หลังจากอุ้มท้องมากว่า 37 สัปดาห์ เราก็นัดแนะกับคุณหมอ เผื่อจะผ่าคลอด ในวันที่ 14 พย 2017 ซึ่ง GT จะมีอายุคาาภ์ 37W6D เหตุผลที่เราต้องนัดผ่าคลอด เพราะว่าเราเคยผ่านัดเนื้องอกมดลูกแบบเปิดหน้าท้องมา คุณหมอไม่อยากเสี่ยง ในใจแอบเสียดายเล็ก ๆ เพราะจิงๆ GT กลับหัวเรียบร้อย ตัวก็ไม่ใหญ่เกินไป น่าจะคลอดเองได้ไม่ยากนัก แต่เอาเถอะ ไม่มีทางเลือกนี่เนอะ ผ่าก็ผ่า...
วันจันทร์ 13 พย 2017 เราก็เข้าไป admit ตอนทุ่มกว่า ๆ ที่ รพ กรุงเทพคริสเตียน เพื่อเตรียมตัวคลอดวันรุ่งขึ้น เวลาที่นัดแนะไว้กับคุณหมอคือ 8.30-9.00 น. ไม่ได้มีเวลาเป๊ะ ๆ อะไร คืนนั้นหลังจากหมอมาอธิบายวิธีให้ยาตอนผ่าคลอด เจาะเลือด วัดค่าต่าง ๆ แล้ว พยาบาลก็ปล่อยให้เรานอนพัก นัดแนะกันอีกที ตอนตี 5 จะมีพยาบาล มาปลุกเพื่อเตรียมตัวไปห้องคลอด ตอน 7 โมง ก็นอนหลับกันไปชิวๆ เพราะเคยเจอแบบนี้มาแล้วครั้งนึงตอนผ่าเนื้องอก
วันอังคาร 14 พย 2017 - 5.00 พยาบาลมาปลุก โกนขน สวนอุจจาระ อยากจะอาบน้ำ แปรงฟัน อะไรก็ว่ากันไป
- 7.00 จนท จากห้องผ่าตัดมารับ ถามว่าตื่นเต้นมั๊ย บอกเลยว่าไม่ เพราะมันมีความรู้สึกหลากหลายอยู๋ในนั้น กังวล... ลูกจะออกมาแข็งแรงรึเปล่า กังวล... การผ่าตัดจะผ่านไปด้วยดีมั๊ย จะมีอาการอะไรแทรกซ้อนรึเปล่า กังวล... ลูกออกมาจะครบ 32 มั๊ย สรุปเลยคือ มีแต่ความกังวล ล้วน ๆ กังวลไปตลอดทางที่ จนท เข็นรถไปที่ห้อง
- จนท ย้ายเตียงไปนอนรอให้ห้องผ่า พยาบาลก็มาเปลี่ยนเสื้อผ้า ติดเครื่องวัดความดัน คลื่่นหัวใจ แล้วนอนรอพยาบาลเตรียมอุปกรณ์ รอหมอมา แต่คือดี พยาบาลชวนคุยเพลิน ๆ ไม่กดดันเลย จำได้ตอนผ่าเนือ้งอก ไม่มีใครชวนคุย นอนกดดัน เครียด กลัว กังวล มาคราวนี้ชิวมากจิงๆ
- 8.00 ได้ยิน call ว่าหมออรรณพ มาแล้ว จากนั้นก็หมอวิสัญญี ก็เข้ามาฉีดยาชา แล้วที่ฮาคือ เค้าเตรียมจะสวนฉี่ แต่เราบอกเค้าว่า เฮ้ยย อย่าเพิ่งค่ะ ยังรู้สึกอยู่เลย เด๋วเจ็บ แต่เค้าก็บอกยังค่ะ ๆ จัดท่าเฉย ๆ แล้วเค้าคงเทสมั๊ง ว่าเราไม่เจ็บแล้ว แล้วก็สวนไป เราก็ไม่รู้สึกอะไรเลย แค่มโนไปเอง ว่ายาชา ยังไม่ออกฤทธิ์นะ
