ประสบการณ์ และขั้นตอนการสมัครเป็น พนักงานด้านความงาม Beautician หรือ Skincare Specialist บนเรือสำราญ เราอยากเขียนประสบการณ์ตัวเองครั้งนี้เพื่ออยากให้ผู้อ่าน หรือน้องๆ ที่ต้องการไปทำงานต่างประเทศได้รับรู้ถึงประสบการณ์ในการทำงานบนเรือสำราญ ไม่ว่าแต่ละคนจะมีต้นทุนชีวิตที่ไม่เท่ากัน โอกาสไม่เท่ากัน เพียงแค่ความขยัน ตั้งใจ อดทน และไขว้คว้าโอกาสเมื่อมาถึง ทุกคนก็สามารถทำงานที่ตัวเองรัก และประสบความสำเร็จได้ในทุกที่ ถึงจะมีอุปสรรค เช่น ด้านภาษา ด้านการสื่อสาภาษาอังกฤษแม้จะไม่ใช่ภาษาแม่ของเรา หรือเราไม่เก่งภาษา เราก็สามารถที่จะฝ่าฟันและประสบความสำเร็จได้ถ้าเราตั้งใจ รายละเอียดที่เขียนนั้นเป็นการนำเสนอจากประการณ์การจริงของตัวเอง ในช่วงปี 2017 ไม่ได้ต้องการพาดพิง หรือเขียนในแง่ลบแต่ประการใด ซึ่งดิฉันได้รับการทำงานบนเรือสำราญในตำแหน่ง Beautician หรือ Skincare Specitalist เป็นเวลา1contract หรือ 9 เดือน ซึ่งเป็นรายละเอียดที่เขียนบางอย่างอาจเปลี่ยนไปบางตามกาลเวลา ซึ่งทางผู้อ่านสามารถอับเดตได้กับทางบริษัท เวปไซต์ และทางสื่อต่างๆ ได้ทั่วไป เข้าเรื่องเลยนะคะส่วนตัวเราก็เป็นเด็กจบมัธยมจากต่างจังหวัด ได้โอกาสเข้ามาเรียนในกรุงเทพฯ เนื่องจากสอบติดคณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยชื่อดังของประเทศ แต่อย่าคิดว่าดิฉันเก่งอะไรมากมาย เมื่อเข้าไปเรียนก็เหมือนเป็นหางราชสีห์ จำได้ว่าเกรดเอน้อยมาก ได้เกรดดีในวิชาภาษาอังกฤษ หรือง่ายๆ คือเกือบตก เพราะทุกคนเป็นนิสิตที่เก่งระดับประเทศ ทุกคนมีแต่เก่ง กับเก่งมากๆ อันนี้คือเรื่องจริง ไม่ใส่ไข่แน่นอน การให้เกรดจัดเป็นเคิฟในวิชาภาษาอังกฤษ คือ เกรดเอ คือ 95/100 เกรดบี คือ 80-90/100 และข้อสอบเป็นข้อเขียนทั้งหมด ถ้าจำไม่ผิด สรุปคือเรียนอยู่ในระดับกลางถึงท้ายแถว ไม่ใช่เด็กเนิร์ต ทำกิจกรรมขณะเรียน และก็จบเกรดเกือบสาม ไม่ได้เกียรตินิยมอะไร แต่ก็สำเร็จการศึกษาตามกำหมดของการเรียนสี่ปีในมหาวิทยาลัย จากนั้นเรียนจบก็มีโอกาสได้ไปทำงานและเรียนต่อที่อเมริกา ก็เรียนและทำงานไปด้วยเหมือนนักเรียนที่อยู่เมืองนอกทั่วไป และวันหนึ่งมีเพื่อนจากประเทศโคลัมเบียในห้องตอนเรียนภาษาอังกฤษ เค้านำหนังสือกายภาพมาอ่าน ดูโครงสร้างการทำงานของร่างกาย เราเลยเข้าไปถาม เค้าบอกเค้าเรียนสปา เราจึงสอบถามรายละเอียด สรุปเค้าบอกทางโรงเรียนให้กู้เรียน