Chapter 2 หนทางสู่ความเป็นแม่ในประเทศเนเธอร์แลนด์.
9การเดินทางบทที่ 2 99

หลังจากผิดหวังจากการเก็บไข่ที่เมืองไทย พักไป 1 ปีที่เรากับสามีไม่ได้พูดเรื่องการมีลูกกันอีกเลย ตัวเราเองหลักๆอยู่ที่กรุงเทพฯ ส่วนสามีเป็นคนดัชต์ อยู่ที่เนเธอร์แลนด์ เราก็จะไปๆมาๆครั้งละ 2-3 เดือน แล้วแต่โอกาส สามีก็ไปเมืองไทยบ้าง สลับกัน เราคบกับสามีมาย่างเข้าปีที่ 10 แต่แต่งงานกันได้ 4ปี เราสอบภาษาดัชต์เบื้องต้นผ่าน เราได้วีซ่า MVV ซึ่งต้องเอามาเปลี่ยนเป็นบัตรผู้อยู่อาศัยสีชมพู ทำให้ได้สิทธิเรื่องการทำประกันสุขภาพ

ที่นี่ผู้หญิงที่อายุไม่เกิน 42 ปี สามารถทำเด็กหลอดแก้วได้ฟรี แต่ถ้าเกิน 42ปี หมอจะไม่รับทำแล้ว ถึงแม้จะเสียเงินเอง ไม่เหมือนกับที่ไทย ที่นี่จะหาคลีนิคที่จะรับทำให้ไม่ได้เลย เราก็ไม่นึกมาก่อนว่าระบบที่เนเธอร์แลนด์จะเป็นแบบนี้ ตอนที่เรามีประกันสุขภาพที่นี่ เราอายุเลย 42 ปีเต็มมาไม่กี่เดือน ถือว่าย่างเข้า 43 ปี ซึ่งก่อนที่จะนัดที่คลีนิค IVF ได้ ก็จะต้องให้หมอบ้าน ออกใบส่งตัวให้ก่อน โชคดีที่หมอบ้านรู้จักเรากับสามีมาหลายปีมากๆ 132หลังจากนั้นถึงจะโทรไปสอบถามสถานที่ตามใบส่งตัวเพื่อขอทำนัดได้ (ท่ีไทยคือ Walkin เข้าไปเลยยังได้จ๊ะ)

101ใบส่งตัวใบแรก ส่งไปที่โรงพยาบาล OLVG 342แผนกมีบุตรยาก ผลคือ ไม่รับนัดเพราะอายุเกิน ไปหาหมอบ้านขอใบส่งตัวใหม่
121ใบส่งตัวใบที่สอง ส่งไปที่คลีนิคเอกชนในอัมสเตอร์ดัม 330ผลคือ ไม่รับนัด เพราะอายุเกิน ไปขอใบส่งตัวใหม่อีก
115ใบส่งตัวใบที่สาม ส่งไปที่คลีนิคเอกชนอีกเมือง 339 ผลคือ ไม่รับนัดเพราะอายุเกินเหมือนกัน ไปขอใบส่งตัวใหม่อีกแล้ว 
123ใบส่งตัวใบที่สี่ หมอบ้านหาให้ในระบบ คราวนี้ส่งไปที่คลีนิคเอกชนที่ไม่ได้รับเฉพาะการทำเด็กหลอดแก้ว 336แต่รับตรวจเรื่องผู้หญิงๆด้วย  ผลคือ รับนัด เรากับสามีก็ดีใจมากๆ วันนัดเราหอบแฟ้มเอกสาร ประวัติการรักษา ผลการตรวจต่างๆ จดบันทึกประจำเดือน อัลตราซาวน์ วิตามินที่กินอยู่ กะว่าจะให้หมอช่วยดูเพื่อเป็นข้อมูล พบหมอเป็นหมอสูติวัยกลางคน หมอมองหน้าเรากับสามี ถามว่าจะให้ช่วยอะไร เอาจริงๆ คือ เราก็ไม่ได้คาดว่าหมอจะถามแบบนั้น สามีก็เลยบอกว่า ต้องการทำ ICSI และเคยทำที่ไทยมาแล้ว หมอมองจอคอมพิวเตอร์แป๊ปนึง แล้วมองแฟ้มเอกสาร กับ ถุงวิตามิน แล้วพูดว่า เธอคงไม่ว่าอะไรนะถ้าชั้นจะไม่ได้หยิบอ่านหรือหยิบวิตามินเธอมาดู เพราะชั้นคิดว่าชั้นคงช่วยอะไรเธอไม่ได้ ก็ไม่รู้จะเสียเวลาทำไม เราถามหมอว่า เราอยากลองดูก็ไม่ได้เหรอ หมอตอบว่า หมอที่นี่จะใช้เวลาไปกัลคนที่มีโอกาสสำเร็จมากกว่าเสียเวลากับคนที่ไม่มีโอกาส แล้วตบท้ายว่า อายุเท่าเธอ เธอควรจะปลูกต้นไม้ กับ เลี้ยงสัตว์มากกว่า 119

