สวัสดีเพื่อนๆ วันนี้เราจะมาบอกเคล็ดลับดีๆ ที่ช่วยให้ขับรถได้สบายใจขึ้น นั่นก็คือการทำประกันรถยนต์นั่นเอง! ทำไมต้องทำด้วยนะเหรอ? เดี๋ยวเราจะมาเฉลยให้ฟังกันค่ะ
นอกจากเราจะมี พ.ร.บ.รถยนต์ที่ต่อกันทุกปีอยู่แล้ว หรือที่เรียกว่า ประกัน พ.ร.บ. คือ ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ ตามที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ.2535 โดยกฎหมายฉบับนี้กำหนดให้เจ้าของรถ ที่มีชื่อในเล่มทะเบียนรถยนต์หรือผู้ครอบครองรถในกรณีเป็นผู้เช่าซื้อรถ และต้องต่ออายุในทุกๆ ปีพร้อมเสียภาษีที่เราไปต่อกันนั่นแหละ นอกจากจะเป็นประกันภาคบังคับที่ผู้ใช้รถต้องทำอยู่แล้วนั้น พ.ร.บ.รถยนต์ ยังสามารถเป็น 1 ในหลักฐานที่จำเป็นต่อการต่อภาษีรถยนต์ในทุกๆ ปี ในกรณีที่ไม่ทำจะถือว่าทำผิดกฎหมาย กรณีที่เกิดเหตุความเสียหายขึ้นกับรถที่ทำประกัน พ.ร.บ. ความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.จะแบ่งเป็น 2 ส่วนหลักๆ คือ 1. คุ้มครองค่าเสียหายเบื้องต้น หลังจากเกิดเหตุ ไม่ว่าจะผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร หรือบุคคลที่อยู่ในเหตุการณ์นั้นๆ จะได้รับความคุ้มครองในความเสียหายที่เกิดขึ้น เป็นค่ารักษาพยาบาลกรณีบาดเจ็บ ค่าเสียหายในกรณีทุพพลภาพ และเป็นค่าปลงศพในกรณีเสียชีวิต โดยไม่ต้องรอพิสูจน์ความผิด บริษัทประกันจะชดใช้ให้แก่ผู้ประสบภัย หรือทายาทโดยธรรมของผู้ประสบภัยภายใน 7 วัน นับจากวันที่บริษัทได้รับคำร้องขอให้บริษัทชดเชยในความเสียหายจากผู้ประสบภัย 2. คุ้มครองค่าสินไหมทดแทน เป็นค่าเสียหายหลังจากที่พิสูจน์แล้วว่าผู้ประสบภัยเป็นฝ่ายถูก โดยบริษัทประกันจะจ่ายค่าสินไหมทดแทน แต่ยังไม่พอ บนท้องถนนมีความเสี่ยงมากมายหลายรูปแบบที่เราไม่คาดคิดอาจเกิดขึ้นกับรถยนต์ จึงควรมีประกันรถยนต์ภาคสมัครใจติดไว้ด้วย ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจมีทั้งหมด 5 ประเภท ได้รับความคุ้มครองแบบครบวงจร เป็นทางเลือกที่ให้ความคุ้มครองเพิ่มเติมสำหรับรถยนต์ของเรา ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ รถหาย น้ำท่วม หรือภัยพิบัติทางธรรมชาติ นอกจากนี้ประกันรถยนต์ภาคสมัครใจ อาจครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลที่อาจได้รับจากอุบัติเหตุได้ด้วย ซึ่งครอบคลุมมากกว่า พ.ร.บ.เราว่าเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับการซื้อแผนความคุ้มครองที่ครอบคลุมมากกว่าการซื้อความคุ้มครองเพิ่มเติมทีละรายการ ยิ่งมือใหม่หัดขับแนะนำอย่างยิ่งเลย โดยทั่วไปแล้ว การประกันรถยนต์จะคุ้มครองผู้ขับขี่ ผู้ขับขี่ที่ระบุชื่อไว้ตามกรมธรรม์ ผู้โดยสาร และคนเดินถนน โดยทั่วไปแล้วหากเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ ประกันจะให้ความคุ้มครองสำหรับการบาดเจ็บทางร่างกาย และความเสียหายต่อทรัพย์สินของทั้งเราและคู่กรณี รวมถึงผู้โดยสารที่มาด้วยกัน ความคุ้มครองและผู้ที่ได้รับความคุ้มครอง จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับประเภทของกรมธรรม์และบริษัทประกันภัย สิ่งที่สำคัญคือต้องศึกษาและทำความเข้าใจรายละเอียดของกรมธรรม์ประกันที่เราจะเลือกซื้อ เพื่อความคุ้มค่าของเราเอง ก่อนตัดสินใจซื้อประกันรถยนต์ สิ่งที่เราควรพิจารณา มีดังนี้ค่ะ เปรียบเทียบ: ควรหาหลายๆ บริษัท เพื่อเปรียบเทียบราคาและความคุ้มครอง ชื่อเสียง: เลือกบริษัทที่มีชื่อเสียงน่าเชื่อถือ อย่าลืมเช็ควิธีการและขั้นตอนการเคลม การเคลม: ดูว่าขั้นตอนการเคลมรวดเร็วสะดวกแค่ไหน ค่าเสียหายส่วนแรก: การจ่ายค่าเสียหายส่วนแรก จะช่วยให้เบี้ยประกันถูกลง สไตล์การขับขี่: สำหรับมือใหม่ แนะนำให้เลือกประกันชั้น 1 เพื่อความคุ้มครองสูงสุด อ่านรายละเอียดสัญญา: ก่อนตัดสินใจทำประกัน ควรอ่านรายละเอียดสัญญาให้เข้าใจ เพื่อให้แน่ใจว่าความคุ้มครองตรงตามความต้องการของเรา เบื่อไหมกับการหาประกันรถยนต์ที่ต้องเสียเวลาเปรียบเทียบเอง? เราขอแนะนำที่ heygoody คลิกเดียวจบ ครบทุกความคุ้มครอง จาก 15 บริษัทชั้นนำ ไม่ต้องรอสาย ไม่ต้องเจอเซลล์ เราสามารถเปรียบเทียบราคา เช็คความคุ้มครอง ซื้อประกันได้เองง่ายๆ ตลอด 24 ชั่วโมง สบายใจหายห่วง กับประกันรถยนต์ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ยิ่งไปกว่านั้นยังเลือกผ่อน 0% นานสูงสุด 10 เดือนได้อีกด้วย สะดวกสุดๆ ไปเลย ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่ https://www.heygoody.com
Create Date : 26 สิงหาคม 2567 |
Last Update : 26 สิงหาคม 2567 17:04:24 น. |
|
0 comments
|
Counter : 248 Pageviews. |
|
|