เว็บบอร์ด   

 
กันยายน 2550
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
7 กันยายน 2550
 

ซุซูยุ โค่ยฟาร์ม

โดยมาโมรุ โคดามะ พฤษภาคม-มิถุนายน 2004

ซุซูยุ โค่ยฟาร์ม
ตามที่รู้กันในหมู่คนเลี้ยงปลาคาร์พ ว่าประเทศญี่ปุ่นเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลาคาร์พ ในแถวๆพื้นที่นิกาตะ, ฮิโรชิม่า, คูชู และที่อื่นๆ ในจำนวนนี้ นิกาตะเป็นที่ที่โด่งดังที่สุดมีบรีดเดอร์ถึง 650 เจ้า แต่ละเจ้าผลิตปลาได้สวยงาม บางทีนิกาตะจะเป็นที่เดียวที่มีบรีดเดอร์มากที่สุด

ทุกๆเดือนตุลาคม บรรดาบรีดเดอร์จะจัดประกวดปลาระหว่างกันเอง ผลแพ้ชนะนอกจากจะยกระดับของบรีดเดอร์แล้วยังหมายถึงยอดขายที่เพิ่มขึ้นด้วย การแข่งขันจึงเป็นไปอย่างเข้มข้น คุณชิเกโอะ ซูซูกิ จาก ซุซูยุ โค่ยฟาร์ม เป็นผู้ที่ได้รางวัลมากมายจาการประกวดปลาเล็กในงานนี้ (25-35 ซม. 10-14 นิ้ว) วันนี้เลยจะพาไปเยี่ยม ซุซูยุ โค่ยฟาร์ม

ตัวนี้ได้รางวัลชนะเลิศโคะคุเกียว จากงานออลเจแปนยังนิชิกิ ครั้งที่ 15
เขาชนะเลิศรางวัลจากงานประกวดใหญ่ๆมากมาย ปลาของเขาขึ้นชื่อในเรื่องคุณภาพของสีขาว ดำ แดง
โคดามะ: คุณเริ่มธุรกิจปลาคาร์พตั้งแต่เมื่อไหร่?

ซูซุกิ: พ่อผมเป็นคนเริ่ม

โคดามะ: จำได้มั้ยครับว่าตั้งแต่เมื่อไหร่?

ซูซุกิ: ปี 1955 พ่อเริ่มจากการซื้อปลาโตไซมาเลี้ยง สมัยนั้นในนิกาตะยังไม่มีใครมีพ่อแม่พันธ์เอง เราเริ่มจากการซื้อลูกปลาตัวเล็กมากๆ (0.2ซม.) จากบรีดเดอร์เพื่อนบ้านชื่อ ชูโค แห่งจุนอิไดระมาเลี้ยง เขาผสมพันธุ์โชว่าได้สวย เขาขายลูกปลาให้เราตัวละ 10 เยนซึ่งในสมัยนั้นนับว่าแพงมากๆ เราซื้อมาประมาณ 100-200 ตัว เลี้ยงจนถึงฤดูใบไม้ร่วงมีความยาวได้ 18 ซม. ก็ขายให้พ่อค้าส่งไป

โคดามะ: อะไรทำให้พ่อคุณสนใจเริ่มเลี้ยงปลาคาร์พ?

ซูซุกิ: ผมก็ไม่แน่ใจ แต่พ่อเป็นชาวนา ในปี 1955 เมื่อปลาคาร์พเริ่มเป็นที่นิยม มีคนบอกว่าการเพาะพันธุ์ปลาคาร์พควบคู่ไปกับการปลูกข้าวเป็นเรื่องดีสำหรับชาวนา ชาวนาจึงเริ่มเปลี่ยนท้องนาเป็นบ่อเพื่อเลี้ยงปลาคาร์พ พวกเราเป็นหนึ่งในนั้น ผืนนาที่ดีเราเอาไว้ปลูกข้าว ผืนนาที่ไม่ดีหรือเล็กเราเอามาทำบ่อปลาคาร์พ สมัยนั้นไม่มีบ่อในร่มที่จะเอาไว้เก็บปลาในฤดูหนาว เราเลี้ยงถึงฤดูใบไม้ร่วงจึงขายไปหมด เราขายให้พ่อค้าส่งอย่างมิยาอิชิ และมิยาโกยะ จากเมืองโอจิยะ

ซูซุกิอธิบายการจับคู่พ่อแม่พันธุ์แก่โคดามะ
โคดามะ: คุณเริ่มช่วยพ่อตั้งแต่เมื่อไหร่?

