|
|||
ตะพาบ 315 : รางวัลปลอบใจ ![]() รางวัลปลอบใจ เปลวแพร ยามเช้าในวันหนึ่งของเมืองบางกอก ในห้วงเวลาแห่งรัตนโกสินทร์สมัย........... เรือนไทยหลังใหญ่คลาคล่ำไปด้วย ผู้คนที่เดินทางมา เสียงบ่าวไพร่ที่ทำงานง่วนอยู่ พูดคุยกันเสียงดังโขมงโฉงเฉง " พวกนายช่างจากหัวเมือง เค้ามาถึงกันแล้ว.........." " คุณหลวงท่านกับคุณแพร เธอจะลงมาตอนไหนฤา " " งานฉลองกรุงฯคราวนี้ คุณท่านเป็นแม่งาน รับผิดชอบบูรณะอารามหลวง หวังจะให้เป็นที่เชิดหน้าชูตาในงานนี้ทีเดียว " " นั่นไงคุณหลวงกับคุณแพร ลงมาแล้ว...คุณแพรเธองามเหลือเกิน นับว่าเป็นบุญตาของข้าจริง ๆ......" เสียงบ่าวไพร่หญิงซุบซิบพูดกันเบาๆ ในขณะที่มองไปที่เจ้านายทั้งสอง " นี่....เปลว.....ช่างเขียนที่เพื่อนของคุณท่านจากหัวเมืองแนะนำมา เป็นช่างฝีมือดีอันดับต้นๆของแผ่นดินตอนนี้ทีเดียว ขอรับ " " เอ่อ...ไม่ต้องมีพิธีรีตองอะไรดอก ต้องขอบใจนายช่างเสียมากกว่าที่สละเวลามา " " เดินทางเหนื่อยไหม นายช่าง....." พลางมองมาที่กลุ่มช่าง ก่อนสายตาจะมาหยุดอยู่ที่ชายหนุ่มอย่างอาทร " ไม่เหนื่อยดอกขอรับ พักสักครู่ก็เริ่มงานได้เลยขอรับ......" ชายหนุ่มพูดตอบอย่างอ่อนน้อม " ไม่ต้องขนาดนั้นดอก พักเสียก่อน วันพรุ่งค่อยเริ่มก็ได้นะ แหม คนหนุ่มแน่นนี่ไฟแรงกันดีจริง ๆ......" คุณหลวงกล่าว ก่อนจะหัวเราะเบา ๆ ใบหน้าและแววตาเต็มไปด้วยความปิติ " เดี๋ยวจะให้ห้องครัวเค้ายกข้าวปลาอาหารมา กินข้าวกันก่อน แล้วค่อยเดินทางไปวัดกัน " " จะได้ตระเตรียมที่หลับที่นอนกันที่นั่นด้วย ส่วนเรื่องอาหารการกินชั้นจะเป็นธุระให้ ให้ทางโรงครัวเค้าทำไปส่งให้ทุกวัน " " ขอบคุณ ขอรับ........." " นี่ลูกสาวชั้น แพร......เค้าจะมาช่วยดูแลงานแทนชั้นเป็นบางครั้ง " ชายหนุ่มชำเลืองมองไปยังหญิงสาววัยรุ่นรูปงามที่อยู่ข้างๆ ตาสองตาประสานกันโดยบังเอิญ หญิงสาวเชิดหน้าขึ้นอย่างไว้ตัว ปรายตามายังช่างเขียนหนุ่มรูปงามด้วยท่าทีเย่อหยิ่ง หากที่สองแก้มกลับแดงระเรื่อ......... ![]() .......หญิงสาวผู้สูงศักดิ์ บุตรีของเจ้านายผู้ใหญ่ มักจะมาตรวจงานอยู่เนือง ๆ ทุกครั้งที่มา...เปลว จะมีหน้าที่พาเดินดู และอธิบายถึงรายละเอียดในส่วนต่างๆ ของงาน เหมือนดั่งเป็นน้ำทิพย์ชโลมใจ...เจ้านายที่งดงามราวกับนางฟ้า ลงมาเดินเคียงข้างกับช่างเขียนผู้ต่ำต้อยเยี่ยงมัน ชายหนุ่มทำงานไป บางครั้งก็เหลือบมองทาง....ทำได้แต่เพียงรำพึงในใจ...... " ทำไมนะ วันนี้เธอถึงไม่มา......." ขณะที่ชายหนุ่ม กำลังอยู่ในห้วงภวังค์ของความคิดคำนึง " นายเปลว......." ชายหนุ่มสะดุ้ง....