งานเข้าแล้วคร๊าบ..บบ พี่... น้อง...

สู้... ไม่สู้... Smiley

Group Blog
 
All Blogs
 
ใยแก้วนำแสง ทำมาจากอะไรและมีวิธีการอย่างไร?????

  ใยแก้วนำแสง (Fiber Optics) ทำจากแท่งแก้วทรงกระบอกขนาดเล็กยาว โดยการดึงแก้วที่กำลังหลอมออกมาเป็นเส้นใยขนาดเล็ก มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณเส้นผมของคนเราเท่านั้น ใยแก้วนำแสงประกอบไปด้วยส่วนหลักๆ 2 ส่วน ได้แก่ ส่วนแกน (core) และเปลือกหุ้ม (cladding) ซึ่งทำด้วยวัสดุที่มีค่าดัชนีหักเหต่ำ ส่วนแกนจะเป็นเนื้อแก้ว ที่มีดัชนีหักเหสูงกว่าชั้นเปลือกเล็กน้อย ดังนั้น หากให้ลำแสงสัญญาณ ที่มีมุมตกกระทบพอเหมาะ ไปบนใยแก้ว จะเกิดการสะท้อนกลับหมด ที่รอยต่อระหว่างชั้นทั้งสอง ไม่เกิดการหักเหออกไปสู่ภายนอก ลำแสงจึงสามารถเดินทางผ่านไป ตามใยแก้วนำแสงเป็นระยะทางไกลๆ โดยมีการสูญเสียพลังงานน้อยมาก


  หลักการทั่วไปของการสื่อสารในสาย Fiber Optics คือการเปลี่ยนสัญญาณ (ข้อมูล) ไฟฟ้าให้เป็นคลื่นแสงก่อน จากนั้นจึงส่งออกไปเป็นพัลส์ของแสงผ่านสาย Fiber Optics สาย Fiber Optics ทำจากแก้วหรือพลาสติกสามารถส่งลำแสง ผ่านสายได้ทีละหลาย ๆ ลำแสงด้วยมุมที่ต่างกัน ลำแสงที่ส่งออกไปเป็นพัลส์นั้นจะสะท้อนกลับไปมาที่ผิวของสายชั้นในจนถึงปลายทาง

  จากสัญญาณข้อมูลซึ่งอาจจะเป็นสัญญาณอนาล็อกหรือดิจิตอล จะผ่านอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่มอดูเลตสัญญาณเสียก่อน จากนั้นจะส่งสัญญาณมอดูเลตผ่านตัวไดโอดซึ่งมี 2 ชนิดคือ LED ไดโอด (light Emitting Diode) และเลเซอร์ไดโอด หรือ ILD ไดโอด (Injection Laser Diode) ไดโอดจะมีหน้าที่เปลี่ยนสัญญาณมอดูเลตให้เป็นลำแสงเลเซอร์ซึ่งเป็นคลื่นแสงในย่านที่มองเห็นได้ หรือเป็นลำแสงในย่านอินฟราเรดซึ่งไม่สามารถมองเห็นได้ ความถี่ย่านอินฟราเรดที่ใช้จะอยู่ในช่วง 1014-1015 เฮิรตซ์ ลำแสงจะถูกส่งออกไปตามสาย Fiber Optics เมื่อถึงปลายทางก็จะมีตัวโฟโต้ไดโอด (Photo Diode) ที่ทำหน้าที่รับลำแสงที่ถูกส่งมาเพื่อเปลี่ยนสัญญาณแสงให้กลับไปเป็นสัญญาณมอดูเลตตามเดิม จากนั้นก็จะส่งสัญญาณผ่านเข้าอุปกรณ์ดีมอดูเลต เพื่อทำการดีมอดูเลตสัญญาณมอดูเลตให้เหลือแต่สัญญาณข้อมูลที่ต้องการ

