space
space
space
 
มิถุนายน 2563
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
space
space
26 มิถุนายน 2563
space
space
space

รีวิว และเล่าเรื่องราวซีรี่ส์ L.O.R.D. critical world 2019 มีspoil
L.O.R.D Legend of Ravaging Dynasties (ภาพยนตร์) นวนิยายแฟนตาซี  ซีรีส์จีน 

ซีรี่ส์เรื่องนี้  มีเนื้อหาเดียวกับ ภาพยนตร์ L.O.R.D legend of ravaging dynasty  ซึ่งในความเป็นซีรี่ส์ ด้วยความที่มีเวลาเล่าเรื่องมากกว่า   ดังนั้น  เรื่องราวในซีรี่ส์จะไปไกลกว่าภาพยนตร์   และมีรายละเอียดมากกว่า   เรา ซึ่งดูซีรี่ส์ทั้ง 48 ตอน  และดูภาพยนตร์ด้วย  และอ่านนิยายแปลมา   เลยมาเขียนเล่าเรื่องราวบวกรีวิว  เพราะอยากจะหาอ่านคนเล่าเรื่องซีรี่ส์บ้าง  แต่ก็หาไม่ได้    เพราะหลังจากที่ดูรอบที่ 2  เก็ทกับพลอตและโครงเรื่องแล้ว   พบว่าพลอตมันสนุกและน่าสนใจมากทีเดียว

ซีรี่ส์เป็นแนวแฟนตาซีของจีน   สร้างมาจากนิยายขายดี โดยผู้แต่ง  กัวจิ้งหมิง   เป็นคนเดียวกับที่แต่งเรื่อง  ศึกมหัศจรรย์ดินแดนน้ำแข็ง   ที่ช่อง 7 เคยเอามาฉายเมื่อ 2-3 ปีก่อน

ส่วน L.O.R.D  เป็นเรื่องแฟนตาซี  ที่เกี่ยวกับเทพเจ้าในดินแดนสมมติ  โดยกล่าวถึง  ดินแดน เสียนชาง  (ดินแดนแห่งน้ำ)เป็นหลัก และเรื่องราวของเหล่าจอมเวทย์  (หวังเจี๋ย) ทั้ง 7 ที่คอยคุ้มครองผู้คนและปกปักรักษาดินแดน

โลกสมมติในเรื่อง   มีดินแดน แห่งน้ำ  ลม ไฟ  ดิน  แต่ละดินแดน   จะมีจอมเวทย์ 7 คน  เป็นผู้ปกป้อง   และ  ทั้ง 4 ดินแดน  จะมีคณะนักบวชไป๋หยิน  เป็น  เสมือน ผู้นำสูงสุดของบรรดาจอมเวทย์เหล่านั้น   (และเป็นเทพเจ้าสูงสุดของแต่ละดินแดนด้วย) 

โลก แบ่งเป็น 4 ดินแดน   น้ำ ไฟ ลม  ดิน แต่ละดินแดน มี  คณะนักบวชไป๋หยิน 3 คน   มีจอมเวทย์ 7คน    ดังนั้น  แปลว่า รวมแล้วทั้งโลก  มีนักบวชไป๋หยิน12 คน    ตำแหน่ง จอมเวทย์   28  ตำแหน่ง

จอมเวทย์ทั้ง 7   มีลำดับขั้น  ตำแหน่งสูงสุด คือ อันดับ 1   อาวุโสต่ำสุดคือ  ลำดับ7    

โดยคณะนักบวชไป๋หยิน  จะอยู่ในร่างเด็กหนุ่มสามคน  ร่างถูก ผนึกไว้ในแก้วคริสตัล   คอยให้คำปรึกษาและออกคำสั่งแก่เหล่าจอมเวทย์    ร่างอยู่ในผนึกคริสตัล  แต่ติดต่อได้ทางพลังจิต 

ชื่อเรื่องนั้น เป็นตัวย่อ  แปลตรงตัวว่า  ตำนานการล่มสลายของราชวงค์       ชื่อภาษาไทยว่าสงคราม 7 จอมเวทย์ ก็ตรงประเด็นกับเรื่องราวในซีรี่ส์

เนื้อเรื่องหลัก   กล่าวถึง  เรื่องราวการผจญภัยของหนุ่มน้อยกำพร้า  ชื่อว่า  ฉีหลิง  ( ผู้อาศัยในตำบลเล็กๆไกลปืนเที่ยง ในดินแดนเสียนชาง   เขาถูกเลี้ยงดูโดยเจ้าของโรงเตี๊ยมผู้อารี  และทำงานเป็นเสี่ยวเอ้อในนั้น   ฉีหลิง  หนุ่มน้อยนิสัยซุกซน  ฝันอยากจะมีพลังวิเศษ  และชอบใช้มายากล หลอกผู้คน โม้ว่าตัวเองมีพลังวิเศษ    ทั้งๆที่ไม่เคยเห็นและไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพลังวิเศษนั้นคืออะไร  ) และความสัมพันธ์ของเขากับ  จอมเวทย์ลำดับ7  แห่งดินแดนเสียนชาง    ผู้มีนามว่า  หยินเฉิน

ชีวิตของฉีหลิงเปลี่ยนไปตลอดกาล   เมื่อวันหนึ่ง    หยินเฉิน  จอมเวทย์ลำดับที่ 7  แห่งดินแดนเสียนชาง   ได้รับคำสั่งจากนักบวชไป๋หยิน    ให้ตามหาและรับตัวฉีหลิงเป็นลูกศิษย์  (สาวก)

การรับศิษย์ของจอมเวทย์นั้น   จอมเวทย์แต่ละคน   จะมีศิษย์ได้เพียงคนเดียว   ยกเว้นจอมเวทย์ลำดับ 1  รับศิษย์ได้ 3 คน    เมื่อรับเป็นศิษย์   จอมเวทย์จะถ่ายโอนพลังของตนบางส่วนให้   เรียกว่า"การประทับตรา "   ซึ่งจะทำพิธีในวิหารใหญ่ในเมืองหลวง ต่อหน้านักบวชไป๋หยิน

การถ่ายโอนพลังนี้     จะก่อให้เกิดความสัมพันธ์และพันธสัญญาที่พิเศษระหว่างจอมเวทย์และศิษย์ของตน  เป็นความสัมพันธ์ที่อธิบายยากและซับซ้อนค่ะ  สรุปว่า ทั้งคู่ จะกลายเป็นคู่แท้ทางจิตวิญญาณ (soulmate) ของกันและกัน    ซึ่งจะคงอยู่จนกว่า  ฝ่ายใดฝ่ายนึงจะตายไป    และเมื่อ  จอมเวทย์นั้นตายหรือสละตำแหน่ง   ศิษย์จะได้ตำแหน่งและครอบครองพลังจอมเวทย์ในลำดับนั้นเลย   คือ    เป็นตัวตายตัวแทนของอาจารย์นั่นเอง

การผจญภัยของฉีหลิง  มาถึงแบบไม่ตั้งตัว  วันหนึ่ง  มีสัตว์เวทย์  เป็นสิงโตหิมะตัวยักษ์มีปีก   ลมหายใจเป็นน้ำแข็ง  บุกทำลายโรงเตี๊ยมที่ฉีหลิงทำงานอยู่    ตอนนั้นฉีหลิงเจอชายผู้หนึ่ง  ชื่อยางเจ๋อ   เขาสัญญาจะจ้างฉีหลิงทำงานและมีค่าตอบแทนอย่างงาม   แต่ยังไม่ทันตกลง    ก็เจอสิงโตยักษ์บุกเสียก่อน   สิงโตสังหารทุกคนรวมถึงเจ้าของโรงเตี๊ยมด้วย     สาวงามลึกลับมีพลังเวทย์  ช่วยชีวิตฉีหลิง  และพาฉีหลิงหนีไปซ่อนในถ้ำ    ฉีหลิงได้รู้จักเธอคนนั้น   ชื่อ   เสิ่นยิน   

สาวงามลึกลับนามเสิ่นยิน    มีสัตว์เวทย์ของตัวเองเป็นแมงมุม   ใช้ใยแมงมุม มัดฉีหลิงไว้กับผนังถ้ำ  และตัวเอง  ก็ไปสู้กับสิงโต   ซึ่งนางถูกสิงโตปัดกระเด็นหายไป

(เสิ่นยิน  เวอร์ชั่นซีรี่ส์  ถูกดันมาเป็นนางเอก  ในขณะที่เวอร์ชั่นภาพยนตร์  ไม่ได้มีบทบาทมากนักแม้จะแสดงโดย  หยางมี่  ดาราเบอร์ใหญ่คนหนึ่งของจีน)

สิงโตยักษ์พุ่งเข้าใส่ฉีหลิงที่ตกใจสุดขีด   เขาสลบไป   และฟื้นขึ้นมา  พบกับ  หยินเฉิน  จอมเวทย์ลำดับ 7   ผู้มีผมสีเงิน  ท่าทางสง่างามแต่เย็นชา (มว้าก)   
 
(หยินเฉิน ในซีรี่ส์ กับในภาพยนตร์  ตีความออกมาแตกต่างกัน  เนื่องจาก  เวอร์ชั่นหนัง   ใช้ คริส วู  แสดง    ซึ่งหล่อมาก  ใบหน้างดงาม  และอายุไม่มาก   ส่วนเวอร์ชั่น ซีรี่ส์   นักแสดงบุคลิกจะดูมีอายุ  แต่หน้าตาดี และ สง่า  แบบ  คิงธรันดูอิล  ในฮอบบิท  
เราคิดว่า  ดีทั้งคู่    แต่เคมีระหว่างพระเอกฉีหลิงจะต่างกัน   ในเวอร์ชั่นหนังจะดูเหมือนคู่รัก  ในขณะที่ซีรี่ส์จะดูเหมือนศิษย์อาจารย์กันมากกว่า )

  ทั้งในซีรี่ส์ และ ภาพยนตร์     หยินเฉิน  คือตัวละครที่โดดเด่นและมีเสน่ห์ที่สุด  เป็นพระเอกคู่อีกคนหนึ่งของเรื่องเลยก็ว่าได้     เนื้อเรื่องในภาพยนตร์ ยังไม่ได้พูดถึง ความรู้สึกนึกคิดและ เรื่องราวของหยินเฉินมากนัก     แต่ในซีรี่ส์  เล่าเรื่องและความรู้สึกของหยินเฉินคู่กันกับฉีหลิง พระเอกของเรื่อง     เมื่อดูจบ  คนดูน่าจะรักและสงสารตัวละครตัวนี้ที่สุด

   
      ต่อที่เรื่องราวในซีรี่ส์    เมื่อฉีหลิงได้พบกับหยินเฉิน    เขาได้รู้ว่า  จะได้เป็นศิษย์ของจอมเวทย์   ฉีหลิงทั้งตื่นเต้นและหวาดกลัวไปพร้อมกัน    เขาไม่ได้ตอบตกลงในทันที   เพราะ พันธสัญญาระหว่างจอมเวทย์กับศิษย์นั่นล่ะค่ะ   ที่ทำให้ฉีหลิงลังเล    มันแปลว่า   เขาจะต้องผูกติดกับหยินเฉินไปตลอด  นั่นทำให้เด็กหนุ่มอย่างฉีหลิงรู้สึกไม่แน่ใจ    

ฝ่ายหยินเฉินก็รู้สึกประหลาดใจมาก   เมื่อพบว่า  เด็กหนุ่มฉีหลิงว่าที่ศิษย์ของเขาที่ท่านไป๋หยินเลือกให้เป็นลูกศิษย์     ไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับพลังเวทย์   ซ้ำยังดูเหมือนจะไม่มีพลังพิเศษใดๆเลยด้วย    เขารู้สึกงุนงงและสับสน   และเริ่มคิดว่าอาจจะเป็นเรื่องผิดพลาด    หยินเฉินจึงสั่งแกมบังคับให้ฉีหลิง  เข้าไปพบนักบวชไป๋หยินที่เมืองหลวงพร้อมตน     ฉีหลิงอยากกลับไปที่โรงเตี๊ยม
หยินเฉินจึงใช้พลังบังคับ   และพบว่า    สิงโตหิมะ  ซึ่งเป็นสัตว์เวทย์  อยู่ในร่างฉีหลิง   ซึ่งมันจะทำลายร่างของฉีหลิง   หากมันหาวงจรวิญญาณพลังเวทย์ของฉีหลิงไม่พบ

(สัตว์เวทย์จะเลือกเจ้าของที่มีพลังเวทย์  โดยจะสิงที่ตำแหน่งวงจรวิญญาณในร่างกายเจ้าของ    เจ้าของสามารถเรียกออกมาใช้งาน  หรือเมื่อเจ้าของมีอันตราย   สัตว์เวทย์จะออกมาปกป้อง
เจ้าสิงโตหิมะที่อาละวาดที่โรงเตี๊ยม  คือสัตว์เวทย์คู่วิญญาณของฉีหลิงนั่นเอง     แต่เจ้ากรรมที่ฉีหลิงยังไม่มีวงจรวิญญาณของตัว)

หยินเฉิน   จึงทำพิธี "ประทับตรา" สร้างวงจรวิญญาณให้ฉีหลิงจากพลังส่วนหนึ่งของเขาเอง   ทำมันกลางป่าตรงนั้นเลย  เพื่อเซฟชีวิตฉีหลิง  (จริงๆต้องไปทำในวิหารในเมืองหลวง ต่อหน้านักบวชไป๋หยิน) เพื่อไม่ให้โดนสัตว์เวทย์ของตัวเองทำลายร่างไปเสียก่อน   
เรื่องราวตอนนี้ จะตลกและน่ารักมากค่ะ   ตลกฉีหลิงที่พยายามเรียนรู้เรื่องการฝึกพลังเวทย์  (ซึ่งความรู้เบื้องต้นเท่ากับศูนย์)  จากอาจารย์ที่เงียบขรึมและเย็นชา    พร้อมกับต่อสู้กับความรู้สึกประหลาดๆที่มีกับอาจารย์ของเขา   (อาการหลังจากประทับตราใหม่ๆ  เหมือนคนเจอเนื้อคู่  คล้ายๆกับอาการตกหลุมรัก  ซึ่งต่อมาจะเปลี่ยนเป็นความผูกพันและการไว้เนื้อเชื่อใจ  )

แล้วก็ขำหยินเฉิน   ผู้ซึ่งดูจะหมดความอดทน และไม่ศรัทธาในลูกศิษย์ตัวเองเอาเสียเลย   แถม ลูกศิษย์ก็ทั้งดื้อ   พูดมาก  ทั้งเกรียน และเอ๋อเสียด้วย    หยินเฉินเสกน้ำแข็งปิดปากฉีหลิงเอาเสียบ่อยเพื่อตัดรำคาญ   
 ซึ่งความอ๊องของฉีหลิงนี่แหละค่ะ    ที่ทำให้หยินเฉินผู้เย็นชา   มีรอยยิ้ม(แกมระอา)  ออกมาบ้าง  อีกทั้งยังต้องพยายามรักษาระยะห่างระหว่างตัวเขาเองและลูกศิษย์ ไว้ด้วย     (  เรื่องจะเฉลยเหตุผลของหยินเฉินที่พยายามรักษาระยะห่างกับฉีหลิงในตอนท้ายๆ    น้ำตาท่วมค่ะ  เศร้าและซึ้งมาก)

เมื่อหยินเฉินและ ฉีหลิง เดินทางมาถึงเมืองเหลยเอิน  ซึ่งเป็นเมืองท่าริมทะเล   หยินเฉินบอกกับฉีหลิงว่า    ฉีหลิงจะต้องมีอาวุธวิเศษคู่กาย   ซึ่งจะต้องเข้าไปเอาที่สุสานอาวุธวิเศษ     ฉีหลิงไม่ได้สนใจมากนักเพราะกำลังตื่นตาตื่นใจกับเมืองหลวง    เขาขอหยินเฉินออกไปเที่ยว   และ ได้พบกับโยวฮัว   เจ้าหญิงของเมือง ซึ่งอารมณ์ร้ายและมีพลังเวทย์   ฉีหลิงกลายเป็นคู่หมั้นโยวฮัวด้วยความบังเอิญ   ระหว่างการหนีงานแต่งและการไล่ล่าจากโยวฮัว    ฉีหลิง พลัดหลงเข้าไปในสุสานอาวุธวิเศษแบบไม่ตั้งใจ    และได้พบกับ    เหลียนเฉียน   ซึ่งเป็นลูกศิษย์และน้องสาวของจอมเวทย์ลำดับที่ 5   ในสุสานนั้นเอง

ทางด้าน หยินเฉิน  เมื่อลูกศิษย์เจ้ากรรมหายศีรษะไป   ก็เป็นหน้าที่จะต้องไปตามหา     หยินเฉิน  ได้พบจอมเวทย์ลำดับ 5    เฟิ่งหุน    (ฉีหลิงไปเจอ น้องสาวและศิษย์   ส่วนอาจารย์ก็เจอกับอาจารย์นอกสุสาน)      หยินเฉินได้ทราบว่า     เฟิ่งหุน   จอมเวทย์ที่5  และศิษย์ของเขา   ถูกคำสั่งสังหาร  (รหัสแดง)  จากนักบวชไป๋หยิน   ด้วยข้อหาทรยศ      และได้รู้ว่า  ฉีหลิงหลงเข้าไปในสุสานอาวุธ    หยินเฉินทั้งรู้สึกประหลาดใจและตกใจ     เฟิ่งหุนดูเป็นคนดี    จอมเวทย์ที่5    ทั้งหนีการตามล่าจาก   โยวหมิง   จอมเวทย์ลำดับ 2   ซึ่งทำหน้าที่มือสังหารของนักบวชไป๋หยิน   และยังเป็นห่วงศิษย์ของเขา   เหลียนเฉียน  ที่เข้าไปเอาอาวุธวิเศษในสุสานอาวุธ       เฟิ่งหุนรู้สึกได้ถึงการมาของ   จอมเวทย์มือสังหาร     เขาจึงหนีไป   โดยที่หยินเฉินช่วยกลบเกลื่อนร่องรอย
หยินเฉินรีบไปหาฉีหลิงที่สุสาน   เขาร้อนใจและเป็นห่วงฉีหลิงมาก  เพราะ   เขายังไม่ได้บอกฉีหลิง   ว่าควรเลือกอาวุธอะไรจากสุสาน  และวิธีออกจากสุสาน    หยินเฉิน  พยายามเข้าไปในสุสาน   แต่ทำไม่ได้   เนื่องจากสุสาน  จะให้เพียงศิษย์หรือจอมเวทย์เข้าได้แค่ครั้งเดียวในชีวิต

ขณะที่กำลังร้อนใจ และเสียใจ  หยินเฉินได้พบกับโยวฮัว   ที่มาตามหาฉีหลิง     โยวฮัวนั้นนอกจากจะเป็นเจ้าหญิง  เธอยังมีพลังเวทย์ที่ได้รับสืบทอดจากมารดา   ที่เป็นสาวกของจอมเวทย์ที่ 6 อีกด้วย  (ดังนั้นจึงนับโยวฮัวเป็นศิษย์ของจอมเวทย์ที่ 6 ด้วย) โยวฮัวเองก็ได้สารแจ้งให้มาเอาอาวุธวิเศษที่สุสานเช่นกัน   เกิดการต่อสู้กันเล็กน้อย   ซึ่ง  หยินเฉินชนะขาดในเวลาอันรวดเร็ว    (มันก็แหงระดับจอมเวทย์สู้กับศิษย์อะนะ)     และทำให้โยวฮัวเจ็บใจและเสียหน้า

หยินเฉินคิดได้   จึงออกปากฝากโยวฮัวให้ชลลลลเข้าไปช่วยฉีหลิง  และบอกถึงวิธีออกจากสุสาน  และอาวุธที่ฉีหลิงควรเลือก    ได้แก่ โซ่แห่งการคืนชีพ    โยวฮัวรู้สึกประหลาดใจ   เพราะคำสั่งที่เธอได้   คือ   ให้เลือกโซ่แห่งการคืนชีพเช่นกัน    ด้วยความเจ็บใจและนิสัยร้ายกาจ    โยวฮัว   จึงขอให้   หยินเฉิน   คุกเข่าขอร้องเธอให้ช่วยฉีหลิง     

ซึ่ง หยินเฉิน    ก็คุกเข่าลงต่อหน้า โยวฮัว อย่างไม่ลังเล   เพียงเพื่อให้โยวฮัว  นำคำแนะนำของเขาไปบอกแก่ฉีหลิง
 (  ดูถึงตอนนี้  คิดว่า  ทุกคนอยากตบนังโยวฮัว  และ  เข้าใจล่ะว่าหยินเฉินเองก็เป็นอาจารย์ที่ดีและรักฉีหลิงมาก  แม้จะแสดงท่าทีเย็นชาและเหินห่างกับฉีหลิงตลอดเวลา)