เป็นเสียงที่มันรอจะได้ยินอยู่ทุก ๆ วัน " คุณแพร........." " .....เอ่อ..คุณแพร...มาตั้งแต่เมื่อไหร่ขอรับ......" ชายหนุ่มพูดเสียงตะกุกตะกัก " ชั้น ก็เพิ่งมาถึงนี่แหละ......." หญิงสาวยิ้มที่มุมปาก ให้กับท่าทีของชายหนุ่ม .......นี่เป็นครั้งที่สามแล้ว ที่ หญิงสาว มาตรวจดูความคืบหน้าของงาน " คุณแพร มาตรวจงานหรือขอรับ....." ชายหนุ่มถามเหมือนกันทุกครั้ง " ใช่ ช่วงนี้คุณพ่อท่านติดราชการ เลยให้ชั้นมาดูแทน......." หญิงสาวตอบเสียงแข็งๆ อย่างไว้ตัว " เขียนไปถึงไหนแล้วฤา นายเปลว.....จะทันงานฉลองกรุงฯ หรือไม่ " " ใกล้แล้วขอรับ ช่วงนี้ช่างเขียนก็รุมกันแทบไม่ได้หลับได้นอน ขอรับ...." " อืม..ต้องขอบใจนายเปลว กับนายช่างทั้งหลายนะ ที่ทุ่มเทกันเต็มที่...." หญิงสาวยิ้มน้อยๆ พลางปรายตา มายังชายหนุ่มที่อยู่ข้าง ๆ ด้วยความเกะกะของพื้นที่ ขณะที่หญิงสาวกำลังเดินตามชายหนุ่มเพื่อจะฟังคำอธิบายถึงความคืบหน้าของงาน เท้าอันงามผุดผาดที่สวมรองเท้าคู่น้อยไว้นั้น กลับสะดุดเข้ากับนั่งร้านที่ขวางอยู่ ก่อนที่ร่างงามของหญิงสาวจะล้มลงกับพื้น แขนอันแข็งแรงของชายหนุ่มก็รั้งร่างนั้นไว้ในอ้อมแขน ร่างที่นุ่มนิ่มและจรุงด้วยเครื่องหอม แม้นนอนนิ่งแต่หัวใจกลับเต้นตูมตาม หน้าแดงระเรื่อ หลบหน้าหลบตาจากสายตาคู่นั้น พลางดิ้นรนจากพันธนาการ ของวงแขนที่รัดรึง หลังจากที่กลับยืนบนพื้นอีกครั้งด้วยท่าทีเอียงอาย ก็ยังไม่วายจะรีบเชิดหน้าอย่างไว้ที ปรายตา ก่อนกล่าวเบาๆ " ขอบใจ......" หากสายตาของเธอกลับมองเห็นบางอย่างที่ข้อแขน ของชายหนุ่ม เลือดสีแดงที่ไหลริน จากบาดแผลที่เกิดจากคมบาดของเสี้ยนไม้ " นายเปลว...เลือดออกใหญ่แล้ว โดนอะไรฤา " ชายหนุ่มที่เพิ่งรู้สึกตัว รีบหยิบผ้าเก่าๆแถวนั้น มาเช็ดเลือดที่เริ่มไหลมากขึ้น " อย่าเทียวนะ...อย่าทำแบบนั้น ผ้านั่นสกปรกเหลือเกิน......" ว่าพลางเม้มปากสักครู่ ก็หยิบผ้าแพรสีชมพูที่เหน็บไว้ที่เอว คลี่ออก ก่อนออกคำสั่งเบาๆ " เอามือมานี่......" " เออ....คุณแพร....." " ไม่ต้องพูด....รอชั้นพันแผลให้เสร็จก่อน " " คุณแพรไม่ต้องทำขนาดนี้ ก็ได้ขอรับ ไอ้เปลวมันไม่เป็นอะไรดอก แผลนิดเดียว " ชายหนุ่มพูด น้ำเสียงอึดอัด " ชั้นไม่ได้ทำเพราะช่วยนายเปลวเพียงอย่างเดียวนะ ชั้นกลัวว่างานของคุณพ่อจะสะดุดน่ะ หากนายช่างใหญ่มามือเจ็บเสียแล้ว " " ใครจะมาเขียนแทนเล่า...." เสียงสูงอันเย่อยิ่งนั้นหัวเราะเบาๆ " ขอบคุณขอรับ....." มันมองดูผ้าแพรผืนนั้นที่พันอยู่ที่ข้อแขน แต่ทำไมนะความรู้สึกมันคล้ายกับพันไว้ที่หัวใจ " ไอ้เปลวนะไอ้เปลว เอ็งควรจะเจียมใจเจียมตน เอ็งจะหมายปองดอกฟ้าเทียวหรือ...