หลังจบหนึ่งปีสามารถผ่อนไม่คิดดอก หลังจากหนึ่งปีคิดดอกประมาณ10-20% เราเลยจัดการสอบถามรายละเอียดทั้งหมด และได้สมัครเรียนตามที่เพื่อนบอก ตอนนั้นก็ไม่ได้มีเงินมาก แค่เงินเก็บบัญชีจากการทำงาน แต่ก็คิดว่าอย่างน้อยก็ดีกว่าเรียนภาษาอังกฤษอย่างเดียว ได้ความรู้บ้าง อย่างน้อยก็เอาไปใช้ทำงานที่ไทยได้เป็นทักษะเฉพาะทาง และก็มีโอกาสได้ทำงามบนเรือสำราญ และประเทศต่างๆ ตามที่โรงเรียนได้โฆษณาไว้ และเมื่อเข้าไปเรียนจนจบ ทางโรงเรียนก็แนะนำสถานที่ฝึกงานต่างๆ เราก็ได้ฝึกงาน และใช้ภาษาอังกฤษในการทำงานมาตั้งแต่ตอนนั้น จากนั้นเราก็เข้าอินเตอร์เนตสมัครงานในตำแหน่งพนักงานด้านความงามของบริษัทSteinerซึ่ง เป็นที่รู้ทั่วในวงการสปา ถ้าต้องการได้ประสบการณ์การทำงานประดับห้าดาว การทำงานบนเรือสำราญและท่องเที่ยว ก็สมัครทางนี้ ซึ่งเข้าไปได้ที่ https://www.theonboardspa.com/ กรอกใบสมัครออนไลน์ ใช้เวลาประมาณชั่วโมงกว่าและคลิ๊กส่งไป ประมาณ 1 อาทิตย์บริษัทได้ส่งจดหมายบอกนัดสัมภาษณ์ที่ประเทศไทย เราเลยบินกลับมาพร้อมสอบสัมภาษณ์ คาดว่าเป็นคนไทยคนเดียวที่สมัครตำแหน่งนี้ เพราะส่วนใหญ่ที่Steinerสัมภาษณ์ จะเป็นตำแหน่งพนักงานสปา พนักงานนวด จะบอกว่าขั้นตอนการสมัครและตำเเหน่งสปา หรือพนักงานความงามไม่ได้ยากอย่างที่คิด เท่าที่ทราบสำหรับคนไทย สำหรับตำแหน่งสปา คือคุณต้องจบมัธยม เพศหญิง อายุไม่เกิน45 ปี สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ และมีพื้นฐานทางการนวดใบประกาศนียบัตรด้านสปาเกิน 150 ชั่วโมงจากในประเทศไทย หรือต่างประเทศ คุณก็สามารถผ่านคุณสมบัติได้แล้วคะ ส่วนสำหรับพนักงานด้านความงามนั้น คุณสมบัติก็เป็นลักษณะเดียวกันเลย แต่ต่างกันที่คุณต้องได้ใบจบด้านความงาม และมีใบประกาศนียบัตรซึ่งโรงเรียนที่คุณจบจะต้องได้รับการอนุมัติผ่านการตรวจสอบขององค์กรที่บริษัทรับรองเท่านั้น คิดว่าที่ไทยก็มีรับรองอยู่นะคะ ย้ำอีกครั้งว่าไม่จำเป็นต้องเรียนจบมหาวิทยาลัย มีอายุเกิน 18 ปี และมีใบประกาศนียบัตรรับรอง หรือบริษัทSteinerรับรอง เช่น ITEC, CIBITAZ, ROC หรือถ้าไม่แน่ใจก็สามารถสอบถามโดยตรงกับบริษัทSteiner ได้เลยคะ ในการสอบสัมภาษณ์ ทางบริษัทSteiner ก็จะส่งพนักงานจากอังกฤษเพื่อมาสอบสัมภาษณ์ และคัดเลือกโดยตรง แต่จำได้ว่าพี่คนไทยที่สมัครตำแหน่งสปา ก็จะอายุเกินสามสิบกันทั้งนั้น