ญี่ปุ่น ยังไม่ไป ก็ตื่นเต้นจนหัวใจจะทะลุออกมาข้างนอกแล้ว






     ประกาศ ประกาศ ญี่ปุ่น เปิด Free Visa แล้ววววว 

การยกเว้นวีซ่าเข้าประเทศญี่ปุ่นให้กับคนไทยเริ่มบังคับใช้ใน วันที่ 1 กรกฏาคม พ.ศ.2556

     เห็นประกาศแล้ว ออกแนวตาโต เหยยยย เมื่อก่อนที่ลีลาๆ มีแต่เสพสื่อจากญี่ปุ่น ได้แต่ฝันว่าจะไป แต่ก็ไม่เคยได้ไปจริงๆ ซักที เหมือน ไฟในหัวใจมันลุกโชนขึ้นมาเลยทีเดียว 

     หลังจากหารือ พร้อมกับหว่านล้อมเพื่อนๆ ที่มีอยู่รอบเอวหนาๆ ของเราทั้งหมด ทริปนี้ ได้เพื่อนร่วมทริป รวมตัวเราแล้ว ก็ทั้งหมด 3 คน โดยที่ทั้ง 3 คน ไม่มีใครเคยเห็นญี่ปุ่นเลยซักคน เอาหล่ะสิ ...

มหกรรมการหาข้อมูล ที่ยิ่งกว่าทำ Thesis ก็เริ่มขึ้น
1. ตั๋วเครื่องบิน จะบินตรง บินอ้อม บินเฉียง บินหลา ไม่ใช่ละ เราจะไปยังไงกันดี หาตั๋วจากทุกที่เปรียบเทียบเท่าไหร่ก็ยัง แพงงง สำหรับมนุษย์เงินเดือนเบี้ยน้อยกระเป๋าฟีบ สุดท้าย มาลงตัวที่ เว็บ เอ็กซ์พีเดีย เนื่องจากเทียบแล้วราคาดีสุด เวลาบินก็สวยงามคือ สายการบินคาเธ่แฟซิฟิก สนนราคาบิน 16,420 บาท ต่อท่าน Full Service ขาไป ต่อเครื่องฮ่องกง รอ 3 ชม. ขากลับ ขอเที่ยวใน ฮ่องกงด้วย ต่อเครื่อง 8 ชม. (นี่คือการไปครั้งแรก ช่างเป็นจอมวางแผนยิ่งนัก หุหุหุ) 

เพราะเป็นครั้งแรกจึงต้องรอบครอบมากให้ คือ หลังจากจองแล้วได้เลข booking จาก Expedia แล้วยังเอาเลขไปกรอกๆ ที่เว็บสายการบินดูด้วย เผื่อเว็บแม่มโม้ จะได้รีบจัดการ ปรากฏว่า booking ก็เข้าไปที่เว็บสายการบิน ใสๆ งดงาม

2. ไปได้แล้วต้องมีที่นอน นอนไหนหล่ะทีนี้ งานวิชาการก็มา ศึกษาประเทศนี้ก่อนว่าปกติแล้วคนไป โตเกียว อุเอโนะ นะเค้าว่างั้น "ไม่มีห้องว่างในย่าน ueno ในช่วงเวลาที่ท่านต้องการจอง" ขอบคุณมากค่ะ อ่ะๆ ขยับออกมาอีกซักสองสามสถานีก็ได้ ปรากฏว่า ได้โรงแรมที่ชื่อว่า นิวโอตานิอินน์ โอซากิ ราคาก็ถือว่ากลางๆ ไม่แพง และไม่ได้ถูกเลยยยย ไม่มีฟรี wifi ด้วย แต่ที่นี่ก็ใกล้สถานีที่สุดแล้ว ยังไม่เคยเห็นหรอก แต่ในเน็ตบอกว่าติดสถานีเลย เอาหน่ะ ลุยยย

3. ที่เที่ยว แล้วหล่ะทีนี้ นู่นก็อยากไป นี่ก็อยากไป หนังสือ กี่ยี่ห้อ อะไรที่เขียนว่าโตเกียวๆ กวาดมาหมด อ่านหนังสือเยอะมาก แผนที่รถไฟก็ศึกษาจนให้มันซึมเข้าไปในกระแสเลือดให้ได้ จากนั้นก็กรีดมันออกมาเป็นแผนการเดินทางจนได้

วันแรก คามากุระ สักการะหลวงพ่อโต, และต่อด้วย โยโกฮาม่า เบาๆ
วันที่สอง ไปนิกโก้ เที่ยวเมืองโบราณ
วันที่สาม มาญี่ปุ่นต้องไปดูฟูจิสิ จึงมุ่งไปคาวากูจิโกะ
วันที่สี่ เที่ยวในโตเกียว 
วันที่ห้า กลับบ้านเรา

แผนดูเรียบง่าย แต่สำหรับนักแบกเป้ ที่เดินทางไปครั้งแรกไม่ได้ง่ายเลยขอบอก

ใกล้วันเดินทางโรคประสาทก็เริ่มกัดกิน เพราะเสพดราม่าเรื่อง ตม. ค่อนข้างมากเราก็ยิ่งสาว สาว สาว ถึงจะเหลือน้อยแต่ก็สาวแหล่ะ ถึงวันเดินทางมีเอกสารกันคนละหนึ่งหอบใหญ่

เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก และแล้ววันเดินทางก็มาถึง หูยยยย ตื่นเต้นมากกกกกกก กลัวแต่จะหนาวเสื้อผ้าก็ขนไปเหมือนกับจะไปเที่ยวขั้วโลก เอาไปยันแป้งฝุ่นกลัวอับชื้น เงินนี่ก็ทุบกระปุกกันมาแลกเหมือนกับชีวิตนี้จะไม่กลับมาใช้ชีวิตที่เมืองไทยอีกแล้ว

Trip Tokyo 18-23 March 2014 Start+++

เริ่มจาก สุวรรณภูมิ ถึงสนามบินปุ๊บ สามสาวดิ่งไป Counter สายการบินเลยจ้า แบบไม่มีผิดพลาดเพราะ อ่านรีวิวมาแล้วไม่น้อยกว่าห้าครั้ง

Counter Check-in ของ สายการบินคาเธ่แฟซิฟิก ที่สุวรรณภูมิ

Counter Check-in ที่สุวรรณภูมิ


ได้ตั๋วมาแล้ว ดีใจสุดๆ จำได้ว่ายิ้มไม่หยุดเลย ใครด่าก็ไม่โกรธ ชม. นั้น 

ได้ตั๋วมาแล้ว

นี่เป็นบรรยากาศสนามบินห้องกงค่ะ กลางคืนไม่มีอะไรนอกจากส่วน Duty free ที่ยังเปิดอยู่ ดังนั้นแค่ 3 ชม. เดินเล่นๆ เดี๋ยวก็ได้ไปต่อค่ะ

บรรยากาศสนามบินฮ่องกง

เจอกันที่ ญี่ปุ่น นะจ๊ะ จุ๊บๆ



Create Date : 04 พฤษภาคม 2560
Last Update : 4 พฤษภาคม 2560 16:13:34 น.
Counter : 724 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

YUI_Arkari
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]