₪₪₪₪₪₪₪₪
ฉันกลับมานึกถึงความรักของคนที่ตาดี...
หลาย ๆ คน มีเกียรติยศ หน้าที่ การงาน ที่ดีเหลือเกิน...
หลาย ๆ คน ทั้งหล่อ.. ทั้งรวย ทั้งฉลาด...
แต่พวกเราหลาย ๆ คน กลับต้องมาเสียใจเพราะความรัก
หรือว่าพวกเรามองเห็นกัน...เพื่อเรียกร้องสิ่งที่เราต้องการให้มากขึ้น




 

Create Date : 29 ตุลาคม 2550    
Last Update : 29 ตุลาคม 2550 13:34:45 น.
Counter : 537 Pageviews.  

เมื่อแหวนแต่งงานมีสำคัญน้อยกว่าตุ๊กตา 1 ตัว

*******ตัวแทนของความรัก ระหว่างกันอาจไม่ใช่สิ่งของที่มีค่ามีราคาเสมอไป*****ดังเช่นเรื่องของฉัน
***ฉันให้ความสำคัญของแหวนแต่งงานน้อยกว่าตุ๊กตาเพียง 1 ตัวที่เขาตั้งใจหามาให้เมื่อตอนเริ่มมาจีบ******
***ฉันให้ความสำคัญเสื้อยืดตัวหนึ่งที่เขาใส่ มันเหมือนกันมากในความฝันของฉันก่อนที่จะคบกัน มากกว่าข้าวของเครื่องใช้ราคาเพียงอื่น ๆ ***
*****คุณหล่ะเคยให้ความสำคัญเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ พวกนี้ไหม ...เอ หรือเราไร้สาระไป




 

Create Date : 25 ตุลาคม 2550    
Last Update : 25 ตุลาคม 2550 16:38:20 น.
Counter : 485 Pageviews.  

มันหมายความว่าอย่างไร ...รักแท้ชั่วคราว ....หรือแค่เอาชนะ

****เคยไหมที่สามีแอบหอมแก้มภรรยาตอนที่เธอหลับทุกครั้ง****
****เคยไหมที่มีคนบอกว่ายืนอยู่ข้างคุณเสมอ แม้คุณจะไม่เหลือใคร******
****เคยไหมที่เขาบอกคุณว่าคุณเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิต****
****เคยไหมที่เขาเป็นคนต้องการแต่งงานกับคุณให้ได้ และได้แต่งจริง ๆ****
.......สุดท้ายเขาทิ้งไว้ด้วยคำว่า ผมดีใจที่ได้รักคุณ แต่ผมเสียใจที่ไม่สามารถรักษาคุณไว้ได้....ทั้งที่จริงๆ เขาไม่ได้รักษา แต่ทิ้งไปกับคนใหม่ ที่เขาบอกว่าแคร์น้อยกว่าเรา....




 

Create Date : 25 ตุลาคม 2550    
Last Update : 25 ตุลาคม 2550 13:00:23 น.
Counter : 511 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  
 
 

pnkio
Location :
อุดรธานี Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ยินดีต้อนรับนะคะเข้ามาแล้วอย่าลืม Comment ให้ด้วยนะคะ
****ปลาเป็นย่อมว่ายทวนน้ำฉันใด...หัวใจที่ยังไม่ตายก็เอาแต่ใจตัวเองฉันนั้น...เอ๊ะเกี่ยวกันไหมนี่***** ช่วงเวลาสุขช่างแสนสั้น
[Add pnkio's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com