คงแค่เป็นเพียงฝันกระมัง " ชายหนุ่มรำพึงในใจ อย่างเศร้า ๆ " เขียนเสร็จแล้วก็คงมิได้มาเยือนที่นี่อีกกระมัง.... " เสียงของหญิงสาวกล่าวเบาๆ หางเสียงคล้ายตัดพ้อ " ในใจของไอ้เปลว ก็อยากมาเยือนอีกขอรับ แต่เกรงว่าจะมิมีโอกาสเดินทางมา....แล้วก็..." เสียงนั้นแหบพร่าไป " แล้วก็...อะไรฤา....." " เกรงว่าเมื่อเขียนเสร็จแล้ว คนที่นี่ก็คงจะลืมคนเขียนนั้นเสียแล้ว....กระมัง " " เลยเกรงว่า เขาจะมิต้อนรับ....." มันพูดเบาๆ ก้มหน้าก้มตา " นี่ฟังดู ออกจะหมิ่นน้ำใจคนบางกอก เข้าเสียแล้วกระมัง....." หญิงสาวพูดเสียงสูง ทีเล่นทีจริง " คนบางกอก มิลืมง่ายนักดอก...ถึงแม้ว่าพยายามจะลืมก็เถอะ....." " เออ...มิได้ขอรับ....." " ฮึ...ดูแลแผลให้ดีด้วยล่ะ...เดี๋ยวเขียนงานไม่เสร็จ จะกลายเป็นเรื่องเอา...เอาละชั้นไปก่อน....." หางเสียงที่ฟังดูแม้นว่าจะไว้ศักดิ์ หากก็ดูอาทรต่อหัวใจผู้ฟัง ที่นั่งเรียบร้อยอยู่ " ขอรับ......"......... ![]() ........." เขียนเสร็จแล้วสินะ.....นี่ได้หลับได้นอนกันหรือยัง " " วันนี้เขียนกันยันเช้าเลยขอรับ คุณแพรมาแต่เช้านะขอรับ....." " ชั้นมาตรวจงานก่อนจะเดินทางน่ะ....จะไปต่างเมืองสักหลายวัน ก่อนจะกลับมาให้ทันงานฉลองกรุงฯ......" " ก่อนไอ้เปลวจะกลับ คงไม่ได้เจอคุณแพรอีกแล้ว...." เสียงของมันสั่น แฝงไว้ซึ่งความรู้สึกที่ส่งต่อไปยังหัวใจของคนที่ยืนฟัง ความเงียบเกิดขึ้นชั่วขณะ ก่อนจะมีเสียงกล่าวเบาๆ " บางกอก ก็ใช่จะไร้ซึ่งน้ำใจดอกนะ....." เสียงนั้นเบาจนเหมือนกระซิบ หากแต่มันกลับดังก้องอยู่ในหัวใจของชายหนุ่ม " รูปลวดลายกระหนก ที่ไอ้เปลววาด มีทั้งดอกฟ้า มีทั้งพญาหงส์...สวยงามอยู่บนชั้นฟ้า ไหนเลยจะอาจเอื้อมคิดฝัน...." " ก็มิแน่ดอก ดอกฟ้าก็อาจโน้มลงไล้ดิน หงส์ก็อาจจะมาเดินเล่นบนพื้นดินบ้างมิได้ฤา....." เสียงของหญิงสาวแผ่วเบา หากหนักแน่นนักในน้ำเสียง และความหมาย ชายหนุ่มเงยหน้าจากที่นั่งอยู่มองไปที่หญิงสาว ตาต่อตาประสานกันแนบนิ่ง ความรู้สึกทั้งหลาย มันถ่ายทอดผ่านดวงตาของทั้งสอง จนมิต้องกล่าวคำใด ๆ....... หญิงสาวหน้าแดงระเรื่อ....พลางพูดกลบเกลื่อน " จะไปเมื่อใด......" " วันนี้ เพลา เที่ยงขอรับ........" ชายหนุ่มพูดเสียงเศร้า ๆ ทั้งคู่เหม่อมองไปยังสายน้ำแห่งเจ้าพระยา เกือบจะพร้อมๆกัน....