วิธีการต่อกรกับความดันโลหิตสูง: จะทำยังให้ไม่ให้ตัวเราเองต้องพ่ายแพ้อีกต่อไป?
ปัญหาความดันโลหิตสูงมักเปรียบได้กับ "เพชฌฆาตเงียบ" ซึ่งในกรณีส่วนใหญ่นั้นอาจไม่มี
อาการที่แน่ชัดและอาจส่งผลต่ออวัยวะสำคัญในที่สุด ซึ่งในปัจจุบันนี้อาการดังกล่าวถือเป็นหนึ่ง
ในปัญหาสุขภาพที่พบบ่อยที่สุด โดยไม่เพียงแต่เกี่ยวข้องกับหัวใจเท่านั้น แต่ยังรวมถึงด้านอื่นๆ
อีกด้วย และบ่อยครั้งที่อากาเหล่านี้อาจนำไปสู่การเสียชีวิตได้อีกด้วย นอกจากนี้ เมื่อความดัน โลหิตเพิ่มขึ้น ก็อาจทำให้ภาระในหัวใจและหลอดเลือดเพิ่มขึ้นจนกลายเป็นภาวะวิกฤต แล้วเรา
จะดำเนินชีวิตอย่างไรต่อไปกับปัญหานี้ เป็นไปได้มั้ยว่าที่เราจะสามารถเอาชนะภัยจาก “
เพชฌฆาตเงียบ” เหล่านี้?
เพราะเหตุใดความดันโลหิตจึงเพิ่มขึ้น? การทำความเข้าใจถึงสาเหตุของอาการความดันโลหิตสูงเป็นอย่างดีนั้นจะสามารถช่วยในการศึกษา
กลไกของระบบหัวใจและหลอดเลือดได้ดียิ่งขึ้น โดยหัวใจนั้นเปรียบได้เหมือนกับปั๊มที่คอสูบฉีดการไหล
เวียนโลหิตอันอุดมไปด้วยออกซิเจนไปทั่วร่างกายในทุกนาที ที่จะช่วยให้อวัยวะต่างๆในร่างกายได้รับ
สารอาหารที่จำเป็นต่อการทำงาน หัวใจนั้นจะสามารถสูบฉีดโลหิตได้ประมาณ 5 ลิตรต่อนาที เต้นจังหวะ
มากกว่า 60 ครั้ง ช่วยให้โลหิตไหลผ่านไปได้ในเสี้ยววินาที ความดันโลหิตที่เพิ่มขึ้นนั้นเกิดขึ้นจากช่องทางเดินโลหิตที่แคบลงเนื่องจากการก่อตัวของผนังหลอด
เลือดที่หนาขึ้น ส่งผลให้เลือดนั้นไม่สามารถไหลเวียนได้อย่างดี ทำให้หัวใจต้องทำงานหนักขึ้น ภาระ
การทำงานที่เพิ่มขึ้นในระบบหัวใจและหลอดเลือดหลาย ๆ ครั้งนี้ส่งผลให้อวัยวะต่างๆในร่างกายไม่ได้รับ
สารอาหารและทำงานแย่ลง และความยืดหยุ่นของหลอดเลือดก็เสื่อมลงในแต่ละครั้งจนทำให้เกิดการก่อ
ตัวของผนังหลอดเลือดที่หนาขึ้นในบริเวณที่มีปัญหาอยู่ก่อนแล้ว ซึ่งเป็นกระบวนการที่ไม่มีวันสิ้นสุดเลย
ก็ว่าได้ และยิ่งหากได้รับการบำรุงซ่อมแซมแล้ว อาจทำให้หลอดเลือดแตก และส่งผลให้เนื้อเยื่อของอ
วัยได้รับสารอาหารจะอาจนำไปการเสียชีวิต โดยปัจจัยที่สามารถเพิ่มความเสี่ยงของอาการนั้นได้แก่ ผู้ที่ตกอยู่ในกลุ่มเสี่ยงนั้นได้แก่ผู้ที่มีญาติพี่น้องเป็นความดันโลหิตสูง ผู้ที่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูง หญิง
ชายที่มีอายุมากกว่า 45 ปี เป็นต้นไป
แล้วจะรู้ได้ยังไงว่าเริ่มมีอาการแล้ว ความดันโลหิตสูงเป็นปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงและอาจไม่ปรากฏให้เห็นในระยะแรกของการเกิดอาการ
