DHEA (Dehydroepiandrosterone)
การเขียนในครั้งนี้เกิดจากการอยากรู้ว่า DHEA คืออะไรและสำคัญต่อร่างกายของเราอย่างไรบ้าง จึงค้นหาข้อมูลรวบรวมเพื่อความเข้าใจมากยิ่งขึ้น
DHEA (Dehydroepiandrosterone) คือ ฮอร์โมนธรรมชาติที่ผลิตจากต่อมหมวกไต และเป็นฮอร์โมนในกลุ่มสเตียรอยด์ ที่มีมากที่สุดในร่างกาย แต่เมื่ออายุมากขึ้นกลับลดลงเรื่อยๆ
DHEA นี้เป็นฮอร์โมนตั้งต้นที่จะเปลี่ยนแปลงไปเป็นฮอร์โมนเพศหญิงและชาย เช่น เอสโตรเจน, โปรเจสเตอโรน, เทสโทสเตอโรน
คราวนี้เรามาดูกันว่า ฮอร์โมนทั้งสามทำหน้าที่อย่างไรบ้าง
- เอสโตรเจน เป็นกลุ่มฮอร์โมนที่ผลิตโดยรังไข่ของผู้หญิง ต่อมหมวกไตและอัณฑะของผู้ชาย แต่ผู้ชายจะผลิตฮอร์โมนนี้ในระดับที่น้อยกว่า
ฮอร์โมนเอสโตรเจนหลักมีอยู่ 3 ประเภท ได้แก่ เอสโทรน (Estrone) เอสตร้าไดออล (Estradiol) และเอสไตรออล (Estriol)
ความสำคัญของเอสโตรเจน
- ทำให้กระดูกแข็งแรง
- การพัฒนาระบบสืบพันธุ์ของเพศชาย
- พัฒนาระดับทางเพศของผู้หญิง เช่น หน้าอกและขนตามร่างกาย และการควบคุมรอบเดือนของผู้หญิงในช่วงปีที่มีบุตร
เมื่อถึงวัยหมดประจำเดือน (menopause) รังไข่ของผู้หญิงจะเริ่มผลิตเอสโตรเจนน้อยลง และจะมีอาการ ดังนี้ - ร้อนวูบวาบตามร่างกาย
- เหงื่อออกมากเกินไป
- หนาว
- หน้ามืด เป็นลม
- วิงเวียนศีรษะ
- โปรเจสเตอโรน ถูกสร้างจากรังไข่ ภายใต้การกำกับควบคุมของต่อมใต้สมอง และสมองไฮโปรธารามัส มีหน้าที่ช่วยทำให้เกิดประจำเดือน ช่วยในการตั้งครรภ์ รวมถึงควบคุมอารมณ์และจิตใจด้วย นอกจากนี้ยังช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัว จึงลดการบีบตัวของมดลูกลดการแท้งบุตรขณะตั้งครรภ์ ช่วยปรับอุณหภูมิร่างกายในช่วงไข่ตก มีสารช่วยให้เซลล์มีการเจริญเติบโตและมีผลลดการหลั่งอินซูลินของตับอ่อนในขณะตั้งครรภ์
- เทสโทสเตอโรน ผลิตจากลูกอัณฑะ มีหน้าที่สำคัญ คือ กระตุ้นให้แสดงลักษณะความเป็นชาย ความต้องการทางเพศ การสร้างเชื้ออสุจิ กล้ามเนื้อ และกระดูก รวมไปถึงเรื่องของการรักษาสุขภาพให้สมบูรณ์แข็งแรง
สรุปโดยรวมแล้วประโยชน์ของการได้รับ DHEA คือ
- ชะลอความแก่
- ช่วยป้องกันหรือแก้ไขปัญหาที่เกิดจากความชรา
- ปรับปรุงความสมบูรณ์ของผิว
- เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง
- ส่งเสริมการทำงานของต่อมไทรรอยด์
- เพิ่มมวลกล้ามเนื้อ
- ลดการสร้างของไขมันส่วนเกิน
- ช่วยปัองกันโรคหัวใจในหญิงวัยหมดประจำเดือน
- แก้อาการอ่อนเพลียเรื้อรัง
- ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของสมอง ความจำ และการคิดอ่านได้ดีขึ้น
- เพิ่มสมรรถภาพของร่างกายในการรับมือกับความเครียด
- ช่วยเร่งการเผาผลาญ(metabolism)
- ควบคุมน้ำหนัก
- ส่งเสริมกระบวนการ Thermogenesis ได้อย่างปลอดภัย
กระบวนการ Thermogenesis คือ การสร้างความร้อนภายในร่างกายโดยขบวนการทางสรีรวิทยา ส่งผลให้ไขมันที่สะสมจะโดนความร้อนที่เกิดจากการออกกำลังกายขับออกมาทางรูขุมขน
อาหารตามธรรมชาติที่ช่วยเพิ่มฮอร์โมน
- น้ำมะพร้าว มีฮอร์โมนเอสโตรเจน ซึ่งมีส่วนสำคัญต่อการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ช่วยกระชับผิวพรรณให้เต่งตึง มีความยืดหยุ่น ชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัย มีฤทธิ์ขับปัสสาวะ ขับของเสียหรือสารพิษออกจากร่างกาย คล้ายกับการทำดีท็อกซ์ จึงช่วยทำให้ผิวพรรณผ่องใส อีกทั้งความเป็นด่างของน้ำมะพร้าวยังช่วยปรับสมดุลของร่างกายในช่วงที่มีความเป็นกรดสูง ทำให้กลไกการทำงานของระบบภายในร่างกายเป็นปกติ ส่งผลให้มีสุขภาพดีทั้งภายในและภายนอก
