blog สำหรับคนไร้สาระ
Group Blog
 
All Blogs
 

มาดูต้นไม้ที่แปลกที่สุดในโลกกันเถอะ!

ต้นไม้ที่แปลกที่สุดในโลก

1. Baobab
ต้นไม้ที่มหัศจรรย์ที่สุดก็คือต้น Baobab หรือต้นขนมปังลิง! (monkey bread tree) สามารถเติบโตได้ถึง 100 ฟุตและกว้าง 35 ฟุต สิ่งแปลกประหลาดของต้นไม้นี้ก็คือ ภายใต้ลำต้นที่บวมนี้คือ ที่เก็บน้ำที่จุได้มากถึง 120,000 ลิตร ไว้ใช้ในสภาวะอากาศแห้งแล้ง


2. Bristlecone Pine
ต้นสน Bristlecone ถือได้ว่าเป็นต้นไม้ที่เก่าแก่มาก ซึ่งพันธุ์ Methuselah นั้นจัดเป็นต้นไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ที่มีอายุ 4,838 ปี อยู่เหนือระดับน้ำทะเลถึง 11,000 ฟุต



3. Banyan
ต้น Banyan ตั้งชื่อตาม "banians" หรือผู้บุกรุกชาวฮินดูที่ทำกิจกรรมต่างๆ ภายใต้ต้นไม้นี้ และต้น Banyan เคยเป็นบ้านต้นไม้ของโรบินสัน ครูโซมาแล้วด้วย


4. Tule
ต้น Tule เป็นต้นที่ใหญ่ที่สุดในต้นไม้ตระกูล Montezuma Cypress ตั้งอยู่ใกล้กับเมือง Oaxaca ประเทศเม็กซิโก มีขนาดลำต้นโดยรอบ 190 ฟุต (58 เมตร) ซึ่งมีความหนาจนผู้คนพูดว่าแทนที่คุณจะโอบกอดมัน...มันกลับโอบกอดคุณแทน!


5. Pando
ต้น Pando หรือ Trembling Giant ในรัฐยูท่าห์ ประกอบไปด้วยกว่า 47,000 กิ่งก้านสาขาที่แผ่ขยายไปทั่วพื้นที่ 107 เอเคอร์ หนักประมาณ 6,600 ตัน และมีระบบรากแก้วใต้ดินที่ใหญ่โตมาก เฉลี่ยแล้วแต่ละกิ่งก้านนั้นมีอายุประมาณ 130 ปี รวมทั้งระบบของต้น


6. Chapel - Oak of Allouville - Bellefosse
ต้น Chapel - Oak of Allouvill - Bellefosse เป็นต้นไม้ที่มีชื่อเสียงที่สุดในฝรั่งเศส มันไม่ใช่เพียงแค่ต้นไม้ธรรมดา แต่เป็นสถานที่สำคัญทางศาสนาอีกด้วย ในปัจจุบันบางส่วนของโอ๊คต้นนี้ได้ร่วงเลยไปบ้างแล้วตามกาลเวลา แต่ผู้คนที่นั่นใช้เสาและสายเคเบิ้ลในการรองรับต้นไม้เก่าแก่ต้นนี้



7. Coast Redwood
ต้น Coast Redwood ถือเป็นต้นไม้ที่สูงที่สุดในโลก โดยเจ้าต้นที่ชื่อว่า Hyperion ใน Redwood National Park นั้นมีความสูงกว่า 379 ฟุต (115 เมตร) จุดเด่นของมันก็ ต้น Coast Redwood จะประกอบไปด้วยต้นแคลิฟอร์เนียเรดวู้ดยักษ์ถึง 4 ต้น ซึ่งมันใหญ่ขนาดที่ว่าเราสามารถขับรถผ่านได้!