กล่าวฝ่ายฉีหลิง  ซึ่งพบกับเหลียนเฉียน  ซึ่งเป็นทั้งศิษย์และน้องสาวของจอมเวทย์ที่ 5    เหลียนเฉียนให้คำแนะนำและช่วยฉีหลิง    ตัวเธอเอง  ได้ครอบครองอาวุธวิเศษซึ่งคือโซ่แห่งการฟื้นคืนชีพ    ซึ่งเธอเองได้รับคำแนะนำให้เอาของวิเศษชิ้นนี้เช่นกัน    และเหลียนเฉียน  ก็ครอบครองมันได้สำเร็จ    ฉีหลิง  รู้สึกทึ่งในตัวเหลียนเฉียน   ที่ทั้งฉลาด   งดงาม  แต่ก็มีความเข้มแข็งเด็ดขาด    อย่างไรก็ดี   เหลียนเฉียนมีบุคลิกบางอย่างที่ทำให้ฉีหลิงรู้สึกเกรงใจไม่กล้า หยอกล้อเล่นหัวด้วย    (ต่างจาก เสิ่นยิน   โยวฮัว  หรือแม้แต่หยินเฉินที่    ฉีหลิงจะกระเซ้าเย้าแหย่ตลอดเวลา
ตามความรู้สึกของเราเอง   ความสัมพันธ์  ของฉีหลิง  และความสำคัญของคนในชีวิตของเขา น่าจะเป็นดังนี้

หยินเฉิง  -->  อาจารย์/ soulmate   ชีวิตนี้ขาดไม่ได้
เสิ่นยิน  -->  คนรัก  มีไว้ให้ใจเบิกบาน และ ได้รู้สึกมีความสำคัญ
ยางเจ๋อ  -->  เพื่อนรักร่วมสาบาน
เหลียนเฉียน -->   พี่สาวที่เคารพ   เพื่อนที่แสนฉลาดและมีเหตุผล  คอยเป็นที่ปรึกษา  เป็นคู่คิดที่ดี
โยวฮัว  -->    น้องสาวจอมยุ่ง ที่เอาแต่ใจ  แต่มีเธอก็ไม่เหงานะ

ผู้หญิงที่  เป็นคนรักของพระเอกฉีหลิงคือเสิ่นยิน    แต่ตามเรื่อง    ทั้งซีรี่ส์และภาพยนตร์    บทนางเอก คือ เหลียนเฉียน ค่ะ      อย่างไรก็ตาม    เมนไอเดียของซีรี่ส์ คือเรื่องราวของพระเอกคู่   หยินเฉิน - ฉีหลิง นั่นเอง


กลับมาที่เรื่องราวในซีรี่ส์

โยวฮัว  ตามเข้ามาในสุสาน   และ ได้พบ ฉีหลิงและ เหลียนเฉียน    เธอเห็น เหลียนเฉียนครอบครอง โซ่แห่งการคืนชีพ   จึงพยายามแย่ง  และอ้างว่า  เธอได้รับสารให้มาเอาโซ่แห่งการคืนชีพ    รวมถึง  ฉีหลิงเอง  ก็ต้องเอาอาวุธชิ้นนี้ด้วย       เหลียนเฉียนกล่าวด้วยเหตุผลว่า    เธอได้ครอบครองอาวุธชิ้นนี้ไปแล้ว  ให้มองหาอาวุธชิ้นอื่นๆ    โยวฮัวได้ธนูวิเศษ    ส่วนฉีหลิง  จับพลัดจับผลู  พลัดตกลงไปในหน้าผา  เขาคว้าได้ดาบอันหนึ่ง  เอาปักหน้าผาไม่ให้ร่วงลง   ทำให้ปลายดาบหัก    ฉีหลิงจึงได้ดาบที่ทั้งใหญ่และหนัก แถมปลายยังหัก มาเป็นอาวุธวิเศษประจำตัว     ฉีหลิง   รู้สึกว่า อาวุธของเขาไม่เข้าท่าเสียเลย   เมื่อเทียบกับของลูกศิษย์คนอื่น    แต่เขาก็ไม่รู้จะเลือกอาวุธอะไร    เนื่องจากในสุสานมีอาวุธมากมายเต็มไปหมด     ฉีหลิงได้รู้จากโยวฮัวว่า   หยินเฉิน อาจารย์ของเขา   คุกเข่าขอร้องโยวฮัวให้บอกวิธีการออกจากสุสาน          ฉีหลิงทั้งโกรธโยวฮัวมาก  และ รู้สึกผิด ที่ทำให้อาจารย์ของเขาต้องเสียเกียรติขนาดนั้น     เขารู้สึกคิดถึง  หยินเฉิน จับใจ

ที่ทางออกของสุสาน  ต้องเลือกประตูและแตะตัวหมากให้ถูก  จึงจะออกไปได้  (ตัวหมากคล้ายกับกุญแจนำทางในเรื่อง  แฮรี่ พอตเตอร์)     โยวฮัวที่รู้ทางออกจากหยินเฉิน    แกล้งพูดให้สับสน   จนเหลียนเฉียนหมดความอดทนลงมือใส่    โยวฮัวฉวยโอกาสตอนเหลียนเฉียนเผลอ  ผลักเหลียนเฉียนใส่ประตูตาย       ฉีหลิงตกใจและโกรธโยวฮัวมาก   เขาด่าโยวฮัวอย่างรุนแรง    ช่างเป็นผู้หญิงที่ใจร้ายและน่ารังเกียจ   เหลียนเฉียนเคยช่วยชีวิตโยวฮัว  แต่นางกลับลงมือทำร้าย     ฉีหลิงจึงกระโดดตามเหลียนเฉียนเข้าประตูตาย  เพื่อตามไปช่วยนาง

โยวฮัว  แม้จะรู้สึกผิดเต็มหัวใจ  แต่ก็เลือกประตูที่ถูกต้อง  แต่นางกลับไม่ได้ออกไป   ไปโผล่ที่ไหนไม่รู้  กลางทะเลทราย  และพบกับเหลียนเฉียน และ ฉีหลิง  (สรุป   หมากที่ทางออกผิดทั้งคู่  สามคนนี้ควรต้องตายหมด   จะเห็นว่า  มีเรื่องแปลกๆ  ศิษย์ 3คนของจอมเวทย์ ได้รับคำสั่งให้เลือกอาวุธวิเศษชิ้นเดียวกันซึ่งก็ควรจะฆ่ากันตาย  และออกมาไม่ได้เลยตามเส้นทางปกติ)


          กล่าวถึง หยินเฉิน  เขาตามไปพบกับ  จอมเวทย์5  เฟิ่งหุน    เฟิ่งหุนได้พบเด็กหนุ่มที่บาดเจ็บและอ่อนแรงคนหนึ่ง   เขาช่วยเด็กหนุ่มคนนั้น  ซึ่งเด็กหนุ่มคนนั้นบอกความลับที่น่าตกใจและไม่น่าเชื่อ  และบอกให้หยินเฉินตามหาจี๋เหมย  จากนั้น โยวหมิง  จอมเวทย์ที่ 2   ผู้เป็นมือสังหารก็ตามมา   แต่เด็กหนุ่มผู้อ่อนแรงนั้น   กลับมีพลังมากล้น   ซัดใส่โยวหมิงจนแขนขาดไปหนึ่งข้าง   ทำให้โยวหมิงต้องล่าถอยกลับไป  
และร่างของเด็กหนุ่มคนนั้นก็สลายหายไป    หยินเฉินตามมาพบ    ยังไม่ทันที่ เฟิ่งหุนจะได้เล่าเรื่องของเด็กหนุ่มให้หยินเฉินฟัง    ทั้งคู่   พบกับ   จอมเวทย์ที่ 3  ชีลา  
และได้ทราบว่า  ศิษย์ของตน  เลือกประตูผิด   และ หลุดเข้าไปอยู่ในชั้นลึกสุดของสุสานเสียแล้ว    ทางที่จะออกมาได้    ต้องผ่านทั้งด่านรังวิญญาณคนตาย    และสัตว์ประหลาดแห่งยุคโบราณ  จู้ฝู   จึงจะออกมาได้

หยินเฉินรู้สึกหมดหวังและเศร้าโศก   เพราะคิดว่า  เขาจะต้องสูญเสียลูกศิษย์เขาไปตลอดกาล    เฟิ่งหุนก็เป็นห่วงเหลียนเฉียนศิษย์ของเขาเช่นกัน   เขาขอให้ชีลา  ซึ่งมีอำนาจวิเศษในการสร้างตัวหมาก  และควบคุมกาลเวลาและประตูมิติ   หาทางช่วยศิษย์ของเขา

ฉีหลิง   เหลียนเฉียน   และโยวฮัว  สามารถผ่านด่านออกมาได้   ด้วยความช่วยเหลือจากชายแปลกหน้าสวมผ้าคลุมดำ   เมื่อชายผู้นั้นรู้ว่า  ฉีหลิงคือศิษย์ของหยินเฉิน   เขาช่วยบอกวิธีออกจากสุสานให้   โดยที่กำชับไม่ให้ฉีหลิงบอกใครว่าได้พบกับเขา

ชีลานำศิษย์และอาจารย์มาพบกัน   เฟิ่งหุนและเหลียนเฉียนกอดกันด้วยความเป็นห่วง    ส่วนฉีหลิง และ หยินเฉิน  แม้จะตื้นตันที่ได้เจอหน้ากัน  แต่หยินเฉินกลับวางท่าเฉยชา   จนฉีหลิงบ่นน้อยใจ  แต่อย่างไรเขาก็กอดหยินเฉินจนได้อยู่ดี  (ฮาาาา)     มีเพียงโยวฮัว  ที่ไม่มีหวังเจี๋ยมาคอยรับ  คอยชื่นชม     โยวฮัว  มองภาพศิษย์ อาจารย์ทั้งสองคู่   ด้วยความน้อยใจและอิจฉาลึกๆ    เพราะตัวเธอเอง  แม้มีพลังเวทย์  แต่ก็ไม่เคยได้พบหน้าอาจารย์ของเธอ  ซึ่งเป็นจอมเวทย์ที่ 6 เลย  
โยวฮัว  ไม่ได้รับการประทับตราเหมือนศิษย์คนอื่น  พลังของเธอได้จากมารดาโดยตรง  ซึ่ง แม่ก็ตายตอนที่คลอดเธอ    (พ่อของ โยวฮัว  ก็คือ จอมเวทย์ที่ 6   หมายความว่า  จอมเวทย์ที่ 6  แต่งงาน มีลูกกับศิษย์ของตัวเอง   มารดาของโยวฮัวเป็นเจ้าหญิง   ก็อย่างที่เล่าในตอนต้น   คสพ.ระหว่าง ศิษย์อาจารย์ในเรื่องนี้มันซับซ้อน!! ) 

ชีลา  จอมเวทย์ที่ 3     ใช้ตัวหมาก นำทางทุกคนมาที่เมืองหลวงของเสียนชาง (ตี้ตู)  และได้แจ้งแก่ทุกคนว่า  หลังจากที่ ศิษย์ ได้อาวุธวิเศษแล้ว    จะต้องปฏิบัติภารกิจ   เพื่อพิสูจน์ความเป็นศิษย์ที่แท้จริง  ซึ่งภารกิจนี้   ชีลา จะเป็นผู้จัดการเอง     

เฟิ่งหุน  เหลียนเฉียน   หยินเฉิน  และ  ฉีหลิง  ตัดสินใจพักโรงเตี๊ยมแห่งเดียวกัน  โยวฮัวแยกไปพักที่คฤหาสน์ของเธอ   ฉีหลิงที่เห็นคฤหาสน์ใหญ่โตสวยงามของโยวฮัวก็รู้สึกอิจฉาจึงถามหยินเฉิน  อาจารย์ของตน   ว่า  บ้านของเราจะต้องใหญ่โตและสวยงามแบบนี้    แต่หยินเฉินกลับบอกฉีหลิงว่า   เขาไม่มีบ้าน  เนื่องจากเขามักจะเดินทางไปที่ต่างๆตลอดเวลา  และเขาไม่ต้องการมีห่วงหรือภาระผูกพันใดๆ   ฉีหลิง  จึงกล่าวกับอาจารย์ของเขาว่า
   " ในสุสาน  ข้าคิดถึงท่านทุกวัน  แต่ดูท่านคงไม่คิดถึงข้า   ตอนนี้ ท่านมีข้าแล้ว  คนเราย่อมสมควรมีบ้าน  เพื่อให้กลับไป ให้ผูกพัน    ตัวข้านี้น  โตมาในโรงเตี๊ยม   ความรู้สึกเมื่ออยู่ในโรงเตี๊ยมก็เหมือนอยู่บ้าน     วันหนึ่ง ข้าจะซื้อโรงเตี๊ยมที่ใหญ่ที่สุด  ไว้ให้ท่านอยู่ด้วยกัน  ข้าฝันอยากเป็นเจ้าของโรงเตี๊ยมมาแต่ไหนแต่ไร   ให้ท่านช่วยเก็บเงิน... "       

ดูถึงตอนนี้   เราก็ได้แต่ยิ้มกับความเด็กน้อยแต่จริงใจของฉีหลิงเค้าล่ะค่ะ  โถ  พ่อคุณ  ชวนจอมเวทย์ไปเป็นเจ้าของโรงเตี๊ยม    ฝ่าย  หยินเฉิน  อาจารย์สุดซึน    นิ่งไปพักนึง  และตัดบทว่า    เขาต้องรับผิดชอบที่ทำให้ฉีหลิงตกอยู่ในอันตราย   ว่าแล้วก็ถ่ายพลังให้ฉีหลิง ผ่านทางสิงโตหิมะ    นัยว่า  สัตว์เวทย์แข็งแกร่งขึ้นจะได้คุ้มครองฉีหลิงได้   ก็นับเป็นอีกครั้งหนึ่ง   ที่หยินเฉิน  ทำหน้าที่อาจารย์ปกป้องศิษย์    และก็สร้างความผูกพันต่อกันเพิ่มเข้าไปอีกด้วย

ตัดกลับไปที่   จอมเวทย์ที่2  โยวหมิง  ที่เป็นมือสังหาร   หลังจากที่แขนขาดเป็นเอี้ยก้วย   ก็ไปตามศิษย์ มาช่วยเขา   ศิษย์ของเขาก็คือ เสิ่นยิน นั่นเอง

เสิ่นยิน  พาอาจารย์ของเธอ  ไปที่ทะเลสาบที่มีละอองพลังเวทย์สูง  ต้องต่อสู้กับสัตว์เวทย์มากมาย   โดยโยวหมิงให้นางใช้กระจกแห่งความตาย (ซึ่งเป็นอาวุธเวทย์ประจำตัวของเขา  เมื่อ  โยวหมิงลงไปแช่น้ำ  แขนของเขาก็กลับงอกขึ้นมาใหม่   โยวหมิง  กล่าวกับเสิ่นยิน  ว่าจะต้องตามล่า  พี่น้องลอร์ดลำดับ5  และฆ่าเด็กหนุ่มที่ทำร้ายเขา (  โยวหมิงไม่รู้ว่าเด็กหนุ่มนั่นเป็นใคร)

โยวหมิง และ เสิ่นยิน  กลับมายัง เมืองหลวง   ได้พบ  เหลยย่า  จอมเวทย์ลำดับ4 รออยู่   นางมอบมีดให้เสิ่นยิน   และ แจ้งสารสีขาว  แก่เสิ่นยิน   ว่าเธอจะต้องสังหารโดยใช้มีดแทง  สาวกทั้งสาม  คือ เหลียนเฉียน   โยวฮัว  และ  ฉีหลิง  
เสิ่นยิน รับมีด  และรู้สึกลำบากใจอยู่ลึกๆ

ฝ่าย  เหล่า สาวก สามสหาย อันได้แก่   ฉีหลิง  เหลียนเฉียน  โยวฮัว   ทั้งสามรู้สึกตื่นเต้นและกังวลกับภารกิจ   นอกจากนั้น  ทั้งสามยังใช้เวลาไปเที่ยวในเมืองหลวงด้วยกัน  จนสนิทกันมาก    ฉีหลิง ชอบที่จะปรึกษาเรื่องต่างๆกับเหลียนเฉียน ด้วย ความฉลาดรอบคอบ  ใจเย็นและเห็นอกเห็นใจคนอื่น  เรื่องส่วนใหญ่ที่ฉีหลิง ปรึกษาคือ   
ทำอย่างไรจะให้  หยินเฉินรักและสนใจเขาบ้าง  (ฮาาา) 
จนโยวฮัวแสนจะเบื่อหน่าย   ฉีหลิงกับโยวฮัวมักจะกัดกัน  ทั้งคู่โต้ตอบกันแบบไม่ลดราวาศอก     ส่วนโยวฮัว และเหลียนเฉียน ก็สนิทกันมาก จนไปไหนมาไหนด้วยกัน  แทบจะกลายเป็นปาท่องโก๋  เหลียนเฉียนเองมีแต่พี่ชายที่โตกว่ามาก  และมีธุระยุ่ง   ขณะที่โยวฮัวก็โตมาอย่างโดดเดี่ยวไม่เคยมีเพื่อนหญิง   ซ้ำเหลียนเฉียนยังเข้าใจและเห็นใจผู้อื่น  โยวฮัวจึงเปิดใจให้เหลียนเฉียนเป็นสหายอย่างหมดใจ     นอกจากนี้   ทั้งสามคน  ยังปรึกษาเรื่องภารกิจทดสอบศิษย์กันด้วย   เหลียนเฉียน จึงเสนอให้ทำการฝึกซ้อมเวทย์มนต์ และเก็งข้อสอบ (ภารกิจ)  ด้วยกัน   ทั้งสาม คาดเดาภารกิจกันไปต่างๆนาๆ
ฉีหลิง ซึ่ง อ่อนด้อยในการควบคุมเวทย์มนต์ที่สุด เริ่ม กลุ้มใจ   จนถึงกับแอบภาวนาในใจ   ขอให้เขาได้รับภารกิจกวาดพื้น  😂😂    เพราะ เขาคงจะทำได้ดีแน่ๆ

เหลียนเฉียน โยวฮัว  นัดกัน  ฝึกซ้อมเวทย์ในป่า  เสิ่นยิน ตามมาเจอทั้งคู่  นางใช้ มีดแทง  โยวฮัวและเหลียนเฉียน   ร่างของทั้งคู่สลายไป   เสิ่นยิน ตกใจและสับสน     ฉีหลิงเข้ามาเห็น   เขาตกใจและเสียใจมาก   แต่ก็เข้าใจว่าเสิ่นยินทำตามหน้าที่    และนึกขึ้นมาได้ว่า    สารที่เสิ่นยินได้รับคือ สารสีขาว   ดังนั้น  นั่นไม่ใช่คำสั่งฆ่า   มีดนั้นน่าจะเป็นหมากแบบหนึ่ง   ฉีหลิง พยายามทำลายมีด  แต่มีดกลับพยายามแทงเขา    เสิ่นยินเอาตัวเข้าขวาง   จึงถูกแทงไปพร้อม ฉีหลิง   ร่างทั้งคู่หายไป

ชีลา    อิ๋นเฉิน   และเฟิ่งหุน  ( จอมเวทย์ที่3,7 ,5)    อยู่ด้วยกันในหอคอยแห่งหนึ่ง    ชีลาบอกกับอีกสองคนว่า     ภารกิจทดสอบสาวกได้เริ่มขึ้นแล้ว

สาวกทั้ง4   ฟื้นขึ้นมาในสถานที่แตกต่างกัน    ทั้งหมด   ได้ยินเสียงของ อาจารย์ตัวเอง   บอกว่า  ตัวพวกเขาได้ถูกกักขังพร้อมกับหวังเจี๋ยของเขา    วิธี การออกจากสถานที่แห่งนั้น   คือ   เอามีดแทงเข้าที่หัวใจของตนเอง   และอาจารย์ของพวกเขาก็จะออกไปได้    หรือ   แทงที่ตำแหน่งวงจรเวทย์ของตัวเอง  และ อาจารย์ก็จะตาย   จากนั้น  ศิษย์ก็จะได้พลังของอาจารย์  ได้นำพลังซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอาจารย์ออกไป  และเป็น ลอร์ด คนใหม่แทนที่ตำแหน่งของอาจารย์