สายน้ำอันงดงามที่ไหลเลียบเขตวัด " วันนี้ เจ้าพระยาสวยเหลือเกิน......" เสียงเบาๆ จากเธอผู้สูงศักดิ์เหมือนรำพึง " ใช่ ขอรับ วันนี้เจ้าพระยางามจริง ๆ........" ทั้งสองเงียบกันไป ภายใต้ความรู้สึกที่หัวใจของคนสองคนเท่านั้นที่จะเข้าใจ ในห้วงเวลาอันอ่อนหวานนั้นกลับมีอีกเสียงหนึ่งแทรกมา " เปลว ๆๆๆ เปลว ตื่นได้แล้ว....จะเที่ยงแล้ว เดี๋ยววันนี้อาจารย์จะมาตรวจงาน เปลว ตื่น ๆๆๆ " ชายหนุ่มหน้าถอดสี เงยหน้าขึ้นมอง หญิงสาวซึ่งกำลังมองกลับมาด้วยแววตาเศร้า ๆ ภาพอันงดงามที่ค่อยๆ เลือนราง ภาพที่ราวกับหมอกควันนั้น ค่อยๆลอยห่างออกไป ๆ " คุณ แพร......" " เปลว.....เธออย่าทิ้งชั้นไป......เปลว ววว ว " มือของทั้งสองพยายามแตะจับกันไว้....หากแต่ก็ไม่สามารถทำได้........ " คุณ แพร..ร ร ร..........." .......ม่านแสงจากตะวันที่แผดกล้า คือภาพแรกที่จักษุประสาทของชายหนุ่มสัมผัส....... ......." อาจารย์................." ชายหนุ่มกล่าวด้วยเสียงแหบแห้ง ......." อาจารย์ครับ....ที่นี่ ที่ไหนครับ........" " นี่เธอเป็นอะไรไปเปลว ก็ที่วัดนะสิ......." " เมื่อคืนเธอเขียนจนเสร็จ เกือบเช้า เธอบอกเธอเหนื่อยมากเลยไม่ได้ปลุก....นี่ปาเข้าไปจะเที่ยงแล้ว " " เดี๋ยววันนี้ คณบดี กับอาจารย์ที่คณะฯ เค้าจะมาดูผลงานด้วย ไป...รีบไปอาบน้ำ " " ผ้าแพรผืนนั้น......." " ผ้าแพร....อาจารย์เห็นผ้าแพรผืนนั้นของผมมั้ยครับ มันพันอยู่ที่ข้อแขนผม " " ผ้าแพรอะไรของเธอ ครูไม่เห็น......".......... ......." เฮ้ยไอ้เปลว เมิงนอนมาสองวันแล้วนะ ไม่ไปเรียนที่คณะฯเหรอวะ กลิ่นเหล้าหึ่งเลย นี่เมิงกินเหล้าทุกวันเลยเหรอ " เสียงจากเพื่อนสนิทที่พักอยู่ห้องเดียวกัน......... ......เปลวนั่งมองสายน้ำในแม่น้ำที่ไหลเอื่อยๆ....แม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหลเหมือนกับวันนั้น....... น้ำตาของชายหนุ่มไหลพรากอาบสองแก้ม........ ......." วันนี้มาทำอะไรหรือโยมเปลว......" " ผมมาเก็บอุปกรณ์ที่ค้างอยู่ กับทำความสะอาดพื้นวัดที่ทำเลอะเทอะไว้ครับ หลวงพ่อ " " โยม...ตัดใจเสียเถิด หากแม้นจะเป็นเนื้อคู่กันแต่ชาติปางก่อน สักวันก็ต้องได้เจอกัน " ชายหนุ่ม มองที่หลวงพ่ออย่างเคารพ ระคนแปลกใจ....ก่อนกล่าวเบา ๆ " ทำไม...หลวงพ่อมองออกครับ " " อาตมาเห็นจากตาของโยมน่ะ...บุญกุศลส่วนหนึ่งที่โยมเปลวได้ช่วยเหลืองานของวัด นั่นคงจะเห็นผลในสักวันหนึ่ง " " ลืมไปเสียเถอะนะ แล้วดำเนินชีวิตต่อไป จะเป็นหนทางที่เป็นประโยชน์กว่า " ชายหนุ่มก้มลงกราบ " ครับ หลวงพ่อ "........ " เปลว ช่วงนี้เป็นอะไรฟระ ดูหงอยๆ.....นี่ก็ปีสามแล้ว คึกคักหน่อย...." เสียงรุ่นพี่ที่สนิทกันทัก " ไอ้เปลวมันอกหักครับพี่ ฮ่าๆ....." เสียงเพื่อนที่นั่งอยู่ข้างๆ พูดหยอก........ ........" เฮ้ย เปลว พรุ่งนี้มีซ่อมน้องปีหนึ่ง......ไปช่วยเป็นสตาฟให้หน่อย พี่ขาดคน " " อืม....จะดีเหรอครับพี่ ผมไม่ถนัดน่ะครับ " " เฮ้ย เดี๋ยวพี่ปีสี่ เค้าแนะให้...ทำไปตามสคริป ไม่ยากหรอก " " เออ...เอาน่า ถือว่าช่วยคณะฯ " รุ่นพี่คะยั้นคะยอ มองยิ้มๆ ก่อนพูด " พี่มีของให้ด้วย....รางวัลปลอบใจ เห็นช่วงนี้เอ็งหงอยๆ ไป.....พี่ ๆที่คณะฯเค้าเป็นห่วง " " นู่นน่ะ....ขนม ใส่เป็นถุงๆไว้แล้ว ไปหยิบเอา " " เหรอ......เออ......" ชายหนุ่มลังเลอยู่สักครู่ " เออ....ก็ได้ครับ....ขอบคุณครับพี่ " .......วันรุ่งขึ้น ช่วงเย็นของการรับน้อง " น้อง...น้องผู้หญิงคนนั้นน่ะ เต้นให้มันกระฉับกระเฉงหน่อย เรี่ยวแรงไปไหนหมด " ชายหนุ่มแสร้งทำเป็นเสียงดุ ตามที่ได้รับคำแนะนำจากรุ่นพี่ ก่อนจะพูดต่อ " น้องชื่ออะไรครับ ป้ายชื่อน้องที่แขวนไว้ที่คอกลับด้านนะ......." ในขณะที่พูด ความรู้สึกบางอย่าง....ทำให้ชายหนุ่ม จ้องมองที่ด้านหลังของน้องปีหนึ่งคนนั้นตาไม่กะพริบ....... น้องผู้หญิงคนนั้นหันมา....ชายหนุ่มมองนิ่งอยู่แบบนั้นเหมือนโดนสะกด...... ตาของทั้งสองคนประสานกัน......ก่อนได้ยินเสียงตอบเบา ๆ " ชื่อ แพรค่ะ "............ The End เรื่องราวทั้งหมดเป็นเรื่องที่แต่งขึ้น ![]() ถนนสายนี้มีตะพาบ โครงการที่ 315 - รางวัลปลอบใจ : โจทย์โดย คุณ NENE77 เพลง โหมโรงจอมสุรางค์ บรรเลงโดย วงฟองน้ำ upload by buaravong ; เดี่ยวขิมนางครวญ ๓ ชั้น โดย แก้มแก้ว กัลยกร ; ขอขอบคุณ บทเพลง ภาพเขียน ภาพถ่าย ของศิลปินผู้รังสรรค์ ; ภาพจิตรกรรมฝาผนังวัดอรุณฯโดย phetchannews ; ขอขอบคุณ ภาพงานจิตรกรรมผลงาน อาจารย์จักรพันธุ์ โปษยกฤต ศิลปินแห่งชาติสาขาทัศนศิลป์ ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาอ่านครับ ; credit - youtube , wikipedia , picture - google Thanks For Visiting * Literature Blog * น่าสนุกดีจ้า
![]() ![]() ![]() โดย: หอมกร
![]() ![]() ![]() ว้าว!! Happy ending นะคะ ตกลง..รักคือฝันไปหรา!! ![]() ![]() ![]() รางวัลปลอบใจ หนนี้ น่าจะกลายเป็นรางวัลใหญ่ในภายภาคหน้า ![]() ![]() ![]() อ่านสนุกเพลินไปเลยค่ะ ชอบๆๆ ![]() โดย: เริงฤดีนะ
![]() ![]() ช่างเขียนหนุ่มกับลูกคุณหลวง
ดูเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเป็นไปได้นะครับ ยิ่งในยุคนั้นการแบ่งชนชั้นน่าจะชัดเจนมากๆ ชอบตอนที่หักมุมกลับมาในยุคปัจจุบันครับ อ่านสนุกเลยสำหรับเรื่องสั้นเรื่องนี้ ปล.ใช่ครับต้นฉบับเป็นไม้แกะสลักครับ ![]() โดย: กะว่าก๋า
![]() ![]() พล็อตเรื่องแนว ๆ ละคร "ลูกทาส"
แต่ยังไม่โหดเหี้ยมเท่า แต่ลูกทาสก็จบแบบ happy ending นะคะ ![]() ![]() โดย: ฟ้าใสวันใหม่
![]() ![]() ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะคะ
เรื่องความรักต่างชั้นวรรณะ โดยเฉพาะพวกละครพีเรียดมีเยอะเลยค่ะ อย่าง "ลูกทาส" ช่วงนี้ช่อง 3 เอากลับมาฉายใหม่ ตอนเย็น ๆ ด้วยค่ะ ![]() ![]() โดย: ฟ้าใสวันใหม่
![]() ![]() เป็นแนว 2 ภพเลยนะครับ ตอนแรกกำลังลุ้นเลยว่าในสมัยโบราณนั่นจะเป็นไง จะจบอย่างไร กลายเป็นอีกภพไปเสียก่อน
โดย: คุณต่อ (toor36
![]() ![]() ความสงสัย
ทำให้เริ่มอยากค้นหาคำตอบ พอได้คำตอบ การเรียนรู้ก็เกิดขึ้น ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดีเลยครับ ![]() โดย: กะว่าก๋า
![]() ![]() คู่บราซิลเตะดึกมากครับ
ผมตื่นมาดูไฮไลท์แทน ส่วนใหญ่ดูคู่ 5 โมงเย็น กับ 2 ทุ่มเป็นหลักครับ เพิ่งดูคู่อิหร่านจบไป เล่นดีขึ้นมกาเลยครับ ![]() โดย: กะว่าก๋า
![]() ![]() เมื่อคืนอ่านได้ครึ่งเรื่อง
คืนนี้มาอ่านต่อ อ่านสนุกเพลินมากค่ะ โดย: Sweet_pills
![]() ![]() ภาพแรก - เดาว่า มโหสถ
ภาพที่สอง - ภูริทัตชาดก แฮปปี้เอ็นดิ้ง - อ่านแล้วมีความสุขค่ะ โดย: tuk-tuk@korat
![]() ![]() สวัสดีครับ
คุณSeaเขียนเรื่องได้สนุก ภาษาสวย อ่านจบประทับใจครับ เรื่องถ้าคู่กันแล้วต้องไม่แคล้วกัน ผมก็เชื่ออยู่นะ ขอบคุณกำลังใจเช่นกันครับ ช่วงนี้ผมยังขลุกขลิกเรื่องเวลาอยู่บ้าง กว่าจะทักเพื่อนๆ ที มาช้าตามชื่อเลย 55 โดย: มาช้ายังดีกว่าไม่มา
![]() ![]() เสียดายญีปุ่่นนะครับ
บุกหนัก ยิงยังไงก็ยิงไม่เข้า เจอสวนตูมเดียวแพ้เลย ถ้าคืนนี้เยอรมันชนะสเปนได้ สายนี้สนุกสุดๆเลยครับ ![]() โดย: กะว่าก๋า
![]() ![]() สวัสดีค่ะขอบคุณที่ไปให้กำลังใจบล็อกตะพาบนะคะ
ตามมาอ่านรางวัลปลอบใจบ้านนี้ อ่านเพลินเลยค่ะ เขียนได้ดีอ่านสนุกไม่แพ้มืออาชีพเลยค่ะ ในที่สุดก็เจอกันเพราะผลแห่งบุญจริงๆนะคะ โหวต Literature Blog ![]() ![]() ![]() โดย: กิ่งฟ้า
![]() |
Sleepless Sea
![]() ![]() ![]() ![]() Group Blog
All Blog Friends Blog
| ||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |