พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา

ก่อนอื่นเลย..ปุ้ยมิได้เขียนเองแต่ได้รับเมลล์มาทำให้อยากที่จะแบ่งปัน
ตอนนี้บ้านเมืองเราเป็นแบบนี้
คนที่เสียสละ
คนที่ทำทุกอย่าง
ปุ้ยไม่ได้แอ็ปไม่ได้ทำให้ดูดีแต่เวลาได้ยินเรื่องท่านมันจะร้องไห้จริงๆๆ

พล่านให้คิดไปถึงในหลวงตลอดเลย

เลยอย่าแบ่งปันกัน






สร้างผลงานเป็นที่ประจักษ์ของผู้บังคับบัญชา ทำให้กรมตำรวจ (ในขณะนั้น) ได้อนุมัติให้เข้ารับการ อบรมหลักสูตร " นายตำรวจสัญญาบัตร "

โดยไม่ต้องสอบคัดเลือกสร้างผลงานเป็นที่ประจักษ์ของผู้บังคับบัญชา ทำให้กรมตำรวจ (ในขณะนั้น) ได้อนุมัติให้เข้ารับการ อบรมหลักสูตร " นายตำรวจสัญญาบัตร " โดยไม่ต้องสอบคัดเลือก...."

จากประโยคนี้ทำให้คนที่เขามีความยุติธรรมและที่เปิดโอกาสให้คนอื่นได้มีความเสมอภาค คิดว่า
นี่คือระบบปิดโอกาส ทำไมต้องเปิดโอกาสให้คนที่มีผลงานเท่านั้น ตำรวจชั้นประทวนคนอื่นก็ควรจะได้รับสิทธิ์เหมือนกัน

ถ้าใครตกก็ว่ากันไป การที่เข้ามาเป็นนักเรียนพลตำรวจมิใช่ว่าทุกคนหัวไม่ดีเรียนไม่เก่ง บางคนเรียนเก่งแต่มีมีโอกาสเข้า เรียนโรงเรียนนายตำรวจ

นี่คือประเทศที่ไม่เปิดโอกาสให้คนได้เขยิบฐานะ หรือคนเหนือว่า จ.ต.ต คือจ่าเต้าต๋าย หรือจ่าตลอดชีพ มันน่าตลกสิ้นดี เงินเดือนก็พอเพียงจริงๆ จะซื้ออะไรต้องคิดรอบสอง รอลดราคา แต่น้ำมันนี่ถ้าจะลดราคาลับลมร้อนเห็นจะยาก

เหรียญยกย่องต่างๆ ถ้าเป็นภาษาอังกฤษ ในเชิงงานบริหารบุคคลเขาเรียกว่า Motivation คือ การให้กำลังใจแก่พนักงานได้มีความมุ่งมั่นในการทำงานเพิ่มขึ้นโดยไม่ลดหย่อน

ถ้าคนที่ได้รับการศึกษาทางด้านนี้มาจะไม่ตื่นเต้นอะไรมากมายเพราะเป็นเรื่องที่รู้กันว่า เอ่อจริงด้วย รางวัลอย่างนี้เก็บไปไว้ให้แมงสาปมันเลียยามว่างและเป็นแหล่งชุมของใยแมงมุม แต่จุดที่ดีก็คือธุรกิจไม้กวาดอยู่รอดเพราะต้องใช้ไม้กวาดทุกหลังคาเรือน ก็รู้อยู่เมืองไทยเต็มไปด้วยสิ่งแวดล้อมเป็นพิษ ไปไหนไม่ต้องฉีดยาป้องกันโรคเพราะชินกับการอยู่กับสิ่งแวดล้อมที่ไม่ได้มาตรฐานสากล น่าสงสารคนไทยที่ไม่รู้ไหมล่ะ เพราะฉะนั้นผู้ที่มีความรู้ความชำนาญเฉพาะด้านทำไมไม่ช่วยกันปรับปรุงระบบการเมืองและประเทศให้ดีขึ้น