เหลียนเฉียน  ไม่ลังเล  เธอแทงเข้าที่หัวใจตนเอง   เธอไม่มีทางจะลงมือกับพี่ชายตนเองได้     โยวฮัว   หลังจากที่ลังเลอยู่สักพัก  เธอแทงที่ตำแหน่งวงจรเวทย์ของเธอ    ด้วยความคิดว่า   เธอจะต้องอยู่รอดต่อไป

ชีลา  อธิบายให้  เฟิ่งหุน และหยินเฉินฟัง  ว่า  กติกาของภารกิจ   คือ ศิษย์ที่เลือกทำร้ายอาจารย์  จะไม่ผ่านการทดสอบ   และจะถูกส่งกลับมาหาชีลาที่นี่     ส่วนศิษย์ที่ผ่านการทดสอบ  จะ ปรากฎตัว ที่ ลานเสาหินเทวรูปศักดิ์สิทธิ์ใจกลางเมือง      
เฟิ่งหุน รีบไปรอรับเหลียนเฉียนในทันที   โยวฮัวถูกส่งกลับมาที่ชีลา และ  หยินเฉิน     ชีลากล่าวกับนางว่า   นางไม่ใช่สาวกที่แท้จริง     โยวฮัวเสียใจมาก  แต่วางท่าไม่สนใจ  และกล่าวว่า   เธอเพียงอยากมีชีวิตรอดเท่านั้น  และเธอไม่รู้สึกผูกพันกับลอร์ดที่เธอไม่เคยแม้จะเห็นหน้า  และเธอก็จากไป

โยวหมิง พุ่งเข้ามาด้วยความโกรธ  และโวยวายว่า   เสิ่นยินของเขา  ไม่จำเป็นต้องเข้ารับการทดสอบไร้สาระนี้   เพราะเสิ่นยินคือศิษย์ที่แท้จริงของเขา  แม้ว่า   นางจะคิดฆ่าเขาตลอดเวลาก็ตาม    ชีลาบอกว่า   เสิ่นยินคือความผิดพลาด   เขาไม่ได้ตั้งใจจะนำเสิ่นยินไปทดสอบ     โยวหมิงยืนรอเสิ่นยินกับชีลา และหยินเฉิน     แต่ด้วยความประหลาดใจสูงสุดของโยวหมิง   เสิ่นยิน  กลับเลือกที่จะแทงที่หัวใจตนเอง   และร่างนางไปโผล่ที่ทางออก   โยวหมิงรีบตามไปรับนาง

เหลือเพียง  หยินเฉิน    ที่ลุ้นผลของฉีหลิง  กับชีลา    ฉีหลิง  เมื่อรู้สึกตัวขึ้นมา  อย่างงงๆ ในโรงเตี๊ยมเก่าที่ตำบลฝูเจ๋อ ที่ๆเขาเติบโตมา   เขารีบไปสำรวจรอบๆ และพบว่า มันมี กำแพงที่มองไม่เห็นกั้นไว้    มีเสียงของหยินเฉิน  บอกให้เขาเลือก     ฉีหลิง  ตอบเสียงนั้นกลับอย่างมั่นใจ ว่าเขาไม่มีทาง ทำร้ายหยินเฉิน   และหยินเฉิน ไม่มีทางบอกให้เขาฆ่าตัวตายแน่นอน    เสียงนั้นไม่ใช่หยินเฉิน  และนี่ก็ดูเป็นเรื่องเหลวไหลที่จะฆ่าตัวตายตามเสียงจากไหนไม่รู้    เขาอาจไม่เลือกเลย  จนค่ายกลเบื่อไปเอง     ชีลาที่ดูอยู่  รู้สึกประหลาดใจปนงงงวย กับวิธีการของฉีหลิง   แต่หยินเฉิน กลับนึกชมเชย ศิษย์ของเขา    
 อย่างไรก็ตาม   ค่ายกลของชีลาสร้างเงื่อนไขไว้ให้ผู้ถูกทดสอบเลือก   ดังนั้นมันจึงแผลงฤทธิ์กดดัน  ฉีหลิง    ฉีหลิงพยายามต่อต้าน   ด้วยการทำลายกำแพงเวทย์    จนกำแพงพัง   ชีลาอึ้งกับ การกระทำของฉีหลิง   และเตือน อิ๋นเฉิน ให้อบรมฉีหลิงให้ดี  เพราะควบคุมยาก  และอาจก่อความเดือดร้อนอันตรายได้     อิ๋นเฉินรับปาก    และรีบไปรับฉีหลิงที่ทางออก    

เนื่องจากฉีหลิง  ไม่ได้เลือกทำร้ายอาจารย์  เขาจึงผ่านการทดสอบ  แต่เนื่องจากเขาพังกำแพงมนต์ออกมา    เขาจึงร่วงลงมาจากกลางอากาศ   หยินเฉิน  พุ่งเข้าไปรับร่างของฉีหลิงได้พอดี  ก่อน ฉีหลิงจะร่วงกระแทกพื้น    เขาสูญเสียพลังไปมากกับการทำลายค่ายกล     ฉีหลิง  ได้ยินเสียงหยินเฉิน  และรู้สึกว่าตัวเองอยู่ในอ้อมกอดของหยินเฉิน      เขาคิดว่านี่คือภาพลวงตาในค่ายกล
หยินเฉิน   บอกว่า  นี่คือตัวเขาจริงๆ      
   ฉีหลิง พยายามลืมตา  และเอื้อมมือ ไปสัมผัสใบหน้าของหยินเฉิน  เขายิ้มออกมา และพึมพำว่า  " เป็นท่านจริงๆ    ข้าเก่งหรือไม่  ข้ารู้ว่านั่นไม่ใช่ท่าน  ข้า ไม่ทำร้ายท่าน  และไม่ทำร้ายตัวเองด้วย   ข้าไม่ได้โง่ขนาดจะเลือกวิธีฆ่าตัวตาย"
 หยินเฉินตื้นตันกับความภักดีและจริงใจของฉีหลิง    เขาอุ้มฉีหลิงที่สลบไปแล้ว   และกล่าวอย่างอ่อนโยนว่า   "กลับบ้านของเรากัน "

ฉีหลิง   ตื่นขึ้นมา ในห้องกว้างใหญ่หรูหราน่าสบาย  เขาเห็นหยินเฉิน ที่ยืนอยู่รีบเดินเข้ามาหา และ ถามด้วยท่าทีอ่อนโยนมาก  ว่า ฉีหลิง ยังเจ็บตรงไหนหรือไม่
ฉีหลิง  รู้สึกดีใจ แปลกใจและขัดเขิน   เขากล่าวแก้เก้อว่า    รู้สึกไม่ค่อยคุ้นชินกับท่าทีอ่อนโยนเช่นนี้ของหยินเฉิน  (ปกติจะเย็นชาหรือไม่ก็ด่าด้วยสายตา555)   หยินเฉิน กลับเดินเข้ามา  นั่งลงบนเตียงและ สำรวจตามร่างกายของฉีหลิงด้วย ท่าทีห่วงใย และอ่อนโยน       ฉีหลิง มองไปรอบๆห้อง  และถามว่า " นี่คือที่ไหน "    "บ้านของเรา"  หยินเฉินตอบ
ฉีหลิงเข้าใจไปว่า  หมายถึง โรงเตี๊ยม   จึงบอกว่าเขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น  ( ฉีหลิงรู้สึกว่าโรงเตี๊ยมคือบ้าน     เขาเคยบอกว่าจะซื้อโรงเตี๊ยมเอาไว้อยู่กับอิ๋นเฉิน)
" ไม่ใช่  นี่คือบ้านจริงๆ เราจะอยู่ด้วยกันที่นี่ "   อิ๋นเฉินย้ำ     ฉีหลิง นิ่งไปสักพัก  แล้วกระโดดกอดและจับหยินเฉินหมุนไปรอบๆ   ฉีหลิงวิ่งไปสำรวจรอบบ้านอย่างตื่นเต้น   (จริงๆ ควรเรียกคฤหาสน์แหละ)  มีบริเวณ  มีเชิงเทียนน้ำแข็ง  ส่องสว่าง  สวยงามและสงบ   ฉีหลิงดีใจมาก   

(หยินเฉินนี่เป็นอาจารย์สายเปย์ที่แท้ทรู   ลูกศิษย์สอบผ่าน  ซื้อบ้านฉลองให้เลยนะ)

หยินเฉิน กับฉีหลิง  พักอยู่ที่บ้านหลังนั้นด้วยกัน   ทั้งคู่ไปฝึกวิชาบ้าง   มีแขกมาเยี่ยม  บางครั้งก็เป็นโยวฮัว  และเหลียนเฉียน
บางครั้งก็เป็นเสิ่นยิน   และ  หยินเฉินดูออก  ว่า  ฉีหลิงมีใจให้เสิ่นอิน  จึงสั่งให้ ฉีหลิงออกไปทำภารกิจกับเสิ่นอินบ้าง   ก็จะมีโมเม้น ช่วงโรแมนติกระหว่าง เสิ่นอิน และฉีหลิง   รวมถึงความรู้สึกผูกพันที่เพิ่มขึ้น   ที่เสิ่นยิน มีให้ฉีหลิงด้วย   
ชีวิตของเสิ่นยินดาร์คมากมาตลอด   ฉีหลิง  เป็นเหมือนแสงสว่างที่จุดประกายความดีงามในชีวิตของเธอ      เสิ่นยิน  เคยกล้าขัดคำสั่งของโยวหมิง  เพื่อช่วยฉีหลิง

ฝ่าย  หยินเฉิน   เมื่อ ศิษย์โตพอ  และดูแลตัวเองได้  เขาก็ให้ฉีหลิงได้อยู่กับสาวๆที่เป็นเหมือนสหายรู้ใจของฉีหลิง   ตัวเอง  กลับมีเวลา คิดถึง เรื่องในอดีตของเขาเอง   หยินเฉิน  เคยเสียความทรงจำในอดีต   คราวที่ทดสอบศิษย์ ชีลาบอกเขาว่า   หมากของเขาจะส่งศิษย์ไปในวงเวทย์ที่มีลักษณะเดียวกันกับสถานที่ที่เจ้าตัวผูกพันและฝังใจที่สุด   (ฉีหลิงคือโรงเตี๊ยม)      หยินเฉินจึงขอให้ชีลา  ใช้ตัวหมากกับเขาบ้าง     ชีลาถามหยินเฉินในตอนนั้น ว่าเห็นอะไร   แต่หยินเฉิน  ตอบว่า   เขาไม่เห็นอะไรเลย

ซึ่งที่จริงแล้ว   หยินเฉิน  เห็นภาพเกาะสวยงาม  เงียบสงบในสายหมอก กลางทะเล    ตัวเขาและพี่น้อง (ศิษย์ร่วมอาจารย์)  อีกสองคน   คือ เก๋อหลานซื่อ และตงเฮ่อ  หยอกล้อเขา   จี๋เหมย อาจารย์ของเขา  ซึ่งเป็นอดีต  หวังเจี๋ยลำดับที่1  คอยดูแลพวกเขา     อดีตเหล่านี้   กลับมา  และเป็นความทรงจำที่เจ็บปวดมากของ หยินเฉิน   เพราะเขาได้สูญเสียมัน พร้อมกับชีวิตของเขา ในครั้งหนึ่ง  
ความทรงจำของเขากลับมา   ในขณะที่  เขามีชีวิตใหม่ และ กำลังจะ เริ่มต้นผูกพันกับ คนใหม่ในชีวิต  นั่นคือ ศิษย์ของเขาเอง  ฉีหลิง  

วันหนึ่ง   เสาเทวรูปกลางเมือง เกิดรอยร้าว  นักบวชไป๋หยินมีคำสั่งให้ หยินเฉิน  ซ่อมแซมเสาเทวรูปนั้น   ซึ่งการซ่อมแซม จะต้องใช้จิตวิญญาณแห่งธาตุทั้ง4  ดิน  น้ำ  ลม ไฟ   มาซ่อมแซม  หยินเฉิน จึงมอบหมายให้ฉีหลิง ไปตามหา จิตวิญญาณ ของธาตุทั้ง4   โดยมี  เสิ่นยิน   เหลียนเฉียน  และโยวฮัว  ติดตามไปช่วยเขาด้วย

ตรงนี้   เรามองว่า   หยินเฉิน ก็ค่อยๆสอนฉีหลิง  และมอบหมายภารกิจให้ไปทำนั่นเองค่ะ  ซึ่งเหตุการณ์ในช่วงนี้  จะเป็นทั้งช่วงที่ฉีหลิงเติบโตขึ้น เพราะได้รับมอบหมายงาน   แต่หยินเฉิน ก็ไม่ได้ปล่อยไปเสียทีเดียว   มีตามไปช่วยเหลือ  เช่นการตามหาวิญญาณแห่งลม   ฉีหลิงทำไม่ได้  หยินเฉินก็แสดงให้ดู   แต่แล้วฉีหลิง  กลับแสดงกระบวนท่าที่ ชายในผ้าคลุมสีดำ ที่เขาพบในสุสานอาวุธวิเศษ   เคยสอนให้    หยินเฉินตกใจมาก เพราะนั่นคือ  กระบวนท่าของเก๋อหลานซื่อ ศิษย์พี่  สาวกแห่งดิน  ที่เคยมีความหลังและอดีตร่วมกันของเขานั่นเอง  

ในช่วงนี้  ฉีหลิง  ได้พบ กลุ่มคนชุดดำ  ที่มีสัญลักษณ์รูปนก ซึ่งเป็นผู้มีพลังเวทย์   คอยตามหาจิตวิญญาณแห่งธาตุทั้ง4  เช่นกัน    ภายหลังจึงพบว่า   ยางเจ๋อ  เพื่อนคนแรกที่เขาเคยพบที่ตำบลฝูเจ๋อ   ก็คือหัวหน้ากลุ่มคนดังกล่าว   

กลุ่มคนเหล่านี้   คือผู้ภักดี  กับอดีตกษัตริย์แห่งเสียนชางองค์ก่อน    กษัตริย์องค์ก่อนถูกลอบปลงพระชนม์  บุตรชายทั้งสองหายไป    น้องชายกษัตริย์จึงขึ้นครองบัลลังค์    ยางเจ๋อคือ พระโอรสของกษัตริย์องค์ก่อน     ฉีหลิงและยางเจ๋อถูกคอกันมาก   สาบานเป็นพี่น้อง   ฉีหลิงพบว่า ยางเจ๋อ  พยายามจะช่วยซ่อมแซมเทวรูป  ด้วยการตามหาจิตวิญญาณแห่งธาตุทั้ง4    ในช่วงแรกที่ยังไม่รู้ความจริง   ยางเจ๋อและ กลุ่มคนชุดดำ  ต่อสู้กับ  หยินเฉิน     และถูกหยินเฉินเล่นงานเสียน่วม   (  จะได้เห็นหยินเฉิน โชว์ความเทพแหละ   เอาจริง ซีรี่ส์ทั้งเรื่อง   หยินเฉินนี่ก็โชว์เทพมากที่สุดแล้วล่ะค่ะ   ได้เห็นเยอะกว่าในภาพยนตร์  ส่วนภาพยนตร์  ก็จะมี  ชีลาอีกคน ที่มีซีนโชว์เทพมากๆ)
ฉีหลิง  คือ ผู้มาห้ามทัพ  ระหว่างอาจารย์กับเพื่อนของเขา   ฉีหลิงพิสูจน์ต่อหน้าทุกคนว่า กลุ่มคนชุดดำไม่ได้มีเจตนาร้าย  และไม่ได้เป็นผู้ทำลายเทวรูป
แต่หยินเฉิน  ยังไม่รู้สึกวางใจ  ยางเจ๋อ  และกลุ่มชุดดำ    เขาพยายามกันไม่ให้ยางเจ๋อเข้าใกล้ฉีหลิง  เพราะ สงสัยในเจตนาแอบแฝง  และไม่อยากให้ฉีหลิงพัวพันกับเรื่องยุ่งยาก      เมื่อห้ามและกีดกันไม่สำเร็จ    หยินเฉิน   จึงตกกะไดพลอยโจน    ติดตามฉีหลิง  ไปกับยางเจ๋อด้วย   และศึกษานิสัยใจคอยางเจ๋อไปด้วยพร้อมๆกัน      เมื่อหยินเฉิน  รู้จักตัวตนที่แท้จริง  ของยางเจ๋อ    เขาจึงบอกว่า    อดีตกษัตริย์ของยางเจ๋อ  เคยสนิทกับ จี๋เหมย อาจารย์ของเขา   และเคยช่วยเก็บรักษาความทรงจำของเขาไว้   หยินเฉินตกลงจะดูแลบุตรชายของเขา ซึ่งก็คือยางเจ๋อนั่นเอง

ยางเจ๋ออึ้งไป    เพราะคำพูดนี้   เหมือนกับคำพูดที่ปรึกษาการศึกของเขา   ซึ่งก็คือ   เก๋อหลานซื่อ    ศิษย์พี่ของหยินเฉิน    เก๋อหลานซื่อที่หยินเฉินเข้าใจว่าตายไปแล้ว    แท้ที่จริง  ยังมีชีวิตอยู่   เป็นคนดูแลยางเจ๋อ  ตอบแทนบุญคุณของกษัตริย์องค์ก่อน   และคอยตามดูหยินเฉินห่างๆ      และหยินเฉินรู้แล้วว่า   เก๋อหลานซื่อยังไม่ตาย

***สาเหตุที่กษัตริย์องค์ก่อนถูกสังหาร   เพราะเขาค้นพบความลับของนักบวชไป๋หยิน    นักบวชไป๋หยืน  ความจริง  คือ  จอมปีศาจที่ถูกสวรรค์กักขัง  และหนีลงมาที่โลกมนูษย์   โดยมันแบ่งแยกจิตเป็น12 ส่วน   มันค้นพบว่า  บนโลกมีพลังวิเศษ ซึ่งมันสามารถใช้เป็นขุมพลังได้   แต่ตัวของมันเองนั้น  ถูกผนึกและมาแต่รูปแบบพลังงาน  ไม่มีร่างที่แท้จริง   มันพยายามสร้างร่างที่แท้จริง ตามอย่างมนุษย์ที่มันเห็นว่าสวยงาม    แต่ร่างนั้นกลับไม่คงทน และออกจากผนึกคริสตัลไม่ได้     หากออกมา  พลังของมันและร่างที่มันสร้าง จะสูญสลายไป  

