ก็น้ำท่วมไปแล้วนะครับ ก็มั่วแต่ยุ่งวุ่นวายกับการทำสวนขึ้นมาใหม่เลย ย้ำนะครับ เหมือนเริ่มใหม่จริงๆ

วันเวลาผ่านไปก็นานแล้ว ก็เลยเอาภาพมาฝากหน่อย ว่าปัจจุบันเป็นอย่างไรบ้าง

















เท่านี้แหละครับ ภาพไม่ได้เรียงวันก่อนหลังนะครับ 

จากวันนั้นถึงวันนี้ มีบทเรียนต่างๆเข้ามาให้เรียนรู้มากมาย ให้ผู้ชายหัวฟูอย่างผมได้เรียนรู้

ยังสู้ต่อครับ ปีหน้าปลายปีว่ากันใหม่เรื่องน้ำท่วมครับ สวนหลังจากนี้ ขอเก็บตังก่อน คร๊าฟฟฟฟฟ

สภาพตอนนั้น โอ้ว เจ็ดหมื่นกว่าก้อน!!!!! แออัดกันหาทางออกเหมือนคนหนีไฟไหม้ -*- 

ก็ในเมื่อน้ำมันมาจากด้านโน้น มันก็ไหลลงไปด้านนี้นะสิ ดีนะเนี้ยตอนที่น้ำขึ้น ขึ้นเร็วมาก

ทำให้มันลอบออกไปไม่มากนัก ที่เหลือก็ติดอยู่ในสวนนี่แหละครับ



ส่วนที่เหลือก็ โล่ง!!!!!!!!!!   โอ้วๆๆๆๆ ทำเยี่ยงไรล่ะบาดดดดนิ!! หึหึ

ก็รอ ครับรอให้น้ำมันลงกว่านี้อีกหน่อยแล้วค่อยมาว่ากัน



และก็มาถึงวันนี้ แห้งแล้ว!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!    ตึ่งๆๆ จบ ภาคพิสดาร ต่อไปเป็นการเริ่มต้นใหม่หมด

สุสุ Oss!!!

สวนกล้วยไม้ตัดดอก (ภาคพิสดาร)


ถามว่าผมอยากทำตอนนี้ขึ้นมามั๊ย? ไม่เลยครับ แต่ทำยังงัยได้
เมื่อนิคมโรจนะ เอาไม่อยู่ ผมก็คงต้องยอมรับแล้วละครับ  
ไว้จะมาลงรายละเอียดให้นะครับ 
กลับมาแล้วครับ ต้องขอบคุณมากๆเลยสำหรับกำลังใจ ขอบคุณจริงๆ 

หลังจากที่ได้ทำรีวิวไว้จนจบไปแล้ว แต่น้ำมันดันเยอะแยะเหลือเกินก็เลยอยากเอามาเล่าสู่กันฟังครับ
โดยผมขอแบ่งออกเป็น 3 ช่วงนะครับกับการต่อสู้ครั้งนี้ แต่ก่อนจะเข้าสู้ช่วงเนื้อหา มาดูภาพวันวานในอดีตก่อน
ว่าหลังจากช่างแทงร่องได้เริ่มแทงร่องไป ทางผมเริ่มบำรุงและป้องกันโรค ศัตรู ต่างๆนาๆ ซึ่งก็เป็นการสู้รบกันเป็นธรรมดาอยู่แล้ว

แต่หลังจากนั้นพายุก็ถาถมเข้ามา ประกอบกับน้ำในแม่น้ำเริ่มเยอะขึ้นจนใจเริ่มไม่ดี
ฝนก็ตกเอาๆ คันดินรอบๆก็เริ่มชุ่มน้ำได้ที่เลย