8. Giant Sequoias
ต้น Giant Sequoias ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในต้นไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ปลูกใน เซียร์ร่า เนวาดา รัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งต้น Giant Sequoias ที่ใหญ่ที่สุดคือพันธุ์ Genaeral Sherman ตั้งตระหง่านใหญ่ยักษ์อยู่ใน Sequoia National Park มีลำต้นสูงถึง 275 ฟุต (83.8 เมตร) และหนัก 6,000 ตัน


9. Circus
Axel Erlandson เกษตรกรปลูกถั่วคนหนึ่งได้ดัดแปลงและแกะสลักต้นไม้เป็นรูปร่างและลวดลายที่ แสนมหัศจรรย์จริงๆ เขาได้ตั้งชื่อมันว่าต้น “Circus” นี่คือตัวอย่างเจ้าต้น Circus ที่คิดว่ากว่าจะทำได้คงลำบากน่าดู...



10. Lone Cypress
ต้น Lone Cypress ขึ้นต้องแรงปะทะโดยลมหนาวจากมหาสมุทรแปซิฟิกอยู่ที่ชายหาด Pebble ในมอนทาเร่ รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา แม้จะมีขนาดไม่ใหญ่โตมาก แต่มันตั้งเด่นเป็นสง่า (แบบว้าเหว่) อยู่ท่ามกลางทัศนียภาพที่สวยงามของมหาสมุทรแปซิฟิก




 

Create Date : 02 มีนาคม 2553    
Last Update : 2 มีนาคม 2553 22:20:04 น.
Counter : 477 Pageviews.  

พระราชวังด๊อกซูกุง (Deoksugung Palace)

พระราชวังด๊อกซูกุง (Deoksugung Palace)
พระราชวังต๊อกซูกุง หรือ พระราชวังต๊อกซู เป็นหนึ่งในห้าพระราชวังที่สำคัญที่สุดของ ราชวงศ์โชซอน และ เกาหลี เดิมพระราชวังแห่งนี้เป็นที่ประทับของ องค์ชายวอลซาน พระเชษฐาใน พระเจ้าซองจง หรือ องค์ชายชาซาน โดยในระหว่าง สงครามเจ็ดปี ที่นี่ได้กลายเป็นพระราชวังหลวงโดย พระเจ้าซอนโจ เป็นกษัตริย์องค์แรกที่เสด็จมาประทับที่พระราชวังแห่งนี้และ องค์ชายควางแฮกุน ได้ทรงสวมมงกุฎที่นี่เมื่อ ค.ศ. 1608 (พ.ศ. 2151) และทรงได้เปลี่ยนชื่อพระราชวังแห่งนี้เป็น พระราชวังยอนกุนกุง (경운궁, 慶運宮)ในปี ค.ศ. 1611 (พ.ศ. 2154)หลังจากทางราชสำนักได้กลับไปสร้าง พระราชวังชางด๊อกกุง ขึ้นมาใหม่ในปี ค.ศ. 1618 (พ.ศ. 2161)
พระราชวังแห่งนี้ก็ได้เป็นพระราชวังรองตลอด 270 ปี (ค.ศ. 1618-1888) และได้เปลี่ยนชื่อเป็น ซอกุง (พระราชวังตะวันตก) ต่อมาในปี ค.ศ. 1897 (พ.ศ. 2440) หลังจากเกิดวิกฤติการณ์ทางการเมืองแล้ว พระเจ้าโกจง ได้ทรงลี้ภัยเข้าไปประทับใน สถานทูตรัสเซีย หลังจากนั้นพระองค์ได้กลับมาประทับ ที่พระราชวังแห่งนี้และได้เปลี่ยนชื่อเป็นยอนกุนกุงอีกครั้งหลังจากทรงย้ายกลับมาประทับที่ พระราชวังแห่งนี้แล้วทรงโปรดให้มีการขยายและเพิ่มเติมสิ่ง อำนวยความสะดวกในพระราชวังหลังจากทรงสละราชสมบัติให้ สมเด็จพระจักรพรรดิซุนจง พระราชโอรสก็ทรงประทับที่พระราชวังแห่งนี้และได้เปลี่ยน ชื่อพระราชวังเป็น พระราชวังต๊อกซูกุง จนถึงทุกวันนี้และมีเรื่องเล่าอ้างอิงว่าทรงอธิษฐานให้ทรงมีพระชนม์ชีพที่ยาวนานและทรงใช้พระชนม์ชีพ ้ที่เหลือประทับที่ ฮัมเนียงจอน โดยปัจจุบันนี้พระราชวังต๊อกซูกุงได้เป็นพิพิธภัณฑ์มีสวนป่าและมี พระบรมรูปพระเจ้าเซจงมหาราช