ทุกคนก็มาจากหลากลายอาชีพ บางคนเคยเป็นพยาบาลมา บางคนเป็นพนักงานประจำ บางคนเป็นเจ้าของธุรกิจ หรือบางคนทำงานด้านสปาที่ต่างประเทศและอยากหาประสบการณ์การทำงานบนเรือสำราญ ซึ่งคิดว่ามาจากหลากหลายหอาชีพมากเลยคะ โดยบริษัทจะตรวจสอบเอกสารว่าผ่านคุณสมบัติขั้นต้น แนะนำจากนัดก็สัมภาษณ์ด้านภาษาอังกฤษ และทดสอบภาคปฏิบัติ สมัครตำแหน่งสปา ก็สามารถทดสอบนวดนำ้มัน แต่สำหรับดิฉัน Beautician ก็จะเป็นพวกการทำทรีตเม้นใบหน้า ส่วนคำถามด้านภาษาอังกฤษ จำได้เลย ให้นำคนมาและสอบถามว่าควรจะทำทรีตเม้นอะไรบ้างสำหรับหน้าของคนๆ นี้ ควรจะใช้วิธีการดูแลใบหน้าอย่างไร และมีขั้นตอนอย่างไร เราต้องอธิบายตั้งแต่ต้นจนคือจบ ตั้งแต่ลักษณะความมันบนในหน้า ขั้นตอนทรีตเม้น และสิ่งที่ลูกค้าต้องนำไปปฏิบัติหลังจากเสร็จสิ้น ซึ่งตอนนั้นถือว่าสอบสัมภาษณ์ และปฏิบัติว่าทำได้ดี เพราะเราก็เรียนรู้จากหนังสือ และประสบการณ์ ประกอบกับก่อนสัมภาษณ์ก็เตรียมทำการบ้านมาล่วงหน้า และก็ผ่านไปได้ด้วยดี ซึ่งหากให้อยากทราบรายละเอียดลึกๆ ก็สามารถติดต่อสอบถามได้คะ ยินดีให้คำปรึกษาคะ เมื่อผ่านขั้นตอนการสัมภาษณ์ข้างต้น เราก็ต้องเตรียมความพร้อมเรื่องเอกสาร ทางบริษัทจะให้เราไปตรวจร่างกาย ฉีดวัคซีน กับการโรงพยาบาลที่บริษัทรองรับ ซึ่งตอนนั้นเป็นโรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท จากนั้นก็ทำวีซ่ากับสถานทูตอเมริกา ซึ่งเป็นC1D วีซ่า คือวีซ่าลูกเรือ และต้องไปขอใบเดินเรือที่กรมท่าเรือ และสอบวัดภาษาอังกฤษเพื่อให้ได้คะแนนตามเกณฑ์ที่ต้องการ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1 เดือนในการเดินเอกสาร แต่สำหรับคนอื่นๆ ก็จะเร็วหรือช้ากว่าแตกต่างกันไป จากนั้นเมื่อทำเอกสารเสร็จ ทางบริษัทก็จะส่งตั๋วเครื่องบินมาให้ไปเทรนที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ พร้อมกับจัดหาที่พักของพนักงานเพื่อเตรียมการเทรนนิ่ง แต่ไม่รวมค่าใช้จ่ายอย่างอื่น เช่นค่ารถ ค่าอาหาร ซึ่งตอนนั้น1 ปอนด์ ก็ประมาณ 47 บาท ในบทความต่อไปเราจะเราถึงประสบการณ์เทรนนิ่งตอนอยู่ที่Steiner สถาบันที่ส่งพนักงานไปทำงานด้านสปา beauty and wellnessให้ไปทำงานบนเรือสำราญค่ะ
ติดตามได้ที่ https://openthebox.bloggang.com
Create Date : 27 พฤษภาคม 2562 |
Last Update : 28 พฤษภาคม 2562 14:57:29 น. |
|
2 comments
|
Counter : 1076 Pageviews. |
|
|