อย่างไรก็ตาม การตรวจเช็กให้ได้โดยเร็วที่สุดก็ถือเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งบ่อยครั้งที่ผู้คนทั่วไปมักมองข้าม
สัญญาณแรกของอาการซึ่งนำไปสู่การก่อให้เกิดาวะแทรกซ้อนร้ายแรง รวมถึงการทำโปรแกรมการบำบัด
ที่ยาวนานและซับซ้อนกว่าเดิมเป็นต้น โดยในช่วงแรกนั้นมักพบอาการอ่อนเพลีย ปวดหัวบ่อย คลื่นไส้ มองเห็นจุดดำ หรือเส้นใยบาง ๆ ลอยไป มาในดวงตา และหากมีอาการแย่ขึ้นก็อาจมีเหงื่อออกมาก ใบหน้าเปลี่ยนเป็นสีแดง มือและเท้าบวมใน
ตอนเช้า และความจำเริ่มเสื่อม
ในระยะต่อมาอาจมีอาการต่างๆ เช่น เวียนศีรษะและปวดบริเวณหัวใจ ซึ่งในระยะนี้นั้น อวัยวะด้านการมอง เห็นเริ่มได้รับผลกระทบและอาจเกิดความเสี่ยงต่อความผิดปกติของหลอดเลือดในสมองเพิ่มมากขึ้น
ในระยะที่สามนี้ถือเป็นภัยร้ายแรงต่อชีวิตเลยก็ว่าได้ เพราะหลอดเลือดจะไม่สามารถรับมือกับปัญหาแบบ นี้ได้อีกต่อไป เนื่องจากความยืดหยุ่นของหลอดเลือดนั้นแทบจะสูญเสียไปหมดแล้ว และเนื้อเยื่ออวัยวะที่
ขาดสารอาหารก็แทบจะไม่สามารถสร้างตัวเองขึ้นมาใหม่ได้อีก และยังมีอาการปวดศีรษะ เวียนศีรษะ
อาเจียนและคลื่นไส้ร่วมอีกด้วย
กฎสำคัญ 5 ข้อสำหรับการอยู่ร่วมกับปัญหาความดันโลหิตสูง ในการที่จะเอาชนะ "เพชฌฆาตเงียบ" ได้นั้น สิ่งสำคัญคือไม่เพียงแต่จะต้องเลือกใช้วิธีที่เหมาะสมเพื่อ
ลดความดันโลหิตและภาระการทำงานในระบบหัวใจและหลอดเลือดเท่านั้น แต่จำเป็นต้องให้การบำรุง
อย่างครอบคลุมและฟื้นฟูการทำงานของหัวใจ ทั้งนี้ การบำบัดอาการความดันโลหิตสูงนั้นไม่เพียงแต่
จำเป็นต้องใช้ผลิตภัณฑ์อย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการเปลี่ยนแปลงการใช้ใช้วิตอีกด้วย กฎสำคัญ 5 ข้อสำหรับการอยู่ร่วมกับปัญหาความดันโลหิตสูง มีดังต่อไปนี้ -
ออกกำลังกายอย่างเสม่ำเสมอ เลือกประเภทและโหมดการออกกำลังกายที่เหมาะสำหรับราย บุคคลไป ซึ่งการออกกำลังกายเหมาะสำหรับผู้ที่เป็นความดันโลหิตสูง นั้นได้แก่ เดิน วิ่ง ปั่น จักรยาน สกี แอโรบิก โยคะ โดยเน้นการออกำลังกายแบบค่อยเป็นค่อยไป -
ะเลิกพฤติกรรมสุขภาพแย่ๆ เพราะการสูบบุหรี่นั้นทำให้หลอดเลือดเกิดการหดตัวได้ ซึ่งสามารถ กระตุ้นให้เกิดความดันโลหิตได้ นอกจากนี้ยังทำให้หลอดเลือดนั้นได้รับความเสียหายสำหรับ กลไกการทำงานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งยังเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงได้อีกด้วย -
อดทนต่อความเครียด เพราะผลกระทบของความเครียดนั้นอาจส่งผลเสียต่อร่างกายทั้งหมด ความเสี่ยงของผลกระทบที่เป็นอันตรายนั้นสามารถเพิ่มขึ้นได้ดีในผู้เป็นความดันโลหิตสูงและมี ปัญหาหัวใจ อย่างไรก็ตาม การพักผ่อนที่เพียงพอ การเดินเล่นในที่ที่มีอากาศบริสุทธิ์ การออก กำลังกายอยางเสม่ำเสมอนั้นจะสามารถให้ช่วยเพิ่มความต้านทานต่อความเครียดได้เป็นอย่างดี -