 

Create Date : 02 มีนาคม 2553    
Last Update : 2 มีนาคม 2553 22:10:16 น.
Counter : 554 Pageviews.  

พระราชวังชางเกียงกุง(Changgyeonggung Palace)

พระราชวังชางเกียงกุง หรือ พระราชวังชางเกียง หนึ่งในห้าพระราชวังที่สำคัญที่สุดใน เกาหลี ตั้งอยู่ในกรุง โซล ประเทศ เกาหลีใต้ เดิมเป็น พระราชวังฤดูร้อน ของกษัตริย์ ราชวงศ์โครยอ กระทั่ง พระเจ้าเซจงมหาราช มีดำริที่จะสร้างพระราชวังถวายแก่พระราชบิดาคือ พระเจ้าแทจง แต่ต่อมาในปี พ.ศ. 2026 ในรัชสมัย พระเจ้าซองจง ทรงโปรดให้บูรณะซ่อมแซมและขยายอาณาเขตของพระราชวัง และในปี พ.ศ. 2295 ได้มีกษัตริย์องค์หนึ่งประสูติ ณ พระราชวังแห่งนี้คือ พระเจ้าจองโจ หรือ องค์ชายลีซาน และระหว่างยุคล่าอาณานิคมของญี่ปุ่น พวกญี่ปุ่นได้สร้างสวนสัตว์ สวนสาธารณะ และพิพิธภัณฑ์ไว้ที่นี่ จนในปี ค.ศ. 1983 (พ.ศ. 2526) ได้มีการย้ายสวนสัตว์และสวนสาธารณะออกไปเหลือแค่พิพิธภัณฑ์เท่านั้น

สิ่งก่อสร้าง

1.ฮงฮวามุน - เชื่อกันว่าสร้างในรัชสมัย พระเจ้าซองจง เมื่อปี ค.ศ. 1484 (พ.ศ. 2027) ถูกไฟไหม้ไปคราว การรุกรานเกาหลีของฮิเดโยชิ เมื่อปี ค.ศ. 1592 (พ.ศ. 2035) รัชสมัย พระเจ้าซอนโจ และถูกสร้างขึ้นใหม่อีกครั้งในปีค.ศ.1616 (พ.ศ. 2159) ระหว่างรัชสมัยของ องค์ชายควางแฮกุน
2.สะพานอ๊กชองโจ - สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1483 (พ.ศ. 2026) มีความกว้างทั้งหมด 6.6 เมตรและมีความยาวทั้งสิ้น 9.9 เมตรและ รองรับด้วยเสารูปโค้ง2ต้น
3.เกียงชุนจอน - สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1483 ถูกทำลายในปี ค.ศ. 1592 สร้างขึ้นใหม่อีกครั้งในปี ค.ศ. 1616 แต่ก็เกิดไฟไหม้ขึ้นอีกในปี ค.ศ. 1830 และได้สร้างขึ้นใหม่เมื่อปี ค.ศ. 1834 พระเจ้าจองโจ และ พระเจ้าฮอนจง ก็ประสูติ ณ พระตำหนักนี้

หมายเหตุเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องพระรางวังในเกาหลีนี้ได้มาจาก
1.//www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E7602603/E7602603.html
2.//learners.in.th/blog/korea/131299
3.//www.jpopkpop-music.com/travel/?p=81
4.//www.linethaitravel.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=577280&Ntype=19
5.//www.oceansmile.com/Korea/Index.htm
ซึ่งที่นำมานี้เพียงแต่ทำส่งเอาคะแนนนะคะ




 

Create Date : 02 มีนาคม 2553    
Last Update : 2 มีนาคม 2553 22:18:13 น.
Counter : 1095 Pageviews.  

