|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | |
|
|
|
|
|
|
|
เป็นคนขี้กลัว แก้อย่างไรดี?
ถาม ลูกชายของดิฉันใกล้ ๓ ขวบแล้ว เขามีนิสัยขี้กลัว เช่นกลัวใบไม้ กลัวหนังสือที่โรงเรียน กลัวแบบที่ไม่น่าจะต้องกลัว ทั้งที่ดิฉันก็เลี้ยงดูด้วยความอบอุ่นมาตลอดตั้งแต่เล็ก บางครั้งเอาใจมากไปด้วยซ้ำ ไม่ทราบว่าจะแก้ไขนิสัยนี้อย่างไรดีคะ?
เมื่อเกิดความกลัวแรงๆ โดยเฉพาะชนิดที่ไม่มีเหตุผลอันสมควรนั้น เล็งเข้าไปที่จิตจะเห็นมีอาการหดตัวเมื่อถูกกระทบ คือไวเสียยิ่งกว่าไมยราบ ที่กระเทือนหน่อยเดียวก็หุบราบ
อาการที่จิตหดตัว จะสะท้อนออกมาทางกายที่หดเกร็ง หากมีอาการขั้นรุนแรงอย่างไร้เหตุผลสมควรมาแต่ยังเล็ก ก็แปลว่าเขาเกิดมาภายใต้วิบากอย่างหนึ่ง ที่ทำให้ต้องตกอยู่ในภพของความกลัว ซึ่งก็มีต้นเหตุกรรมได้หลากหลาย ยกตัวอย่างเช่นเคยร่วมสร้างภาพยนตร์สยองขวัญสุดขีดเป็นประจำ หรือเคยอยู่ในกลุ่มสร้างสถานการณ์ให้ผู้คนพรั่นพรึงภยันตราย แต่กรณีนี้ที่มาเกิดในท้องแม่ซึ่งประคบประหงม ให้ความรักความอบอุ่นมาแต่อ้อนแต่ออก ก็ต้องเคยเป็นคนดีๆธรรมดาๆคนหนึ่ง ไม่ได้ทำกายกรรมและวจีกรรมอันเป็นทุจริตเลวร้ายอะไรมา ตรงข้ามอาจเคยเลี้ยงดูลูกเต้ามาอย่างดี หรือเคยอุปถัมภ์ค้ำชูให้ผู้คนเป็นสุขด้วยซ้ำ แต่พลาดตรงมโนกรรม ที่อาจเพาะนิสัยขี้ระแวง กลัวนั่นกลัวนี่ไปหมด ทั้งความสกปรกที่มองเห็น ทั้งเชื้อโรคที่มองไม่เห็น เห็นใครไอโขลกเดียวทำหน้ารังเกียจ อุดปากอุดจมูกตัวเองทันที ที่ผมเห็นตัวจริงๆมีเยอะครับ หมอบางคนแทบอาบน้ำด้วยแอลกอฮอล์ บางทีเป็นห่วงอาหารการกิน การเข้าไปในสถานที่ต่างๆ ต้องให้ถูกสุขลักษณะ ต้องให้ตรงตามข้อมูลด้านบวกที่รู้ดี (เกินจำเป็น) ซึ่งระวังตัวเองไม่พอ ไปเผื่อแผ่ความห่วงใยแบบเกินเหตุให้คนรอบข้าง จนใครต่อใครพลอยติดอยู่ในกรอบอันน่าอึดอัด หรือกระทั่งตกอยู่ภายใต้ความหวาดกลัวที่ไม่สมเหตุสมผลไปด้วย
ถ้าเป็นกรรมเก่าประเภทนี้จะแก้ไม่ยากนัก เพราะการเกิดเป็นมนุษย์แต่ละครั้งคือการตั้งต้นล้างไพ่ใหม่อยู่แล้วในตัวเอง หากเรามีความรู้เบื้องต้นว่าความกลัวคืออาการที่จิตหด จิตปิดแคบ จิตมืดมน อันมีมูลคือโทสะ ก็แก้เสียด้วยคู่ปรับของโทสะคือเมตตา ทำอย่างไรก็ได้ให้จิตขยาย เปิดกว้าง สว่างไสวไปในทางเมตตาเบิกบาน
ยกตัวอย่างที่ทำกันมากคือให้เด็กสวดมนต์ นึกถึงพระพุทธเจ้าบ่อยๆ แม่ต้องเป็นคนนำ ถ้าให้ดียอมลงทุนเช่าพระพุทธรูปและเครื่องสักการะสวยๆมาประดับ เพื่อให้จิตของลูกเข้าไปจับอยู่กับความงดงามที่เหนี่ยวนำให้เกิดความมีใจเปิดสบาย อำนาจพุทธคุณที่ซ่านผ่านการเปิดใจรับ จะช่วยลดความกลัวลง ยิ่งเด็กติดใจมากขึ้นเท่าไหร่ ความกลัวอย่างไร้เหตุผลก็จะลดลงเท่านั้น
อุบายวิธีอื่นๆที่จะเหนี่ยวนำให้เกิดเมตตาจิต เช่นให้เขารู้จักการให้อาหารสัตว์ ทำบุญใส่บาตรพระตอนเช้า ตลอดจนกระทั่งหัดให้เขาพูดจาสุภาพอ่อนโยน เหล่านี้ก็จะเป็นทัพเสริม ช่วยวันละนิดวันละหน่อย ต่อไปเขากลัวอะไร ก็พยายามแปรสิ่งนั้นให้เขาคิดในทางมงคล เช่นกลัวหนังสือก็หาหนังสือที่มีพระพุทธรูปสวยมาให้ดู ถ้ากลัวใบไม้ก็วาดรูปใบไม้ให้เขาระบายสี สอนว่าสีเขียวทำให้เย็นตาดีนะลูก ในที่สุดการเกิดใหม่ที่ได้แม่คอยช่วยประคอง ก็จะช่วยเจือจางวิบากเก่าให้อ่อนกำลังลง กระทั่งสิ้นสูญไปด้วยการมีมโนกรรมใหม่ มองโลกในแง่ดี แง่สว่าง แง่อบอุ่นไปเองครับ
Create Date : 17 เมษายน 2549 |
Last Update : 17 เมษายน 2549 19:57:17 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1416 Pageviews. |
 |
|
|
|
|
|
|
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]

|
รองเท้าใหม่ ใครๆก็อยากมี และเสียใจที่ไม่มี
จน....
ได้เห็น
คนไม่มี...
.....แม้กระทั่งเท้า..
**คิดถึงเมย์จัง เมย์จ๋า...เกดแต่งตัวสวยๆลงบลอค แล้วไม่มีเมย์มาดู เหงาจังเลย
|
|
|
|
|
|
|
|