พลังงานปีศาจ  จึง แยกกันไป ในสี่ดินแดน   ดินแดนละสามตน   พวกมัน  ปรากฎตัวในร่างมนุษย์ในผลึกคริสตัลที่งดงาม   มีพลังจิตสูงส่ง   ให้คำแนะนำ  กับกษัตริย์แต่ละดินแดนที่มีพลังเวทย์สูงสุด   ในการปกครองดินแดน  รวมถึง ขจัดเหตุเภทภัยธรรมชาติ ในแต่ละดินแดน  ได้รับการเรียกขานว่านักบวชไป๋หยิน    เมื่อได้  ความศรัทธาจากกษัตริย์  และประชาชน   จนกลายเป็นดั่งเทพเจ้าสูงสุดของทุกดินแดน    เหล่านักบวช จึงออกความคิด   จะ สร้าง  จอมเวทย์  เพื่อช่วยเหลือกษัตริย์ในการคุ้มครองดินแดนของพวกเขา   เหล่ากษัตริย์ในอดีตเห็นดีด้วย    จึงมีส่วนช่วยสร้างเหล่าจอมเวทย์ในยุคแรกๆขึ้นมา    
เจตนาที่แท้จริง  ของนักบวชไป๋หยิน  หรือ วิญญาณจอมปิศาจ  คือ  กลับมาเกิดใหม่โดยมีรูปร่างอย่างมนุษย์  และครอบครองดินแดนของมนุษย์  มันเริ่มสร้าง  ลอร์ด   ซึ่งคือ   เทพเจ้า  แบบที่มนุษย์เรียกขาน   มีวิญญาณแบบมนุษย์  และมีพลังวิเศษของตัวมันที่มอบให้  ตามแต่มันจะคิดสร้างสรรค์  และพลังเวทย์มนตร์ของมนุษย์ที่บรรดากษัตริย์ในอดีตมอบให้  ( กษัตริย์นั้นมีเวทมนต์ในระดับที่สูงมาก พอๆกับลอร์ด  ซึ่งเป็นเวทย์มนต์ของตัวเองที่ได้รับจากละอองเวทมนต์ที่อยู่ในโลก )   เจ้าปิศาจพยายามสูบเอาละอองเวทย์เหล่านั้นผ่านทาง ลอร์ด  หรือจอมเวทย์ที่พวกมันสร้างขึ้น    วิญญาณที่ใส่เข้าไป  ก็คือวิญญาณมนุษย์ที่มีเวทมนตร์ที่ตายไป   และถูกชุบชีวิตใหม่ใส่ในร่างจอมเวทย์     ซึ่งเราเองก็สงสัยว่า  ทำไมปิศาจมันถึงอยากใส่วิญญาณมนุษย์เข้าไปวะคะ   ใส่ไปแล้วร่างนั้นมันก็มีความรู้สึกเป็นของตนเอง  แล้วก็เดาเอาเอง  ว่า  ความรู้สึกแบบมนุษย์คงจะเป็นสิ่งที่สวยงามและมีค่า  ที่ปิศาจอยากสัมผัสจับต้องบ้างกระมัง  
นักบวชไป๋หยิน   สร้างจอมเวทย์รุ่นแล้วรุ่นเล่า   จนมาถึง  จี๋เหมย อาจารย์ของหยินเฉิน     จอมเวทย์ลำดับที่หนึ่ง ของเสียนชาง   จี๋เหมยมีพลังเวทย์ที่กล้าแข็งและสมบูรณ์แบบ  จนแม้แต่นักบวชไป๋หยินก็ควบคุมไม่ได้   จี๋เหมยจึงต้องถูกกำจัดทิ้ง เพื่อไม่ให้เป็นภัยในภายหลัง   เหล่านักบวช  เริ่มสร้างนักฆ่า  เรียกว่า ผู้กลืนกิน  เป็นมนุษย์ที่มีพลังเวทย์สูง   ถูกคัดเลือกด้วยการให้ฆ่าพี่น้อง  และกินกันเองในถ้ำ   จนเหลือผู้ที่แกร่งที่สุดที่รอดมาได้เพืยงสองคน    รุ่นแรกคือ   โยวหมิง  และ เหลยย่า  ทั้งคู่ได้เป็นลอร์ดของไป๋หยิน   โดยที่ไม่ได้เป็นสาวกของใครมาก่อน     สองคนนี้มีหน้าที่กำจัดลอร์ดและสาวกที่อ่อนแอทิ้งไป
นักบวชไป๋หยิน  พยายามสร้าง  มนุษย์ที่เหมาะจะรับพลังวิญญาณของพวกมันได้  เนื่องจากร่างมนุษย์ธรรมดา อ่อนแอเกินกว่าจะรับพลังวิญญาณของจอมปิศาจ   มันจึงพยายามสร้างภาชนะในร่างมนุษย์ที่สามารถรองรับพลังได้อย่างสมบูรณ์    จี่เหมย  ลอร์ดที่1  ได้ร่วมกันกับนักบวชไป่หยินสร้าง  ภาชนะในร่างมนุษย์   นั่นก็คือ  หยินเฉิน  ผู้มีรูปลักษณ์โดดเด่น (และดูไม่ค่อยเหมือนมนุษย์เท่าไร  ออกจะเหมือนเทพเจ้ามากกว่า เดาว่าคนออกแบบรูปลักษณ์คงเป็นจี๋เหมย ) 
จี๋เหมยเริ่มสงสัยในเจตนาที่แท้จริงของนักบวชไป๋หยิน   จึงร่ายเวทย์มนต์เกราะทองคำไว้ให้  อิ๋นเฉิน ผู้เป็นลูกศิษย์   เวทย์มนต์นี้เป็นของจี๋เหมยซึ่งกล้าแข็งมาก  นักบวชไป๋หยินไม่สามารถครอบงำได้ 
 แต่จี๋เหมยเสียท่า  ถูกหลอกและถูกจับขังไว้ในคุกที่ไป๋หยินออกแบบเป็นพิเศษ     ไป๋หยิน ให้ลอร์ดคนที่6   (พ่อโยวฮัว)  ขังจี่เหมยไว้   ดังนั้น ลอร์ดที่6 จึงหายตัวไป   ศิษย์ทั้ง3  ของจี๋เหมยถูกกำจัด โดยเหลยย่า    ตงเฮ่อ ตาย   เกอหลานเซ่อ พยายามปกป้องอิ๋นเฉิน  จึงใช้ศาสตร์มืด  แปลงร่างเป็นสัตว์ประหลาด เทาเที่ย  ขับไล่เหลยย่าไป   แต่ตัวเขากลับคุมสติไม่ได้   และทำร้ายอิ๋นเฉิน  จนเสียชีวิต   เกอหลานเซ่อในร่างเทาเที่ย  หนีไป  และได้ กษัตริย์องค์ก่อน  ช่วยเหลือให้คืนร่างมนุษย์   เขาจึงอยู่และปกป้องยางเจ๋อ รัชทายาทองค์โต    ส่วนอิ๋นเฉินที่ร่างเสียหาย  แต่วิญญาณคงอยู่สมบูรณ์  ก็ถูกชุบชีวิตใหม่ โดยนักบวชไป๋หยิน   มอบตำแหน่งและพลังของลอร์ดที่7 ให้
อิ๋นเฉินจึงมีวงจรวิญญาณสองชั้น   ภายนอกคือลอร์ดที่ 7   พลังในการเก็บรวมรวมศาสตราเวทย์ไม่จำกัด  รวมถึงสัตว์วิญญาณ   อีกชั้นคือ  ในฐานะ  ศิษย์แห่งฟ้าของลอร์ดที่1    ซึ่งมีพลังในการคุมธาตุทั้ง4  ( ดินแดนเสียนชาง คือดินแดนแห่งน้ำ   จอมเวทย์จะใช้พลังผ่านธาตุน้ำ  แต่ศิษย์ทั้ง3 และจี๋เหมย  สามารถควบคุมพลังของธาตุทั้ง4 ได้ ซึ่งเป็นอีกเหตุผลหนึ่ง  ที่ต้องถูกกำจัดทิ้ง)   
และจี๋เหมย  ยังได้อาวุธเวทย์  คือกงล้อแห่งการตัดสิน มาใช้ในครอบครอง   อาวุธชิ้นนี้  ประกอบด้วย กระบี่วิเศษ 12 อัน  ดึงพลังมาใช้ไม่มีขีดจำกัด  เป็นอาวุธที่ทรงอานุภาพ (  เดาว่า  ใช้กำจัดไป๋หยินทั้ง12 ร่างได้พอดี)
 
ความลับทั้งหมด  ถูกส่งต่อจากกษัตริย์องค์ก่อนสู่ทายาท  นั่นคือยางเจ๋อ  ก่อนตาย  กษัตริย์ได้ทราบว่า   นักบวชไป๋หยินได้สร้าง  ภาชนะร่างมนุษย์ที่สามารถรองรับพลังได้อย่างสมบูรณ์สำเร็จแล้ว     เด็กจะถูกส่งไปเลี้ยงดูโดยมนุษย์และจะปรากฎตัวขึ้นที่ตำบลฝูเจ๋อในอีก 16 ปี     ยางเจ๋อ  จึงไปตามหา  ภาชนะในร่างมนุษย์นั้นที่ตำบลฝูเจ๋อ  แต่ถูกสิงโตหิมะเล่นงานเสียก่อน   จึงไม่รู้ว่า  ใครคือร่างใหม่ของนักบวชไป๋หยิน

เมื่อ   หยินเฉินได้ทราบเรื่องทั้งหมด   เขารู้ทันทีว่า   ภาชนะที่สมบูรณ์ของนักบวชไป๋หยินก็คือ  ฉีหลิงนั่นเอง     ตัวหยินเฉินเองก็ถูกสร้างมา  เพื่อเป็นภาชนะ    แต่ ไป๋หยินครอบงำเขาไม่ได้  เนื่องจากเกราะทองคำที่จี๋เหมยใส่ไว้ให้   ตอนนี้  นักบวชไป๋หยิน ก็มีร่างใหม่  ร่างที่สมบูรณ์สามารถรองรับพลังมหาศาลได้

ยางเจ๋อ  เมื่อรู้ว่า  ฉีหลิงคือ  ร่างที่เตรียมไว้ของไป๋หยิน  เขาเสียใจมาก  แต่ต้องสังหารฉีหลิง  ด้วยปณิธานของกษัตริย์องค์ก่อน  ที่ต้องขัดขวางการเกิดใหม่ของไป๋หยิน (จอมปิศาจ)    และ  จะต้องกำจัด กษัตริย์องค์ปัจจุบัน  ที่รับใช้ไป๋หยินโดยตรง       หยินเฉิน    ยืนหยัดในความเป็นหวังเจี๋ยของฉีหลิง   เขาจะปกป้องฉีหลิงในทุกทาง  และจะสังหารทุกคนที่ทำอันตรายลูกศิษย์เขา   (  อาจารย์สุดประเสริฐ    เป็นหวังเจี๋ยคนเดียวเลยแหละ  จากทั้งในนิยายและในซีรี่ส์   ที่ออกตัวปกป้องลูกศิษย์มากขนาดนี้   อาจจะเพราะรักมาก หรือเพราะ ฉีหลิง  ดูไม่เอาไหนก็ได้555)

ฉีหลิง   ผู้ยังไม่รู้เรื่องใดๆ    ถูกหยินเฉิน  ผู้เป็นอาจารย์ลากตัวออกมาจากยางเจ๋อ    เขาเป็นห่วงเพื่อน  และคิดว่า ยางเจ๋อทำการใหญ่เพียงลำพัง   จึงหนีจากหยินเฉินไปช่วย ยางเจ๋อ    หยินเฉินตามฉีหลิงไป   เขาพยายามสังหารยางเจ๋อ  เพราะคิดว่า  ยางเจ๋อ จะทำอันตรายฉีหลิง  (  ดาร์คไซด์ของหยินเฉินเค้าล่ะค่ะ)
แต่ยางเจ๋อ  ไม่ต่อสู้   เขาตั้งใจให้หยินเฉินสังหารเขาให้ตาย  เพราะไม่ต้องการฆ่าฉีหลิง    หยินเฉิน  จึงเข้าใจยางเจ๋อ    ทั้งคู่ตัดสินใจไม่บอกฉีหลิงถึงความลับนี้    เพราะกลัวฉีหลิงรับไม่ได้

เสิ่นยิน  ได้รับคำสั่งจากเหลยย่า  ให้ไปตามหาเกาะอมตะ  ที่น่าจะเป็นที่อยู่ของลอร์ด6  เหลยย่าสงสัยว่า   ลอร์ด6  อาจรู้ความลับอะไรบางอย่าง ของนักบวชไป๋หยิน   และนางอยากครอบครองพลังเวทย์   จึงให้เสิ่นยินไปกับหนีหง ศิษย์ของนาง   เสิ่นยิน  ค้นพบเกาะอมตะ   แต่ โยวหมิงเรียกนางกลับไปโดยที่ยังไม่พบ ลอร์ดลำดับ6  เพราะได้รับภารกิจที่ต้องทำ 

นั่นคือการสังหาร  ลอร์ดที่5เฟิ่งหุนและลูกศิษย์   รวมถึงใครก็ตามที่ให้การช่วยเหลือทั้งคู่    และให้กำจัด  กลุ่มคนชุดดำที่พยายามสังหารกษัตริย์องค์ปัจจุบันด้วย    และให้พาตัวฉีหลิง  สาวกของลอร์ด7 มาพบกับนักบวชไป๋หยิน

เสิ่นยิน รู้ว่า   เหลียนเฉียน และโยวฮัว  ตามหาเกาะอมตะอยู่เช่นกัน  จึงแอบวาดแผนที่และส่งข่าวให้    เหลียนเฉียนและโยวฮัว   ออกไปตามหาเกาะอมตะ  ด้วยกัน  (โยวฮัวอยากพบพ่อ  เหลียนเฉียนตามไปด้วยเพราะเป็นห่วง และได้ยินพี่ชายเล่าถึงความลับของนักบวชไป๋หยิน  นางจึงอยากไขปริศนาด้วย) 
แต่เฟิ่งหุน  พี่ชายของเหลียนเฉียน   พาตัวน้องกลับไป  และบอกว่า   คำสั่งสีแดงโทษประหาร  ถูกนำกลับมาใช้ใหม่กับพวกเขาอีก  เขาตั้งใจพาเหลียนเฉียนหนีไปจากดินแดนเสียนชาง   โดยหนีไปดินแดนแห่งไฟ  ซึ่งจะเข้าได้โดยสัตว์เวทย์จากดินแดนนั้น    เหลียนเฉียนเป็นห่วงโยวฮัว   แต่นกจากดินแดนแห่งไฟ กลับบินไปหาโยวฮัวที่เป็นเจ้านายคนใหม่    เหลียนเฉียนดีใจที่ได้เจอโยวฮัว  นางขอให้พี่ชายช่วยกันตามหาเกาะอมตะ  และไขความจริงเรื่องของไป๋หยิน  และช่วยปกป้อง  เสียนชาง

หยินเฉิน   รู้ว่า  กลุ่มของยางเจ๋อ  ต้องมาตามล่า ฉีหลิง  จึง สร้างเขตแดน3 ชั้นขังฉีหลิงเอาไว้  ตอนนี้เป็นตอนที่ ดราม่า น้ำตาท่วมมากที่สุดอีกตอนนึงของ  หยินเฉินและ ฉีหลิง   ตัวละครคู่หลัก  ของซีรี่ส์เรื่องนี้

หยินเฉิน :  (จับข้อมือฉีหลิงอย่างอ่อนโยน พร้อมกับร่ายคาถา)   "นี่คือเกราะ                        ป้องกันสามชั้น  ตราบที่ข้ายังอยู่จะไม่มีใครทำอันตรายเจ้าได้"
ฉีหลิง  :    (จับมือหยินเฉินที่กำลังร่ายคาถาให้หยุด)   "ข้าไม่ได้ต้องการเกราะ                       สามชั้น  ข้าต้องการสู้เคียงข้างท่าน   ทำไมศิษย์คนอื่น ถึงตายเพื่อ                        หวังเจี๋ยของเขาได้   แต่ทำไมท่านกลับขังข้า  ไม่ให้โอกาสข้าบ้าง   
หยินเฉิน  :  " เพราะข้าไม่อาจสูญเสียเจ้าไปได้อีก  ชีวิตข้าสูญเสียมามากเกิน                            พอแล้ว     จงมีชีวิตอยู่   ใช้ชีวิตให้ดี   และข้าจะกลับมา"

หยินเฉินผลักฉีหลิงออกไป  และร่ายเกราะป้องกัน  และหันหลังจากมา  ฉีหลิงพยายามกระแทกตัวผ่านเกราะอย่างบ้าคลั่ง     อิ๋นเฉิน  น้ำตาคลอ  เขาพูดในใจว่า  " ฉีหลิง  เจ้าไม่รู้หรือว่า  ข้าอยากอยู่กับเจ้าเพียงใด  อยากอยู่ดูเจ้าเติบโตมากเพียงใด)       ฉีหลิงสงบลงเล็กน้อย   เขาตอบหยินเฉินในใจว่า  " ข้าสามารถโตขึ้นกว่านี้ได้" 

หยินเฉิน  เจอกับ เก่อหลานซื่อ  ที่มาตามฆ่า  ฉีหลิง   หยินเฉิน ถามเก่อหลานซื่อ  ว่า เหตุใดจึงไม่มาพบเขาบ้าง   เก่อหลานซื่อ  ตอบว่า เขาไม่อาจสู้หน้า  หยินเฉินได้  ได้แต่คอยเฝ้ามองอยู่ห่างๆ    แต่เขาต้องทำหน้าที่  ในการกำจัด  ร่างแทนของไป๋หยิน    หยินเฉิน  ขอร้องให้เก่อหลานซื่อ ปล่อยฉีหลิงไป
"  เขาเป็นลูกศิษย์ของข้า  และข้าจะปกป้องเขา"  
แต่เก่อหลานซื่อไม่ฟัง  เขาแปลงร่างเป็นเทาเที่ย  ทำลายเกราะสามชั้นของอินเฉิน  และจะฆ่าฉีหลิง  ฉีหลิงสลบไปเพราะแรงปะทะ
หยินเฉิน   ระเบิดพลังธาตุทั้ง 4  สะกดเทาเที่ยได้  เกอหลานซื่อหายไป   ยางเจ๋อมาทันพอดี   เหลยย่า  แจ้งข่าวแก่หยินเฉิน  ว่านักบวชไป๋หยินตามหาศิษย์ของเขา  นางไม่ทราบเหตุผลใดๆ

หยินเฉินรู้ถึงเหตุผล   เขาอุ้มฉีหลิงที่หมดสติหนีไป   ยางเจ๋อ แนะนำให้ไปซ่อนตัวที่หุบเขาที่เป็นสุสานของกษัตริย์พระองค์ก่อน    หยินเฉิน  พาฉีหลิงมาในถ้ำ  เขาวางร่างฉีหลิงลงอย่างนุ่มนวล   และถอดเสื้อของ ฉีหลิงออก

หยินเฉิน  ถ่ายพลัง เกราะทองคำ ไว้ที่ตราประทับของฉีหลิง    ทำให้เขาสูญเสียพลังแทบทั้งหมด   ( หยินเฉินเพิ่งสู้กับเกอหลานซื่อมาด้วย)     ตอนนี้ฉีหลิง  ก็ได้รับ เกราะทองคำมาเรียบร้อย  หยินเฉิน สัมผัสได้ว่า  โยวหมิงกำลังตามมา  เขารู้ตัวว่า   ในตอนนี้เขาไม่สามารถสู้โยวหมิงได้   หากโยวหมิงผ่านเขามาได้ และได้ตัวฉีหลิงไป   ฉีหลิงจะไม่ถูกครอบงำ

ฉีหลิงรู้สึกตัวขึ้นมา  เขาสัมผัสได้ถึงพลังอบอุ่นที่ตัวเขา   ฉีหลิงถามหยินเฉินว่า   เขามอบพลังให้แก่ฉีหลิง หรือ ?    หยินเฉินตอบว่า   เขาเพียงส่งผ่านพลังของจี๋เหมยให้แก่ ฉีหลิง     รับไว้เถอะ   สักวันอาจเป็นประโยชน์     หยินเฉินบอกกับฮีหลิง  ด้วยประโยคเดียวกับที่จี่เหมย อาจารย์ของเขาบอกเขา   หลังจากที่มอบเกราะทองคำให้    ก่อนที่ท่านจะหายตัวไป

หยินเฉินฝาก ฉีหลิงไว้กับยางเจ๋อ    " ท่านไม่กลัวข้าสังหารเขาหรือ"   ยางเจ๋อถาม     "ข้ารู้ว่าเจ้าทำไม่ได้ "  หยินเฉินตอบด้วยใบหน้าเรียบเฉยก่อนจะเดินจากไป

หยินเฉินเฝ้าหน้าถ้ำ  เมื่อโยวหมิง ตามมาถึง   ทั้งสองต่อสู้กัน และหยินเฉินสู้ไม่ได้  เขาเสียพลังไปมากจึงสลบไป   ยางเจ๋อ  มอบตราสัญลักษณ์รูปนกให้ฉีหลิง  ตรานั้นสะท้อนพลัง และเป็นเกราะคุ้มกันสมาชิกของราชวงค์   มันมีพลังแข็งแกร่งมาก  แม้แต่จอมเวทย์ก็ทำลายไม่ได้   ยางเจ๋อ ขอให้ฉีหลิงรับภารกิจและใช้ชีวิตแทนเขา   โยวหมิงตามเข้ามาในถ้ำ และปะทะกับยางเจ๋อ  เขาระเบิดพลังใส่ยางเจ๋อ จนเสียชีวิต   ฉีหลิง ใช้ตรานกสะท้อนพลังกลับไป จนโยวหมิงบาดเจ็บ   โยวหมิงออกมา  เจอกับหยินเฉินที่เพิ่งฟื้น   เขาตั้งใจจะเล่นงานหยินเฉิน   แต่ฉีหลิง  ขี่สิงโตหิมะออกจากถ้ำ  พร้อมร่างที่ไร้วิญญาณของยางเจ๋อ
ดึงตัวอาจารย์ของเขาขึ้นหลังสิงโต   ทั้งหมดบินหนีจากโยวหมิงไปได้หวุดหวิด

ฉีหลิงนำร่างยางเจ๋อฝังไว้ในสุสานของกษัตริย์  เขาเสียใจและทำใจไม่ได้กับการสูญเสียยางเจ๋อ ที่สละชีวิตปกป้องเขา     
หยินเฉิน บอกฉีหลิงว่า  เขาจะอยู่เคียงข้างฉีหลิง  และต่อสู้กับทั้งโลก เคียงข้างฉีหลิง   เขากอดปลอบฉีหลิงอย่างอ่อนโยน   และเตือนสติให้ฉีหลิง  มีชีวิตต่อไป  และ สืบทอดภารกิจของยางเจ๋อ