- 8.15 หมอเข้ามา ขานตรวจสอบเคสกับพยาบาล แล้วก็ยืนคุยอยู่ตรงขาเรานั่นแหละ เราไม่รุ้นะว่าเค้าเริ่มลงมือกันตอนไหน รู้แต่มีพยาบาลเอาอ๊อกซิเจนมาให้ใส่ แล้วเราบอกเค้าว่า หายใจไม่ค่อยออกเลย (คิดว่าตอนนั้น น่าจะเริ่มผ่าแล้ว) เค้าก็บอกเราว่า หายใจออกค่ะ ค่าอ๊อกซิเจนก็ปกตินะ แต่เราจะรู้สึกหายใจไม่เต็มปอดเฉยๆ ส่วนเราก็เถียงเลย หายใจไม่ออกจิง ๆ ค่ะ บลาๆ ๆ ๆ เค้าก็เลยเอายามาหยอด ก็หายใจดีขึ้นนิดนึง เราก็บ่น ๆ หายใจไม่ออกงี้ไปเรือ่ยๆ จน พยาบาลเดินมาบอก น้องคลอดแล้วนะคะ เอ้าาา... งงสิคะ ไมเร็วจังหว่า แล้วก็พยาบาล ถามว่าจะให้เอาน้องมาให้ดูเลยมั๊ยคะ เพิ่งตัดสายสะดือเสร็จ หรือจะให้คุณหมอเด็กตรวจดูก่อน เราเลยให้หมอเด็กตรวจดูก่อน เพราะอยากรุ้ว่าลูกจะแข็งแรงมั๊ย บวกกลับ เรากลัวเลือดจ้าาา สรุป หมอเด็กทำความสะอาดเสร็จ ห่อผ้าแล้วเอามาให้เราดู โอ้ววว ลูกช้าานน ตัวแดง น่ารักเชียว แล้วเราก็ได้ยินพยาบาลบอก คุณแม่หลับซักครู่นะคะ คุณหมอจะเอารกออกแล้วก็เย็บแผล จากนั้น หลับไม่รู้เรือ่งเลยค่ะ
- 9.00 พยาบาลปลุก แล้วเข็นออกมานอนห้องหลังผ่า ไอเราก็เคลิ้มหลับปั๊บ เสียงปี๊ด ๆ ๆ เตือนเลยจ้าา คิดในใจ เฮ้ยย คลื่นหัวใจอ่อนป่าวอะ ไมร้องงี้ กังวลค่ะ พยาบาลก็เดินมา แล้วบอกว่า อ๊อกซิเจนน้อยค่ะ มันเลยร้อง เครื่องมันก็รอ้งงี้อยู่เป็นสิบ ๆ รอบ ที่เราเคลิ้มหลับ สุดท้าย พยาบาลทนไม่ไหว เลยเอาอ๊อกซิเจนมาเสียบจมุูกให้แทน บอกเราว่าจะได้นอนพักยาวๆ
- 10.00 เค้าพาเรากลับห้องพัก พร้อมกับอ๊อกซิเจนที่ยังเสียบคาจมูกอยู่ ก็นอนพักยาวไป
- 14.00 เราน่าจะตื่นประมาณนี้ แล้วก็ไม่ค่อยง่วงแล้ว ก็นั่งดูรูปลูก ที่คุณสาถ่ายมา นั่งเล่าให้ฟังว่า ในห้องผ่าตัดเป็นไงบ้าง ตอนนี้เรายังต้องนอนหงายอยู่ ยังต้องนอนราบ ปรับเตียงไม่ได้ ต้องรอให้ครบ 6 ชม ก่อน พยาบาลเลยยังไม่ได้เอาน้องมาดูดกระตุ้น
- 16.00 พยาบาลบอกว่าให้พยายามเริ่มนอนตะแคง แผลจะได้ไม่เป็นพังผืด เราก็เอามือดึงที่กั้นเตียงอย่างเดียวเลย ไม่กล้าออกแรงที่ท้อง กลัวแผลปลิ ฮ่าๆๆๆ ถามว่าเจ็บมั๊ย มันไม่ได้เจ็บมาก แต่มันปวด ๆ ตึง ๆ และที่มากคือ รู้สึกว่าแผลมันขยับ แล้วมันจะปลินี่สิ จิตตกไปอี๊กก ต่อให้กลัวแผลปลิแค่ไหน ก็ขยันพลิกตัวอยู่ดี เพราะกลัวมีพังผืดมากกว่านั่นเอง
เราก็ตื่นมาแป๊บ ๆ นอน ตื่นแป๊บ ๆนอน วน ๆไป คงเพราะฤทธิ์ยาที่ยังหลงเหลือ เลยยังง่วงนอนอยู่ แต่โดยรวม การผ่าคลอดครั้งนี้ของเรา มันโอเคเลยทีเดียว ไม่มีอะไรร้าายแรงเกิดขึ้น ทุกอย่างเรียบร้อยดี เราปลอดภัย ลูกก็ออกมาแข็งแรง ปลอดภัย แค่นี้ก็สุขมากแล้วจิงๆ ขอบคุณ ทุก ๆ สิ่ง ทุก ๆ อย่าง ที่ช่วยคุ้มครองให้ทุกอย่างผ่านไปด้วยดีค่ะ
Create Date : 30 พฤษภาคม 2561 |
Last Update : 30 พฤษภาคม 2561 22:53:45 น. |
|
0 comments
|
Counter : 418 Pageviews. |
|
|