จำได้ไม่ลืม ว่านาทีนั้นหน้าชาเหมือนโดนตบหน้า หูร้อน น้ำตาจะไหล แต่ก็ฮึบ ตอบแค่ว่า โอเค ขอบคุณนะ แล้วก็ออกมาจากห้องหมอ กลับบ้านมา ร้องไห้หนักมาก เราอาย เหมือนกับว่าการที่เราอยากมีลูกตอนอายุมาก เรากำลังทำความผิดที่น่าอับอายมากๆ วันนั้นเราบอกสามีว่า พอเถอะ เรารับไม่ได้อีกแล้ว สามีก็ให้กำลังใจ บอกว่า เราจะต้องไม่ยอมแพ้นะ ใจเย็นๆก่อน เราก็มาคิดทบทวนว่าถ้าเราต้องการมีลูก เราต้องสู้ เราเสียเวลามามากแล้ว เราต้องไม่ปล่อยเวลาผ่านไป
วันรุ่งขึ้นไปหาหมอบ้านอีกครั้ง เล่าให้หมอฟังเรื่องเมื่อวาน หมอส่ายหัว แล้วบอกว่าหมอคนนั้นไม่ควรพูดกับเราแบบนั้นนะ คราวนี้หมอแนะนำว่าในเนเธอร์แลนด์คงจะเป็นไปไม่ได้แล้วล่ะ ให้ลองไปที่ เมือง KENT ประเทศเบลเยี่ยมดูนะ เพราะที่เบลเยี่ยมรับทำถึงอายุ 45 ปี แต่หมอก็บอกว่า รายละเอียดอื่นๆหมอไม่รู้นะ ต้องลองไปคุยเอง แต่หมอจะออกใบส่งตัวให้ เรากับสามีก็ตกลงทันที
ระหว่างนั้น กินวิตามินที่ขนมาจากไทยอย่างบ้าคลั่ง... 155
109ใบส่งตัวใบที่ห้า ถูกส่งไปที่ 342UZ Gent Hospital ที่เมือง Gent ประเทศเบลเยี่ยม รอนัดประมาณ 1เดือน ก่อนวันนัด 1วันเรากับสามีก็เดินทางไปเบลเยี่ยม เราก็เอาเอกสารทุกอย่าง กับวิตามินไปด้วย พักที่ Gent 1 คืน รุ่งขึ้นไปหาหมอ UZ Gent เป็นโรงพยาบาลใหญ่โตมาก เป็นมหาวิทยาลัยแพทย์ด้วย ลงทะเบียนแล้วก็ไปที่แผนกมีบุตรยากโดยเฉพาะ ได้เจอหมอยังเด็กมากๆ หมอก็เริ่มคุยถามรายละเอียด เราก็ใจชื้นว่า น่าจะพอมีหวังนะ หมอดูผลตรวจเลือด  ดูค่า E2 / AMH ฯลฯ เราถามความเห็นหมอเรื่องวิตามินทั้งหมดที่เรากิน สามารถช่วยให้ไข่เราคุณภาพดีขึ้นได้จริงไม๊ หมอตอบว่าไม่จริง ไข่ที่ตกแต่ละเดือนก็ไม่เหมือนกัน บางเดือนคุณภาพดี ก็คิดว่าเป็นเพราะวิตามินช่วย บางเดือนก็อาจเป็นฟองที่คุณภาพไม่ดี ก็คิดว่าวิตามินที่กินมันน้อยไป ก็ไปหามากินเพิ่มไป หมอบอกว่าวิตามินสามารถทำให้สุขภาพและความรู้สึกดีขึ้นได้ แต่ไม่ช่วยเรื่องคุณภาพไข่  อืม.... 122 

หมอสรุปเคสเราให้ว่า ถ้าอยากมีลูกจริงๆ จะต้องใช้ไข่บริจาค แว๊บแรกที่ได้ยิน เราคิดว่า ไม่นะ...หมอบอกว่าที่เบลเยี่ยมทำไม่ได้ เพราะการใช้ไข่บริจาคกรณีเรามันไม่ถูกกฎหมาย หมอให้ลองกลับไปปรึกษากันดู แล้วถ้ารับเงื่อนไขนี้ได้ หมอแนะนำให้ไปที่ประเทศสเปน และต้องเป็นเมืองใหญ่ๆเท่านั้น เช่น Barcelona อย่าเสี่ยงไปประเทศเชค บัลแกเรีย อะไรพวกนั้นนะ ค่าใช้จ่ายอาจจะถูกกว่า แต่หมอไม่แนะนำ แล้วหมอก็ให้ลายแทงที่ Barcelona มาเล็กน้อย ให้กำลังใจนิดหน่อย อวยพรให้เรากับสามีโขคดี วันนั้นเราบอกลาหมอมาแบบไหล่ตก น้ำตาซึมๆ 146

ระหว่างขับรถกลับเนเธอร์แลนด์ เงียบ..... สมองเราคิดว่า เราจะรับได้ไม๊ สามีจะรับได้ไม๊ แม่เราล่ะ ญาติเราจะรับเด็กได้ไม๊ถ้ารู้ คำถามมากมายในหัว  สามีบอกว่าใจเย็นๆ ถึงบ้านพักผ่อนแล้วค่อยๆคิดกันอีกที คิดมากคิดหลายอย่าง แต่ลืมคิดอย่างเดียว คือ ถึงผ่านทุกขึ้นตอนไปแล้ว เราจะท้องหรือไม่ท้องก็ยังไม่รู้เลย 

จบด้วยน้ำตาอีกแล้วจ้าาา 7



Create Date : 14 สิงหาคม 2563
Last Update : 14 สิงหาคม 2563 1:42:24 น.
Counter : 282 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

สมาชิกหมายเลข 6063148
Location :
Amsterdam  Netherlands

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed

 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



มาแบ่งปันประสบการณ์การทำเด็กหลอดแก้วและหนทางสู่การเป็นแม่กันนะคะ