space
space
space
 
ธันวาคม 2566
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
space
space
26 ธันวาคม 2566
space
space
space

ชวนลอดถ้ำ ที่มีชื่อเสียงของไทย เที่ยวปีใหม่ แบบผจญภัยที่อุทยานแห่งชาติ
อีกหนึ่งที่เที่ยวทางธรรมชาติ สำหรับสายลุย ที่วันนี้เราอยากจะแนะนำให้เที่ยวชม สัมผัสความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ ผลลัพธ์ของการเปลี่ยนผ่านทางธรณีวิทยา นั่นก็คือ ถ้ำ นั่นเอง
วันนี้เรามีอุทยานแห่งชาติ 4 แห่ง ที่ #กรมอุทยานฯแนะนำ ให้เป็นจุด #เที่ยวอุทยานฯ ชมถ้ำ ที่มีลักษณะทางธรณีวิทยาที่สวยงาม เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวในช่วงฤดูหนาว ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ #ThailandWinterFestival
1 ] ถ้ำน้ำลอด เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าลุ่มน้ำปาย จ.แม่ฮ่องสอน
ถ้ำน้ำลอด อยู่ที่ตำบลถ้ำลอด อำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน อยู่ในความดูแลของ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าลุ่มแม่น้ำปาย เป็นอีกหนึ่งแหล่งโบราณคดีและธรณีวิทยาที่สำคัญ ของประเทศไทย มีการขุดพบเครื่องมือเครื่องใช้สมัยโบราณภายในถ้ำ ซึ่งคาดว่าน่าจะมีอายุราว 2,000 ปี
ภายในถ้ำน้ำลอด มีลำห้วยชื่อ น้ำลางไหล ลอดผ่านภูเขาเข้าไป และไหลทะลุออกอีกด้านหนึ่ง ทำให้ภายในถ้ำที่นี่ มีหินงอก หินย้อยสวยงาม และยังมีข้อได้เปรียบคือสามารถเข้าชมได้ง่ายมาก จากบรรดาถ้ำทั้งหมด
โดนเส้นทางจากด้านหน้า เดินเท้าเข้าไป 350 เมตร ด้วยไฟส่องทาง ที่นี่ไม่มีการติดตั้งไฟภายในถ้ำ เพื่อรักษาสภาพภายในถ้ำให้สวยงามและคงเดิมอยู่ตลอดเวลา โดยการเข้าชม ต้องนั่งแพและจ้างคนนำทาง ซึ่งเป็นชาวบ้านใกล้เคียง ที่สมัครมาเป็นคนนำทางให้ความรู้กับนักท่องเที่ยว
เมื่อถึงปากทางเข้าถ้ำ จะเห็นภาพสวยงามยิ่งใหญ่ของ ถ้ำน้ำลอด ที่มีน้ำไหลผ่านตั้งแต่ปากทางเข้าถ้ำ ไปจนถึงถ้ำสุดท้าย ที่อยู่ภายในโพรงทั้งหมด ที่มีความยาว 500 เมตร กว้าง 20 เมตร และสูงถึง 50 เมตร
ซึ่งเส้นทางน้ำได้กัดเซาะโพรงถ้ำแห่งนี้มานานมากกว่าล้านปี ทำให้เกิดเป็นถ้ำย่อยภายในถ้ำน้ำลอดอีก 3 ที่ ได้แก่ ถ้ำเสาหินหลวง ถ้ำตุ๊กตา และถ้ำผีแมน
การเข้าเที่ยวชม ถ้ำน้ำลอด สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี โดยมีค่าบริการผู้นำทาง และค่าแพ ราคา 550 บาท นั่งได้ 4 คน รับรองว่าไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน



2 ] ถ้ำละว้า อุทยานแห่งชาติไทรโยค จ.กาญจนบุรี
ถ้ำละว้า อยู่ที่ตำบลวังกระแจะ อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี เป็นถ้ำแห่งแรกๆ ของกาญจนบุรี ที่ถูกค้นพบพร้อมโครงกระดูกมนุษย์โบราณในถ้ำ
โดยชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในแถบบริเวณนี้ ได้ค้นพบถ้ำ ตั้งแต่ช่วงก่อนปี พ.ศ. 2496 ต่อมากรมศิลปากรได้มาทําการขุดค้นสำรวจภายในถ้ำ และพบโครงกระดูกมนุษย์ เครื่องประดับ เครื่องมือเครื่องใช้ และภาชนะดินเผาสมัยยุคโบราณ คาดว่าเคยเป็นที่อยู่อาศัยของมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ มีอายุกว่า 3,000 ปี
ภายในตัวถ้ำ จะสามารถพบน้ำหยดจากเพดานถ้ำ และน้ำไหลซึมจากพื้นได้ตลอดเวลา บ่งบอกว่าถ้ำแห่งนี้ยังมีการก่อตัวและเปลี่ยนแปลงรูปร่างอยู่ตลอด
โดยหยดน้ำเล็กๆ ด้านบนเพดานถ้ำ จะมีฤทธิ์เป็นกรดอ่อนๆ เนื่องจากผ่านทั้งอากาศ ดิน และสารอินทรีย์ต่างๆ เมื่อไหลผ่านหินปูนในถ้ำ จะค่อยๆ แข็งตัวกลายเป็น หินย้อย และอีกส่วนหนึ่งที่หยดลงพื้น จะสะสมตัวกลายเป็น หินงอก นั่นเอง
ถ้ำละว้า มีทางเข้า-ออกทางเดียว มีปากทางเข้าที่ค่อนข้างเล็ก แต่ภายในถ้ำใหญ่โตกว้างขวาง แบ่งโถงถ้ำออกเป็นห้องต่างๆ โดยแต่ละห้องก็มีลักษณะที่แตกต่างกันไป ถูกจัดไว้อย่างเป็นระเบียบ มีป้ายบอกชื่อห้องชัดเจน และมีไฟเปิดให้ตลอดสองข้างทาง
ได้แก่ ห้องหนุมาน เป็นห้องแรกของถ้ำ อยู่ห่างจากปากถ้ำเพียง 45 เมตร ห้องจระเข้ มีหินย้อยขนาดใหญ่คล้ายจระเข้เกาะอยู่บนเพดาน , ห้องดนตรี จะมีหินก้อนหนึ่ง เมื่อเคาะจะมีเสียงดังก้องไปทั่วถ้ำ , ห้องค้างคาว เป็นโถงถ้ำสูงกว้าง เมื่อก่อนมีค้างคาวอาศัยอยู่มากกว่าพันตัว แต่ปัจจุบันได้ย้ายไปอยู่ตามซอกถ้ำอื่นๆแล้ว , ห้องม่านบรรทม เป็นห้องไฮไลท์ที่สวยที่สุด มีหินงอก หินย้อย ม่านหินย้อย เสาหิน หินถล่ม และหินที่มีประกายเพชรจากแร่ซิลิกา ซึ่งมีความสวยงามมาก เนื่องจากตัวหินยังเจริญเติบโตอยู่เรื่อยๆ ยังมีสายน้ำไหลย้อยลงจากซอกหิน ที่มีลักษณะแผ่ขยายคล้ายผ้าม่านในห้องนอนขนาดใหญ่ ผนังถ้ำและเสาถ้ำในห้องนี้ เต็มไปด้วยผลึกเป็นประกายระยิบระยับ เมื่อกระทบแสงไฟ ทำให้ทั้งห้อง เหมือนห้องบรรทมในพระราชวัง ที่ประดับด้วยม่านเพชรเป็นประกายไปทั่วทั้งห้อง



