รีวิวนี้เป็นรีวิวฉบับติ่งเกาหลีโดยสมบูรณ์ โปรดใช้วิจารณญานในการอ่าน 55555
 

ข้อควรระวัง : จะติ่งได้ควรพร้อมทุกอย่างนะคะ
ทำงานหาเงินได้เอง ใช้เงินจากแรงงานที่เราเสียไปค่ะ
แล้วก็ก่อนดูแลคนข้างนอก อย่าลืมดูแลคนที่บ้านนะคะ

หลังจากอปป้าประกาศคอน
เราก็มีความกระปี้กระเป่าประกาศกร้าวว่าชั้นต้องไปให้ได้
ก่อนจะหดหู่ในทันทีเมื่อลางานไม่ผ่านจ้า
แต่ด้วยความที่ใจมันไปเกาหลีแล้ว มันก็ต้องไปให้ได้อ่านะ

ก่อนอื่นคือ หาตั๋วคอนเสิร์ตให้ได้ซะก่อน
วงไอดอลที่เกาหลีแต่ละวงจะมีการสมัคร Official Fanclub ตั้งแต่วันแรกๆที่เริ่มเดบิวต์ 
ซึ่งเราว่ามันคุ้มมากๆเลยค่ะ
เพราะมันได้ทั้งของที่ระลึกแบบเยอะมาก
แล้วก็ได้สิทธิ์ต่างๆ เช่นการซื้อตั๋วรอบ Pre-sales อย่างที่เราได้มา 



ปล. การซื้อตั๋วคอนเสิร์ตที่เกาหลีจะสามารถรีฟันได้ตลอดเวลาเลยค่ะ
จนถึงวันงานเลย
เพียงแต่ว่า ถ้าใกล้ๆวันก็อาจจะมีค่าธรรมเนียมบ้าง 

 คอนเสิร์ตวงน้องเรามี 2 วัน คือเสาร์และอาทิตย์
ซึ่งเราเลือกวันเสาร์มา เพื่อวันอาทิตย์จะได้ไม่ฉุกละหุก
แต่สุดท้ายก็มีเหตุให้มาทั้งสองวันค่ะ 

เมื่อได้ตั๋วคอนเสิร์ตแน่ๆแล้ว ก็มาเริ่มหาตั๋วเครื่องบินกันค่ะ
การหาตั๋วเครื่องบิน คนปกติคงต้องดูจากราคา
หรือความสะดวกสบายเป็นหลักใช่มั้ยคะ?
แต่สำหรับเราอ่ะนะ ด้วยความที่เวลาจำกัด
เราต้องหาตั๋วไปวันเสาร์และกลับวันอาทิตย์ค่ะ
ด้วยเวลาตอนไหนก็ได้ที่ถึงเร็วที่สุด และกลับช้าที่สุด 

 ขาไป - เราบินเจจูแอร์ค่ะ เป็นสายการบินที่บินประจำ
เพราะเราว่ามันไปถึงแต่เช้าดีค่ะ แล้วก็เป็นคนเกาหลีเยอะ
ตอนผ่านตม.คนจะน้อยดีค่ะ 
เที่ยวบินของเรา คือ 01.00-08.40
ราคา คือ 6,030 บาท ไม่มีโปรไม่มีอะไรทั้งนั้นค่ะ
เราซื้อที่นั่งเพิ่มอีก 480 บาทค่ะ เพื่อที่จะได้นั่งหน้าๆ
คือสำหรับเรา เราว่าได้ออกเร็วๆมันดีอ่าค่ะ
ถ้าช้ามันจะโดนแถวสะสม แล้วเสียเวลา
อีกอย่างคือ พอแถวหน้าๆ คนมันจะน้อยกว่าหลังค่ะ
เลยรู้สึกว่ามันเงียบเหมาะแก่การงีบเพื่อเซฟแรงสุดๆ

 ขากลับ - เราเลือกแอร์เอเชียค่ะ ได้เวลาคือ บินกลับวันจันทร์ตอน 00.20
มาถึงไทยตอน 04.20 พร้อมออกไปทำงานเป๊ะ!!!
โดยได้ราคา 5,251 บาท บวกเลือกที่นั่งโซนเงียบอีก 820 บาท

เบ็ดเสร็จ ค่าตั๋วเครื่องบิน 12,581 บาท
(คิดว่าบินฟูลเซอร์วิสไปเลยจ้าาา)

