การดูแลเล็บมือ – เล็บเท้า
การดูแลเล็บมือ – เล็บเท้า
“เล็บ”เป็นอวัยวะส่วนหนึ่งของผิวหนังที่มีความแข็งแรงมาก คอยเป็นเกราะกำบังนิ้วมือ และนิ้วเท้าจากอันตรายต่างๆ แต่คนเรามักจะมองข้ามความสำคัญและคุณค่าของเล็บ แต่ถ้าเมื่อใดที่ปราศจากเล็บ หรือเกิดปัญหาขึ้นกับเล็บแล้ว เราจึงจะนึกถึงความสำคัญของเล็บขึ้นมาได้ ดังนั้นเราจำเป็นต้องดูแลทะนุถนอมเล็บอย่างถูกต้องเช่นเดียวกับผิวหนังทั่วๆ ไป เล็บมือและเล็บเท้าจะได้อยู่คู่กับเราไปอีกนาน
แต่ละอาทิตย์เล็บของเราจะยาวขึ้นประมาณ 0.5 - 1.2 มม. เล็บของเราจะหนา แข็งแรง และไม่เปราะง่าย ส่วนหนึ่งอยู่ที่สุขภาพและอาหารที่เราทานเข้าไป เล็บจะมีสีชมพูระเรื่ออ่อนๆหรือขาวซีด ขึ้นอยู่กับระบบหมุนเวียนโลหิตใต้เล็บ เราควรรับประทานอาหารที่อุดมด้วยแคลเซียม เช่น ไข่หอยนางรม เนื้อแดง นม เต้าหู โยเกิร์ต ถั่วแดง หน่อไม่ฝรั่ง ผักขม งา และทานปลาทะเลที่อุดมด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 – 6 จากการวิจัยพบว่ากรดไขมันโอเมก้า 3 – 6 ทั้งสองชนิดนี้ เมื่อทำงานรวมกัน จะไปช่วยให้ระบบหมุนเวียนโลหิตของร่างกายมีความคล่องตัวมากขึ้น และช่วยให้ปลายมือและเท้าได้รับสารอาหารและออกซิเจนครบถ้วนอย่างเพียงพอ
การทานผักที่มีคุณสมบัติต้านการติดเชื้ออย่างกระเทียม หอมเล็ก ต้นหอม หอมหัวใหญ่ จะช่วยให้ร่างกายมีภูมิต้านทานการติดเชื้อตามเล็บเพิ่มขึ้น เนื่องจากเล็บมีน้ำเป็นองค์ประกอบ 16 %เมื่อใดที่ระดับน้ำในเล็บลดต่ำกว่านี้ เล็บจะมีอาการเปราะฉีกขาดหรือลอกง่าย การดื่มน้ำและการทานอาหารที่มีน้ำเป็นองค์ประกอบสูงอย่าง พริกหวาน แตงโม แตงกวา สตอเบอร์รี่ ส้ม หรือขึ้นฉ่าย จะช่วยให้รักษาระดับสมดุลของน้ำในอวัยวะทั่วร่างกาย และยังอุดมไปด้วยวิตามินซี ผู้หญิงส่วนใหญ่มักจะประสบปัญหากับเล็บเหลือง อาจจะใช้ยาทาเล็บที่ไม่มีคุณภาพ จึงทำให้ยาทาเล็บซึมลงไปในผิวเล็บและทิ้งคราบที่ล้างไม่ออก สาเหตุนี้จึงทำให้เล็บเหลือง การแก้ปัญหาไม่ให้เหลือง โดยใช้น้ำมะนาวครึ่งลูกชโลมเล็บแล้วถูให้ทั่ว จากนั้นแช่เล็บในน้ำนมอุ่นๆ 5 นาที กรดของน้ำมะนาวจะช่วยผลัดเซลล์หมองๆออก ส่วนโปรตีนน้ำนมจะไปช่วยบำรุงขอบเล็บ ผิวปลายนิ้วจะนุ่มขึ้น คราบเหลืองที่เล็บจะจางลง เราก็จะได้เล็บชมพูระเรื่อตามธรรมชาติกลับมา
วิธีดูแลรักษาเล็บมือและเล็บเท้า