3 ] ถ้ำหลวง อุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย
อุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน มีเนื้อที่ราวๆ 5,000 ไร่ เป็นผืนป่าที่มีความร่มรื่นอุดมสมบูรณ์ อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าดอยนางนอน ตำบลโป่งผา อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย
โดยมี “ถ้ำหลวง” สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในเขตอุทยานฯ มีความยาว 10.3 กิโลเมตร มีความสูงโดยเฉลี่ย 779 เมตร ตัวถ้ำเกิดจากการกัดเซาะของน้ำใต้ดินเป็นเวลานาน มีขนาดใหญ่และลึกมากเป็นอันดับที่ 4 ของประเทศไทย
ภายในถ้ำมีลักษณะทางธรณีวิทยาที่สวยงาม ทั้งเกล็ดหินสะท้อนแสง หินงอก หินย้อย ธารน้ำถ้ำลอด และถ้ำแขนง ยังมีร่องรอยที่แสดงถึงวิวัฒนาการของถ้ำเป็นจำนวนมาก เช่น ระดับพื้นถ้ำเก่า รอยการไหลของน้ำเป็นริ้วคลื่น โพรงเพดานถ้ำและรอยแตกของผนัง รอยแตกแบบมีแรงดึง รอยระดับน้ำหลุมยุบ หินถล่มทั้งขนาดใหญ่และเล็กจำนวนมาก
หลังจากเหตุการณ์เยาวชนทีมหมู่ป่า ติดอยู่ภายในถ้ำ และถารกิจช่วยเหลือที่ยิ่งใหญ่ และอาศัยความร่วมมือจากทีมผู้เชี่ยวชาญทั้งไทยและทั่วโลก ถ้ำหลวงได้ปิดการเข้าชมไประยะหนึ่ง ก่อนกลับมาเปิดให้บริการเที่ยวชมภายในโถง 1
และล่าสุด วันที่ 15 ธันวาคม 66 ทางกรมอุทยานฯ ได้เปิดให้มีการท่องเที่ยวแบบผจญภัย ในทริปสำรวจถ้ำหลวง โถง 3 โดยเปิดให้เข้าสำรวจ ย้อนรอยเส้นทางการช่วยชีวิตทีมหมูป่า โดยนักสำรวจจะต้อง ปีนป่าย ลอด คลาน ไปตามแนวโถงถ้ำที่มีเส้นทางคดเคี้ยว บางช่วงเข้าถึงง่าย บางช่วงมีเพดานต่ำ ความลึกรวม 700 เมตร ใช้เวลาสำรวจไป-กลับ ประมาณ 3 ชั่วโมง
โดยเปิดให้เข้าร่วมสำรวจ แค่รอบละ ไม่เกิน 10 คน วันละ 2 รอบ รอบเช้า 9.00 น. รอบบ่าย 13.00 น. โดยในช่วงแรกนี้ จะเปิดเฉพาะวันอังคาร พุธ และพฤหัสบดี เท่านั้น และต้องจองล่วงหน้าอย่างน้อย 7 วัน ผ่านทางเฟซบุ๊คแฟนเพจ อุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน
สำหรับทริปสำรวจถ้ำหลวงโถง 3 มีค่าบริการ คนไทย 950 บาท ชาวต่างชาติ 1,500 บาทโดยจะเป็นค่าอุปกรณ์เซฟตี้ ค่าทีมเจ้าหน้าที่นำทาง และค่าประกันอุบัติเหตุคุ้มครอง โดยนักสำรวจสามารถนำ ผ้าบัฟและถุงมือ ที่สกรีนลายถ้ำหลวง กลับบ้านไปเป็นของที่ระลึกได้ด้วย
ส่วนบริเวณโถง 1 ยังคงเปิดให้เข้าชมฟรี ไม่มีค่าบริการเหมือนเดิม สำหรับนักท่องเที่ยวทั่วไป ที่ต้องการเดินเที่ยวชมความงดงามของถ้ำหลวงแบบสบายๆ



4 ] ถ้ำจระเข้ อุทยานแห่งชาติตะรุเตา จ.สตูล
ถ้ำจระเข้ เป็นถ้ำที่อยู่ปลายคลองพันเตมะละกา ในเขตพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติตะรุเตา จังหวัดสตูล เป็นอุทยานแห่งชาติ ที่อยู่ในพื้นที่ทะเลอันดามัน
การเดินทางไปเที่ยวชมถ้ำจระเข้ นักท่องเที่ยวจะต้องนั่งเรือหางยาว ไปตามคลองพันเตมะละกา ตลอดเส้นทางเรือ จะได้สัมผัสกับความอุดมสมบูรณ์ของป่าชายเลน ที่เต็มไปด้วยไม้โกงกางจำนวนมากตลอดสองฝั่งคลอง โดยใช้เวลาล่องเรือประมาณ 15 นาที แล้วค่อยเดินเท้าต่อไป ตามสะพานไม้ที่ทอดผ่านป่าชายเลนไปจนถึงถ้ำจระเข้
ถ้ำจระเข้ มีความลึกประมาณ 300 เมตร ภายในมีหินงอก หินย้อย ที่สวยงามและมีลักษณะแตกต่างกัน ใช้เวลาชมถ้ำประมาณหนึ่งชั่วโมง และควรนำไฟฉายไปด้วย นักท่องเที่ยวที่สนใจสามารถติดต่อได้ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวของอุทยานฯ
อีกหนึ่งกิจกรรมที่แนะนำสำหรับที่นี่ ก็คือการพายเรือแคนู ในคลองพันเตมะละกา ซึ่งถือเป็นอีกสถานที่หนึ่งที่ไม่ควรพลาด




Create Date : 26 ธันวาคม 2566
Last Update : 26 ธันวาคม 2566 12:01:14 น. 0 comments
Counter : 357 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณhaiku


ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
space

สมาชิกหมายเลข 7324455
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






space
space
[Add สมาชิกหมายเลข 7324455's blog to your web]
space
space
space
space
space