  สาย Fiber Optics สามารถมีแบนด์วิดท์ (BW) ได้กว้างถึง 3 จิกะเฮิรตซ์ (1 จิกะ = 109) และมีอัตราเร็วในการส่งข้อมูลได้ถึง 1 จิกะบิตต่อวินาที ภายในระยะทาง 100 กม. โดยไม่ต้องการเครื่องทบทวนสัญญาณเลย สาย Fiber Optics สามารถมีช่องทางสื่อสารได้มากถึง 20,000-60,000 ช่องทาง สำหรับการส่งข้อมูลในระยะทางไกล ๆ ไม่เกิน 10 กม. จะสามารถมีช่องทางได้มากถึง 100,000 ช่องทางทีเดียว
ความผิดพลาดในการส่งข้อมูลผ่าน Fiber Optics นั้นมีน้อยมาก คือประมาณ 1 ใน 10 ล้านบิตต่อการส่ง 1,000 ครั้ง เท่านั้น ทั้งยังป้องกันการรบกวนจากสัญญาณภายนอกได้โดยสิ้นเชิง แม้ว่าการส่งข้อมูลผ่านทางสายไฟเบอร์ออปติก จะทำได้อย่างมีประสิทธิภาพยอดเยี่ยม และจำนวนมหาศาลดังกล่าวมาแล้วก็ตามแต่เราต้องคำนึงถึงปัญหาและความเหมาะสม บางประการอีกด้วย

  ราคา ทั้งสาย Fiber Optics และอุปกรณ์ประกอบการทั้งหลาย มีราคาสูงกว่าการส่งสัญญาณผ่านสายเคเบิลธรรมดามาก
อุปกรณ์พิเศษสำหรับการเปลี่ยนสัญญาณไฟฟ้าให้เป็นคลื่นแสง และจากคลื่นแสงกลับมาเป็นสัญญาณไฟฟ้า และยังมีเครื่องทบทวนสัญญาณอีก อุปกรณ์ดังกล่าวเป็นเทคโนโลยีสมัยใหม่ซึ่งมีความซับซ้อน และราคาสูงมาก

  เทคนิคในการติดตั้งระบบ เนื่องจากสาย Fiber Optics มีความแข็งแต่เปราะจึงยากต่อการเดินสายไฟตามที่ต่าง ๆ ได้ตามที่ต้องการ อีกทั้งการเชื่อมต่อระหว่างสายก็ทำได้ยากมาก เพราะต้องระวังไม่ได้เกิดการหักเหขึ้น

การสร้างเส้นใยแสงจากแท่งแก้วพรีฟอร์ม
  การสร้างเส้นใยแสงจากแท่งแก้วพรีฟอร์ม มีขั้นตอนในการสร้างเริ่มต้นด้วยการนำสารที่จะใช้ในการสร้างเส้นใยแสงมาผ่านกระบวนการสร้างแท่งแก้วที่มีความโปร่งใสและความบริสุทธิ์สูง (Vapor phase depostion) จากนั้นจึงนำแท่งแก้วที่ได้มาให้ความร้อนเพื่อทำให้บริเวณปลายของแท่งแก้ว เกิดการยุบตัวกลายเป็นแท่งแก้วพรีฟอร์ม และนำแท่งแก้วพรีฟอร์มที่ได้มาทำการดึงเป็นเส้นใยแสงต่อไป โดยแท่ง แก้วพรีฟอร์มที่สร้างได้นั้นจะมีความยาวประมาณ 60 ถึง 120 เซนติเมตร และมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 10 ถึง 25 มิลลิเมตร

  สำหรับวิธีการดึงแท่งแก้วพรีฟอร์มเพื่อทำให้เป็นเส้นใยแสง โดยปลายด้านที่ยุบตัวของแท่งแก้วพรีฟอร์มจะอยู่ภายในเตาหลอม (Drawing furnace) และถูกดึงเป็นเส้นใยแสง ซึ่งการทำงานต่าง ๆ จะควบคุมอัตโนมัติ ไม่ว่าจะเป็นความเร็วในการดึงหรือขนาดของเส้นใยแสง จากนั้นเส้นใยแสงจะถูกหุ้มด้วยวัสดุที่มีความยืดหยุ่นเพื่อป้องกันการปนเปื้อนจากฝุ่นและไอน้ำก่อนที่จะทำการม้วนเก็บ สำหรับวิธีการสร้างแท่งแก้วพรีฟอร์มมีอยู่ด้วยกัน 4 วิธี ได้แก่
  - Outside Vapor Phase Oxidation (OVPO)
  - Vapor phase Axial Deposition (VAD)
  - Modified Chemical Vapor Deposition (MCVD)
  - Plasma - activated Chemical Vapor Deposition Process (PCVD)