พระราชวังคยองฮึยกุง(Gyeonghuigung Palace)

พระราชวังคยองฮึยกุง(Gyeonghuigung Palace)
พระราชวังเคียงฮึยกุง หรือ พระราชวังเคียงฮึย เป็นหนึ่งในห้าพระราชวังที่สำคัญที่สุดของราชวงศ์โชซอนและเกาหลีพระราชวังแห่งนี้ตั้งอยู่ที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ สร้างในช่วงราชวงศ์โชซอนตอนปลายและพระราชวังแห่งนี้ได้เป็นพระราชวังแห่งที่ 2 ขององค์พระมหากษัตริย์ โดยพระราชวังแห่งนี้ตั้งอยู่ทางตะวันตกของโซล จึงเรียกว่า ซอกโวล (พระราชวังตะวันตก) โดยตั้งแต่รัชกาลพระเจ้าอินโจ - พระเจ้าชอลจง เป็นเวลา 10 รัชกาลที่ประทับที่นี่




 

Create Date : 02 มีนาคม 2553    
Last Update : 2 มีนาคม 2553 22:06:19 น.
Counter : 625 Pageviews.  

พระราชวังชางด๊อกกุง(Changdeokgung Palace)

พระราชวังชางด๊อกกุง(Changdeokgung Palace)
พระราชวังชางด๊อกกุง หรือ พระราชวังชางด๊อก หนึ่งในห้าพระราชวังที่สำคัญที่สุดในเกาหลี สร้างขึ้นในรัชสมัยของพระเจ้าแทจงแห่งราชวงศ์โชซอน เมื่อปี พ.ศ. 1948 (ค.ศ. 1405) แล้วเสร็จในปี พ.ศ. 1955 (ค.ศ. 1412) ด้วยเหตุที่พระราชวังแห่งนี้ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของพระราชวังเคียงบก (Kyeongbok Palace) ผู้คนจึงเรียกพระราชวังแห่งนี้ว่าพระราชวังตะวันออก (East Palace)
ต่อมาในรัชกาลพระเจ้าซอนโจ กษัตริย์องค์ที่ 14 ของราชวงศ์ยังได้โปรดให้ขยายสนามหญ้าของพระราชวังเป็น 500,000 ตารางเมตร
ในปี พ.ศ. 2135 (ค.ศ. 1592) ขุนศึกญี่ปุ่น โทะโยะโตะมิ ฮิเดะโยะชิได้เข้ารุกรานเกาหลี กินเวลายาวนานถึง 7 ปี พร้อมกับเผาทำลายพระราชวัง ซึ่งในปีนี้เองเป็นปีที่ฉลองครบรอบ 200 ปีแห่งการสถาปนาราชวงศ์



หลังจากผ่านสงคราม 7 ปีไปแล้ว พระราชวังก็ได้รับการบูรณะขึ้นอีกครั้งในปี พ.ศ. 2152 (ค.ศ. 1619) โดยพระเจ้าซอนโจ และองค์ชายควางแฮกุน แต่อีก 4 ปีต่อมา พระราชวังกลับเกิดเพลิงเผาวอดอีกครั้ง ในเหตุจราจลที่ขุนนางไม่พอใจองค์ชายควางแฮและก่อการยึดอำนาจ สถาปนาองค์ชายนึงยางขึ้นเป็นพระเจ้าอินโจ พร้อมกับเนรเทศองค์ชายควางแฮไปเกาะคังฮวา
พระราชวังถูกโจมตีอีกครั้งโดยพวกแมนจูหรือราชวงศ์ชิงของจีน แต่หลังจากนั้นพระราชวังก็ได้รับการสร้างใหม่ให้อยู่ในสภาพดั้งเดิม