ผมขอเริ่มต้นเข้าสู่ ช่วงที่หนึ่งเลยละกัน ช่วงนี้ให้ช่วงว่า ก่อร่างสร้างมวล 



ช่วงนี้ด้วยเหตุพายุได้เข้าเมืองไทยไปหลายต่อหลายลูก แต่ไม่ได้มีผลกระทบ
กับสวนของผม หรือภาคกลางเลยนั้น แต่ได้สร้างต้นเหตุของปัญหาทั้งปวงเอาไว้เกินที่จะแก้
น้ำจำนวนมากเหลานั้นถูกเก็บเอาไว้ แล้วยังไงล่ะครับ ทั้งที่ไม่ได้ปล่อยมา แต่น้ำก็ไหลลงมาสู่แม่น้ำสายหลัก
แน่นอนน้ำในแม่น้ำเริ่มสูงขึ้น  คลองที่ผ่านข้างๆสวน (คลองบ้านสร้าง) ซึ่งไหลต่อมาจาก
คลองข้าวเม่า โดยมีประตูน้ำวัดกระสัง เป็นตัวปิดตายเพื่อไม่ให้น้ำเข้ามาได้และเพิ่มจำนวนน้ำในคลองบ้านสร้าง
เมื่อคลองบ้านสร้างไม่มีน้ำเข้ามา แต่เมื่อน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาสูงแล้ว คลองบ้านสร้างเมื่อไหลผ่านไป
จะผ่านไปเรื่อยๆและไปไหลลงแม่น้ำเจ้าพระยาแต่มีประตูน้ำครับ ปิดตายเช่นกัน อ้าว!! ฟังแล้วดูดีไม่น่ามีปัญหา
ก็ในเมื่อต้นน้ำวัดกระสัง ที่ปิดไม่ให้น้ำเข้ามาในคลองข้าวเม่า และปลายน้ำที่ปิด เพื่อไม่ให้น้ำจากเจ้าพระยาเข้ามา



ตรงเลข 1 คือประตูน้ำวัดกระสัง สีเหลี่ยมสีน้ำเงิน คือตำแหน่งของสวน จุดแดงๆ คือ คลองบ้านสร้างไล่ลงมาเลยครับ
ก็ในเมื่อปิดไว้แล้วเกิดอะไรขึ้น ตามไปดูเลยครับ ในช่วงที่ 2 ให้ตอนว่า สิ่งที่ควรทำ



ต้องขอบอกก่อนเลยนะครับ ในช่วงที่ 1 นั้นผมแทบไม่รู้ตัวเลย หรือเรียกได้ว่าหลังจากทำรีวิวตอนสุดท้ายไป
ได้ไม่นานหรอกครับ ช่วงที่1 มันก็เกิดขึ้นมาแล้ว ผมก็ยังคงเดินหน้าทำทุกอย่างไปอย่างไม่รู้ตัว
ติดตามเพียงข้าวพายุบ้างเล็กน้อย เริ่มมองหาสิ่งที่ทำให้สวนเพรียบพร้อมขึ้น
สิ่งของต่างๆมากมายเริ่มมาอยู่ที่สวน ของต่างๆเริ่มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ



ในหัวตอนนั้นมั่วแต่ยุ่งกับเรื่อง ราดำ เรื่องหนอน บุ้ง และกลุ้มใจเรื่องต้นที่จะโตไม่ไล่กัน ได้แต่คิดๆ
จะทำยังงัยให้ปัญหาเหล่านี้หมดไป โดยไม่รู้ตัวเลยว่า เรื่องที่กำลังมานั้นใหญ่ยิ่งนัก 



วันคืนผ่านไป ฝนเริ่มทยอยตก เพิ่มวันบ่อยขึ้น และหนักขึ้น เริ่มรู้สึกว่าน้ำเยอะแล้วนะ 



แต่ถึงแม่น้ำเยอะ พื้นก็ยังแห้ง ฝนทิ้งช่วงเมื่อไหร่ แห้งกริบเพราะแดดแรงมากๆ
ช่วงนั้นยังคิดจะถมหินคลุกเพิ่มเลยครับ ทั้งทราย หินคลุก ลงมาได้หมดแล้ว เหลือ แค่เพียงเอารถมาดัน



