|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
รีวิวหนังสือยกเซต
ช่วงนี้ใช้เวลาวันหยุดหมดไปกับการอ่านนิยาย ด้วยอายุที่เริ่มชราขึ้นทุกวัน ทำให้เดี๋ยวนี้อ่านหนังสือช้าลงมาก วันนึงอ่านได้อย่างเก่งก็แค่สองเล่มเท่านั้น แถมส่วนมากจะอ่านได้แค่เล่มเดียวด้วยซ้ำ เมื่อเวลาหมดไปกับการอ่าน ทำให้ไม่ค่อยเหลือเวลารีวิวหนังสือเลย มีหลายเรื่องเลยที่พอมีเวลารีวิว ก็ลืมไปแล้วว่าคิดยังไงกับหนังสือเล่มนั้น น่าเสียดาย
ความจริงใช้คำว่ารีวิวนี่ไม่ถูกนะ เพราะมันเป็นคล้าย ๆ เรียงความเรื่องความรู้สึก ความประทับใจจากหนังสือเล่มนั้นมากกว่า ดังนั้น เนื้อหาข้างล่างนี่สปอยล์เต็ม ๆ ใครตั้งใจว่าจะอ่านอยู่แล้วก็ปิดนะจ๊ะ นิยายเซตนี้ได้รับการสนับสนุนจากฝ้ายจังเจ้าค่ะ
ก่อนลงไปอ่าน ขอบอกล่วงหน้านิดนึงว่าหลาจี่ชอบทุกเรื่องที่เอามาเขียนนะ ถึงข้อความที่เขียนถึงจะเป็นติ ๆ บ่น ๆ ก็เถอะ แต่ไม่ได้เกลียดอะไร เพราะถ้าเกลียดก็คงไม่เอามาเขียนถึงแน่
เขี้ยว
เป็นเรื่องของตำรวจหญิงสุดสวย กับตำรวจชายรุ่นเก่าตามตำรา เอาความรู้สึกหลังอ่านจบก่อนละกัน เอ่อ... จบแล้วเหรอ จบอย่างนี้เนี่ยนะ คุณนางเอกหลงตัวเองไปหรือเปล่า วูลฟ์ด๊อกยอมรับหล่อนเรอะ วู้ ...
สำหรับเรื่องนี้ ถ้าไม่คิดถึงฉากจบที่ไม่ค่อยถูกใจหลาจี่แล้ว เรื่องราวจนกว่าจะไปถึงฉากจบนั้นทำได้ดีเลย ช่วงต้น ๆ จะเป็นการปูพื้นให้คนอ่านรู้จักนิสัย และเข้าใจอารมณ์ของตัวละคร โดยเฉพาะความรู้สึกของนางเอก (และหลาจี่สะใจมากตอนที่คุณตำรวจฝ่ายพระเอกด่านางเอกว่าเลิกคิดหยุมหยิมสักที สะใจอย่างแรง)
คือนางเอกมีปมที่ว่าสวยเลิศเลอแท้ ๆ แต่ถูกผู้ชายทิ้ง ทำให้ชีเป็นพวกอยากเอาชนะผู้ชายไปตลอด แถมยังเป็นพวกมองโลกในแง่ร้ายอีกต่างหาก แต่เพราะชีเป็นนางเอกนี่แหละ ทำให้คว้าซีนงาม ๆ ไปครองได้ ถ้าหลาจี่เป็นตาลุงพระเอกก็คงเซ็งเหมือนกัน ต้องจับคู่กับคุณหนูแสนสวย ชอบจินตนาการว่าตัวเองเป็นผู้เสียหาย แถมสุดท้ายโดนคว้าผลงานไปอีก ไม่มีงานไหนจะเซ็งไปมากกว่านี้อีกแล้ว
...หลาจี่คงไม่เหมาะกับนิยายที่ผู้หญิงเป็นตัวเอกจริง ๆ ด้วยสินะ ... ถึงบ่นอย่างโน้นอย่างนี้ แต่นิยายเรื่องนี้ก็สนุกทีเดียวนะเจ้าคะ แนะนำค่ะ
อุโมงค์
หน้าปกได้ใจมากกกก สนใจตั้งแต่งานหนังสือที่ผ่านมาแล้ว อ่านไปก็เสียวสันหลังวูบ ๆ
เสียดายที่ท่านอ.คนเขียนให้ความสำคัญกับการปูพื้นตัวละครมากไปหน่อย โดยเฉพาะกลุ่มทีมนักสืบพลังพิเศษสี่คนนั่น ถ้าคิดจะเขียนเป็นซีรีส์ต่อก็โอเค แต่ถ้าเป็นเล่มเดียวจบ ก็ชักเสียดายหน้ากระดาษที่ควรเอาไปบรรยายเนื้อเรื่องให้มากกว่านี้