ชางด๊อกกุงได้ใช้เป็นที่ประทับขององค์กษัตริย์ ที่ว่าราชการ และที่ทำงานของขุนนางข้าราชการจนถึงปี พ.ศ. 2415 (ค.ศ. 1872) เมื่อพระราชวังเคียงบกซึ่งอยู่ข้างเคียงได้รับการสร้างขึ้นใหม่อีกครั้งโดยสมเด็จพระจักรพรรดิซุนจง แต่อย่างไรก็ตามกษัตริย์พระองค์สุดท้ายของเกาหลีพระองค์นี้ก็ได้เสด็จมาประทับที่ชางด๊อกกุงเรื่อยมากระทั่งสวรรคตในปี พ.ศ. 2469 (ค.ศ. 1926)

พระราชวังแห่งนี้ได้เป็นฉากหลังในซีรีส์เกาหลีเรื่อง แดจังกึมจอมนางแห่งวังหลวง
สิ่งก่อสร้างในพระราชวัง
สิ่งก่อสร้างในพระราชวังชางด๊อกกุงมีดังนี้
1.ประตูดงฮวามุน - ประตูหลักของพระราชวังถูกสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 1955 เป็นประตูที่เก่าแก่ที่สุดที่ยังอยู่จนทุกวันนี้
2.สะพานกึมชองโย- เป็นสะพานที่เก่าแก่ที่สุดในโซลที่ยังยืนหยัดจนทุกวันนี้ก่อสร้างในปี พ.ศ. 1954
3.พิพิธภัณฑ์- เดิมเป็นท้องพระโรงถูกสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 1948 สร้างขึ้นใหม่ในปี 1804 ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์
4.หอซอนจองจอน- เป็นห้องทำงานของขุนนางฝ่ายปกครองสร้างในปี 1461 ถูกทำลายในสงครามอิมจินบูรณะปี พ.ศ. 2190
5.ศาลาจูฮัมนู (คยูจังกัก) - หอจดหมายเหตุและหอแสดงภาพวาดสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2319

มรดกโลก

พระราชวังชางด๊อกกุงได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญครั้งที่ 21 เมื่อปี พ.ศ. 2540 ที่เนเปิลส์ ประเทศอิตาลี โดยผ่านข้อกำหนดและหลักเกณฑ์ในการพิจารณาให้เป็นแหล่งมรดกโลก ดังนี้
- เป็นสิ่งที่มีอิทธิพลยิ่ง ผลักดันให้เกิดการพัฒนาสืบต่อมาในด้านการออกแบบทางสถาปัตยกรรม อนุสรณ์สถาน ประติมากรรม สวน และภูมิทัศน์ ตลอดจนการพัฒนาศิลปกรรมที่เกี่ยวข้อง หรือการพัฒนาการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ ซึ่งได้เกิดขึ้นในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง หรือบนพื้นที่ใดๆ ของโลกซึ่งทรงไว้ซึ่งวัฒนธรรม
- เป็นสิ่งที่ยืนยันถึงหลักฐานของวัฒนธรรมหรืออารยธรรมที่ปรากฏให้เห็นอยู่ในปัจจุบันหรือว่าที่สาบสูญไปแล้ว
- เป็นตัวอย่างอันโดดเด่นของประเภทของสิ่งก่อสร้างอันเป็นตัวแทนของการพัฒนา ทางด้านวัฒนธรรม สังคม ศิลปกรรม วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี อุตสาหกรรม ในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ




 

Create Date : 02 มีนาคม 2553    
Last Update : 2 มีนาคม 2553 22:03:33 น.
Counter : 576 Pageviews.  

1  2  3  4  

TS2P
Location :
มุกดาหาร Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




พวกเราบ้า พวกเราซ่าส์ พวกเราเจ๋งพวกเราเป็นกุลสตรี(น) เพราะพวกเราคือเด็กมีปัญหาๆๆช่วยไม่ได้เลยเธอ อิอิ
Friends' blogs
[Add TS2P's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.