หลังจากนั้นเพียงไม่นานไม่กี่วันครับ 



รู้สึกว่าน้ำมันมาจากไหนเยอะแยะครับเนี่ย สูบเท่าไหร่ก็ไม่หมด 



วันนี้พอก่อนครับ เหนื่อยเอาการ

หลังจากที่กั๊กอยู่นาน - - จริงๆไม่ได้กั๊กหรอกครับ มันไม่ว่างจริงๆ ที่สวนก็ไม่มีเน็ตจะกลับมาที่บ้านทีก็นานๆครั้ง
แต่วันนี้ วันที่รอคอยก็มาถึง TOT มีเน็ตใช้แล้วคร๊าฟฟฟฟที่สวนกล้วยไม้นี่แหละ เป็นแบบไร้สายเลยทีเดียว 5555
ว่าแล้วก็เข้าเรื่องซะเลยหลังจากที่ลุยกันมาอย่างยาวนาน สู้กับทุกสิ่งทุกอย่าง ดิน น้ำ ลม ไฟ สู้กับมันมาหมดแล้ว
วันที่รอคอยก็ใกล้แล้วหละครับ หากนับจากวันนี้ งานที่เหลือก็ไม่น่าจะเกิน 5% จากทั้งหมด
หลังจากเลือกสรร หาเครื่อง คำนวนปั้ม วางระบบน้ำอยู่พักใหญ่ๆ ทุกวันนี้ก็รถน้ำมาได้จะ 2 อาทิตย์และครับ
รวมถึงระบบ การให้ปุ๋ยให้ยาด้วย จากวันที่มีแต่ถึงปุ๋ยเปล่าๆจนถึงวันที่เครื่องมาติดตั้งและจนวันทดสอบระบบ ผ่านพายุ นกเต็น
ผ่าความลำบากอยากเข็นของการทำเครื่องกวนน้ำยา และการหาเกียร์ทด - - จนมาถึงวันนี้ เฮ้อ



หลังจากได้เครื่องมาก็ต้องนำไปทำแท่นเครื่อง ติดกับปั้มน้ำ แต่แม่เจ้า ตอนซื้อปั้มมาดันเอาแบบหมุนซ้ายมา - - งานเข้าครับ
ก็ตอนแรกกะว่าจะเอามาใช้กับเครื่องยันมาแล้วดึงกับสายพานนี่นา เขาคงหยิบแบบนั้นมาให้ แต่พอเอาเข้าจริงๆ หลังจากคิดคำนวณ โน้น นั่น 
แล้วดูเหมือนจะไม่พอซะแล้วสำหรับเครื่องยันมา เนื่องจาก 2400 rpm เป็นรอบที่เครื่องให้ได้ ไม่พอแหง่มๆ เลยเอาเครื่องยนต์ดีกว่า
กำลังเหลือดีกว่าขาดน่า T_T แต่ตังนี่สิจะขาดเอา 5555 เครื่องตัวนี้เป็นเครื่องดีเซล 2500 ของ นิสสัน ของเดิม
ยกหิวมาจากญีปุ่นเลย เครื่องไม่ได้ใช้ในรถ เพราะของเดิมใช้กับปั้มน้ำสามสูบทำเป็นเหมือนระบบล้างรถอย่างไงอย่างงั้น
เครื่องถือว่าสถาพกิ๊กเลยละครับถือว่าโชคดีไป ราคาก็พอสู้ได้ พอๆกับยันมาร์ตัวนึงแหละ แต่ได้แรงเหลือเฟือน่า ^^
ดูจากข้อมูลแล้ว 77 แรงม้า ครับ 4400 rpm คือรอบสูงสุด SD25 เครื่องดีเซลตัวที่สามของ นิสสัน
ได้มาไม่รีรอจับชนปั้มเลยครับ แต่ระบบไฟ ถึงน้ำมัน สุดท้ายได้มาอย่างที่เห็นในรูปครับ