ซูซุกิ: อืม, คิดว่าประมาณปี 1966

โคดามะ: คุณเริ่มผสมพันธุ์ปลาคาร์พตั้งแต่เมื่อไหร่?

ซูซุกิ: นั่นตอนที่ผมเข้ามาจับธุรกิจปลาคาร์พเต็มตัว ตั้งแต่นั้นเราค่อยๆเพิ่มปริมาณปลาที่ผลิตขึ้นเรื่อยๆ

โคดามะ: แปลว่าคุณมีประสบการณ์ในการเพาะพันธุ์มา 38 ปีแล้ว คุณมีหลักการอย่างไร?

ซูซุกิ: สำหรับผมเห็นว่า ปลาคาร์พนั้นเป็นสิ่งสร้างสรรค์ที่สวยงาม และบ่อเลี้ยงมีส่วนสำคัญ แม้บางบ่อจะมีขนาดใหญ่ถึง 100 ตันหรือ 150 ตัน แต่ขนาดโดยเฉลี่ยของบ่อสำหรับผู้เลี้ยงทั่วไปอยู่ที่ 10-15 ตัน ขนาดของปลาควรสัมพันธ์กับขนาดของบ่อ และผมคิดว่า ปลาขนาด 30-60 ซม.เป็นขนาดที่เหมาะสม ปลาขนาด 70-80 ซม.ใหญ่เกินไปสำหรับบ่อเหล่านั้น ขนาดของปลาที่สมกับบ่อทำให้ปลาดูสวย นี่เป็นเหตุที่ว่า ทำไมปลาของผมถึงเล็กกว่าของคนอื่นเล็กน้อย ปลาอายุสองปีของผมมีขนาด 30-35 ซม. ในขณะที่เจ้าอื่นทำไซส์อยู่ที่ 40-45 ซม. ปลาของผมเล็กกว่าแต่ก็สวยกว่า ปีนี้ผมส่งประกวด 10 ตัวได้รางวัลมา 6 ตัว ผมชอบที่จะเพาะปลาสวยแม้จะตัวเล็กแต่ถูกใจผู้เลี้ยงจำนวนมาก มากกว่าพวกแกรนด์แชมเปี้ยนที่ถูกใจผู้เลี้ยงจำนวนน้อย ผมคิดว่า นั่นเป็นหลักการของผม

แม่พันธุ์ผิวขาวจั๊วะ
โคดามะ: เห็นด้วย ผมเยี่ยมชมฟาร์มจำนวนมากในฤดูใบไม้ร่วง ปลาของคุณจบได้สวยกว่าใครๆ คุณพอจะใจดีบอกเคล็ดลับได้บ้างมั้ย?

ซูซุกิ: วิธีของผมต่างจากคนอื่นเล็กน้อย คิดว่าเป็นเจ้าเดียวในนิกาตะ ผมปูผ้าใบรองบ่อ

โคดามะ: หมายความว่าคุณไม่ได้ปูผ้าใบเฉพาะรอบๆขอบบ่อ แต่ปูทั้งบ่อเลยหรือ?

ซูซุกิ: ครับ ผมใช้ผ้าใบขนาดใหญ่ปูบ่อขนาด 5326 ฟุต ทั้งบ่อ

โคดามะ: น่าสนใจมาก เพราะเหตุนั้นหรือปลาคุณถึงได้สวยขนาดนี้?

ซูซุกิ: ใช่ คุณภาพของดินทำให้ปลาของนิกาตะสวย เป็นสิ่งที่ทุกคนยอมรับ แต่ผมคิดว่าการปูผ้าใบในบ่อทำให้ปลาสวยยิ่งขึ้น

โคดามะ: เห็นด้วย สีแดงมักจะแตกสำหรับปลาที่เลี้ยงในบ่อดิน

ซูซุกิ: ในนิกาตะ การส่งปลาเข้าประกวดจัดเฉพาะบรีดเดอร์เท่านั้น และปลาของผมได้รางวัลทุกปี ผมว่านั่นเป็นข้อพิสูจน์ว่าวิธีการของผมทำให้ปลาสวยขึ้น

โคดามะ: มีนักเลี้ยงปลาหลายคนเลี้ยงปลาในบ่อปูผ้าใบ งั้นก็เป็นวิธีที่ดีน่ะสิ?

ซูซุกิ: จากประสบการณ์หลายปีของผม ผมว่าเป็นวิธีที่ดี

พ่อพันธุ์สีแดงลึก
โคดามะ: คุณปูผ้าใบในบ่อมานานเท่าไหร่แล้ว?