- ลูกพรุน มีไฟโตเอสโตรเจน สารที่ออกฤทธิ์คล้ายฮอร์โมนเพศหญิงแถมยังเปี่ยมไปด้วยไฟเบอร์ ที่จะช่วยในเรื่องการขับถ่าย การปรับสมดุลของระดับน้ำตาลในเลือด
- เมล็ดแฟลกซ์ อุดมไปด้วยฮอร์โมนเอสโตรเจนนอกจากจะช่วยเติมเต็มฮอร์โมนความเป็นเพศหญิงยังช่วยในเรื่องการลดน้ำหนัก ปรับสมดุลการทำงานของระบบย่อยอาหาร และช่วยลดคอเลสเตอรอลในร่างกายได้อีก
- งา มีโฟโตเอสโตรเจนสูง โดยอยู่ในรูปสารลิกแนนที่ออกฤทธิ์ไม่ต่างจากฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกาย และยังมีไฟเบอร์ ธาตุเหล็กและแมกนีเซียมที่ช่วยเสริมฮอร์โมนอีกด้วย
- ถั่วชนิดต่างๆ มีโฟโตเอสโตรเจนที่ช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนเพศหญิง นอกจากนี้ถั่วยังอุดมไปด้วยโปรตีนและไฟเบอร์สูง ไม่ว่าจะเป็นถั่วชนิดฝัก ถั่วลิสง ถั่วพิตาชิโอ ถั่วแระ ถั่วลันเตา ถั่วดำ ถั่วแดง ถั่วเหลือง ถั่วเขียว หรือแม้กระทั่งถั่วงอก
- เต้าหู้ มีไอโซฟลาโวนเป็นฮอร์โมนเอสโตรเจนชนิดหนึ่งจากธรรมชาติ ที่ร่างกายจะดูดซึมได้ดีที่สำคัญในเต้าหู้ยังอุดมไปด้วยธาตุเหล็กและโปรตีนที่สูงเทียบเท่าเนื้อสัตว์
- นำ้เต้าหู้ ถั่วเหลืองและเต้าหู้เป็นอาหารที่มีเอสโตรเจนอยู่แล้วแต่น้ำเต้าหู้จะมีโฟโตเอสโตรเจนแฝงอยู่และข้อดีของการรับฮอร์โมนเอสโตรเจนจากน้ำเต้าหู้ คือ เอสโตรเจนจะแฝงมาในรูปของเหลวทำให้ร่างกายดูดซึมและนำฮอร์โมนเอสโตรเจนที่ได้ไปใช้ได้อย่างรวดเร็วนั่นเอง
- ข้าวสาลีและโฮลเกรนทุกชนิด มีฮอร์โมนเอสโตรเจนธรรมชาติชนิดไอโซฟลาโวน ซึ่งช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกาย นอกจากข้าวสาลีและโฮลเกรนแล้ว ผักอย่างบรอกโคลีและกะหล่ำม่วงก็มีโฟโตเอสโตรเจนด้วยเช่นกัน
- แครอท มีสารลิกแนนเป็นโฟโตเอสโตรเจนชนิดหนึ่งที่ออกฤทธิ์คล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกาย ทางโภชนาการจึงจัดแครอทให้เป็นอาหารที่มีฮอร์โมนเพศหญิง ซึ่งนอกจากแครอทแล้ว ยังมีกะหล่ำ สตรอว์เบอร์รี แอปริคอต และซูกินี ที่เป็นอาหารมีเอสโตรเจนด้วยเหมือนกัน
- ผลไม้ตระกูลเบอร์รี มีสารเรสเวอราทรอล (Resveratrol) ซึ่งการศึกษาจาก Experimental and Therapeutic Medicine พบว่า สารเรสเวอราทรอลมีหน้าที่คล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจน มีวิตามินซีสูงดีต่อสุขภาพผิวและเป็นผลไม้ที่กินแล้วไม่อ้วน
- องุ่นแดง มีประโยชน์ต่อผู้ชายเนื่องจากไปเพิ่มฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน เพราะผิวขององุ่นนั้นจะมี เรสเวราโทรล (Resveratrol) ที่ช่วยสร้างสเปิร์มในร่างกายให้มากขึ้น โดยการทานองุ่นเพียง 5-10 กรัม จะทำให้ได้เรสเวราโทรลถึง 500 มิลลิกรัม
- ปลาทูน่า มีวิตามินดีที่ช่วยบำรุงฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนให้เพิ่มขึ้นมากถึง 90 เปอร์เซ็นต์ โดยช่วยกำจัดโปรตีนที่ทำให้ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนลดลง รวมถึงมีสารอาร์ดีเอ (RDA) ซึ่งเป็นปริมาณสารอาหารที่ได้รับในแต่ละวันถึง 100 เปอร์เซ็นต์