1.ใช้แปรงขนนุ่มกับสบู่อ่อนๆ ถูเบาๆบริเวณมือกับเท้าและเล็บ อย่าลืมที่จะถูใต้เล็บ เพราะบริเวณดังกล่าวเป็นบริเวณที่มีเชื้อโรคเข้าไปสะสมอยู่มาก ใช้ก้านสำสีสอดเข้าไปเช็ดออก หลังจากนั้นก็ล้างออกด้วยน้ำอุ่น การใส่ถุงมือทุกครั้งที่ต้องทำงานสัมผัสกับความสกปรกและความชื้นแฉะ จะช่วยป้องกันไม่ให้คราบสกปรกเข้าไปติดตามซอกเล็บของเรา และจะให้เราทำความสะอาดเล็บได้ง่ายขึ้น
2.เราควรตัดเล็บมือเป็นประจำ สัปดาห์ละครั้ง ส่วนเล็บเท้า 2-3 สัปดาห์ต่อครั้ง ไม่ควรตัดเล็บจนชิดบริเวณผิวหนังส่วนปลายนิ้วเกินไปเพราะนอกจากจะเสี่ยงต่อการเป็นแผลได้ ก่อนการตัดเล็บ ควรแช่มือและเท้าไว้ในน้ำอุ่นประมาณ 10 นาที เพื่อให้เล็บอ่อนลงทำให้ตัดแต่งได้ง่าย เล็บเท้าควรตัดในแนวตรงเป็นทรงเหลี่ยม ไม่ควรตัดเล็บลงซอกข้างเล็บมากเกินไปเพราะอาจทำให้เกิดเล็บขบได้ แล้วใช้ตะไบแปรงเล็บจากด้านข้างออกมาทางปลายเล็บเพื่อแต่งรูปเล็บให้ด้านเหลี่ยมมนขึ้น ไม่ควรตะไปในลักษณะกลับไปกลับมาจะทำลายผิวเล็บ ให้แปรงไปทางเดียวจนได้รูปเล็บที่ต้องการ นอกจากนี้เราควรหลีกเลี่ยงผิวหนังที่หุ้มโคนเล็บ เนื่องจากผิวหนังหุ้มโคนเล็บเป็นตัวป้องกันเชื้อโรคไม่ให้เข้าไปสู่จมูกเล็บ และเนื้อเยื่อรอบๆเล็บ สุดท้ายใช้ตะไบขัดขัดผิวหน้าเล็บเพียงเบาๆ ผิวเล็บจะขึ้นเงาอมชมพูดูสุภาพดี
3.ควรทาโลชั่นบำรุงผิวเป็นประจำทุกวัน เพราะการทาโลชั่นบำรุงผิวเป็นประจำจะช่วยป้องกันผิวมือไม่ให้หยาบกระด้าง และเพื่อป้องกันเล็บเปราะและแตกหักง่าย โดยเฉพาะหลังจากที่มือต้องสัมผัสกับสารเคมีต่าง ๆ เช่น ผงซักฟอก น้ำยาล้างจาน อีกวิธีหนึ่งที่เป็นการป้องกันก็คือ ในช่วงที่ต้องสัมผัสกับสารเคมีต่าง ๆ ก็ให้สวมถุงมือทุกครั้ง
4.สำหรับคนที่ชอบทาเล็บ เราควรแช่มือในอ่างน้ำที่บีบมะนาวหรือน้ำส้มสายชูไว้สักพักนึง ซึ่งจะช่วยให้เล็บอ่อนนุ่มขึ้น การใช้น้ำยารองพื้นทาเล็บเป็นชั้นแรก ก็ถือเป็นการดูแลเล็บที่ดี เพราะเวลาทาเล็บสีเข้มๆ เล็บมักจะเหลืองง่าย แต่ถ้าเราทารองพื้นไว้ก่อน ก็จะช่วยบรรเทาอาการเล็บเหลืองได้ เวลาทาสีเล็บก็ไม่ควรป้ายเกิน 3 ครั้ง เพราะสีจะจับเป็นก้อนไม่เรียบเสมอกัน รวมถึงอย่าลงสีเล็บเกิน 2 ชั้นเพราะจะดูหนาไปไม่สวย ควรทาน้ำยาเคลือบเล็บหลังจากทาสีเสร็จแล้วด้วย เพราะจะช่วยเพิ่มความเงางามและติดทนนาน แต่ไม่ควรทาเล็บสีเข้มติดต่อกันนานๆ ควรสลับสีอ่อนบ้าง และควรหยุดพักการทาเล็บเมื่อเห็นว่าสภาพเล็บดูแห้งหรือเกิดสีผิดปกติ