ปล. แท่งไฟ เอาขึ้นเครื่องได้นะคะ ไม่มีปัญหาค่ะ 



 ตม.เกาหลี:

เมื่อเครื่องถึงเกาหลีตามเวลาเป๊ะ
มีความตุ๋มๆต๊อมๆ กับตม.เกาหลีอันเลื่องลือ
หลังจากที่บินเกาหลี 4 ครั้งใน 1 ปี
ก็คืองงตัวเองว่ากลัวอะไร
ปรากฏว่าผ่านตม.ในเวลา 2 นาที…
เสียใจมากแม่ ตม.ไม่เคยคุยกับชั้นเลย…

 เข้าเมืองเกาหลี: 

เราได้ซื้อ วอยเชอร์ รถไฟ AREX ของ Klook ไป
ซึ่งเรามีเครดิตจากการซื้อครั้งก่อน
จนได้ราคาตั๋วมา 58.50 บาท -.- ถูกเหมือนได้เปล่า 
รถไฟ AREX คือ Airport Express ที่วิ่งตรงจากสนามบินอินชอน
ไปสถานีโซล ประมาณ 45 นาที 
เมื่อเราผ่านตม.มา ให้เดินตามป้าย AREX ไปเรื่อยๆ
จะเจอinformation บอกเค้าไป กุ๊กๆๆๆ
เค้าก็ชี้ทางให้เรามาที่เครื่องอัตโนมัติค่ะ
กดไปเรื่อยๆเลยค่ะ มีภาษาอังกฤษ แล้วกรอกเลขวอยเชอร์ไป
เค้าจะให้เลือกที่นั่งบนรถไฟ แล้วก็ได้ตั๋วออกมา



การเดินทางโดยรถไฟก็คือดีค่ะ สะดวก รวดเร็ว
แต่บางครั้งต้องยกกระเป๋าขึ้นลงบันได
โดยปกติที่เราไม่รีบ เราจะนั่ง Airport Limousine มาลงหน้ารร.เลยค่ะ
ไม่ต้องเดินไรมาก ก็จะสะดวกกว่าค่ะ
แต่ราคาก็คือ…..จ้าาา 
สำหรับขากลับก็ไม่ยากนะคะ ทำคล้ายกันเลย
แต่เช็คเวลาปิดดีๆค่ะ ถ้าเราจะกลับไฟล์ทดึกน่ะน้าา

 การใช้จ่ายในเกาหลี:

เราจะใช้บัตร T-money นะคะ
โดยสามารถซื้อ เติมเงิน และใช้จ่ายได้ที่ร้านสะดวกซื้อทั่วไปเลย
นอกจากนี้นะคะ ใครสนใจอยากได้ลายเฉพาะๆเป็นรูปตัวเอง
หรืออปป้าแสนดีนั้นแล ก็จะมีตู้ตามจุดต่างๆให้สามารถทำได้ค่ะ
จะถ่ายกันตรงนั้น หรือ ใช้รูปจากมือถือเราก็ได้นะ ง่ายมากๆเลย
หาสถานที่ที่มีเจ้าตู้นี้ได้ที่เว็บ oppacard.com เลยค่า 



 รีวิวคอนเสิร์ตเกาหลีครั้งแรกของชั้น:

เหมือนประสบการณ์โชกโชน
แต่จริงๆคือมาเพื่อดูคอนเป็นครั้งแรกในชีวิตค่ะ 
แล้วเอาความกล้าหาญจากไหนไม่ทราบมาบัตรหลุมมมมม
เพื่อนที่รู้ข่าวคือโทรมาถามสารทุกข์สุกดิบกันมากกมาย
คือ… กลัวนี่ตาย…. 



 รายการสิ่งที่ต้องทำเมื่อมาถึงคอน:

1.Official goods คือของขายหน้าคอนนั้นเอง ซึ่งนี่คือแถวค่า



เรามาถึงตอนบ่ายโมงค่ะ เข้าใจว่าเร็วแล้วแต่ไม่พอเลยแหะ
สตาฟจะคอยจัดแถวให้ค่ะ แล้วเค้าจะให้ใบออเดอร์มาให้เราสั่ง
เราก็ติ๊กตามต้องการ แล้วรอส่งให้เค้าตอนถึงคิวค่ะ