ฉีหลิง คิดได้  และหักห้ามความเสียใจ   สองศิษย์อาจารย์  ปรึกษากัน  และได้ความคิดว่า  ไหนๆก็ถูกตามล่าแล้ว  ก็เผยฐานะ ฉีหลิงไปเลย ว่าเป็นรัชทายาท ในนามของยางเจ๋อ  เข้าเฝ้ากษัตริย์ไปตามตรง     จอมเวทย์นั้นต้องปกป้องราชวงค์  อาจจะไม่กล้ายุ่งกับฉีหลิง  หยินเฉินเป็นห่วงฉีหลิงมาก  เพราะรู้ว่ากษัตริย์ปัจจุบัน  เป็นคนของไป๋หยิน     เขาบอกกับฉีหลิงว่า

"จริงๆแล้ว  ข้าอยากพาเจ้าหนีไปอยู่เกาะที่เงียบสงบห่างไกลผู้คน  แต่เจ้าชอบความครึกครื้น   ข้ารู้ว่ายังไงคงห้ามเจ้าไม่ได้   จึงมีแต่จะอยู่เคียงข้างเจ้า"
 

กษัตริย์หนานย่าว ให้การต้อนรับฉีหลิงอย่างดี  แต่ก็รู้ทันว่าฉีหลิงไม่ใช่หลานของตน   ฉีหลิงพยายามเนียน   เขาคิดว่า  น่าจะต้องมีบันทึกของกษัตริย์องค์ก่อนเกี่ยวกับนักบวชไป๋หยินในหอสมุดของวัง  ตัวเขาถูกจับตาอย่างใกล้ชิด  จากคนของนักบวชไป๋หยิน     และยังถูกกีดกันไม่ให้พบกับหยินเฉินด้วย

หยินเฉินพูดไม่ออกถึงความจริง   ได้แต่บอกให้ฉีหลิง ทำในสิ่งที่ตนตั้งใจไว้ให้สำเร็จ   ลึกๆแล้วหยินเฉินหวังว่า   ฉีหลิงจะไม่รู้ความลับนี้ตลอดไป

ฉีหลิง เจอม้วนบันทึกที่เกี่ยวกับนักบวชไป๋หยินที่กษัตริย์องค์ก่อนบันทึกไว้   แต่ม้วนบันทึกถูกลงอาคมไว้  เขาเปิดไม่ได้    จึงขออนุญาตอย่างเปิดเผย  ให้เชิญหยินเฉินมาที่วัง  เพื่อพบปะพูดคุย   และเรียนวิชาเวทย์
การสนทนาของทั้งคู่ถูกจับตาอย่างใกล้ชิดจากคนของนักบวชไป๋หยิน     ฉีหลิงจึงออกอุบายมอมเหล้า คนของไป๋หยินจนหลับไป
ระหว่างนั้น   หยินเฉินปลดคาถา  และอ่านบันทึก  ในบันทึก  อธิบายเรื่องเกี่ยวกับ ร่างแทนของไป๋หยิน  และร่างนั้นจะถูกเรียกว่า ลอร์ด ลำดับ0  โดยมีสัญลักษณ์0  ที่ตัว     หยินเฉินตกใจมาก เพราะนั่นคือสัญลักษณ์เดียวกับปานที่ติดตัวมาของฉีหลิง      เขาพยายามทำลายม้วนบันทึก  แต่มันถูกลงอาคมไม่ให้ทำลาย   บันทึกกระเด็นไปตรงหน้าฉีหลิง   

    ฉีหลิง ได้อ่านบันทึก   เขารู้ความจริงว่าเขาเองคือ  ร่างแทนที่ถูกไป๋หยินสร้างขึ้น    ฉีหลิงรู้สึกรับไม่ได้และสติแตก   เขาตะโกนใส่หยินเฉิน
  " ท่าน  ท่านรู้มาตลอดว่าข้าเป็นอะไร   ข้าควรทำอย่างไร  ฆ่าตัวตายอย่างนั้นหรือ    ข้าคือตัวประหลาด  คือตัวหายนะที่จะช่วยให้ไป๋หยินฟื้นคืนร่างอย่างนั้นหรือ" 
      หยินเฉินร้องไห้     
" ข้าเป็นคนบอกเจ้าเองให้ไปตามหาความจริง และยืนอยู่เพื่อสิ่งที่ถูกต้อง  ตอนนี้ข้ากลับเสียใจที่บอกเจ้าเช่นนั้น     ไม่ว่าเจ้าจะเป็นอะไร
เจ้าคือศิษย์ของข้าเพียงคนเดียวตลอดไป"
     
ฉีหลิงยังสติแตกไม่หยุด
" ของท่านอะไรกัน  ข้าเป็นของไป๋หยินต่างหาก  ข้ามันเป็นตัวอะไร  มนุษย์ก็ไม่ใช่ด้วยซ้ำ   เป็นเพียงภาชนะใบนึง"
หยินเฉินกล่าวปลอบว่า
"  มันเป็นเรื่องของเวลา   สร้างภาชนะ ใบหนึ่ง  ทำลายภาชนะไป  แล้วก็สร้างขึ้นใหม่   ไม่เกิดความแตกต่างในเหตุการณ์    แต่เราเลือกได้   ว่าจะใส่  ภาชนะอะไรลงไปในนั้น   อาจเป็นเหล้า   เป็นน้ำชา   หรือดอกไม้   นั้นถึงจะแตกต่าง"
หยินเฉิน เสกแก้วที่มีดอกไม้น้ำแข็งในนั้น ให้ฉีหลิง

คนของนักบวชตื่นขึ้นเพราะเสียงเอะอะของทั้งคู่    หยินเฉินและฉีหลิงรีบเช็ดน้ำตา  และซ่อนม้วนบันทึก    คนของไป๋หยินพาตัว หยินเฉินออกไป   ก่อนออกไป     หยินเฉิน  หันมาพูดกับฉีหลิง
   " อย่าลืมนะ  เจ้าเท่านั้นที่เป็นคนเลือก  ว่าจะใส่อะไรลงในแก้ว"

ฉีหลิงจับชายเสื้อคลุมของ หยินเฉิน อย่างอาวรณ์  ในขณะที่หยินเฉินถูกดึงตัวออกไป    เขารู้สึกอ้างว้างและสับสน   จึงหนีกลับไปที่ตำบลฝูเจ๋อ  และดื่มเหล้าเมามายอยู่ที่ซากโรงเตี๊ยมที่เขาเคยอยู่  พลางคิดถึงเหตุการณ์ต่างๆในชีวิต

ฉีหลิง  คิดถึง เหตุการณ์ที่เขาอยู่กับสามสาว  ได้หัวเราะ ได้ผจญภัยด้วยกัน
 คิดถึง ยางเจ๋อ  เพื่อนรักร่วมสาบานที่ตายแทนเขา   และขอให้เขาใช้ชีวิตเป็นตัวแทน     ฉีหลิง หัวเราะแบบประชดชีวิต  และ ดื่มเพื่อให้เมามายมากไปอีก
เรื่องนี้ทำให้เขาเจ็บปวดและขมขื่น   ตัวแทนของยางเจ๋อ  ภารกิจของยางเจ๋อ คือหาภาชนะของไป๋หยินและทำลายเสีย   ก็ตัวเขาเองไงจะใครล่ะ    
สิ่งที่ยางเจ๋อขอร้องเขามันขัดแย้งกัน    เขาต้องมีชีวิตอยู่ในฐานะยางเจ๋อ  และ ฆ่าตัวเองตายด้วย    จะทำอย่างไรล่ะ

สุดท้าย   คนที่ฉีหลิง  คิดถึง คือ  หยินเฉิน   เวลาที่ได้อยู่ด้วยกัน  เป็นศิษย์อาจารย์  และสิ่งที่หยินเฉินสอนเขา  " เจ้าจะใส่อะไรลงในภาชนะ  เจ้าคือคนเลือก.... "     ฉีหลิงเสกแก้วน้ำแข็ง เหมือนกับที่หยินเฉินเคยเสกให้    
 คนของยางเจ๋อตามมาพบฉีหลิง  พวกเขาขอให้ฉีหลิงกลับไปทำหน้าที่   ฉีหลิงรู้สึกกดดันจึงเดินหนี     คนพวกนี้ไม่รู้ว่าเขาคือตัวอะไร   เขาไม่สามารถเป็นผู้นำกลุ่มได้  แต่จะทิ้งไปก็ไม่ได้     อดีตคู่หมั้นของยางเจ๋อ หมดความอดทน  จึงจะซัดฉีหลิง    แต่เสิ่นยินตามมา  และห้ามไว้     ให้เวลาเขาบ้าง   เสิ่นยินบอกนาง
เด็กหนุ่มอีกคนก้าวเข้ามา ห้ามกลุ่มคนผู้ภักดีกับกษัตริย์องค์ก่อน   ท่าทางของเขาทำให้ฉีหลิงคิดถึง ยางเจ๋อ    นั่นคือน้องชายของยางเจ๋อ   ฉีหลิงตัดสินใจได้แล้ว

โยวหมิงและกลุ่มของ  นักบวชไป๋หยิน ตามเสิ่นยินมา   และ พาตัวฉีหลิงไปพบนักบวชไป๋หยินที่มหาวิหาร    ฉีหลิงขอไปพบกับหวังเจี๋ยของเขาเป็นครั้งสุดท้ายก่อน  

ระหว่างที่  ฉีหลิง หายไป     หยินเฉิน  ยังคงพักอยู่ในบ้านที่เขาเคยอยู่กับฉีหลิง   ตาเฝ้ามองที่ประตู   หวังจะเห็นภาพฉีหลิงเปิดประตูเข้ามา    แต่เป็นเหลียนเฉียน ที่มาพบเขา
  "ฉีหลิงหายตัวไป  พวกเรารู้สึกเป็นห่วง   เราคิดว่าเขากลับมาที่นี่  แต่ก็ไม่ ท่านได้ข่าวเขาหรือไม่"
  หยินเฉินวางหน้านิ่ง  แต่มือกำหมัดแน่น   เขาฝืนกล่าวออกไปอย่างไม่แยแส
" จากสายสัมพันธ์ระหว่างศิษย์ อาจารย์ ข้ารู้ว่าเขาสบายดี  ไม่มีอันตรายใดๆ"
"ท่านไม่เป็นห่วง  ไม่คิดจะตามหาเขาเลยหรือ "  เหลียนเฉียนถามอย่างข้องใจ

"ฉีหลิงทั้งขี้เกียจ และไม่ใส่ใจ  ภาระการเป็นรัชทายาท นั้นหนักและกดดันเกินไปสำหรับเขา   เมื่อทนไม่ไหวก็หนีไป   เขาก็เป็นอย่างนั้นมาตลอด  ครั้งนี้ก็คงหนีไปแล้วจริงๆ    ข้าไม่ใส่ใจศิษย์ไม่รักความก้าวหน้าอย่างนั้น  ถ้าเขาหนีไป  ข้าก็ตัดสัมพันธ์เขาง่ายขึ้น "    หยินเฉินตอบด้วยท่าทีเย็นชา
" ท่าน !! ท่านพูดถึงเขาเช่นนั้นได้อย่างไร  ยามเมื่ออยู่ข้างนอก  ฉีหลิงปกป้องท่านมาตลอด   เขาอาจจะพูดว่าอยากหนีก็จริง   แต่เขาไม่เคยคิดจะหนีจริงๆ  และเขาไม่ใช่คนเหลวไหลที่จะทิ้งไปเช่นนี้  "
" เกรงว่าเจ้าไม่รู้จักเขาเลย "  หยินเฉินกล่าวเรียบๆ
" ข้ารู้จักเขา" เหลียนเฉียนตอบด้วยความโกรธ และจากไป

เมื่อประตูห้องปิดลง    หยินเฉินทรุดตัวลงอย่างหมดแรง   ท่าทีเย็นชาที่ฝืนมาตลอดแตกสลาย    น้ำตาไหลอาบหน้า    เขาอยู่ลำพังอย่างอ้างว้าง   ยิ้มกับตัวเองเศร้าๆ  และคิดในใจว่า
"  ข้าขอโทษเจ้า  ฉีหลิง   ที่ดึงเจ้าเข้ามาอยู่ในวังวนแห่งความยุ่งยากนี้   เมื่อก่อน  เจ้าเป็นเด็กในโรงเตี๊ยมที่แสนบริสุทธิ์  เจ้าไม่ควรต้องมาเจอกับเรื่องแบบนี้   ข้าผิดเองทั้งหมด     หนีไปซะ   หนีไปให้ไกล  ไปจากเรื่องยุ่งยากทั้งปวง   ข้าขอเป็นหวังเจี๋ยที่ไม่มีศิษย์    อยู่อย่างโดดเดี่ยวเพียงลำพัง   ดีกว่าให้เจ้าเจอกับเรื่องอันตรายแบบนี้"

T..T     ตรงนี้ร้องไห้แป๊บค่ะ   เศร้าตาม หยินเฉิน😭😭😭

     ฉีหลิง ตัดสินใจเผชิญหน้ากับ นักบวชไป๋หยิน อย่างกล้าหาญ  เขามาลาหยินเฉินที่บ้าน       เมื่อฉีหลิงก้าวเข้าประตู     หยินเฉินดีใจมาวูบนึง  แต่แล้วก็มอดดับลง   เมื่อเห็นสาวกของนักบวชไป๋หยินตามเข้ามาเต็มบ้าน

     ฉากนี้ก็เป็นฉากสะเทือนใจ  ของศิษย์อาจารย์ค่ะ  

หยินเฉินนั่งอยู่ที่เดิม   ฉีหลิง นั่งลงตรงข้ามเขา   หยินเฉิน  รินน้ำชาให้เงียบๆ

ฉีหลิง  "  ข้าหายไป  ท่านสบายดีหรือไม่   ตอนนี้  วิชาทั้งหลายที่ท่านทำได้  ข้าก็ทำได้หมดแล้ว  ดูสิ "  ฉีหลิง เสก แก้วน้ำแข็ง พร้อมดอกไม้บูดเบี้ยว ให้หยินเฉิน   
ฉีหลิง  พยายามยิ้มให้   แม้ว่าตัวเขาอยากจะร้องไห้ออกมา

   "ดูสิ  เวลาข้ายิ้มแล้วดูทุเรศยิ่งกว่า   ข้าโตแล้ว   มีภารกิจที่ต้องทำ   ครั้งนี้ข้าอาจหายไปนานมาก  อาจไม่มีเวลามาเยี่ยมท่านบ่อยๆ   ท่านอยู่ที่นี่   รักษาตัวให้ดี  ต้องดูแลตัวเองด้วย"     

จริงๆ  มันมีโมเม้นท์ช่วงนึงที่เล่าข้ามไปค่ะ   เป็นช่วงเวลาที่หยินเฉิน  พาฉีหลิงไปฝึกวิชา    ฉีหลิงแบกสัมภาระมาเต็ม  ทำให้เดินช้า ตามหยินเฉินไม่ทัน


หยินเฉิน  "  ใครใช้ให้เจ้าแบกของมามากมายขนาดนั้น  จะติดตามข้า ควรเรียบง่ายและคล่องตัว   ดูข้าสิ  ไม่มีข้าวของใดๆ"
ฉีหลิง  โยนสัมภาระลงพื้น  
                  "ใครบอกว่ามันเป็นของข้า  ของในนี้ของท่านทั้งนั้น   ดูนี่สิ   เสบียง เผื่อท่านหิว   ผ้าเช็ดหน้าเยอะแยะ นี่ก็สำหรับท่าน  รู้ตัวหรือไม่ว่าท่านล้างมือบ่อยมาก  ผ้าเช็ดหน้ามากมายเพียงใดก็ไม่มีทางพอ  ท่านล้างมือมากกว่าวันละสามเวลาเสียอีก    แล้วนี่ ก็ถุงหอมที่ข้าทำให้ท่าน ( 😯😯😯)     ข้าเป็นผู้ชายแท้ๆ  ต้องไปเก็บดอกไม้มาทำถุงหอมให้ท่านทุกวัน   ข้าทำไปทำไมก็ไม่รู้   แค่เพียงอยากให้ท่านมีกลิ่นหอม  คิดว่าท่านอาจชอบ..."
หยินเฉิน......    (พูดไม่ออก)    เลยแก้เก้อ  เดินไปหยิบถุงอีกถุงนึงบนพื้น  งั้นข้าเก็บนี่ไว้แล้วกัน  

ฉีหลิง รีบดึงคืนไป    นั้นมันเงินที่ข้าเก็บมาทั้งชีวิตนะ    ทำหน้ามุ่ย    (ฮาาา)

เรา...  อืมม์  ไม่มีสาวๆคนไหน ได้ถุงหอมจากฉีหลิงนะคะ   แล้วก็ไม่มีสาวกคนไหนในเรื่อง  ทำถุงหอมให้หวังเจี๋ยของตัวเองด้วย   แม้แต่เหลียนเฉียน  นางถักเชือกข้อมือให้พี่ชายนาง      นี่มันฉากโรแมนติกปนฮาใช่มั้ย

พอกลับมาถึงตอนที่ฉีหลิง  ลาหยินเฉิน   ฉากนั้มันจะแฟลชขึ้นมา  ทำให้เราน้ำตาคลอ     

แล้วสาวกของนักบวชไป๋หยิน ก็ ลากตัวฉีหลิง ออกไป  
หยินเฉิน  นั่งนิ่งอยู่ที่เดิม   จ้องมองแก้วและดอกไม้บูดเบี้ยวที่ฉีหลิงทิ้งไว้ให้
เขาพยายามต่อสู้กับความรู้สึกที่อยากจะสังหารสาวกของนักบวชและพาศิษย์ของเขาหนีไป    แต่ทำแบบนั้น  จะได้อะไร  ในอดีต  จี๋เหมยอาจารย์ของเขาเองยังพ่ายแพ้   หากเขาต่อต้าน  ฉีหลิงก็คงสู้จนตัวตาย....      นี่คือสิ่งที่เขากลัวเป็นที่สุด

อย่างไรเสีย   นักบวชไป๋หยินก็ต้องการร่างของฉีหลิง  พวกเขาไม่ทำลายฉีหลิงทิ้ง  หากยังสามารถใช้งานได้   แต่หากฉีหลิงต่อต้านและนักบวชจอมปลอมพวกนั้นรู้สึกว่า ฉีหลิงและ หยินเฉินเป็นอันตราย       นักบวชไป๋หยินก็จะทำลาย ฉีหลิงทิ้งอย่างไม่ลังเล    แล้วก็สร้างภาชนะใบใหม่ขึ้นอีก

  หวังเจี๋ยของเขาโดนมาแล้ว   ถูกหลอกให้สร้าง "เขา" ขึ้นมา  และปิศาจในคราบนักบวชพวกนั้นพยายามจะทำลายท่านทิ้ง    จี๋เหมย ใส่เกราะทองคำไว้ให้กับเขา    หยินเฉินเอง  ก็ใส่เกราะทองคำให้ฉีหลิงเช่นกัน

            ในช่วงเวลาที่เศร้าโศกและอ้างว้าง    หยินเฉินคิดถึงอาจารย์ของเขาเหลือเกิน     "จี๋เหมย  หากเป็นท่าน จะทำอย่างไร   ข้าจะต้องตามหาท่านให้พบ "

หยินเฉิน  ยังคงรอ ฉีหลิง อยู่ที่บ้าน   ในขณะที่ฉีหลิง   ถูกจับไป  เขาเผชิญหน้ากับนักบวชไป๋หยิน   และถูกถ่ายพลังและครอบงำใส่  นักบวชไม่สามารถครอบงำฉีหลิงได้  แต่พลังกับถูกถ่ายทอดไปได้   เหล่านักบวชรู้สึกงุนงง  พวกมันขังฉีหลิงไว้ในวิหาร

ต่อไปนี้ คือ   ฉากสงครามตามชื่อเรื่อง  ที่มีฉากปรากฎในภาพยนตร์    ในซีรี่ส์แทบจะเป็นฉากเดียวกันเป๊ะๆเลย    