ได้มาไม่รอช้าเจาำะผนังใส่โน่นนี่โดยเร็วหวังจะรองเครื่อง ไม่เกิน 2 ชม ก็ได้ทดสอบตื่นเต้นใจจะขาด 555 
สตาร์ทครั้งแรก (ตึกๆ จะเป็นไรมั๊ยน๊อเราต่อท่อเองจะดีเปล่าน๊อ) บรึ้นๆ เสียงของเครื่องกระหึ่มออกจากท่อที่ไม่ได้ต่อหม้อพักไว้ดังเต็มห้อง
ผมค่อยๆกดคันเร่งแบบรัมนาดอย่างช้าๆเครื่องค่อยๆเร่งพร้อมกับเสียงที่ดังและควันที่ดำออกมาเรื่อยๆ
การต่อท่อของผมจะเป็ยแบบออกมาจากปั้มแล้วจะแยกเป็น2ทาง ทางนึงตรงไปที่สวน อีกทางหนึ่งแยกมาใส่ถังปุ๋ย โดยมี
บอลวาล์วเป็นตัวควบคุมทิศทางให้ เสียงเครื่องยังคงดังขึ้นเรื่อยๆตามใจผมที่รอน้ำออกมาใส่ถึงปุ๋ย 
เวลาผ่านไปนานพอให้สงสัย - - ทำไมน้ำไม่ออกวะ (กุต่ออะไรผิด หรือท่อแตก หรือปั้มพัง หรือ !@@$%##) เอาแล้วสิ
พี่คนรู้จักเดินมาพร้อมคำถามจะลองเครื่องหรือ หลังจากพี่เขามองไปรอบห้องก็หันมาหาผม น้ำไม่ออก? ถูกคร๊าฟฟฟพี่ 
ก็เอ็งไม่ใส่กระโหลกนี่หว่ามันจะเก็บน้ำได้ยังไงเล่ามันต้องล่อน้ำก่อนที่แรกน่ะ -3- ผมม่ายยู๊ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ



หลังจากน้ำออกเร่งอยู่ไม่กี่นาที บ่อปุ๋ย 4ตัน ของผมก็เต็มอย่างรวดเร็ว เอาเว้ยพรุ่งนี้ให้ปุ๋ย สุสุสุ
ตัวกวนก็ยังไม่ได้แต่ดันอยากให้ปุ๋ยและจะทำยังไงล่ะก็มันต้องเริ่มให้แล้วนี่นาเดี๋ยวจะหนาวแล้วถ้าไม่ดีดมันตอนนี้จะทันมั๊ยล่ะนั้น
หันไปห่พี่ชายที่เพิ่งขึ้นมาจากในบ่อหลังจากลงไปใส่กระโหลกมาให้ อ้อ นี่ไงเครื่องกวนปุ๋ยชั้นเลิศว่าแล้วก็ทำการเจรจาต่อรอง
ภาพที่ได้ก็คือ #^%$$# คิดเอาเอง น้ำ4ตัน 555+



มือ 2



จากวันนั้นก็ผ่านไปอีกหลายวัน เครื่องมือวิเศษที่จะมาช่วยเราก็มาถึง มอเตอร์ 3 แรง เกียร์ทด 1/60 
พร้อมแท่นวางและใบพัดถูกประกอบมาเสร็จแล้ว พร้อมมาติดตั้ง



ออกมาข้างนอกก็เป็นส่วนในเรื่องของการแทงร่องใต้พื้นโต๊ะแล้วละครับเหลือเท่านี้จริงๆดูภาพเอานะครับ
ตอนนี้ช่างเพิ่งเข้ามาเองแต่แทเสร็จไปจะ30 โต๊ะและครับผลงานช่างถือว่าผมชอบเลยแหละมา2คนแต่ทำงานไวและเรียบร้อยมาก