- อะโวคาโด อะโวคาโดหรือถั่วจะช่วยลดคอเลสเตอรอลในร่างกายให้ลดลงและช่วยเพิ่มฮอร์โมนเพศ เหมาะสำหรับคนที่มีคอเลสเตอรอลอุดตันในเส้นเลือดสูง ถ้าในร่างกายของเรามีคอเลสเตอรอลสูงจะทำให้เกิดการหย่อนสมรรถภาพทางเพศและการทำงานของร่างกายบกพร่องได้จึงแนะนำให้ทานอะโวคาโดค่ะ
- ผลทับทิม จากการวิจัยพบได้ว่า ผู้ชายที่ทานผลทับทิมหรือดื่มน้ำทับทิมจะช่วยให้หลั่งฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนได้มากกว่าปกติ 47 เปอร์เซ็นต์ อีกทั้งทับทิมยังอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระเพื่อช่วยลดความดันเลือดอีกด้วย
- เนื้อกวาง จากการวิจัยพบว่า ผู้ที่เป็นมังสวิรัติ จะทำให้ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนลดลงถึง 14 เปอร์เซ็นต์ การทานเนื้อสัตว์จึงสามารถช่วยเพิ่มฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะเนื้อกวาง เป็นเนื้อสัตว์ที่ควรทานมากที่สุดเพราะนอกจากจะช่วยบำรุงร่างกายแล้ว ยังช่วยลดน้ำหนักและช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้ออีกด้วย
- กระเทียม อุดมไปด้วยอัลลิซิน (Allicin) ที่ช่วยให้ความดันเลือดสูบฉีดมากขึ้น พร้อมช่วยปรับสมดุลของคอร์ติซอล (Cortisol) ไม่ให้กระตุ้นการหลั่งสารที่ทำให้เกิดความเครียดจนเกินไปและช่วยฟื้นฟูร่างกายไม่ให้อ่อนล้า
- น้ำผึ้งจากธรรมชาติ จะมีสารโบรอน (Boron) ที่มีเทสโทสเตอโรนในระดับที่สูง และยังอุดมไปด้วย ไนตริกออกไซด์ (Nitric Oxide) ที่ช่วยในเรื่องงระบบหมุนเวียนของเลือด และปรับปรุงการทำงานของระบบสืบพันธุ์ โดยน้ำผึ้ง 4 ช้อนชาสามารถเพิ่มไนตริกออกไซด์ได้ถึง 50 เปอร์เซ็นต์
- นมในน้ำนม จะมีกรดอะมิโนที่ช่วยในการผลิตของสารแอนาบอลิกฮอร์โมน (Anabolic Hormones) ที่ช่วยเสริมสร้างฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนในร่างกายในการสร้างกล้ามเนื้อ
- ไข่ ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนมีสูงมากในไข่แดง คุณสามารถทานได้ 3 ฟองต่อวัน โดยไม่ต้องกังวลเรื่องคอเลสเตอรอลในเส้นเลือดเพราะไข่มีผลต่อคอเลสเตอรอลในเลือดน้อยมาก
- กะหล่ำปลี มีสารที่เรียกว่า อินโดล 3 คาร์บินอล (Indole-3-Carbinol) ที่ช่วยปรับสมดุลไม่ให้ผลิตฮอรโมนเอสโตรเจนในเพศหญิงมากเกินไป และช่วยทำให้ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ขอขอบคุณ แหล่งข้อมูล
https://web.facebook.com/permalink.php สาระสุขภาพยาน่ารู้โดยเภสัชกรอุทัย
https://www.honestdocs.co/what-is-estrogen
//haamor.com/th/%E0%B9%82%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B8%AA%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%AD%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%99/
https://menpowermax.com/25/%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%AA%E0%B9%82%E0%B8%97%E0%B8%AA%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%99-%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%82%E0%B8%A2%E0%B8%8A%E0%B8%99%E0%B9%8C/
https://men.kapook.com/view44664.html
https://health.kapook.com/view130584.html
Create Date : 24 สิงหาคม 2560 |
Last Update : 25 สิงหาคม 2560 8:50:06 น. |
|
2 comments
|
Counter : 994 Pageviews. |
|
|