การควบคุมสภาพ การตรวจสอบสภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของร่างกายนั้นเป็นสิ่งสำคัญมาก คุณ ควรดำเนินการตรวจความดันโลหิตอย่างน้อยวันละสองครั้งและบันทึกผลอย่างเป็นประจำ หลีก เลี่ยงการเดินข้างนอกในวันที่อากาศร้อน และพยายามหาสาเหตุอื่นๆ เฉพาะของคุณที่อาจทำให้ ความดันโลหิตสูงนั้นเพิ่มสูงขึ้น เพื่อช่วยลดความถี่และปัจจัยเชิงลบให้น้อยลงมากที่สุดนั้นเอง แล้วจะคงสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดไว้ได้อย่างไร ระบบหัวใจและหลอดเลือดจำเป็นต้องได้รับการบำรุงเป็นประจำทุกวัน เพื่อให้สามารถต่อกรกับผกระทบ
เชิงลบของอาการความดันโลหิตสูง และผลิตภัณฑ์ Friocard นี้เองที่จะสามารถช่วยในเรื่องนี้ได้ ผลิตภัณฑ์ Friocard เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากสารสกัดธรรมชาติที่มุ่งเน้นฟื้นฟูการทำงานของระบบหัวใจ
และหลอดเลือด และลดโอกาสการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากความดันโลหิตสูง มีสูตรที่สมดุลทำให้
ร่างกายสามารถดูดซึมได้ง่ายและออกฤทธิ์ได้อย่างรวดเร็ว Friocard ประกอบด้วย: -
แอล-คาร์นิทีน แอล-ทาร์เทรต มีหน้าที่สำคัญในการเสริมพลังงานให้แก่หัวใจ ช่วยให้ระดับความ ดันโลหิตนั้นคงที่ -
สารสกัดจากชาเขียว - มีส่วนช่วยในการลดความดันโลหิตให้อยู่ในระดับปกติและปรับระดับ คอเลสเตอรอลในเลือดให้เป็นปกติ -
สารสกัดจากสาหร่ายทะเล - ส่งเสริมการทำงานของระบบไหลเวียนโลหิต ลดโอกาสการก่อตัว ของลิ่มเลือด จำเป็นให้แก่อวัยวะต่างๆ
ผลิตภัณฑ์ Friocard สามารถช่วยให้การทำงานของระบบหัวใจและหลอดเลือด และระบบไหลเวียน
โลหิตกลับมาทำงานได้อย่างเป็นปกติ พร้อมบำรุงสภาพทั่วไปและลดโอกาสการเกิดภาวะแทรกซ้อนร้าย
แรง เน้นการแก้ไขปัญหาที่สาเหตุหลักของอาการความดันโลหิตสูง อาทิ การอุดตันของหลอดเลือดจาก
โดยคอเลสเตอรอลและภาวะหลอดเลือดแดงแข็ง ระบการไหลเวียนโลหิตที่ไม่ดี และความเสียหายต่อ
ผนังหลอดเลือด เป็นต้น จะเอาชนะความดันโลหิตสูงหรือจะยอมแพ้? ยังไงก็แล้วแต่ ตอนนี้คุณก็รู้วิธีที่จะไม่ปล่อยให้ตัวเองต้อง
ยอมแพ้อีกต่อไป!
Friocard นี่แหละ ตัวช่วยที่หัวใจของคุณต้องการ!
https://www.facebook.com/THFriocard/?ref=page_internal
Create Date : 29 มิถุนายน 2565 |
Last Update : 29 มิถุนายน 2565 14:15:07 น. |
|
0 comments
|
Counter : 342 Pageviews. |
|
|