 |
|
|
 |
 |
|
|
| | 1 | 2 |
| 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
| 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
| 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
| 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
| 31 | |
|
|
| |
|
 |
|
|
|
รักษารากฟัน ณ โรงบาลตากสิน
สืบเนื่องจาก บล็อกฝ่าฟันคุดเมื่อหลายปีก่อน คราวนี้ถึงคิวรักษารากฟันแล้วค่ะ!!!!!
ไม่เขียนบล็อกมาหลายปี วันนี้กลับมาเขียนเผื่อมีประโยชน์สำหรับเพื่อนๆ ร่วมชะตากรรมนะคะ อิอิ
(((( ใครอยากอ่านสั้นๆ ข้ามไปอ่านข้อ 3 เลย ))))
เอาล่ะ หลังจากฝ่าฟันคุดและอุดฟันรักษาฟันผุไปเมื่อประมาณ 10 ปี ในที่สุดก็เดินทางมาถึงวันนี้ วันที่เราต้องรักษารากฟันค่ะ ฮ่าๆ
(1.) เรื่องของเรื่องก็คือ ไปขูดหินปูน (หลังจากช่วงโควิด 3 ปี ที่ไม่ได้เข้าร้านทำฟันเลย) ที่คลินิกใกล้บ้าน ทีนี้คุณหมอบอกว่าที่อุดไว้มันไม่ค่อยดีแล้วนะ จะรื้อแล้วอุดใหม่ไหม? เราก็โอเคตามนั้น คือมันมีความรู้สึกไม่สบายในปากแหละ หมอแนะนำให้แก้ก็แก้ สรุป อุดใหม่ 1 ซี่ ฟันกรามบน ***หมอบอกว่างเมื่อไหร่ก็มาแก้ซี่ที่เหลือ***
ค่าใช้จ่าย 2600 บาท ใช่ค่ะ ขูดหินปูน และ อุดฟัน 1 ซี่ (หักประกันสังคม 900 จ่าย 1700 บาท )
ประเด็นคือ ปากแหกยับเยินเลยนะ 5555 หมอฉีกปากหนักมาก
ทีนี้ปัญหาคือ อุดเสร็จดันเสียวฟันทั้งแผง อมน้ำธรรมดายังไม่ได้เลย ก็รู้สึกแปลกๆ ละ เลิกเคี้ยวข้างนั้นเป็นเดือน แล้วมีคืนนึง (ประมาณ 2 เดือนหลังอุด) อยู่ๆ ก็ปวดมากกกก ปวดแบบต้องลุกไปกินยา ต้องอมน้ำเกลือ นอนไม่หลับ หาข้อมูลว่ากูเป็นเหี้ยอะไรคะ ไม่เคยปวดฟันแบบนี้มาก่อน วันรุ่งขึ้นก็รีบไปหาหมอ คราวนี้เปลี่ยนคลินิค เอาแบบคลินิกแถวบ้านที่คนใช้บริการเยอะๆ เพื่อความชัวร์
(ปล. คืนที่ปวดฟันอ่ะ เป็นคืนสุดท้ายที่เสียวฟัน พอวันรุ่งขึ้น อยู่ๆ ก็ไม่เสียวฟันแล้ว นี่เลยสงสัยว่า ฟันตายแล้วสินะ 55555)
(2.) ไปหาหมอคลินิกที่ 2 หมอใจดีสุดๆ เอ็กซเรย์ฟัน แล้วเคาะฟันว่าเจ็บซี่ไหน (แต่หมอมือเบาเกินอะ เคาะไม่เจ็บซักซี่) ผลเอกซ์เรย์หมอคิดว่าคลินิกแรกอุดลึกเกินไป (นี่เดาว่าฟันอาจจะผุมากแล้วฝืนอุดรึเปล่า) หมอเลยแนะนำให้รักษารากฟัน เพราะมันน่าจะมีเชื้อโรคลงไปแล้ว ถ้ารออาจจะอักเสบ สนนราคารักษารากฟัน 9,000 บาท ไม่รวมครอบ แต่ต้องรักษาวันอื่นเพราะต้องรักษากับหมอเฉพาะทาง เราเลยขอคิดดูก่อน เพราะเสียดายเงิน ไม่คิดว่าจะต้องจ่ายแแพงขนาดนี้ 5555
สรุปค่าตรวจฟันวันนี้ 200 บาทถ้วน (ส่วนตัว รู้สึกว่าถูกและประทับใจมาก เพราะหมอเอ็กซเรย์ก่อนแล้วค่อยรักษา ไม่ได้ทำอะไรมั่วๆ ที่สำคัญบอกเราว่าซี่อื่นที่อุดไว้ วัสดุแม้จะโบราณแต่อุดไว้ดี ไม่ต้องทำอะไร ไปรื้อเกิดปัญหาตามมาเปล่าๆ)
(3.) ด้วยเรามีความรู้สึกดีๆๆ กับห้องทันตกรรมที่โรงบาลตากสินเป็นทุนเดิม เลยคิดว่าจะลองไปให้หมอประเมินดูก่อนว่า เราจำเป็นต้องรักษารากฟันจริงไหม 5555+ เผื่อแก้อย่างอื่นได้
ก็โทรไปเช็คว่าคลินิกนอกเวลาเปิดไหม เจ้าหน้าที่แจ้งว่า "คิวเต็มถึงเดือนกรกฎาคม" (คือ โทรเดือนมีนาอะ โอโห้) เลยถามว่า ถ้างั้นไปรับคิวตอนเช้าได้ไหม จะได้ทำไหม เจ้าหน้าที่แจ้งว่า
**** ให้มาตี 5 เปิดรับคิว 6 โมง****
เราก็ท้อแล้ว เลยถามอีกว่า ถ้าได้คิวแล้วจะได้ทำไหม
เจ้าหน้าที่แจ้งว่า
**** ได้ทำแน่นอนถ้าคิวไม่เต็มไปก่อน ****
อ่ะ มีหวัง สรุปเราไปรับคิว 6 โมง ได้ทำตอน 9 โมง!!!!!!!!!