ให้กำลังใจอยู่ห่างๆครับช่าง ^^ เป็นงานที่อาศัยความอดทนสูงมากๆเลยทีเดียว วันที่ช่างมาผมขอดูมือช่างแล้วก็ โอ้วๆๆๆๆ
อย่าหาว่าอย่างงั้นเลยครับ ด้านพอๆกับเท้าเลยครับ จริงๆนะครับช่างบอกว่าเวลาจะล้างหน้าตอนเช้าต้องแช่น้ำก่อน - -
มือคู่นี้แหละครับ เขาบอกมาว่า หมื่นกว่าไร่แล้ว 5555



สูงๆหน่อย



การแทงของช่างนั้นไปเรื่อยๆครับ เขาทำไปเรื่อยๆจริงแต่เร็ว - - เอ๊ะยังไง สรุปคือเร็วแบบไม่เหน็ดเหนื่อยครับ
เขาเป็นหนอนกันกินกันแต่ใบไม้ 555









เอาละครับผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าขาดตกบกพร่องส่วนไหนมั่งแต่หลังจากที่ผมลุยงานมาครึ่งปีกว่า เหนื่อย ท้อ ผิดหวัง โกรธ เซ็ง เบื่อ
มีแทบทุกอย่างครับ หลังจากนี้แหละครับผมคิดว่าอาจจะมากกว่านี้อีก ยังไงผมก็จะเอามาเล่าให้ฟังอีกเรื่อยๆนะครับ โน้นแหละครับ
จนกว่าจะตัดดอกผลออกมาเป็นยังงัย ใครอยากได้ข้อมูลตรงไหน หรืออยากจะมาที่สวนผม เชิญเลยนะครับ ไม่มีปิดบัง
คืออยากให้รู้ไว้ ว่าผมทำได้และได้ทำแล้วและจะทำต่อไป 
ขอบคุณทุกคนมากนะครับสำหรับการติดตามทั้งจากผู้ไม่อยากจะออกนามและผู้ที่ออกนาม
สุดท้ายนี้ผมขอให้ลองติดตามเรื่องใหม่ดูนะครับเป็นเรื่องต่อจากเรื่องนี้แหละครับแต่จะเกี่ยวกับผลของการใช้ปุ๋ยและยาครับ
ก็อยากจะให้ลองมาดูกันเผื่อเจอเซียนๆเข้าจริงๆผมก็คงจะต้องถามบ้างละครับ ^^ 
สำหรับวันนี้ราตรีสวัสดิครับ ทุกๆคน 

เอาละครับหลังจากที่ฝ่าฝนทนร้อนมานานมากๆๆ
การเดินทางของผมก็มาถึงตอนที่ 10 แล้วโดยในตอนนี้ผมแบ่งออกเป็น 2
ตอนย่อยอีกทีเพราะหากเอาไว้ในตอนเดียวเลยจบเลย คงไม่ไหวไม่มีเวลาแน่ๆ
ผมเลยคิดเอาไว้ว่าในตอนที่ 1 นั้นจะเอาเป็นการสรุปค่าใช่จ่ายคราวๆพอเป็นแนวทาง
เผื่อมีใครสนใจอยากเริ่มแบบผมบ้างเพราะจากที่ดูๆแล้ว การทำสวนกล้วยไม้แบบตัดดอกนั้น
หากไม่รู้จักคนที่ทำอยู่แล้วนั้นก็ไม่รู้จะไปหาข้อมูลจากไหนเหมือนกันนะนี่ ผมโชคดีที่รู้จักและเขาช่วยเหลือ
และคอยดูแลแบบเป็นกันเองเต็มที่เลยด้วย ก็ถือว่าโชคดีไปครับ

1. ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับโรงเรือน
   เป็นค่าใช้จ่ายที่หนักที่สุดแล้วครับส่วนนี้ โดยช่างคิดเหมาเป็นไร่เลย โดยรวมค่าของค่าแรงอยู่ในนั้นแล้ว
   ตั้งแต่ เสาอัดแรงรอบนอกจนถึงเสาขาโต๊ะ สลิง สายโทรศัพท์ และผ้าสแลน ราคานั้นมีหลายราคาตามสเป็คที่ตกลงกัน
   โดย สเป็คที่ผมเลือกนั้น เป็นเสารอบนอกและเสาหัวผ้า เป็นเสาอัดแรงขนาด 4นิ้ว ส่วนเสาด้านในเป็นขนาด 3นิ้ว หัวโต๊ะ
   เป็น 4นิ้ว สเตย์เป็นเสาตัว I ฝังทุก 2 เมตร(แนวหัวผ้า) ผ้าสแลนเป็น 60% ธรรมดา สลิง 2หุน และอื่นๆละเอียดยิบ - -"
   ราคาตกลงกันไว้คิดไร่ละ 125K การคิดพื้นที่นั้นช่างจะมีการคิดอยู่ 2 แบบนะครับ โดยคิดจากชายผ้าที่ช่างได้เย็บไป
   หรือคิดจากหัวโต๊ะ โดย 2 ลักษณะนี้จะต่างกันนะครับ ในกรณีที่เราให้ช่างคิดพื้นที่จากชายผ้าหากผมทำ10ไร่พื้นที่ที่ได้
   ปลูกกล้วยไม้ที่เป็นโต๊ะจริงๆจะลดลงเหลือประมาณ 7-8 ไร่ เพราะหักพื้นที่ชายผ้าที่ช่างคิดไปเพราะช่างจะไม่ตีโต๊ะที่ชายผ้าให้
   แต่หากคิดจากหัวโต๊ะเลยนั้นกรณีผม ผมทำพื้นที่ทั้งหมด 11ไร่กว่าๆ แต่พื้นที่ที่ใช้ไปจริงๆรวมชายผ้าแล้วจะตกราว 13-14 ไร่
   แต่เราจะจ่ายแค่จำนวน11ไร่ครับ อันนี้แล้วแต่ครับ นานาจิตตั้งว่าแบบไหนดีกว่า ^^
   สรุปรวมค่าใช้จ่ายส่วนนี้ 11.2 ไร่ เท่ากับ 1.4M


2. ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับกะบะมะพร้าว
   อันนี้ก็หนักพอๆกันครับ ถ้าหากว่าราคาไม่ขึ้นมานะผมก็พอไหวเหมือนกัน แต่พอผมลงมือทำเท่านั้นแหละ จากก้อนและ 6-8 บาท
   ขึ้นเอาๆ จนผมโดนไป ก้อนละ 12บาท  จุกครับจุก จากการการคำนวนแล้วนั้น 1 ไร่ใช้ 5K-6K แล้ว11ไร่ละ 60Kเป็นอย่างต่ำ ?@!#$@ สรุปแล้วส่วนนี้ก็ 720K อย่างต่ำครับจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ครบครับน่าจะขาดอีกซัก 2-3 หมื่นกว่าๆ


3. ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพันธุ์
   ตัวเอกแท้ๆแต่ดันใช้งบน้อยกว่าเขาเลย - - เหมามาครับจากสวนที่รู้จักกันซึ่งของเขานั้นส่งออกอยู่แล้ว เป็นโจแดง เหมาเอามาเป็นวา วาละ 180 บาทการคิดเหมานั้นก็คิดเหมาเป็นวาจากโต๊ะของเขาเลยเราก็เอาคนไปตัด(เขาจะต้องการจะโล๊ะด้วยนะครับหากเขา
   ไม่อยากโล๊ะยังไงเขาก็ไม่ให้ 555+ เพราะตอนผมไปเอามาดอกยังเต็มไปหมดเลย) ก็ลองดูครับว่าวานึงได้กี่หน่อ เพราะจากการคำนวน
   เรื่องกะบะแล้วนั้น 1 กะบะจะวางหน่อ 4 หนอ จะใช้หน่อประมาณ 240K หน่อ สวนนี้ผมเอามาครบแล้ว แต่ก็เอามาเผื่อด้วยนะครับเพราะ
   เมื่อเราไปผ่ามาเองจะมีโอกาสที่จะเน่าด้วยไม่เหมือนที่ไปซื้อแบบเป็นหน่อมาแล้ว ผมเอามาประมาณ 260K เผื่อไว้ 20K เพราะว่าผมไป
   เอาพันธุ์ของอีกที่มาด้วยเป็นหน่อแบบแตกมาแล้ว จำนวน 40Kกว่า เอามาแอบวางก่อนเพราะใจร้อน 5555+ ราคาหน่อละ1บาทครับ
   พวกนี้จะไม่เน่าแน่นอนแต่ว่าเวลาวางจะลำบากหน่อยเพราะหน่อจะมีต้นมาแล้วเมื่อวางแล้วล้มบางอะไรบ้าง
   สรุปค่าใช้จ่ายสวนพันธุ์ ค่าพันธุเป็นวา 120K + ค่าจ้างตัด 50K +หน่อที่แตกมาแล้ว 40K - ขายยอดที่ตัดมาได้ 20K 
   เท่ากับ 190K บาท


4. ค่าใช้จ่ายแทงร่องน้ำ
   คิดผมวาละ 12 บาท แต่ช่างยังไม่เข้า ผมลองคิดเฉลี่ยแล้ว น่าจะตกรวมๆราว 80K กว่าบาท กำลังรอช่างอยู่นี่แหละครับ ^^
   

   ---

เอาละครับไม่รู้ลืมอะไรรึเปล่าแต่นี่ก็เท่าที่นึกได้ตอนนี้ละครับ
ไม่มีสคริปไว้ก่อนพิมพ์ไปคิดไป - - สดๆคิคิคิ ต่อไปก็คงเป็นส่วนเรื่องระบบน้ำแล้วนะครับ
ราคาส่วนนี้ก็ไม่เบาครับผมก็มาโดนตอนท่อราคาขึ้นอีกจำได้เลย ตอนนั้นจะสิ้นเดือนละ อีก2วันมั๊ง
เขาบอกว่าราคาเดือนใหม่จะไม่ใช่ราคานี้นะค่ะ เอาแล้วไงครับ ก็กลับมานั่งคิดระบบน้ำกันยกใหญ่ไม่ได้เตรียมไว้ก่อน
คิดไปคิดมามาได้สรุปเอาวันสิ้นเดือน แล้วทันมั๊ยละนั้น 555+ ไม่ทันสิครับตายกันไปราคาขึ้นเรียบร้อยแล้ว
ออกแนวบ่น - - เอาเป็นว่าผมรวมยอดค่าท่อ สปริงเกอร์ บอลวาวล์ และอุปกรณ์ต่างๆที่ผมซื้อรอบแรกละกันนะครับ
รวมแล้วก็ 125K กว่าๆ แต่มีทีท่าว่าอาจได้ซื้ออุปรณ์เพิ่มอีกหน่อยแหละครับหลังจากที่เดินไปแล้วฝั่งนึง
คราวนี้ก็มาเป็นเครื่องปั้มสามสูบ 13K ตัวเรื่อนปั้มหอยโข่งไม่รวมเครื่อง 13K
ตอนนี้เท่าที่นึกได้ก็มีเท่านี้แหละครับ

---

วันนี้ขอจบตอนที่1ไว้ก่อนนะครับเพลียมากๆขอติดเรื่องรูปประกอบไว้ก่อนนะครับหากสงสัยหรืออยากให้เพิ่มส่วนไหน
ลองบอกๆไว้ก็ได้ครับเผื่อผมลืมไป หรืออยากรู้ว่าผมวางระบบน้ำยังไงคิดยังไงผมก็ยินดีเอามาเล่ากันฟังนะครับ
เผื่อมีคนที่เชี่ยวเรื่องนี้จะได้ติเตียนกัน แต่วันนี้ ตาปิดแล้ว - -
สวัสดรครับ พี่น้องชาวไทย