ที่ค้างคาใจคือพล๊อตของเรื่องนี้คือ "ความละอายต่อบาป" ที่คนส่วนมากทุกข์ทรมานเพราะรับไม่ได้ว่าตัวเองในอดีตเคยเป็นคนไม่ดี แต่ถ้าคนเหล่านั้นไม่มี "ความละอายต่อบาป" ล่ะ ถ้าเกิดคนเหล่านั้นไม่สนใจว่าแต่ก่อนตัวเองจะชั่วร้ายยังไง หรือพอเห็นว่า โอ้ แต่ก่อนเราชั่วร้ายอย่างนี้นี่เอง ดังนั้นเราควรจะเลียนแบบแต่ก่อนสิ เนื้อเรื่องคงจะเปลี่ยนไปเยอะเลย (ใจจริงแล้วอยากให้ฉากจบเป็นอย่างนั้นมากกว่า)
หรือไม่ถ้าเป็นพวกไม่ยึดติด เมื่อก่อนจะเป็นยังไงกรูไม่สน ตอนนี้กรูใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบัน ...แต่ถ้ามันจบอย่างนั้น รับรอง อิฉันปาหนังสือทิ้ง หลอกให้กรูอ่านนี่หว่า
และที่คาใจอีกอย่างคือวิธีทรมานที่นางเอกเลือกใช้น่ะแหละ ชีแบกหม้อดัตช์สามหม้อ และเจ้าหนูยักษ์นั่นเดินไปเดินมาเรอะ แถมจัดการทรมานด้วยตัวคนเดียวด้วย สุดยอดถึกดีจริง ๆ ถึงจะมีวิญญาณในอดีตสิงอยู่ก็เถอะ ตอนจับหนูยัดใส่หม้อไม่โดนมันกัดบ้างหรือไงว้า
จอมป่วนหน้าซื่อ
มืดมนมาหลายเรื่องล่ะ คั่นด้วยเรื่องนี้ดีกว่า เรื่องนี้เหมาะสำหรับคนอยากร้องไห้ค่ะ (เอาล่ะสิ โฆษณาหนังสือเค้าผิด ๆ อีกแล้ว)
ถ้าพูดถึงลาบราดอร์ คนส่วนมากก็จะนึกถึงความน่ารัก ความฉลาด ความเรียบร้อย บางคนก็จะนึกภาพหมาตำรวจวิ่งแข็งขัน แต่ว่าเจ้ามาร์เลย์นี่จะต่างไปโดยสิ้นเชิง
โอเคมันมีความน่ารัก มันมีความขยันขันแข็ง แต่ที่มีมากกว่านั้นคือความไฮเปอร์ ใช่แล้วค่ะ น้องหมาตัวเอกในเรื่องนี้เป็นหมาไฮเปอร์ระดับต้องหาจิตแพทย์เพื่อกินยาระงับประสาท
จุดที่ต่างกับนิยายเกี่ยวกับสัตว์ทั่วไปคือ ทั้งเรื่องจะเป็นการบ่น ๆ ๆ ถึงข้อเสีย ข้อด้อยของเจ้ามาร์เลย์ ลาบราดอร์สุดแสบของเค้า แต่จะเป็นอารมณ์บ่นด้วยความรักอย่างสุดซึ้ง
สุดแนะนำเลยเจ้าค่ะ เนื้อเรื่องสุดเยี่ยม คนแปลสุดยอด ไม่ว่าคุณจะรักหมา หรือไม่รักหมา นี่จะเป็นหนังสือที่สร้างความประทับใจให้ได้แน่นอน
แต่ไม่แนะนำให้อ่านตอนจบต่อหน้าคนหมู่มาก เพราะจะสร้างความตกใจให้คนอื่นเอาได้
คินดะอิจิ 9
ในห้องที่ปิดตาย
อย่างที่ในหนังสือเขียนไว้ สำหรับแฟนนิยายสืบสวนสอบสวนแล้ว ทริกฆาตกรรมในห้องปิดตายเป็นทริกที่น่าหลงใหล เอามาใช้กี่ครั้งก็สร้างความตื่นเต้นให้ผู้อ่านได้เสมอ ตอนนี้ก็เช่นกันค่ะ อ่านจบแล้วก็นึกทึ่ง เออ มันคิดได้เว้ย