เหลียนเฉียน  โยวฮัว  และ  เฟิ่งหุนกลับไปตามหาเกาะอมตะอีกครั้ง ตามแผนที่    พวกเขาค้นพบเกาะ ประหลาด   ที่ทุกสิ่งสามารถงอกใหม่คืนเดิมได้ทันทีเมื่อถูกทำลาย    
ทั้งสาม กลับ เข้าฝั่ง เมืองเหลยเอิน เพื่อหาที่พัก   แต่กลับเจอเข้ากับ  โยวหมิงและเหลยย่า พร้อมศิษย์  เสิ่นยินและหนีหง   ที่มาตามล่าพวกเขา     เฟิ่งหุนและเหลียนเฉียน  พยายามหนี   เฟิ่งหุนต่อสู้กับโยวหมิง  และเหลียนเฉียนต่อสู้กับเสิ่นอิน     เสิ่นอินแกล้งแพ้ แล้วปล่อยเหลียนเฉียนไป    หนีหงจะไล่ตาม   แต่เสิ่นอินห้ามไว้      เหลียนเฉียน หนีไปสมทบกับพี่ชาย    ทั้งคู่ พยายามหนี ด้วยการขี่นกเวทย์หนีไป  พวกเขาปลุกสัตว์เวทย์จากท้องทะลขึ้นมาเพื่อสกัดการไล่ตาม     โยวหมิงรู้สึกลำพองใจ  เพราะการฆ่าสัตว์เวทย์ จะเป็นการเพิ่มพลังให้เขา   เหลยย่าปรามว่าอย่าประมาท    ในทะเลสองพี่น้องนั้นได้เปรียบ  เพราะ พลังการควบคุมสัตว์เวทย์     สัตว์เวทย์จากท้องทะเลถูกปลุกขึ้นมา  พวกมันโจมตีใส่  โยวหมิงและเหลยย่า     นักบวชไป๋หยิน  มีคำสั่งให้ชีลา  (จอมเวทย์ที่ 3)  และ หยินเฉิน  ไปสังหาร  จอมเวทย์ที่5 และสาวก   ในข้อหาทรยศ และปลุกสัตว์เวทย์ทำร้ายผู้คน    

เฟิ่งหุน ให้เหลียนเฉียน หนีไปที่เกาะอมตะ   ตัวเขาจะคุมสัตว์เวทย์เอาไว้ต่อสู้กับจอมเวทย์คนอื่น   เหลียนเฉียน หนีไปกับนกตัวหนึ่ง  
เหลยย่า  สัมผัสได้ว่า  เหลียนเฉียนแยกกับพี่ชายนาง  แต่ในสัตว์เวทย์ที่เยอะแยะ  ทำให้การใช้สัมผัสพลังยากขึ้น

หยินเฉินและชีลา  ปรากฎตัวที่ฝั่งทะเลของเมืองเหลยเอิน  ท่ามกลาง สัตว์เวทย์ที่กำลังโจมตีอย่างบ้าคลั่ง   โยวหมิง สังหารสัตว์เวทย์อย่างบ้าเลือด   เฟิ่งหุนที่อยู่บนหลังนก  สั่งสัตว์เวทย์พุ่งเข้าใส่อย่างต่อเนื่อง   เขาเริ่มควบคุมมันไม่ได้  และสัตว์เวทย์ที่บ้าคลั่ง  ก็เริ่มโจมตีทุกอย่าง   รวมถึง  สองผู้มาใหม่  อย่างหยินเฉิน และชีลา   หยินเฉิน   สู้กับสัตว์เวทย์เพื่อป้องกันตัว   เขาเข้าใจเฟิ่งหุน  แต่ก็ต้องพยายามหยุดสัตว์เวทย์พวกนั้น
โยวฮัว  ที่เข้าเมืองไป   กลับมาที่ฝั่ง  ด้วยความเป็นห่วงเหลียนเฉียน  และต้องตะลึงกับสัตว์เวทย์มหาศาล    ฉีหลิง ที่ถูกขังในวิหาร  ได้รับการปล่อยชั่วคราว  จากไป๋หยิน  พลังติดต่อที่ถูกตัดขาดจากหยินเฉินกลับมา    เขาสัมผัสได้ว่าหยินเฉินมีอันตราย     จึงวาร์ปไปที่เมืองเหลยเอิน  เพื่อช่วยหยินเฉินต่อสู้

หยินเฉิน หันกลับมาเจอฉีหลิงก็ดีใจมาก   ยังไม่ทันได้ทักทายก็ต้องต่อสู้กับสัตว์เวทย์   หยินเฉิงส่งอะไรบางอย่างให้ฉีหลิง   "  รับไป  ถือว่าเป็นของขวัญ  อย่าออกมา"     ของสิ่งนั้นคือ  เศษเสี้ยวของกระโปรงนางฟ้า    อาวุธเวทย์ของ   เหลยย่า จอมเวทย์ที่ 4 มันสะท้อนทุกสิ่งออกไปได้  
ฉีหลิงและโยวฮัว  อยู่ในเกราะกระโปรงนางฟ้า

เหลยย่า  หันมาเห็น   นางยิ้มเยาะ  ว่าหยินเฉิน  ฉกฉวยเศษอาวุธของนางไป  ของจริง อยู่นี่   แล้วนสงก็ใช้กระโปรงนางฟ้า  ป้องกันตัวนางและหนีหง
ขณะที่นางใช้พลังตามหาเหลียนเฉียน

หยินเฉิน กระโดดเข้าต่อสู้กับสัตว์เวทย์  เพื่อไม่ให้สัตว์เหล่านั้น  เข้าใกล้ฉีหลิงและโยวฮัว  (เกราะจะพังถ้าโดนโจมตีมาก)    เขาเสกอาวุธเวทย์ออกมามากมายและปักไว้รอบตัว   (  ฉากนี้ประทับใจมาก ทั้งในหนังและซีรี่ส์   หยินเฉินเทพมาก  ในหนังจะดีกว่าหน่อยด้วยเทคนิค   แต่ซีรี่ส์ก็สนุกใช้ได้เลย)

ส่วนชีลาไปปกป้องเมืองเหลยเอิน  ไม่ให้ถูกสัตว์เวทย์ทำลาย

หยินเฉินต่อสู้ไม่หยุด   จนอาวุธของเขาเริ่มหมด  สัตว์เวทย์พุ่งเข้ามาไม่ยั้ง  ฉีหลิงกระโดดออกจากเกราะ  และพุ่งไปหาหยินเฉิน   เขาแทงสัตว์ร้ายตัวหนึ่งที่พุ่งเข้าใส่หยินเฉินจากทางด้านหลัง     หยินเฉิน   ถามว่า ออกมาทำไม   ฉีหลิง บอกว่า  ข้ามาช่วยท่าน     ทั้งสอง ต่อสู้เคียงข้างกันเป็นครั้งแรก   แบบลอร์ดและสาวกพึงจะเป็น       ฉีหลิงรู้สึกฮึกเหิมมาก  ในขณะที่หยินเฉิน  ค่อนข้างกังวล

เหลยญ่าค้นหา เหลียนเฉียนเจอ   นางไล่ตามเหลียนเฉียนไป
เหลียนเฉียนไปที่เกาะอมตะ   นางค้นพบปากทางเข้า  ได้พบกับ ลอร์ดที่6  เธอเล่าถึงแผนการร้ายของไป๋หยิน  และกล่าวว่า เธอและพี่ชายถูกล่าสังหารเพราะรู้ความลับนี้  จากนักบวชไป๋หยินคนหนึ่งที่หนีออกมา    ก็คือเด็กชายอ่อนแอ  ที่ตัดแขนโยวหมิง  และร่างสลายไปนั่นเอง     ผู้ทรยศคือ  นักบวชไป๋หยินคนนั้น  เดาว่า เขาคงรู้สึกรักใคร่ผูกพันกับลอร์ดที่เขาสร้าง และมนุษย์จึงทนไม่ได้กับแผนการเดิมของไป๋หยินคนอื่นๆ

เมื่อลอร์ดที่ 6 ได้ทราบความจริง   เขาสัมผัสได้ว่า  เหลยย่ากำลังตามมา   เขาจึงมอบพลังชีวิตให้กับเหลียนเฉียน   และจากไป   เหลียนเฉียนจึงกลายเป็นลอร์ดที่6    ซึ่งเหลยย่า   ทำร้ายนางไม่ได้  (เพราะไม่มีคำสั่ง)

เหลียนเฉียนขี่สัตว์เวทย์มาสมทบกับพี่ชาย   จอมเวทย์และศิษย์ทั้งหมดอยู่ที่นั่น  พยายามสังหารพี่ชายของเธอ     เฟิ่งหุน  เห็นน้องสาวกลับมา   จึงพุ่งเข้าใส่หนีหง    เขายอมสละชีวิต เพื่อมอบพลังทั้งหมดให้น้องสาว
เหลียนเฉียนจึงได้พลังเวทย์จากพี่ชาย   กลายเป็นลอร์ดสองตำแหน่งคนแรกในประวัติศาสตร์  มีพลังวงจรเวทย์สองวงจร

เหลียนเฉียน  เสียใจและโกรธแค้น   เธอพยายามโต้ตอบด้วยการสังหารทุกคนในที่นั้น     แต่โยวฮัวซึ่งโกรธมาก   ยิงธนูใส่นาง  ธนูผ่านร่างของเหลียนเฉียนไป   เหลียนเฉียนสมานแผลได้อย่างรวดเร็ว     โยวฮัวตะโกนใส่เหลียนเฉียน

" เหลียนเฉียน  เจ้ากำลังโอ้อวดตัวเองหรืออย่างไร   เจ้าแย่งทุกอย่างไปจากข้า   อาวุธที่ข้าควรจะได้   แม้แต่พลังของบิดาข้า เจ้าก็แย่งมันไป   แม้แต่ชีวิตของบิดาข้า   ก็เป็นเจ้าที่ทำลาย   ข้ายังไม่ทันได้พบหน้าเขาด้วยซ้ำ   เจ้ามีสิทธิ์อะไร  ข้ายืนอยู่ตรงนี้   แล้วเจ้าอยากสังหารข้าด้วยใช่มั้ย   ข้าเกลียดเจ้าที่สุด"

คำพูดของโยวฮัว   เหมือนจะดึงสติของเหลียนเฉียนกลับมาได้บ้าง   แต่เหลยย่ากลับสั่งทุกคนให้โจมตีนาง   ลอร์ดทุกคนพุ่งเข้าใส่  หยินเฉิน  เข้าใกล้ เหลียนเฉียนมากที่สุด   เหลียนเฉียนบอกอะไรบางอย่างกับเขา   ทันใดนั้น   หยินเฉิน  ก็พุ่งอาวุธเข้าใส่ ลอร์ดทุกคน    จอมเวทย์ทั้งหมดไม่ทันตั้งตัว  หันมาป้องกันตัว   เหลียนเฉียนโยนโซ่ลงมาพันรอบตัวหยินเฉิน   และพาเขาหนีไปบนหลังนกดวทย์พร้อมกัน

จอมเวทย์ทุกคนรู้สึกงงงัน กับท่าทีของหยินเฉิน   โยวหมิงงงที่สุด  เมื่อตะกี้เขายังร่วมต่อสู้กับเราอยู่เลย    เหลยย่า  บอกทุกคนว่า  นางได้ยินสิ่งที่เหลียนเฉียน บอกกับ  หยินเฉิน

     "ข้ารู้ว่าอาจารย์ของเจ้าอยู่ที่ไหน   ข้าจะช่วยเจ้าตามหาเขา"

     ฉีหลิงอยู่กับโยวฮัว    เขารู้สึกเสียใจและสับสน    หยินเฉินตอนนี้กลายเป็นคนทรยศสำหรับทุกคน   เขาโดนสารแดงจากนักบวชไป๋หยิน   หยินเฉินจะถูกตามล่าอย่างหนักพร้อมกับเหลียนเฉียน    หยินเฉินตัดการติดต่อกับเขาไปด้วย
ทำไมเขาถึงทำแบบนี้    เขารำพึงกับโยวฮัว      โยวฮัวมองฉีหลิงอย่างเห็นใจ   ข้าเองก็ถูกบิดาทอดทิ้ง    หยินเฉิน ไปตามหาอาจารย์ของเขา   เป็นเจ้าก็ทำไม่ใช่หรือ?" 

    ฉีหลิงคิดได้   และบอกว่า  เราไปตามหาพวกเขากันเถอะ   โยวฮัวเจอร่องรอยอาคมของเหลียนเฉียน

       เหลียนเฉียน  มีวงจรสองวงโคจร  ซึ่งกำลังแปรปรวน  นางลงพักที่ฝั่งแห่งหนึ่ง   หยินเฉินรอคอยอย่างอดทน   เมื่อเหลียนเฉียนอาการดีขึ้น  นางจึงเล่าเรื่องที่คุมขังของจี๋เหมย   ซึ่งนางได้ทราบมาจาก นักบวชไป๋หยินที่ทรยศ  และจากตัวลอร์ดที่6    ลอร์ดที่6  คือปราการชั้นแรก   เขาแปรสภาพตัวเองเป็นเกาะ  เพื่อสกัดอะไรก็ตามที่จะเข้ามายังประตู "คุก" ที่ขังจี๋เหมยไว้  ซึ่งอยู่ลึกลงไปใต้ทะเล
ปราการชั้นที่2   คือ    ที่เมืองโบราณ ที่เต็มไปด้วยวิญญาณ   ฉีหลิง  ตัวเธอเอง เคยหลุดไปที่นั่นเมื่อแตะตัวหมาก  วิญญาณเหล่านั้น  มีไง้เพื่อกักจี๋เหมย  และก่อนจะไปที่เมืองแห่งนี้    ต้องผ่าน  สัตว์ประหลาดโบราณ  จู้ฝู  ไปเสียก่อน

ส่วนทางเข้าชั้นที่3   คือ   นรกสีขาว  ที่ไม่มีใครรู้ว่าเป็นอย่างไร  ที่นั่นคือที่คุมขังจี่เหมยเอาไว้   
 เมื่อคุยมาถึงตอนนี้    เหลียนเฉียนก็บอกว่า   ฉีหลิงกับโยวฮัวตามมาแล้ว   ข้าเป็นคนทำเครื่องหมายให้พวกเขาตามมาเอง
หยินเฉินถามว่า   เจ้าทำแบบนี้ทำไม   "  เพราะเรายังติดค้างคำอธิบายแก่พวกเขา"   เหลียนเฉียนกล่าว     ความมีเหตุผล  และความเห็นใจผู้อื่นกลับมาสู่ตัวเธอ    เหลียนเฉียนเริ่มตั้งสติได้

ฉีหลิง  และโยวฮัว  เดินเข้ามา  ฉีหลิงยิ้มให้ ทั้งคู่   โยวฮัวท้าสู้กับเหลียนเฉียน   ทั้งคู่แยกออกไป   ฉีหลิงจะตามไปด้วยความเป็นห่วง  หยินเฉินห้ามไว้   "ให้พวกนางคุยกันเองเถอะ"   

หยินเฉิน และฉีหลิง  ยืนอยู่ริมหน้าผาด้วยกัน    ฉีหลิง  พูดขึ้น  " ข้าเป็นศิษย์ของท่าน   และจะสู้กับทั้งโลกเคียงข้างท่าน  ท่านจะตามหาอาจารย์ของท่าน   ข้าก็จะช่วยตามหาด้วย   เราจะอยู่ด้วยกันตลอด   ใช่ไหมหยินเฉิน"

หยินเฉิน  เหมือนอยากจะพูดอะไร   แต่ก็เปลี่ยนใจ  เขาพยักหน้าเงียบ   และยิ้มให้ฉีหลิงเล็กน้อย   ในรอยยิ้มนั้นแฝงด้วยความเศร้า        ฉีหลิงยิ้มตอบเขาอย่างร่าเริง 

ส่วน เหลียนเฉียนและโยวฮัว  ยืนประจันหน้ากันในป่า  โยวฮัวต่อว่า เหลียนเฉียน  ว่าแย่งทุกอย่างจากเธอไป    เหลียนเฉียนกล่าวว่า   สถานการณ์ตอนนั้นฉุกละหุก   ลอร์ดที่6   มอบพลังให้เธอกะทันหัน  เหลยย่ากำลังไล่ตามเธอ
แต่ในเมื่อ  เธอเป็นลอร์ดที่6   ก็เท่ากับว่า เธอคือหวังเจี๋ยของโยวฮัวด้วย
"โยวฮัว  ข้ารู้ว่าวงจรของเจ้าไม่สมบูรณ์ เพราะเจ้ายังไม่เคยได้รับการประทับตรา   ข้าจะช่วยเจ้า   ข้าขอร้อง  ยอมให้ข้าช่วยเจ้าเพียงครั้งเดียว
เสร็จจากเรื่องนี้    ข้าจะมายืนตรงนี้   ยอมให้เจ้าฆ่าข้า   ข้าสัญญาจะไม่ตอบโต้  เจ้าเอาพลังคืนกลับไปได้เลย "
 โยวฮัว  อึ้งกับคำพูดของ  เหลียนเฉียน    เหลียนเฉียนจึงประทับตราให้เธอ

โยวฮัว  พูดว่า  "  ข้าเกลียดเจ้าที่สุด  และข้าไม่มีวันลืมความเกลียดนี้  "  ข้าจะไม่ลืมว่าเจ้าแย่งทุกสิ่งไปจากข้า"   แต่น้ำเสียงอ่อนลง

เหลียนเฉียนยิ้มให้อย่างอ่อนโยน  "  เป็นหวังเจี๋ยแค่วันเดียว  แต่ข้าจะถือเจ้าเป็นความรับผิดชอบตลอดไป   ข้าจะดูแลเจ้าเอง "
  ทั้งคู่ เดินกลับมาหาฉีหลิง และ
หยินเฉิน   ปรึกษากัน  ถึงการฝ่าด่านต่างๆ
เหลียนเฉียน   ฉีหลิงและโยวฮัว   เคยไปถึงปราการชั้นที่2 มาแล้ว   
"คราวนั้นเราหนีออกมาทุลักทุเลแทบตาย  คราวนี้ต้องเข้าไปอีก    โยวฮัวบ่น"
"จริงด้วย    ด่านแรกเลยคือจู้ฝู   จะผ่านมันไปได้ยังไง   พลังสะกดของเหลียนเฉียนใช้ไม่ได้กับมัน  และมันสัมผัสและโจมตีตามพลังวิญญาณ   ถ้าใช้สัตว์เวทย์มันก็เล่นงานสัตว์เวทย์ด้วย   ถ้าเราเก็บพลังเวทย์  เราก็ลงไปไม่ได้อยู่ดี  เพราะมันเป็นเหวลึกไม่มีหน้าผาให้ปีนด้วย  "      ฉีหลิงบ่นอย่างกลุ้ม..