2.ไปรับบัตรคอน คือเรากดซื้อในเว็บตอนอยู่ไทยใช่มะคะ
ก็ต้องมารับบัตรจริงที่นี่
เข้าแถวตามตัวอักษรค่ะ
แล้วก็ใช้ใบรับกับpassportยืนยัน



3.mapping แท่งไฟค่ะ
แท่งไฟหลายๆด้อมสามารถเปลี่ยนสีได้แล้วใช่มะคะ 
นั่นละค่ะ ต้องเอามาmappingก่อน
เพื่อให้มันเปลี่ยนสีสวยๆเหมือนๆกันทั้งฮอลล์ค่ะ
ตอนmapping คือดูล้ำยุคมากๆค่ะ 555
เค้าวางบนแท่น ละก็เอาบัตรคอนเราไปคีย์
แล้วไฟก็กระพริบๆ เป็นอันเรียบร้อย



4.เอาบัตรคอนไปรับริสแบนสำหรับบัตรยืน 
ถ้าเราซื้อบัตรยืนมาน่ะค่ะ
มันต้องใช้ริสแบนด้วยในการแยกโซนกันค่ะ 
ก็ไปรับแล้วติดให้เรียบร้อย
ซึ่งจะมีเลขที่รันคิวตามที่เรากดได้มาค่ะ



5.รันคิวบัตรยืนเข้างาน 
เค้าจะให้บัตรยืนมารันคิวก่อนเวลาเริ่มคอนประมาณ 2 ชั่วโมงค่ะ
เรียงตามเลขที่เรากดบัตรมาได้
แล้วก็จะเข้าตามคิวนั้นๆค่ะ
ใครได้คิวต้นๆก็สามารถไปจับจองที่ได้ก่อนว่าอยากจะยืนตรงไหน

 การยืนในหลุม:

จากการที่เราไป 2 วัน แล้วเลือกการยืนคนละแบบเลยค่ะ
เราเลยสรุปมาได้ว่ามันจะมี 2 แบบ

 ยืนข้างหน้า คือ วันแรก เราได้คิวค่อนข้างดี คือ 3XX
ซึ่งสามารถเข้าไปจับจองที่แถวหน้าๆกลางๆได้
ตรงนี้จะเห็นใกล้และชัดมากกก กลางสเตจเลยค่ะ
แต่… โดนเบียดมากกกก แบบสุดๆ
ถ้าเตี้ยก็ไม่แนะนำนะคะ เพราะจะหายใจไม่ออกเอา
ควรจะสูงไล่เลี่ยกะคนอื่นค่ะ
สำหรับเราตรงนี้ไม่ลำบากอย่างที่คิด ไม่เมื่อยอย่างที่คิดค่ะ
เพราะมันเบียดมากค่ะ ขาอ่อนก็ไม่ล้ม 55555

 ยืนข้างหลัง พอวันที่ 2 เราเพิ่งมาซื้อตั๋วหน้างานวันนั้นเลย
ทำให้ได้คิวที่ไม่ค่อยโอเคค่ะ
เราก็เลยถอยมายืนข้างหลังหน่อย
เพราะด้านหน้าคือยืนกันเต็มแล้ว
ที่ตรงนี้คือไม่เบียดเลยค่ะ โล่งมากกกกกกกก
แต่ตอนน้องเล่นสเตจกลางมันอาจจะดูห่างๆหน่อยค่ะ
แต่ข้อดีคือ เวลาที่น้องเดินไปมาตามสเตจทางเดิน
เราจะสามารถวิ่งไปมาในหลุมตามน้องได้เลย
ซึ่งตรงนี้มันฟินมากกกกกกกก 

 Note อื่นๆ:

 หน้างานมีที่ฝากของค่ะ สามารถฝากกระเป๋าเดินทางก็ได้ ถ้าไม่อยากกลับไปเอาที่พัก
 สโลแกนของเมนเป็นสิ่งจำเป็นค่ะ 555 เอาที่ป้ายชื่อมันวิ้งๆนะ น้องจะได้รู้ว่าเมนน้อง
 ถ่านแท่งไฟมีขายหน้างานเสมอ กล้องส่องทางไกลก็เช่นกัน
 ลงหลุมเอาของไปให้น้อยที่สุดค่ะ
 ข้างนอกหนาวแค่ไหน ข้างในเดี๋ยวก็ร้อนค่ะ เผื่อใจไว้ด้วยจ้า
 ที่นี่เอาน้ำดื่มเข้าได้ แต่เราไม่เคยได้จิบเลยค่ะ -.-