จุดที่ชอบเล่มนี้อีกอย่างคือมันดำเนินเรื่องได้ฉับไว ล่อหลอกคนอ่านหลาย ๆ อย่าง อ่านไปก็มีคำถามไป มันอะไรกันวะเนี่ย แต่พอเฉลยขึ้นมาแล้วก็อ๋อออ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง อ่านแล้วโอเค ยอมรับได้ เป็นอีกเล่มที่อ่านจบแล้วไม่ค้างคาใจ
คินดะอิจิ
เล่ม 6 เจดีย์สามเศียร
เล่มนี้จะแตกต่างจากคินดะอิจิตอนอื่น ๆ ตรงที่เขียนจากมุมมองของผู้หญิง หรือนางเอก กลิ่นไอเลยจะแตกต่างไปเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ลดความลึกลับ ความน่าตื่นเต้นเลย ถ้าเทียบกับคินดะอิจิเล่มอื่นที่เคยอ่านแล้ว ในด้านความตื่นเต้น ซับซ้อน ฉับไว หลาจี่ชอบตอนนี้มากที่สุด ถึงจะมีเขม่นนางเอกเป็นระยะ ๆ เพราะคุณเธอจะคอยชมตัวเองเสมอเลยว่า "หุ่นดี หน้าตาดี เป็นที่ดึงดูด" อ่านแรก ๆ ก็ไม่อะไรหรอก แต่ไปสักพัก ... เอ่อ ชักรำคาญอ่ะ ไม่ว่าใครก็ต้องมาหลงใหลได้ปลื้มพิสวาสตัวนางเอกกันหมดเลย ในฐานะผู้หญิงด้วยกันก็จงโดนเขม่นไปเสียเต๊อะ โดยเฉพาะฉากที่เจ้าชิโรยังลังเลไม่กล้าฆ่าหล่อนน่ะ เอ่อ... ขนาดตายเป็นผีแล้วยังพิสวาสอยู่เลยเหรอยะ หรือถ้านี่เป็นฝันของนางเอก ก็ช่างเป็นฝันที่หลงตัวเองสิ้นดี อ่านไปคำถามนี้ก็ดังขึ้นเป็นรอบที่ร้อย "ถ้าไม่มีหมื่นล้าน เธอจะมีเสน่ห์ขนาดนี้หรือเปล่า"
ถ้าคุณคนเขียนตั้งใจจะให้นักอ่านผู้หญิงเขม่นนางเอก เพื่อหลอกคนอ่านว่า คู่รักนี้ก็เป็นคู่รักที่ฟอนเฟะ ทำนองหญิงก็ร้ายชายก็เลว ไม่แตกต่างอะไรกับคู่รักคู่อื่นในเรื่องล่ะก็ ถือว่าประสบความสำเร็จดีเริ่ด แต่ถ้าตั้งใจสร้างภาพว่านางเอกเป็นผู้หญิงที่มีเปลือกสวย แต่ข้างในก็มีส่วนดำมืด แต่จริง ๆ แล้วในสุดดีงามนะจ๊ะ ก็ถือว่าล้มเหลวโดยสิ้นเชิง
ถึงใจจริงคุณคนเขียนอยากให้เป็นยังไง แต่สุดท้ายก็ปฏิเสธไม่ได้อยู่ดีว่าตอนนี้สนุกเป็นบ้าเลย ควรไปหาอ่านกันนะจ๊ะ (ถึงฉากรุนแรงมันจะเยอะก็เถอะ)
อ้อ ขอบ่นอีกอย่าง ตอนจบของตอนนี้ปาหมอนชัด ๆ ตัดจบอย่างรวดเร็วโดยยังไม่ค่อยเคลียร์ เหมือนกับหน้ากระดาษจะหมดแล้ว แต่ยังมีปมอีกเพียบเลย ไม่เอาแล้ววุ้ย ตัดจบดีกว่า มีหลายปริศนาที่ยังไม่เคลียร์ ท่านก็ปล่อยให้ดำมืดอยู่อย่างนั้น งานนี้คงต้องปล่อยให้นักอ่านอย่างเราจินตนาการกันต่อไป
ก็ประมาณนี้ละมั้ง จบกันดื้อ ๆ อย่างนี้แหละ
Create Date : 29 มกราคม 2551 |
|
6 comments |
Last Update : 29 มกราคม 2551 11:15:24 น. |
Counter : 3104 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: รัตน์ jp 29 มกราคม 2551 18:56:45 น. |
|
|
|
| |
โดย: PinGz (Kai-Au ) 30 มกราคม 2551 11:23:32 น. |
|
|
|
| |
|
|
วันหลังมีหนังสือดีๆ มาบอกอีกนะ