"เอาล่ะ   เรื่องนั้น อาจมีวิธี   "  หยินเฉินหยิบอะไรอย่างหนึ่งออกมา  "นี่คือ  หยุนเจ๋ อาวุธเวทย์ชนิดหนึ่ง เอาไว้เรียกฝน    ซึ่งที่จริง  มันทำมาจากเมฆ    ไม่ได้มีพลังเวทย์ใดๆ   และเนื่องจากมันเป็นเมฆ   มันจึงลอยได้ เราอยู่ในมันแล้วค่อยๆลอยลงไปได้"   หยินเฉินสรุป

ทุกคนตาเป็นประกายด้วยความหวัง   เหลียนเฉียนยิ้ม และกล่าวว่า  " หยินเฉิน  ท่านนี่เหมือนสุสานเคลื่อนที่เลย   ต่อไป ถ้าลูกศิษย์อยากได้อาวุธ   ไม่ต้องเข้าสุสานอาวุธแล้วล่ะ    มาหาเอากับท่านได้เลย"       หยินเฉิน  มองหน้าเหลียนเฉียนด้วยสายตาพิกล    นี่มันเป็นคำชมแบบไหนกัน  (ฮาาาา)
เหลียนเฉียนกล่าวต่อไปว่า  " ครั้งที่แล้วข้าเป็นเพียงศิษย์  แต่ขณะนี้ข้าเป็นลอร์ดที่5 แล้ว  พลังของข้า  แม้ไม่อาจสะกดมัน  แต่อาจหลอกให้มันเข้าใจผิด  คิดว่าเราเป็นแมลงก็ได้  มันก็จะไม่สนใจเรา"

หยินเฉิน  หันไปมอง เหลียนเฉียน อย่างทึ่ง   พูดกับนางว่า  " เจ้านี่ทำให้ข้าคาดไม่ถึงจริงๆ   ข้าสงสัยว่า  การเป็นหวังเจี๋ยสองอันดับ อาจทำให้เจ้ามีพลังที่คาดไม่ถึง  ข้าคงต้องระวังเจ้า"    เหลียนเฉียนเลิกคิ้วใส่

ว่าแต่   เราจะลงไปใต้น้ำยังไง   ดำลงไปหรือ   ฉีหลิงถามงงๆ
เหลียนเฉียนร่ายมนตร์  สัตว์ทะเลขนาดยักษ์ตัวหนึ่งอ้าปาก  ปรากฎตรงหน้า

ฉีหลิงสะดุ้ง "  เราจะต้องสู้กับมันมั้ย   มันอยากกินพวกเราหรือ?"
หยินเฉิน  " ข้าคิดว่า  เหลียนเฉียนเรียกมันมา   มันจะพาพวกเราไป  เราต้องเข้าไปอยู่ในปากมัน"

เมื่อถึงทางเข้า   หยินเฉินหยิบของวิเศษออกมา  ทั้งหมดเก็บพลังเวทย์  เกลียนเฉียนรวบรวมสมาธิสะกดจู้ฝู     โยวฮัวมีความรู้สึกอยากอาเจียน   เธออ่อนแรงที่สุดในบรรดาทั้งสี่ เมื่อปลดพลัง     ทั้งหมดผ่านด่านมาได้  และมาที่เมืองโบราณ ด่านที่สอง
เหลียนเฉียนเสียพลังไปมาก   นางล้มลง   หยินเฉินประคองนาง และถ่ายพลังให้
"พลังของท่านอบอุ่น และกล้าแข็งกว่าข้า"  เหลียนเฉียนยิ้มให้หยินเฉิน อย่างอ่อนแรง       "นั่นเป็นเพราะเจ้าเสียพลังไปมากต่างหาก "  หยินเฉินตอย

ทั้งสี่  สำรวจสถานที่  ทะเลทรายกว้างใหญ่   เขาจะหาทางเข้าที่คุมขังได้อย่างไร   และจะผ่านวิญญาณเวทย์นับพันไปได้อย่างไร

หยินเฉิน   เตรียมลุยกับเหล่าวิญญาณ    แต่ทันใดนั้น  เขาก็เห็นเสื้อคลุมดำที่แสนคุ้นตาลอยผ่านไป    หยินเฉินวิ่งตามไป    คือเก่อหล่นซื่อนั่นเอง
"ข้านึกว่า   เจ้าตายแล้ว   วันนั้นที่เราสู้กัน "  หยินเฉินยิ้มอย่างดีใจ " ขอโทษที่ข้าทำร้ายเจ้า   เจ้าอาศัยอยู่ที่นี่มาตลอดหรือ   "
เก่อหลานซื่อ  " ข้าคือสาวกแห่งดิน  มีหน้าที่รวบรวมวิญญาณ  ที่แห่งนี้ทำให้ข้ารู้สึกสงบ   เจ้าไม่ต้องขอโทษข้า   เจ้าคือหวังเจี๋ย  ย่อมต้องปกป้องศิษย์  เรายืนอยู่ฝ่ายตรงข้ามกันด้วยภาระหน้าที่   แต่ตอนนี้ ข้าไม่มีหน้าที่ใดๆ  เจ้าคือ น้องของข้าเสมอมา  หยินเฉิน"     ทั้งคู่โผเข้ากอดกัน      ฉีหลิงเดินตามมาห่างๆ
" เจ้ารู้จักทางเข้านรกสีขาวหรือไม่   สถานที่นั้น  คือที่กักขังจี่เหมย  หวังเจี๋ยของเรายังไม่ตายนะ   พวกเรามาตามหาเขาและจะช่วยเขาออกไป"  เก่อแหลานซื่อดีใจจนน้ำตาคลอ   " จริงหรือ   อาจารย์ยังไม่ตาย   ดีจริง  ให้ข้าช่วยเจ้า   เห็นยอดวิหารนั่นหรือไม่   เป็นเขตเดียวที่ข้าไม่เคยผ่านไป   วิญญาณพวกนั้นไม่ยอมให้ข้าผ่าน"  
 " ถ้าเช่นนั้น  เราฝ่าเข้าไปด้วยกัน"  หยินเฉินพูดกับเก่อหลานเซ่อ   และเดินไปพร้อมเขา    " แล้วข้าล่ะ"  ฉีหลิงท้วง   เจ้ารอตรงนี้   ดูแล เหลียนเฉียน และโยวฮัว
แต่เก่อหลานเซ่อวิ่งตรงไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว   พุ่งเข้าหาเหล่าดวงวิญญาณ  วิญญณดวงแล้วดวงเล่าพุ่งเข้าใส่เขา  หยินเฉินจะตามไป  แต่ฉีหลิงรั้งเขาไว้
  " เจ้าโง่   เกอหลานซื่อ  กลับมานะ  ทำไมทำอะไรโง่ๆแบบนี้"    หยินเฉินตะโกนเรียกด้วยความตกใจ     

เหล่าดวงวิญญาณสลายหายไปหมด    เก่อหลานเซ่อใช้พลังของเขาสลายดวงวิญญาณทั้งหมดไป   ขณะนี้  เขากำลังจะจากไป   เขาล้มลง  และหยินเฉินวิ่งไปประคอง
 " หยินเฉิน  ข้าอยู่อย่างรู้สึกผิดมาตลอด  ผิดที่ทำร้ายเจ้า  ตอนนี้ข้าได้ช่วยอาจารย์และยังด้วยช่วยเจ้าด้วย  ข้ามีความสุขมาก "  เก๋อหลานซื่อยิ้มให้หยินเฉิน

หยินเฉิน  น้ำตาคลอ  เขากอดเก๋อหลานซื่อเอาไว้    คนที่เคยเป็นทั้งเพื่อนและพี่ชายของเขา   สละตัวเองเพื่อเขา    หยินเฉินทนรับความสูญเสียแบบนี้ไม่ได้อีกแล้ว     เขาก้มศีรษะลง  แตะหน้าผากเขากับเก๋อหลานซื่อ   สื่อสารกันในใจ
   "เก๋อหลานซื่อ   เจ้าช่วยข้าเป็นครั้งสุดท้ายได้หรือไม่"

        หยินเฉินเดินกลับมาหาฉีหลิง   เขามองหน้า ศิษย์ของเขาเนิ่นนาน ด้วยสายตาอ่อนโยน    เขายิ้มให้และ บอกกับฉีหลิงว่า

   " ครั้งนี้ข้าจะต้องจากเจ้าไปไกลมาก    อาจจะกลับมาช้า  เป็นเดือน หรือเป็นปี  หรืออาจไม่กลับมาเลย   ฉีหลิง   เจ้าจงใช้ชีวิตให้ดี  มีชีวิตอยู่ต่อไปอย่างดีนะ "

ผ้าคลุมของเก๋อหลานซื่อลอยขึ้น  และ ม้วนร่างของฉีหลิงและโยวฮัวเอาไว้ โดยไม่ทันรู้ตัว       ฉีหลิงและโยวฮัว มา โผล่ที่เกาะอมตะ   ที่ครั้งนึง เคยเป็นร่างของจอมเวทย์ลำดับ6  แต่ตอนนี้เป็นเพียงเกาะธรรมดา เท่านั้น

   ฉีหลิง   ตกตะลึง  เขาได้แต่พึมพำว่า " ทำไม   ทำไมหยินเฉินถึงทำแบบนี้"
โยวฮัวปลอบเขา  " เพราะเขาไม่อยากให้เจ้าตายน่ะสิ  เพราะเขาห่วงเจ้า"
ฉีหลิง  น้ำตาอาบหน้า   เขาร้องไห้โฮ อย่างไม่อาย ต่อหน้าโยวฮัว
 "หยินเฉินส่งข้าออกมา ในเวลาที่เขาต้องการข้าที่สุด  ข้าต้องกลับไปหาเขา"

"เราไม่มีทางเข้าไปได้อีกแล้วล่ะ   "   โยวฮัวพูด   " งั้นข้าจะรอเขาที่นี่"    ฉีหลิงตอบอย่างสิ้นหวัง และหมดอาลัยตายอยาก    เขาล้มตัวลง และหลับตานิ่ง   นำตาไหลเงียบๆ    โยวฮัวนั่งลงเป็นเพื่อนเขา....

อัพเดท   เนื่องจาก เวอร์ชั่นภาพยนตร์ ออกมาแล้ว  ทำออกมาอลังการดีมาก  ในภาพยนตร์บทจะต่างออกไปจากซีรี่ส์เล็กน้อย  แต่ใจความสำคัญเหมือนกัน

 หยินเฉิน  เข้าไปชั้นในของสุสานพร้อมกับเหลียนเฉียน  ในใจของเขาเศร้าโศก  เหลียนเฉียนช่วยปลอบใจเขา  

ในด่านเปิดประตูต้องใช้เลือดเปิด  เหลียนเฉียนซึ่งอัพเกรดวงจรวิญญาณอมตะมาเพื่อการนี้   นางสละเลือดเพื่อเปิดประตู   หากไม่ได้มีวิญญาณพลังอมตะคงไม่รอดเพราะเสียเลือดจนหมดตัว   ประตูเปิด   หยินเฉินเข้าไปในประตู   ประตูชั้นนี้ต้องสละอาวุธเวทย์ไป    
ในนรกสีขาว  จี๋เหมยถูกเส้นใยพันตัวไว้   เส้นใยเหล่านั้นเจ้ามาพันหยินเฉินและดึงตัวเขาไป   มันดูดพลังวิญญาณออกไป   หยินเฉินสละพลังวิญญาณชั้นแรกเพื่อปลุกพลังอาจารย์ของเขา    

ฉีหลืงซึ่งรออยู่กับโยวฮัว  ปะทะกับโยวหมิงที่ตามมา  ฉีหลิงสู้ไม่ได้  แต่ทันใดนั้น  เขาได้รับพลังเวทย์  อัพเกรดขึ้นเป็นหวังเจี๋ยที่ 7     โยวหมิงตกตะลึง  
ฉีหลิงรับรู้ในตอนนั้น   ว่าหวังเจี๋ยหยินเฉินของเขา  ได้จากไปแล้ว... TT

เหลียนเฉียนซึ่งรออยู่ที่หน้าประตู   รู้สึกเหมือนละอองเวทย์ถูกดูดหายไปหมด  นางหันกลับไป    เห็นลอร์ดที่มีใบหน้าเหมือนหยินเฉินไม่มีผิด  แต่บุคลิกดูต่างออกไป   เมื่อชายคนนั้นเข้ามาใกล้  เพียงสัมผัสเบาๆ  เธอก็หมดแรงไป

ลอร์ดอันดับหนึ่งคนปัจจุบัน  มีพลังเวทย์ที่สามารถสูบเอาละะอองเวทย์โดยรอบออกไปได้หมด   ทำให้คู่ต่อสู้หมดพลัง    ความสามารถเช่นนี้   ทำให้ไม่มีลอร์ดหรือผู้ใช้เวทย์คนไหนต่อกรได้     รูปร่างของเขาเหมือนกับหยินเฉินไม่มีผิด

นักบวชไป๋หยินทำร่างก้อปปี้ของหยินเฉินไว้  (คาดว่านักบวชไป๋หยินชอบรูปลักษณ์นี้)   และใช้มันเป็นลอร์ดที่หนึ่ง  รวมถึงศิษย์สามคนของมันก็หน้าเหมือนกันหมด    แต่ไม่มีวิญญาณ    แต่มันดันมีความคิดเป็นของตนเอง

และลอร์ดที่1  ที่เพิ่งโผล่มาใหม่นั้น  ดันมีความคิดเป็นของตนเอง  และมันปิ๊งเหลียนเฉียนเข้าอย่างจัง     อ่อ  ไม่ใช่แบบความรักโรแมนติกอะไร   แต่มันถูกดึงดูดด้วยพลังวงจรเวทย์สองพลังอันแข็งแกร่งของเหลียนเฉียน

เหลียนเฉียนซึ่งกำลังจะถูกโยนลงบ่อหลอมร่าง   เลยถูกช่วยไว้จาก ซิวชวนตี้จ้าง ลอร์ดที่1   และถูกฉีหลิง  โยวฮัว  เสิ่นยินช่วยไว้ได้

เสิ่นยินพาพวกเขาไปหาหวังเจี๋ยของนาง  คือโยวหมิง ซึ่งอยู่กับเหลยย่า

อำนาจของลอร์ดที่ 1  ทำให้โยวหมิงและเหลยย่ารู้สึกถูกคุกคาม   โยวหมิงจึงให้กระจกแห่งความตายกับฉีหลิง  เพื่อไว้กำจัดลอร์ดที่หนึ่ง   เพราะคนที่จะสู้กับลอร์ดที่หนึ่งได้มีแต่ตัวมันเอง

ฉีหลิง เสิ่นยิน  วางแผนใช้สัตว์เวทย์ล่อ  ลอร์ดที่หนึ่งให้มากำจัด  ส่สนเหลียนเฉียน  คอยควบคุมสัตว์เวทย์อีกทางพร้อมโยวฮัว    

ลอร์ดที่1 มาจริง   แต่มันตามเหลียนเฉียนเจอ และจับนางไว้   โยวฮัวเข้าขวาง   และนางถูกสังหารต่อหน้าทุกคน   นางพัวพันลอร์ด1 เพื่อให้  ฉีหลิงเอากระจกมาใช้   พวกเขาทำสำเร็จ  กำจัดลอร์ดที่หนึ่งได้ แต่ต้องเสียโยวฮัว

เหลียนเฉียนร้องไห้อย่างใจสลาย   นอกจากเธอเสียหวังเจี๋ยพี่ชายที่เธอรักมาก   ยังเสียโยวฮัวผู้เป็นศิษย์และเพื่อนรักของเธอไปด้วย

ฉีหลิงตัดสินใจเอาตัวเองไปเป็นเหยื่อล่อนักบวชไป๋หยิน   เขาคิดว่า  ถ้าใช้พลังเวทย์มืด  อาจจะฆ่านักบวชไป๋หยินได้  หรืออย่างมากเขาก็ตาย  ซึ่งก็จะเป็นการทำลายภาชนะของไป๋หยิน   และถ้าหากผิดพลาด   เขาบอกเสิ่นยินและเหลียนเฉียนว่า   ให้ฆ่าเขาเสียหากเขากลายเป็นไป๋หยินจริงๆ

เสิ่นยิน   ฆ่าฉีหลิงไม่ลงแน่   เหลียนเฉียนจึงรับปากฉีหลิง

ฉีหลิงกลับไปที่วิหาร  เผชิญหน้ากับไป๋หยิน  ซึ่งแผนการทั้งหมดเข้าทางนักบวชไป๋หยิน   เพราะการใช้พลังมืดนั้น  เป็นการทำลายเกราะทองคำ   ไป๋หยินจึงควบคุมร่างของฉีหลิงได้

ฉีหลิงปรากฎกายที่ท้องพระโรงของกษัตริย์  สังหารเหล่าขุนนางที่ภักดี  และประกาศให้ทุกคนสยบแก่อำนาจของเขาและนักบวชไป๋หยิน  เพราะเขาคือกษัตริย์คนใหม่ของดินแดนเสียนชาง  (ฉีหลิงมาในฐานะยางเจ๋อรัชทายาท )
(กษัตริย์หนานย่าวถูกชีลาลอร์ดสามลอบสังหารไปแล้ว)

เหลียนเฉียน  กับเสิ่นยิน ตามมา  พวกเธอพยายามเรียกสติฉีหลิงแต่ไม่ได้ผล

ชีลาตามมา  เขาเสกม่านน้ำคุ้มครองร่างฉีหลิงเอาไว้  และส่งวิญญาณรักบวชไป๋หยินทั้งสอง  เข้าร่างฉีหลิง    ฉีหลิงกำลังจะเสียสติ   แต่ทันใดนั้นมีร่างผู้หนึ่งปรากฎขึ้น    ชายผู้นั้น โยนหยกเข้าไปในม่านน้ำ  หยกสัมผัสกับร่างฉีหลิง

ภาพความสัมพันธ์ของหยินเฉินปรากฎในหัวของฉีหลิง  ทุกคำสอน  ทุกความผูกพัน  ฉีหลิงได้สติ และขับไล่วิญญาณของนักบวชไป๋หยินออกจากร่าง

ผู้มาใหม่  แนะนำว่าตัวว่าจี่เหมย  เขามีพลังคล้ายกับหยินเฉิน   ฉีหลิงรู้สึกเหมือนกับหยินเฉินอยู่ในร่างของเขา   อาวุธของเขาคือกงล้อแห่งการตัดสิน  ซึ่งประกอบด้วยกระบี่  12 เล่ม   

วิญญาณของนักบวชไป๋หยินเข้าไปในร่างชีลา ลอร์ดสาม 

(เออ  แล้วทำไมไม่ใช้ร่างชีลาแต่แรกฟระ  ใช้ร่างลอร์ด1 ก็ได้   แกร่งขนาดนั้น    ไปยุ่งกับหยินเฉิน ฉีหลิงอยู่ได้  แทนที่จะปล่อยให้ทั้งคู่ครองรักกันอย่างมีความสุข  เออ  ไม่ใช่สิ   คือถ้าไป๋หยินไม่พยายามไปยุ่งกับหยินเฉินและฉีหลิง   มันก็ได้เกิดไปแล้ว   นี่แหละพวกบ้าศัลยกรรม  ชอบอะไรที่เพอเฟค  เลือกมากนัก  เลยตายเลย)

จี่เหมยบอกฉีหลิงว่า  ดาบหักของเขาคือ ดาบเล่มที่12  ของกงล้อแห่งการตัดสิน มันคือดาบแห่งกาลเวลา   ดาบทั่ง12 เล่มหลอมตัวรวมกัน  เป็นดาบยักษ์พุ่งปักร่างชีลาและทำลายวิญญาณนักบวชไป๋หยินที่เหลือทั้งสองดวง

จี่เหมยกล่าวชมฉีหลิงในความกล้าหาญ  และเอาหยกแห่งความทรงจำมอบให้เขา   มันบันทึกความทรงจำเรื่องราวระหว่างหยินเฉินและฉีหลิงเอาไว้    ฉีหลิงเศร้าหนัก    มันจะมีประโยชน์อะไร หากเหลือเพียงแค่ความทรงจำ?

จี่เหมยบอกว่า  เขากลับรู้สึกว่า  หยินเฉินยังมีชีวิตอยู่  ฉีหลิงนิ่งคิดไป
เขากลับไปที่บ้านที่เคยอยู่กับหยินเฉิน   เจ้าแมงป่องสัตว์เวทย์ของหยินเฉินมาทักทายเขา   สถานที่เต็มไปด้วยความทรงจำ   ฉีหลิงเริ่มสัมผัสถึงความมีชีวิตและความหวัง

เขาไปลาเหลียนเฉียนและเสิ่นยิน   ออกเดินทางตามหาหวังเจี๋ยของเขาอย่างมุ่งมั่น

น้องชายของยางเจ๋อขึ้นครองบัลลังค์   ยังคงมีหวังเจี่ยหรือลอร์ดที่พิทักษ์ดินแเนเสียนชาง   นั่นคือ  เทพีเหลียนเฉียน  ลอร์ดที่ห้า   แต่วิหารนักบวชไป๋หยินถูกทำลาย
" มนุษย์ต้องปกครองตนเอง  และเลิกพึ่งพาเทพเจ้าเสียที"
กษัตรย์องค์ใหม่แห่งเสียนชางประกาศกร้าว

ซีรี่ส์จบลงที่  ภาพหยินเฉินในนรกสีขาวลืมตาขึ้น.....

เบื่อซีรี่ส์จีนตรงนี้    มันไม่จบอะ  ค้างคาใจข้ามมาหลายปี  จนนี่หนังภาคสองมา  มันก็ไม่จบ   never ending story  เรื่องนี้ไม่มีตอนจบแหงๆ


งั้นจะมโนตอนจบเอง 

  ฉีหลิงตามหาหยินเฉินจนเจอ   คืนความทรงจำให้ด้วยหยกแห่งความทรงจำ   ไปช่วยจี่เหมยในการกำจัดนักบวชไป๋หยินในอีกสามดินแดน    จี่เหมยตายในการสู้กับนักบวชไป๋หยิน   ทิ้งวงจรวิญญาณให้หยินเฉิน

หยินเฉินจึงกลายเป็นลอร์ดที่1 คนใหม่พร้อมพลังควบคุม ดิน น้ำลมไฟ รวมถึงวงวงล้อแห่งการตัดสิน   ต่อสู้เคียงข้างลอร์ดที่7  อดีตศิษย์ของเขาที่มีพลังเรียกอาวุธไม่จำกัด  และยังดูดพลังของนักบวชไป๋หยินได้ เพราะเขาคือภาชนะรับพลัง

ทั้งคู่ปกป้องโลก พร้อมกับเหลียนเฉียน   เสิ่นยินตายเพื่อปกป้องฉีหลิง   นางมีลูกของฉีหลิง  เหลยญ่าและโยวหมิง  สู้กับไป๋หยินด้วย  และตาย

ฉีหลิงคอยพิทักษ์โลก กับเหลียนเฉียน  หยินเฉินไปอยู่ที่เกาะเดิม   ฉีหลิงไปเยี่ยมเขาบ่อยๆ พร้อมกับเหลียนเฉียน   บางครั้งก็พักอยู่ที่นั่น  จบ

มโนเองก็ได้เป็นเรื่องเป็นราวดีแฮะ...