แก มันโอเค มันดี!!!
(เราไป 6 โมง ได้คิวที่ 29) (แอบได้ยินว่าคิวแรกไปตอน 4:30)
7:30 ห้องฟันเปิด เริ่มซักประวัติ
8:30 เรียกคิว
9:XX เราได้ทำ
10:XX เสร็จ!!! (เวลาโดยประมาณเด้อ)
ราคารักษารากฟัน เหมาจ่ายซี่ละ
-ฟันหน้า 1750
-ฟันกรามน้อย 2500
-ฟันกราม 3500
****ปัจจุบันยังไม่มีบริการครอบฟัน****
รักษารากฟัน บัตรทอง / ประกันสังคม **เบิกไม่ได้**
- ไม่แน่ใจว่าทำกี่ครั้ง แต่ครั้งแรกจ่าย 700 บาท (ค่อยๆ หักจาก 3500 บาท)
- แต่นัดครั้งต่อไป 1-2 ปี ไม่จ้อจี้ 55555+ เจ้าหน้าที่จะโทรมาเอง
- ระหว่างนี้ก็เก็บเงินเตรียมทำครอบฟันที่คลินิกนะ ราคาน่าจะราวๆ 10,000 บาท
ขั้นตอนรักษารากครั้งแรก คือ เอ็กซเรย์ดูฟัน หมอพูดเหมือนกันว่า อุดลึกไป แล้วเริ่มเห็นเงาดำที่รากน่าจะเริ่มอักเสบ แนะนำให้รักษารากฟัน ก็เริ่มรักษาเลย หมอผู้ชายนะ แรงเยอะดี ตอนหมอเคาะว่าเจ็บซี่ไหน เออ คราวนี้รู้สึกแล้วว่าเจ็บซี่ไหน 5555
เริ่มจากฉีดยาชา 2 จุด ส่วนตัวไม่เจ็บเท่าไหร่ (คือถ้าผ่านวัคซีนบาดทะยักมาแล้ว ฉีดไรก็ไม่เจ็บแล้วแหละ 55) จากนั้นคิดว่ารักษาเหมือนใน youtube ( เดาว่า มีกลอเปิดฟัน ล้างรากฟัน ใส่ยาฆ่าเชื้อ แล้วอุดปิดชั่วคราว) ทำเป็น ชม นะ ระหว่างทำไม่เจ็บ มีสะดุ้งเพราะเสียวครั้งเดียว ---น้อยกว่าอุดฟัน)
ที่ทรมานคือนอนเกร็งจนปวดหลังและกลืนน้ำลายลำบากเหมือนจะกลัวหายใจไม่ออกเพราะมีเสมหะติดคอ ดังนั้นก่อนนอนบนเตียงเคลียช่องคอให้ดีๆ)
เสร็จก็จ่ายตังแล้วมาเอาใบนัดครั้งต่อไป นี่ได้คิวที่ 3XX
***** ที่เขียนมาทั้งหมดแค่อยากสรุปว่า คิว 1 ปี มันอาจไม่น่ากลัวขนาดนั้น เพราะนี่ทำครั้งแรกก็หายปวดเป็นปลิดทิ้งแล้ว ชีวิตดีโครตๆๆๆๆๆๆๆ แค่พยายามไม่เคี้ยวอาหารด้านที่กำลังรักษาอยู่ ซึ่งมันประหยัดมากกกกก แค่ 3500 เองงะ แล้วครั้งแรกจ่ายจริงแค่ 700 บาท
700 ก็หายปวดแล้วนะทุกคน แล้วเราก็อยู่ในกระบวนการรักษาของหมอแล้ว (ระหว่างนี้ถ้ามีปัญหา เจ็บปวด ฟันแตก ฉุกเฉินก็ไปหาหมอได้ตลอด มันไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายอะ)
***ถ้าปล่อยไว้หรือถ้ารักษาได้อย่าถอนเลย ถอนมันแก้ปัญหาของวันนี้ ซึ่งในอนาคตยังมีปัญหาอีกมากมายตามมา เผลอๆ ค่าใช้จ่ายแพงกว่าด้วย
ส่วนคนที่รอไม่ได้ (ไม่รู้เคสไหนเข้าข่ายบ้าง) ก็กำเงินเข้าคลีนิกเลย เสร็จสิ้นกระบวนการเร็ว เพื่อสุขภาพที่ดีในอนาคต
ส่วนคนที่เงินน้อย อยากประหยัก ก็รีบไปรักษาที่โรงพยาบาลแต่เนิ่นๆ ไปเข้าคิวไว้ ไม่ต้องกลัว เพราะได้ทำเลย!!!!!!
อย่าลังเลหรือปล่อยไว้จนสายเกินแก้
ปล. ที่สำคัญใช้ไหมขัดฟันนะทุกคน ฟันผุก็รีบอุด ประกันสังคม 900 บาท ใช้นะ เข้าไปให้หมอดูฟันทุกปีก็ยังดี
| Create Date : 06 มีนาคม 2567 |
| Last Update : 6 มีนาคม 2567 15:15:13 น. |
|
0 comments
|
| Counter : 254 Pageviews. |
|
 |
|
|
|
|
|
| midnight OWL |
 |
|
|
|
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