คนไทยมาเรียนต่างประเทศตั้งแต่สมันรัชกาลที่ห้าแล้ว ก็เห็นชัดแจ้งว่า ราชินีวิคตอเรียแห่งประเทศอังกฤษได้วางรากฐานบ้านเมืองเขายังไง ถนนกว้าง ท่อน้ำใต้ดินขนาดเดินตรวจงานได้ ไฟฟ้าไร้สายทุกอย่างเก็บไว้ใต้ดิน เป็นตัวอย่างที่น่าทึ่งมากๆ แผนผังประเทศเขาถึงดูเรียบร้อย ไม่เห็นเอาตัวอย่างที่น่าพิศวงเหล่านี้มาใช้กับประเทศทุกเขต

จะเห็นก็แค่ที่กรุงเทพจุดกลางเมืองเท่านั้น ความเจริญก็มีอยู่แค่ที่เดียว แต่ภาษีต้องเสียกันทั่วประเทศนะ นี่ถ้าอ้างอิงถึงเรื่องเก่าที่เป็นมูลความจริงจะมีอะไรอีกมากที่จะต้องขุดคุ้ยขึ้นมาให้แก้ไข

อาจารย์เคยสอนว่า นิสัยคือพฤติกรรมที่แก้ไขได้

แต่สันดานคือพฤติกรรมที่แก้ไขไม่ได้

เท่าที่เห็นมาของรัฐบาลไทยก็มีแต่ทะเลาะกัน แต่ไม่มีอะไรดีขึ้น นี่จะมานั่งทะเลาะเรื่องส่วนตัวกันทำไม กอบโกยมาหลายชั่วคนแล้วนี่ น่าจะคุ้มไปอีก 7 โคตร



""" พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ผกก.กระดูกเหล็ก แห่ง สภ.บันนังสตา ยะลา หรือ " จ่าเพียรมือปราบ " ..ในอดีต ..

... สิ่งที่จะได้นำมาเสนอในครั้งนี้ ไม่ใช่จะมาช่วยกู้ภาพลักษณ์ให้กับวงการตำรวจ "แต่อยาก" นำแบบอย่างของ "ตำรวจดี " นายหนึ่งที่ตลอดทั้งชีวิต ในเครื่องแบบสีกากี ตั้งแต่ เป็น " พลตำรวจ " จนถึงปัจจุบัน " พันตำรวจเอก " กว่า30 ปี ที่เขาทำงานคลุกคลีอยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ผ่านการปะทะกับกลุ่มก่อความไม่สงบมานับร้อยครั้ง ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ หลายต่อหลายหนจนแทบเอาชีวิตไม่รอด ปัจจุบัน นายตำรวจผู้นี้ดำรงตำแหน่ง " ผู้กำกับการตำรวจภูธร สภ.บันนังสตา จ.ยะลา " ...


... ใช่แล้ว เขาคือ " พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา " ผู้กำกับฯ " กระดูกเหล็ก " แห่งวงการตำรวจชายแดนใต้ ที่ชื่อเป็นที่ครั่นคร้ามของกลุ่มแนวร่วมฯ ในนามของ " จ่าเพียรมือปราบ " ฉายาที่ติดตัวมาตั้งแต่เป็นตำรวจชั้นประทวน ..


... ตั้งแต่ปี 2513 หลังจบการศึกษา โรงเรียนตำรวจภูธร 9 จังหวัดยะลา พลฯสมเพียร เอกสมญา ถูกส่งเข้าเป็นตำรวจประจำ สภอ.บันนังสตา จ.ยะลา ซึ่งในขณะนั้น พื้นที่ดังกล่าว เป็นเขตเคลื่อนไหวของขบวนการโจรก่อการร้าย แบ่งแยกดินแดน อย่างหนักทำให้ภาครัฐต้องระดมสรรพกำลัง ทั้งทหาร ตำรวจ และ ฝ่ายปกครอง เข้าไปแย่งชิงมวลชน และดูแลความสงบเรียบร้อย หลายครั้งที่เกิดการปะทะ ทำให้มีการสูญเสียอย่างหนักทั้งสองฝ่าย และ ปฐมบทแห่งการเป็น จ่าเพียรมือปราบ ก็เกิดขึ้นที่นั่น ...

... และหากนับผลการปฏิบัติราชการตรวจในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ตั้งแต่ ปี 2513 จนถึงปัจจุบัน ตั้งแต่เป็น " พลตำรวจ" จนถึงยศ "พันตำรวจเอก " เขาได้เข้าทำการปะทะต่อสู้กับโจรก่อการร้าย โจรจีนคอมมิวนิสต์ มาแล้วนับ 100 ครั้ง สามารถสังหารฝ่ายตรงข้าม ยึดอาวุธปืน และที่พักเป็นจำนวนมาก ซึ่งผลในการนำกำลังเข้าปะทะกับโจรก่อการร้ายดังกล่าว ทำให้เขาได้รับบาดเจ็บทั้งเล็กน้อยและสาหัส จำนวน 8 ครั้ง เช่นในปี 2519 ได้ยิงปะทะกับกลุ่มโจรก่อการร้าย กลุ่มนายลาเตะ เจาะปันตัง ที่จับกุมตัวตำรวจและครอบครัวไปเรียกค่าไถ่ ที่เทือกเขาเจาะปันตัง อ.บันนังสตา จ.ยะลา ผลการปะทะทำให้ เขา ถูกสะเก็ดระเบิดบริเวณขาซ้าย หน้าอกได้รับบาดเจ็บสาหัสถูกส่งรักษาตัว รพ.ศูนย์ยะลา และจากการปะทะในครั้งนี้ทำให้ขาข้างซ้ายแทบพิการ ..

... จากความทุ่มเท มุ่งมั่น ทำงานอย่างหนักในพื้นที่ ทำให้สถานการณ์ดีขึ้นตามลำดับ มวลชนให้ความยอมรับให้ความเชื่อมั่นต่อเจ้าหน้าที่รัฐเพิ่มมากขึ้น ในขณะที่ " ฝ่ายตรงข้ามเกรงกลัว " จนสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ในระดับหนึ่ง ในปี 2550 เขาได้รับความไว้วางใจจากผู้บังคับบัญชา แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง " ผู้กำกับการตำรวจภูธร สภ.บันนังสตา จ.ยะลา แห่งเดียวกับที่เริ่มรับราชการครั้งแรก เมื่อยังเป็นตำรวจชั้นประทวน ...



นี่คือเรื่องราวเพียงเศษเสี้ยวของชีวิต ตำรวจนายหนึ่ง ที่ทำงานทุ่มเท เพื่อความสงบสุขของพี่น้องประชาชน เช่นเดียวกับตำรวจน้ำดีในพื้นที่อีกหลายคน พวกเขาเสมือนผู้ปิดทองหลังพระ ภายใต้เครื่องแบบสีกากี ที่เขาแสนภาคภูมิใจ แม้จะเหน็ดเหนื่อย ตรากตรำ และ เสี่ยงต่ออันตรายแค่ไหน แต่เขาไม่เคยย่อท้อ แม้อายุราชการ ของ พ.ต.อ.สมเพียร จะเหลืออีกไม่กี่ปี แต่เขายืนยัน ปฏิบัติหน้าที่ให้ดีที่สุด สมดั่งปรัชญา " ตำรวจคือ ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ " ...







ปุ้ยขอโทษที่เอามาโพสไม่หมดน่ะค่ะ..เพราะว่ากลัวอ่านกันแล้วจะเบื่อ
ไม่ชอบ

แต่ขอบอกไว้เถอะค่ะแค่ท่านรู้สึกด้วยหัวใจว่าเราต้องรักประเทศชาติ
ไม่ต้องทำอะไรมากแค่เป็นคนดีไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับใครคุณก็ร้กเมืองไทยแล้ว

ไม่ต้องเม้นท์ให้ปุ้ยหรอกค่ะอยากให้อ่านแล้วรู้สึกแบบปุ้ย

เทิดทูญคนแบบท่าน...แล้วก็รักท่านมากๆๆถึงแม้ว่าท่านจะไม่มีชีวิตอยู่ต่อไปแล้ว

Create Date : 23 มีนาคม 2553		0 comments
Last Update : 24 มีนาคม 2553 12:46:48 น.
Counter : 3008 Pageviews.
Share Tweet