ซูซุกิ: เชื่อว่า มากกว่า 30 ปี

โคดามะ: จริงเหรอ แล้วใครเป็นคนทำคนแรก?

ซูซุกิ: มีบรีดเดอร์ชื่อคุณ ฮารุมิทสุ ชิโมมูระ ที่เรียวโกะหมู่บ้านถัดไป แกเป็นคนเริ่มคนแรก แกตายไปสองปีแล้ว ปลาของแกโตมาสวย ผมเรียนจากแกและเริ่มทำตามวิธีของแก

โคดามะ: เป็นที่รู้กันทั่วโลกว่า ดินที่นิกาตะมีความเป็นเอกลักษณ์และทำให้ปลาสวยเพราะเหมาะกับการเลี้ยงปลาคาร์พ ผมไม่คิดว่าจะมีคนคิด ว่าบรีดเดอร์ในนิกาตะจะเลี้ยงปลาในบ่อที่ปูด้วยผ้าใบ

ซูซุกิ: หน้าที่ของบรีดเดอร์คือผลิตปลาให้สวย เพราะผมเชื่อว่าปลาที่เลี้ยงในบ่อปูผ้าใบสวยกว่าปลาที่เลี้ยงในบ่อดิน ผมทำมา 30 กว่าปีแล้ว

โคดามะ: ในอเมริกา นักเลี้ยงปลาจำนวนมากเลี้ยงปลาในบ่อปูผ้าใบ แต่เป็นความรู้ใหม่สำหรับผมที่ว่า นักเพาะปลาในนิกาตะก็เลี้ยงปลาในบ่อปูผ้าใบมากว่า 30 ปีแล้ว

ซูซุกิ: จริงเหรอครับ คนเลี้ยงปลาคาร์พในอเมริกาเลี้ยงในบ่อปูผ้าใบหรือ?

โคดามะ: ครับ พวกนั้นขุดบ่อกันเองที่สนามหลังบ้าน และปูผ้าใบเพื่อเลี้ยงปลาคาร์พ

ซูซุกิ: ในฐานะบรีดเดอร์ที่เลี้ยงในบ่อปูผ้าใบมากว่า 30 ปี ขอฟันธงเลยว่าเป็นวิธีการที่ดีมากๆ ปลาจะโตมาสวยกว่าปลาที่เลี้ยงในบ่อดิน

โคดามะ: คุณมีโตไซในบ่อปูผ้าใบกี่ตัว?

ซูซุกิ: ประมาณ 2000 ใส่บ่อขนาด 5326 ฟุตบ่อละ 400 ตัว ใส่ไว้จนฤดูใบไม้ผลิจึงนำขึ้นมาคัดประมาณเดือนกรกฎาหรือสิงหา แล้วเลี้ยงต่อจนถึงฤดูใบไม้ร่วง จาก 400 ผมคัดออก 300 เพื่อมีที่ให้ปลาโตและจะได้ไม่ต้องเลี้ยงพวกที่ไม่สวยไว้

ครอบครัวซุซูยุคอยฟาร์ม
โคดามะ: จากนั้นจึงคัดตัวสวยเข้าประกวดในงานฤดูใบไม้ร่วง การประกวดปีนี้เป็นอย่างไรบ้างครับ?

ซูซุกิ: ผมส่ง 10 ตัวชนะรางวัล 6 ตัว ตัวนึงได้เบบี้แชมเปี้ยน ผมว่าเป็นปีที่ดีนะ

โคดามะ: คุณคิดว่าเป็นผลจากการเลี้ยงในบ่อปูผ้าใบ?

ซูซุกิ: แน่นอน การเลี้ยงปลาให้สวยมาจบลงที่งานประกวด บรีดเดอร์ทั้งหมดเมื่อเลี้ยงปลาได้ 2 ปีต่างส่งปลาเข้าประกวด ความจริงที่ปลาของผมทำได้ดีในงานหมายความว่าผมต้องมีวิธีเลี้ยงบางอย่างที่ต่างออกไป และปลาของผมดูเด่นกว่าเพราะผมเลี้ยงในบ่อปูผ้าใบ สำหรับการประกวด เมื่อพิจารณาดูแล้ว ผมว่าวิธีของผมดีกว่า

โคดามะ: ขอบคุณครับที่สละเวลา


แปลจาก //www.kodamakoifarm.com



Create Date : 07 กันยายน 2550
Last Update : 6 ธันวาคม 2550 10:46:07 น. 0 comments
Counter : 1316 Pageviews.  
 

lovu
 
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]




[Add lovu's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com