รูปแผนผังการสร้างเส้นใยแก้วนำแสงจากแท่งแก้วพรีฟอร์ม


วิธีการ Outside Vapor Phase Oxidation (OVPO)
  การสร้างแท่งแก้วพรีฟอร์มด้วยวิธีการ OVPO เป็นวิธีแรกที่ใช้สร้างเส้นใยแสงที่มีการสูญเสียต่ำกว่า 20 dBkm โดยขั้นตอนในการสร้างชั้นของแก้ว (SiO )บนแท่งกราไฟต์ หรือเซรามิคซึงหมุนรอบตัวเองอนุภาคของแก้วจะถูกปล่อยออกมาจากเตาให้ความร้อนซึ่งมีการเคลื่อนที่ไปมาเหนือแท่งกราไฟล์ ทำให้เกิดการตกผลึก (Deposition) โดยจะสร้างชั้นของแก้วประมาณ 200 ชั้น และต้องมีการควบคุมค่าดัชนีการหักเหของ core และ clad ของแท่งแก้วให้เหมาะสม

  เมื่อสร้างชั้นแก้วเสร็จเรียบร้อยแล้ว แท่งกราไฟล์จะถูกดึงออกไป แล้วนำแท่งแก้วดังกล่าวไปทำให้มีความบริสุทธิ์และใสขึ้น ด้วยการให้ความร้อนที่สูงกว่า 1400 องศาเซลเซียส ในห้องที่มีบรรยากาศแห้ง จากนั้นจะนำแท่งแก้วพรีฟอร์มที่บริสุทธิ์ ไปทำการดึงเป็นเส้นใยแสงตามวิธีการ ซึ่งในขั้นตอนนี้เราจะควบคุมค่าดัชนีการหักเหของเส้นใยแสงได้ด้วย การควบคุมความร้อนของแก๊สที่ให้แก่แท่งแก้วพรีฟอร์ม

  ความบริสุทธิ์ของเส้นใยแสงที่สร้างด้วยวิธี OVPO นี้ จะขึ้นอยู่กับความบริสุทธิ์ของสารที่ป้อนเข้ามาและปริมาณการเจือปนของไอน้ำ ซึ่งเกิดขึ้นในขั้นตอนการสร้างชั้นแก้วเนื่องจากเป็นระบบเปิด นอกจากนี้การใช้แท่งกราไฟล์เป็นแกนกลางในการสร้างแท่งแก้วจะทำให้เกิดความยุ่งยากในการสร้างแท่งแก้วพรีฟอร์ม เนื่องจากในการดึงแท่งกราไฟล์ออกอาจทำให้เกิดรอยแตกขึ้นที่ผิวภายในของแท่งแก้วได้ และการมีรูตรงกลางของแท่งแก้วก็จะทำให้การควบคุมลักษณะการเปลี่ยนแปลงของดัชนีการหักเห (Refractive index profile) ทำได้ยากด้วย ส่วนปริมาณการผลิตที่ได้จากวิธี OVPO นี้ก็มีจำนวนจำกัดทำให้ปัจจุบันวิธี OVPO ไม่เป็นที่นิยม


วิธี Vapor phase Axial Deposition (VAD)
  วิธี Vapor phase Axial Deposition (VAD) จะเป็นวิธีที่คล้ายกับ OVPO ต่างกันตรงที่การสร้างแท่งแก้วพรีฟอร์ม จะทำในแนวตั้ง และเป็นระบบที่มีความต่อเนื่องกล่าวคือ สามารถที่จะสร้างเส้นใยแสงได้เลยหลังจากที่สร้างแท่ง แก้วพรีฟอร์มโดยการดึงจากด้านบนของระบบ

  ส่วนการสร้างแท่งแก้วแบบพรีฟอร์มจะทำได้โดยการปล่อยอนุภาคของแก้วออกมาที่ด้านล่าง โดยมีการหมุนแท่งแก้วรอบตัวเองเพื่อให้เกิดความสมมาตรของรูปทรงกระบอก ส่วนที่ด้านบนของระบบจะมีอุปกรณ์ให้ความร้อน (Ring heater) ซึ่งให้ความร้อนประมาณ 1500 องศาเซลเซียล เพื่อทำให้แก้วมีความใสขึ้นก่อนที่จะทำการดึงเป็นเส้นใยแสง