การเลือกสียาทาเล็บที่จะให้เข้ากับมือของ เรามีเทคนิคง่ายๆในการเลือกสียาทาเล็บให้เหมาะกับผิวสาวแต่ละประเภท สาวผิวขาวอมเหลือง: เหมาะกับยาทาเล็บสีชมพูอมส้ม สีน้ำตาลทองสว่าง หรือสีสดๆ จะทำให้มือดูอ่อนเยาว์ ไม่ซีดเซียวและสดใสขึ้น สาวผิวขาวอมชมพู: ควรใช้ยาทาเล็บสีชมพูอมน้ำตาล สีชมพูอมม่วง หรือสีโทนเย็นจะทำให้ดูอ่อนหวานขึ้น
สาวผิวคล้ำอมเหลือง: ใช้ยาทาเล็บสีน้ำตาลทองเข้ม สีแดงสดหรือสีทอง จะช่วยทำให้ดูอบอุ่น ลุ่มลึก ทำให้น่าค้นหามากขึ้น สาวผิวคล้ำหรือดำแดง: เหมาะกับยาทาเล็บสีแดงเข้ม สีชมพู จะดูเป็นคนมีพลัง ฉลาดเฉลียว ทันคน ปรับตัวเก่ง
การเก็บยาทาเล็บที่ดี เราควรจะปิดฝาให้สนิทก่อนจะเก็บไว้ในที่เย็น ห่างไกลแสงแดด อย่างเช่น ช่องเล็กในตู้เย็น การเลือกยาทาเล็บ ควรดูส่วนผสมของยาทาเล็บ ยาทาเล็บที่ดีไม่ควรมีแอลกอฮอล์ เพราะว่าแอลกอฮอล์จะเป็นตัว ทำให้ผิวเล็บแห้งและเปราะง่าย
การเลือกซื้อน้ำยาล้างเล็บ วิธีง่ายๆคือ ตรวจดูว่ามีส่วนผสมของสารที่ให้ความชุ่มชื้นกับผิวเล็บหรือไม่
ลองหยดน้ำยาล้างเล็บลงบนปลายนิ้วมือ ถูนิ้วไปมาจนแห้งทิ้งไว้สักพัก ถ้าหากนิ้วมือเปลี่ยนเป็นสีขาวแสดงว่าน้ำยานั้น อาจมีสารให้ความชุ่มชื้นน้อยเกินไปหรืออาจไม่มีเลย ก็ควรเปลี่ยนไปใช้ยี่ห้ออื่นแทน
5.นวดนิ้วมือและเท้าด้วยครีมบำรุงหรือน้ำมันบำรุงผิว ประมาณ 3-5 นาที เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตบริเวณมือและเท้า ควรนวดบริเวณปลายนิ้วและเล็บด้วยเพื่อกระตุ้นการทำงานของต่อมสร้างเล็บที่อยู่บริเวณโคนเล็บ หรือจะใช้สครับสำหรับนวดเท้า เพื่อการไหลเวียนโลหิตที่ดีขึ้น
6.ควรเลือกรองเท้าให้เหมาะกับรูปร่างเท้าของเรา โดยควรเลือกรองเท้าที่สวมใส่พอดี ไม่คับหรือหลวมจนเกินไป เพราะการเสียดสีในขณะที่เดินนานๆ จะทำให้ผิวเท้าเกิดหนังที่แข็งด้าน และการใส่รองเท้าที่คับเกินไปบริเวณปลายเท้าอาจเป็นสาเหตุให้เกิดเล็บขบ เวลาที่เหมาะสมในการเลือกซื้อรองเท้าคือช่วงกลางวันที่เท้าได้เดินจนขยายตัวแล้ว และหลังจากที่ใส่รองเท้าส้นสูงมาตลอดทั้งวัน เวลาว่างลองแช่เท้าในน้ำอุ่นสัก 10-15 นาที จะช่วยผ่อนคลายอาการเมื่อล้าได้
Create Date : 05 เมษายน 2551 |
|
0 comments |
Last Update : 21 มกราคม 2554 8:36:29 น. |
Counter : 5435 Pageviews. |
|
![](../images/bg-follower.png) |
|