ปล.หนังภาคสองเราว่าสนุกกว่าภาคแรก  แต่คนไม่เคยอ่านไม่เคยดูซีรี่ส์คงจะงง  และเสิ่นยินหายไปเลย    หยินเฉินในภาคสองดูดรอปไปหน่อย    กัวจิ้งหมิงดูจะทิ้งตลค.ตัวนี้ ซึ่งเราว่าน่าเสียดายมากๆเลย







 















  









 






เล่าถึง  side  story คสพ.ของตัวละครอื่นในเรื่องบ้าง  ได้แก่  


จอมเวทย์ลำดับ2 โยวหมิง  และ เสิ่นยิน  

ถ้าคสพ.ระหว่าง จอมเวทย์และศิษย์ของตัวเอง  เรียกว่าซับซ้อน  คสพ. ของ โยวหมิงและเสิ่นยิน  นี่บ้าบอขั้นสุดค่ะ    

โยวหมิง  มีนิสัย โหดร้ายกระหายเลือด รักการเข่นฆ่า เข้าขั้นวิปริต  จริงๆทำหน้าที่มือสังหาร  ใจอาจไม่จำเป็นต้องรักการฆ่าก็ได้  ทำไปตามหน้าที่แบบมืออาชีพ    แต่โยวหมิง  รักการเข่นฆ่าแบบมีความสุขทุกครั้งที่ได้ฆ่าคน  พลังจะเพิ่มขึ้นด้วยถ้าได้ฆ่าผู้มีเวทย์มนตร์      ดังนั้น    โยวหมิงจะแฮปปี้มากเมื่อได้คำสั่งให้ฆ่า หวังเจี๋ย (จอมเวทย์)  ด้วยกัน   เพราะหมายถึง พลังที่จะเพิ่มขึ้น
ของตัวเขาเองด้วย      เสิ่นยินลูกศิษย์  เติบโตมาจาก ตระกูลเก่าแก่    แท้ที่จริงมี พี่สาวฝาแฝด   เสิ่นยินมีพลังพิเศษ  คือเมื่อถูกคู่ต่อสู้ทำร้าย   เธอจะดูดซับพลังของคู่ต่อสู้มาเป็นของเธอเองได้        ส่วนพี่สาวฝาแฝด  มีพลังในการสะกดจิตสูงมาก  เพียงแค่มองตา  ก็จะถูกสะกด   แล้วคู่ต่อสู้ก็จะยอมแพ้หรือฆ่าตัวตายไปเอง   ทั้งคู่ถูกส่งมาให้โยวหมิงเลือกเป็นศิษย์  (เพราะรับศิษย์ได้เพียงคนเดียว)   โยวหมิง  สังหาร พี่สาวฝาแฝด  และ  เลือกเสิ่นยิน   ก่อนตาย  พี่สาวฝาแฝด  จ้องตาเสิ่นยิน  และ  สั่งในจิตใต้สำนึกของเสิ่นยินให้ฆ่าโยวหมิง     โยวหมิงลบความทรงจำเกี่ยวกับพี่สาวของเสิ่นยินทิ้ง    แต่ในจิตใต้สำนึก  เสิ่นยิน   รู้สึกเหมือนมีเสียงในหัว  คอยบอกให้ฆ่า อาจารย์ของตนตลอดเวลา  
และ    โยวหมิง  ก็ลงโทษเสิ่นยิน ตลอดเวลาด้วย   (เป็นการเพิ่มพลังให้เสิ่นยิน   นางโดนทำร้ายแล้วจะได้พลังจากคนที่ทำร้ายนาง   เสิ่นยิน  นางเป็นมาโซคิสท์ทางพลังวิญญาณ)    โยวหมิงก็ชอบฆ่าคน ทำร้ายคนอยู่แล้ว     เรื่องของคู่นี้   ก็เลยจะดูจิตๆ และดาร์คๆ  แบบว่าเกลียดแบบว่าเกลียดกัน  แต่ก็ไปจากกันไม่ได้    ในภาพยนตร์เรื่องของคู่นี้ ออกจะติดเรทนิดๆ   แต่ในซีรี่ส์   เราคิดว่ามันแอบน่าเบื่อ  เพราะ คสพ.มันค่อนข้างน่าหดหู่     และโยวหมิงก็เป็นตัวละครที่น่ารังเกียจมากตัวนึง

โยวหมิง  นั้นมีคนรัก  คือ  จอมเวทย์ลำดับ 4  เหลยย่า

เหลยย่า  มีพลังพิเศษ คือญาณหยั่งรู้สัมผัส   นางสัมผัสพลังของฝ่ายตรงข้ามได้ก่อนการมาถึงของอีกฝ่าย    เป็นจอมเวทย์หญิงเพียงคนเดียวในจอมเวทย์ทั้ง7     นิสัย  อำมหิตและกระหายอำนาจ     ก็นับเป็นคู่สร้างคู่สม    หญิงร้ายชายเลวของเรื่อง      โยวหมิงนั้นรักเหลยย่าจริงจัง    แต่เหลยย่า  ทำทุกอย่างเพื่อความอยู่รอดและอำนาจ   หน้าที่ของนาง คือหน่วยข่าวกรอง ของนักบวชไป๋หยิน    นางรับรู้ข่าวสารทุกอย่างในเสียนชาง   และผ่านข้อมูลเหล่านั้นให้นักบวชไป๋หยิน   และผ่านคำสั่งของนักบวชไป๋หยินไปยังผู้อื่น

ศิษย์ของเหลยย่าคือ หนีหง    ผู้ซึ่งพูดไม่ได้แต่หน้าตาดี  ไร้ซึ่งความเจ็บปวด   เพราะนางอยากแค่ให้หนีหงต่อสู้ปกป้องนางเท่านั้น    เหลยย่าทรีทศิษย์เหมือนนายกับทาส   ซึ่งสุดท้าย   หนีหงก็ไม่ฟังคำสั่งนางอีกต่อไป     เราคิดว่า    เหลยย่า  เป็นจอมเวทย์เฟลสุดในการมีลูกศิษย์

จริงๆ เหลยย่าควรจะเก่งมากๆ  แต่จากในซีรี่ส์  นางบาดเจ็บบ่อยมาก  และโยวหมิงต้องมาช่วยนางแทบทุกครั้ง    ทำให้เรารู้สึกว่านางกากอยู่หน่อยๆ ล่ะ    
ความรัก ความสัมพันธ์ของโยวหมิงกับเหลยย่า  ก็ไม่ได้น่าซาบซึ้ง หรือ  ประทับใจอะไร   แต่ ซีรี่ส์ก็ให้บทอิหญิงร้ายชายเลวคู่นี้มากซะเหลือเกิน     นับเป็นจุดน่าเบื่อของเรื่องนี้จริงๆ


เสิ่นยิน  -- หนีหง

หนีหงได้เจอกับเสิ่นยิน  เนื่องจาก  หวังเจี๋ยของทั้งคู่สนิทสนมใกล้ชิดไปมาหาสู่บ่อยๆ    หนีหงมีความรู้สึกดีๆให้เสิ่นยิน  ในขณะที่เสิ่นยิน  รัก  ฉีหลิง   และไม่ได้คิดอะไรกับหนีหง
สุดท้าย หนีหงก็ตายไปค่ะ    ในซีรี่ส์ มีโมเม้นดีๆ  ระหว่าง  เสิ่นยินกับหนีหงบ้าง    ซึ่งเราว่าเคมีบรรเจิดยิ่งกว่า  กับพระเอกเสียอีกค่ะ


เสิ่นยิน  --  เหลียนเฉียน

ความที่เสิ่นยินได้รับคำสั่งให้ฆ่าศิษย์ของจอมเวทย์ที่5   ในขณะที่โยวหมิง อาจารย์ของเธอ  ไปตามฆ่า จอมเวทย์5   ตัวเธอก็ไล่ล่าเหลียนเฉียนเช่นกัน

ผู้หญิงสองคนนี้เจอกันตั้งแต่ต้นเรื่อง   เหลียนเฉียนเปิดตัวครั้งแรก  คือ เธอช่วยเหลือแมงมุมสัตว์เวทย์ของเสิ่นอินที่บาดเจ็บเอาไว้    (จอมเวทย์ที่ 5 และศิษย์มีพลังในการควบคุมสัตว์วิเศษ  ) ต่อจากนั้น    เหลียนเฉียนก็ไปช่วยชาวเมืองเสียนชางในการปราบผู้ใช้เวทมนตร์ชั่วร้ายคนนึงในเมือง   ที่จะก่อพายุและน้ำท่วมใหญ่
เธอป้องกันหายนะให้กับชาวเมือง    แล้ว  เสิ่นยินก็มาไล่ฆ่าเธอ

เหลียนเฉียน ไม่สู้กลับ แต่หนีอย่างเดียว  เสิ่นยินจึงดึงพลังจากเธอไม่ได้    ทั้งสัตว์เวทของเสิ่นยิน  ยังไม่ทำร้ายเหลียนเฉียน  
ภายหลังทั้งคู่ไม่ฆ่ากัน   และช่วยเหลือฉีหลิงด้วยกัน


เหลียนเฉียน- โยวฮัว
  ตัวแทนของมิตรภาพลูกผู้หญิง  ซึ่งนานมาก และน้อยเรื่องมากที่จะมีเรื่องราวของมิตรภาพลูกผู้หญิงที่ดูแล้วเรียลพร้อมกับอบอุ่นไปพร้อมๆกัน  เราชอบคสพ.ของคู่นี้ในซีรี่ส์มากพอๆกับ คู่ หยินเฉิน - ฉีหลิงเลยค่ะ   นสด.หญิงทั้งสองคนมีเคมีต่อกัน และเล่นได้น่ารักมากทั้งคู่  โดยเฉพาะ นักแสดงที่เล่นเป็นเหลียนเฉียน  เล่นได้มีเสน่ห์มาก เราชอบการตีความตัวละครทุกตัวแบบในซีรี่ส์มากกว่าตามนิยายและในภาพยนตร์  โดยเฉพาะ ตัวละครเหลียนเฉียน  ในนิยายและในภาพยนตร์ เหลียนเฉียนค่อนข้างจะเย็นชา ห่างเหิน และสูงส่ง  แต่ในซีรี่ส์  เธอมีความสง่าเยือกเย็น  แต่ก็แฝงด้วยความเห็นอกเห็นใจต่อผู้อื่น และอบอุ่น  และเธอยังมีความรู้สึกดีๆให้ฉีหลิงด้วย (ซึ่งตามนิยายและภาพยนตร์ เหลียนเฉียนจะมีโมเม้นท์กับ หยินเฉินมากกว่า) 
การตีความแบบในซีรี่ส์  ทำให้คสพ.ของเหลียนเฉียนกับโยวฮัว มีความอบอุ่น  มีคนกล่าวว่า  ไม่มีมิตรภาพที่แท้จริงระหว่างเพศหญิง เพราะมักจะอิจฉาริษยากันเอง  สำหรับเพื่อนสาวสองคนก็เป็นเช่นนั้น  โยวฮัวอิจฉาเหลียนเฉียน  แต่อีกฝ่ายด้วยความใจดีและมีความเห็นใจ  จึงหยิบยื่นมิตรภาพให้ และทำให้สาวๆคู่นี้  แม้จะพยายามฆ่ากัน แต่ก็เป็นเพื่อนรักคู่หู ช่วยเหลือกัน   

จุดจบของคู่นี้ในซีรี่ส์  เศร้าไม่แพ้คู่ของหยินเฉิน ฉีหลิง อาจจะเศร้ากว่าด้วยซ้ำ  เพราะคนที่รักและดีกับโยวฮัวที่สุดในเรื่อง  คือเหลียนเฉียนนั่นเอง

ฉีหลิง - เสิ่นยิน

จริงๆแล้ว  นี่คือคู่พระเอก นางเอกของเรื่อง   แต่ด้วยเคมีที่ไม่ค่อยเข้ากันนักของนักแสดง (แบบว่ากับคนอื่น คู่อื่น บทมันดีกว่า)  ทำให้ดูเหมือนเรื่องของคู่นี้ เป็น side story ไปโดยปริยาย   เพราะจากการนำเสนอในซีรี่ส์ ด้วยความรู้สึกของฉีหลิงเอง  ที่ยังผูกพันลึกซึ้งกับ หยินเฉิน  คสพ.เลยดูไม่น่าลุ้นมากเท่ากับคู่หลัก
ซีรี่ส์ อาจจะตั้งใจนำเสนอ แบบ หนังเรื่อง maleficent  ก็เป็นได้   คือ แม้จะมี  พระเอก  แต่เรา ไม่จดจำพระเอก หรือรู้สึก โรแมนติกกับพระเอกนางเอก   แต่จะรู้สึกอินกับคสพ. ของ maleficent  และ ออโรร่า มากกว่า     ในซีรี่ส์   เมื่อ  ฉีหลิง เสียตัวตนและถูกครอบงำ  คนที่ปลุกฉีหลิงและนำความทรงจำที่ดีกลับมา คือ หยินเฉิน   ไม่ใช่  เสิ่นยิน    แบบเดียวกับ  จุมพิตของ maleficent   ที่ปลุก ออโรร่า  ให้ฟื้นจากนิทรา  หาใช่จุมพิตของเจ้าชาย    เพราะนั่นคือ  รักแท้และบริสุทธิ์
เพียงหนึ่งเดียวนั่นเอง

สุดท้าย   หยินเฉิน - เหลียนเฉียน

หยินเฉิน  ไม่ว่าจะ เวอร์ชั่น  นิยาย  ภาพยนตร์ หรือซีรี่ส์   ล้วนมีความเหมือนกัน คือ  ไม่มี tender moment กับตัวละครหญิงใดๆ ในเรื่อง    
เหลียนเฉียน  จะเป็นตัวละครหญิงเพียงตัวเดียว  ที่ใกล้ชิดหยินเฉินมากที่สุด   ได้เห็นด้านเปราะบาง  แหลกสลาย แบบที่ไม่มีใคร (แม้แต่ฉีหลิง) ได้เห็น  
หยินเฉิน  อุ้มเหลียนเฉียน ตอนที่นางหมดสติ  และ ถ่ายพลังให้  อีกทั้งยังกล่าวชมสติปัญญาของเหลียนเฉียน   ซึ่งเป็นไปในทางยอมรับนับถือกันมากกว่าที่จะคิดไปในแง่ชู้สาว    หากจะดัดแปลงบท เพื่อให้มีนางเอก   เหลียนเฉียน คือตัวเลือกที่ดี   สำหรับการเป็นนางเอกของหยินเฉิน   ที่หักความรู้สึกของผู้ชมน้อยที่สุด

อาจกล่าวได้ว่า  L.O.R.D. เวอร์ชั่น ซีรี่ส๋  นับเป็นซีรี่ส์มิตรภาพ  เพราะ  ความสัมพันธ์ แบบ มิตรภาพระหว่าง   ฉีหลิง  และ นางเอก ทั้งสาม นั้น อบอุ่นและน่ารัก   ดูแล้ว  ทั้งอมยิ้ม และมีน้ำตา
แต่  เรื่องราว ความสัมพันธ์ของตัวละครหลัก  ได้แก่  หยินเฉิน  และ ฉีหลิง   ไม่อาจจะมองเป็นแค่มิตรภาพได้   ทั้งคู่  เป็นคู่แท้ทางวิญญาณ  ที่ผูกพันกันอย่างลึกซึ้ง ยิ่งกว่า  ศิษย์และลอร์ด คู่ไหนๆในเรื่อง   ซึ่งไม่มีเรื่องเพศเข้ามาเกี่ยวข้อง   ดูแล้ว สงสารทั้งคู่  ออกจะสงสารฉีหลิงมากกว่าเล็กน้อยในตอนจบ  อยากให้จบแบบสมหวัง   ทั้งคู่ได้พบกัน และได้อยู่ด้วยกัน   แบบที่ตัวละครเคยฝัน  และเคยพูดไว้ในเรื่อง   


ฉีหลิง :  ข้าอยากต่อสู้เคียงข้างท่าน   อยู่เป็นเพื่อนท่านไปจนแก่  เป็นเพื่อนเดินทางไปตามหาและสะสมอาวุธเวทย์ด้วยกัน....

หยินเฉิน  :  ข้าอยากอยู่ดูเจ้าเติบโต   ให้เจ้ามีชีวิตที่ดี และเป็นสุข   พาเจ้าหนีไป  ในที่ที่ไม่มีใครพบ ใครรู้จัก   ไปอยู่ที่เกาะริมทะเล...





 



Create Date : 26 มิถุนายน 2563
Last Update : 30 มกราคม 2564 2:17:48 น. 8 comments
Counter : 24182 Pageviews.

 
สรุปดีมากครับ อ่านสนุก


โดย: JUNE IP: 58.11.26.252 วันที่: 25 ตุลาคม 2563 เวลา:18:48:53 น.  

 
สรุปดีมากๆ มีอธิบายเพิ่มเติมเนื้อหาในส่วนที่สงสยจากในเรื่อง หยินเฉินก็ถูกสร้างมาเป็นภาชนะเช่นกัน หัวอกเดียวกันกับฉีหลิงเลย


โดย: fei IP: 124.122.224.3 วันที่: 16 มกราคม 2564 เวลา:23:37:04 น.  

 
เพิ่งดูแบบภาพยนตร์ ภาค 2 จบมะวานแล้วงงนิด ๆเลยมาหาอ่านรีวิวในเว็ป ซึ่งไม่มีคนรีวิวเลย จนมาเจอบล็อกนี้(จริง ๆ มีนิยาย 2 เล่มยังไม่ได้อ่าน)ภาคซีรีส์ก้อไม่เคยดู แต่ไปดูรีวิวมานิดหน่อยเนื้อเรื่องไม่ค่อยน่าสนใจ นักแสดงไม่คุ้นด้วย(อาจจะติดตานสด.จากหนังมาแล้ว)หลังอ่านจบ 2 รอบ พอเข้าใจได้ค่ะ สรุปได้ดีมาก ๆ เลยเข้าใจในเนื้อหามากขึ้น
(ปล.เพิ่งสั่งนิยายเล่ม 3,4 ไป เนื้อเรื่องจะถึงตอนไหนคะ)


โดย: Pikazaa IP: 61.7.232.242 วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:14:33:58 น.  

 
เราค้างจากหนังมากค่ะ​ อยากรู้ว่าตกลงหยินเฉินตายหรือไม่เเต่พอมาลองอ่านก็พอรุ้เป็นเเนวๆตอนนี้จะสั่งหนังสือเล่ม3กับ4มาอ่านเเล้วค่ะ​ เเล้วที่สำคัญตัวเองสรุปดีมาดทำให้เห็นการดำเนิดเรื่อของหนังเเละในซีนีย์เเละเป็นการสรุปที่ทำให้เราเข้าใจมากยิ่งขึ้นด้วย


โดย: Pp IP: 223.24.191.174 วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:8:35:30 น.  

 
คือพึ่งดู เป็นซีรี่ย์จบ 48 ตอน
พอหาภาค 2 มีเป็นอนิเม อยากทราบว่ามีภาค2 แบบซีรี่ย์ไหมค่ะ
หาไม่เจอ 🤔


โดย: Ja IP: 171.6.145.221 วันที่: 21 มีนาคม 2564 เวลา:0:45:02 น.  

 
ซีรี่ส์ภาคสองยังไม่ได้ข่าวค่ะ เพราะไม่ประสบความสำเร็จในภาคแรก เศร้าไป


โดย: littlepaul วันที่: 27 มีนาคม 2564 เวลา:2:04:02 น.  

 
สรุปดีมากๆ ใช่คำอธิบายได้เข้าใจมากค่ะ เหมือนอ่านนิยายเลย ขอบคุณมากๆนะคะอ💕💕


โดย: Lili IP: 1.47.29.209 วันที่: 4 สิงหาคม 2564 เวลา:13:57:48 น.  

 
เพิ่งได้ชมอะนิเมะมา รู้สึกชอบมากค่ะเลยตามหาอ่านรีวิว จนมาเจอรีวิวนี้ ขอบคุณมากๆค่ะ สำหรับรีวิวดีๆ


โดย: เพลิน IP: 49.49.240.88 วันที่: 11 กันยายน 2566 เวลา:7:32:18 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
space

littlepaul
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






space
space
[Add littlepaul's blog to your web]
space
space
space
space
space