  วิธี VAD นี้สามารถที่จะสร้างเส้นใยแสงซึ่งมีความยาวประมาณ 100 กิโลเมตร โดยเมื่อเปรียบเทียบกับวิธี OVPO แล้ววิธี VAD จะใช้ต้นทุนในการผลิตที่ถูกกว่าและแท่งแก้วพรีฟอร์มที่ได้ก็มีความบริสุทธิ์มากกว่า เนื่องจากเป็นระบบที่ปิดทำให้สามารถควบคุมสภาพแวดล้อมได้ดีกว่า แต่ระบบดังกล่าวนี้ก็ยังคงมีปัญหาเรื่องไอน้ำอยู่ โดยเส้นใยแสงที่สร้างจากวิธี VAD นี้จะมีค่าลดทอนสัญญาณแสงต่ำสุดอยู่ในช่วง 0.7 ถึง 2 dBkm-1 ที่มีความยาวคลื่น 1181 nm


วิธี Modified Chemical Vapor Deposition (MCVD)
  การสร้างเส้นใยแสงวิธีนี้ประยุกต์มาจากวิธีการ CVD ซึ่งในการสร้างแผนฟิล์ม SIO บนแผ่นซิลิกอนในการผลิตอุปกรณ์สาร กึ่งตัวนำและวงจรรวม โดยความร่วมมือกันพัฒนาระหว่างห้องทดลองของบริษัท Bell Telephone กับมหาวิทยาลัยเซาต์แทมตัน ประเทศอังกฤษ วิธี MCVD เป็นระบบปิดชนิดเดียวกับวิธี VAD โดยแท่งแก้วพรีฟอร์มจะถูกสร้างขึ้นภายในหลอดแก้วซิลิก้า ซึ่งวิธีการนี้อาจเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "Inside Vapor Phase Oxidation (IVPO)" เพราะเป็นวิธีการสร้างแบบ Vapor Phase Oxidation ซึ่งแท่งแก้วถูกสร้างขึ้นภายในหลอดแก้ว ส่วนของหลอดแก้วซิลิก้านั้นอาจนำมาเป็นส่วนประกอบของ clad ก็ได้ แต่โดยทั่วไปแล้วจะมีไว้เพื่อความแข็งแรงทางโครงสร้างของแท่งแก้วพรีฟอร์ม

  สำหรับความร้อนที่ใช้ในขั้นตอนการสร้างแท่งแก้วจะเกิดจากเปลวไฟของออกซิเจนและไฮโดรเจนซึ่งมีค่าประมาณ 1400 C ถึง 1600 C โดยอุปกรณ์ให้ความร้อนจะเคลื่อนที่ไปตามแนวยาของหลอดแก้วทำให้เกิดปฏิกริยาออกซิเดชั่น ขึ้นภายใน ทำให้อนุภาคของแก้วตกลงบนผนังของหลอดแก้วและเกิดเป็นแผ่นฟิล์มขึ้น ซึ่งแก้วส่วนนี้ก็จะเป็นส่วนของ clad ในการสร้างเส้นใยแสง และยังช่วยลดการแพร่กระจายของน้ำจากหลอดแก้วด้วย โดยแผ่นฟิล์มที่สร้างขึ้นนี้จะมีความหนาประมาณ 10 mm และมีการรักษารูปทรงและความสม่ำเสมอของแท่งแก้วโดยการหมุนหลอดแก้ว เมื่อได้ความหนาตามต้องการแล้วก็จะเติมสารที่ใช้สำหรับสร้าง core ซึ่งได้แก่ ไอคลอไรด์ของเยอรมันเนียม ( Vaporized chlorides of germanium : GeCl 4 ) หรือของฟอสฟอรัส ( POCl 3 )

  เมื่อได้ความหนาของ core ตามต้องการแล้วก็จะเพิ่มความร้อนที่ให้เป็น 1700 C ถึง 1900 C เพื่อให้เกิดการยุบตัวบริเวณปลายแท่งแก้ว ทำให้ได้แท่งแก้วพรีฟอร์ม จากนั้นจึงนำแท่งแก้วดังกล่าวมาดึงเป็นเส้นใยแสงที่อุณหภูมิประมาณ 2000 องศาเซลเซียส ถึง 2200 องศาเซลเซียส

  วิธีการนี้เป็นที่นิยมใช้อย่างกว้างขวางในปัจจุบันเนื่องจากเป็นวิธีที่สามารถสร้างเส้นใยแสงที่มีการสูญเสียต่ำที่สุด เพราะสามารถลดการสูญเสียที่เกิดจากไอน้ำและเป็นระบบปิดที่ทำให้สามารถควบคุมสภาวะแวดล้อมในการสร้างได้ และถึงแม้ว่าวิธี MCVD นี้จะไม่ใช่ระบบที่ต่อเนื่องเหมือนวิธี VAD แต่เนื่องจากเป็นวิธีที่เหมาะสมในการผลิตเส้นใยแสงได้ยาวถึง 200 กิโลเมตร โดยสามารถสร้างเส้นใยแสงโมดเดียวที่โด๊ปด้วย GeO2 ซึ่งมีการสูญเสียที่ต่ำสุดที่ 0.2 dBkm -1 ที่มีความยาวคลื่น 1.55 และยังสามารถสร้างเส้นใยแสงแบบ Multimode graded index ซึ่งใช้สารเยอรมันเนียมหรือฟอสฟอรัสที่มีค่าการสูญเสียใกล้กับค่าการสูญเสียทางทฤษฎีของสารดังกล่าว คือ 2.8 dBkm -1, 0.45 dBkm-1 และ0.35 dBkm -1ที่มีความยาวคลื่น 820 nm , 1300 nm และ 1500 nm ตามลำดับ


วิธี Plasma - activated Chemical Vapor Deposition Process (PCVD)
  วิธีการนี้จะคล้ายกับวิธี MCVD ต่างกันตรงขั้นตอนในการสร้างชั้นแก้วซึ่งวิธี PCVD จะใช้คลื่นไมโครเวฟความถี่ 2.45 GHz ทำให้เกิดพลาสมาไปกระตุ้นปฏิกริยาเคมีภายในหลอดแก้ว โดยใช้อุณหภูมิประมาณ 1000 องศาเซลเซียส ภายใต้ความดันต่ำ
  วิธีการสร้างแท่งแก้วพรีฟอร์มด้วยวิธี PCVD ซึ่งตัวกำเนิดความถี่ไมโครเวฟจะเคลื่อนที่ไปมาตามแนว นอนของหลอดแก้ว โดยไม่ต้องมีการหมุนของหลอดแก้วเหมือนวิธี MCVD วิธีการนี้จะทำให้ได้ฟิล์มของแก้วที่มีความบางมากและสามารถสร้างได้ถึง 2000 ชั้น จึงเหมาะกับการสร้างเส้นใยแสงที่มีดัชนีการหักเหแบบ graded index ที่ต้องการ ให้มีการสูญเสียสัญญาณจากการขยายกว้างออกและการลดทอนต่ำ



Create Date : 31 สิงหาคม 2551
Last Update : 7 กุมภาพันธ์ 2552 13:04:28 น. 6 comments
Counter : 29316 Pageviews.

 
ดีมากเรยคร๊

ชัดเจนดี


โดย: มิ้น มิ้น IP: 182.52.141.98 วันที่: 1 มกราคม 2554 เวลา:19:43:00 น.  

 
อยากทำแท่งแก้วฟรีฟร์อมเป็นจัง


โดย: อภิญญา IP: 118.172.182.130 วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:18:09:20 น.  

 
อยากได้โคมไฟที่ทำจากใยแก้วนำแสงมา


โดย: ก้อย IP: 101.109.77.228 วันที่: 12 มกราคม 2555 เวลา:11:30:00 น.  

 
สวยมากเลยค่ะ


โดย: หญิง IP: 203.172.168.65 วันที่: 9 สิงหาคม 2555 เวลา:14:18:32 น.  

 
อยากทำบ้างอ่ะ


โดย: ฝน IP: 202.29.194.171 วันที่: 12 มิถุนายน 2556 เวลา:13:25:08 น.  

 
ถ้าเส้นไยแก้ว ไม่ตรงคือ งอโค้ง มีวิธีแก้ไขอย่างไรค่ะ ( คือซื้อ Flash Braid มาแล้วเค้าพับใส่กล่องมาค่ะ)


โดย: หญิง IP: 192.99.14.36 วันที่: 8 ตุลาคม 2558 เวลา:10:24:52 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

tudtu_tidtee
Location :
ลพบุรี Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]


ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add tudtu_tidtee's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.