space
space
space
 
มีนาคม 2562
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
space
space
15 มีนาคม 2562
space
space
space

The Top Secret
  1. ใครที่สามารถควบคุมความรู้สึกได้อนาคตก็จะอยู่ในกำมือ

  2. การกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนก็เหมือนกับการเขียนบทชีวิตให้ตัวเอง มุ่งเป้าหมายหรือผลลัพธ์ก่อนแล้วค่อยย้อนกลับมาหาเหตุ โดยกำหนดแนวทางที่จะไปถึงเป้าหมายและขอให้เชื่อว่าเราจะทำได้จริงๆ

  3. กำหนดภาพความสำเร็จที่ต้องการขึ้นมาก่อน ใส่ความรู้สึกลงไปในทางที่สอดคล้องกับภาพนั้น

  4. ยิ่งคิดเป็นภาพแห่งความรู้สึกชัดเจนเท่าไหร่ ตัวคุณก็จะมีสภาพเป็นแม่เหล็กมากขึ้นเท่านั้น ไม่ว่าคุณจะต้องการอะไรคุณจะดึงดูดนำพาสิ่งต่างๆเข้ามา

  5. ในแต่ละวันเมื่อคุณได้พบกับใคร ควรใส่ความรู้สึกดีๆเข้าไปในการพบปะนั้นด้วย ผู้นำที่ประสบความสำเร็จล้วนแต่มีความสามารถพิเศษในการประทับความรู้สึกที่ดีไว้ในใจของผู้คนที่ได้พบเจอ

  6. เมื่อเป้าหมายในใจชัดอุปสรรคใหญ่จะกลายเป็นเรื่องเล็ก แต่ถ้าภาพแห่งความสำเร็จในใจไม่ชัด อุปสรรคเล็กๆก็จะกลายเป็นเรื่องใหญ่

  7. การจินตนาการภาพในใจคือเคล็ดลับของความสำเร็จ

  8. การจินตนาการภาพเคลื่อนไหวจะประทับลงในจิตใต้สำนึกง่ายกว่าภาพนิ่ง

  9. สิ่งหนึ่งที่คนเก่งทุกคนมีเหมือนกันก็คือความมั่นใจในความสำเร็จ

  10. การเอาชนะใจตนเองยากที่สุด แต่ถ้าสามารถทำได้จะต่อสู้กับอะไรบนโลกนี้ก็ไม่มีทางพ่ายแพ้

  11. ต้องสร้างภาพในจินตนาการก่อนเสมอ ยิ่งภาพความสำเร็จชัดเจนมากเท่าไหร่โอกาสที่จะประสบความสำเร็จก็มีสูงมากเท่านั้น

  12. สิ่งที่คนเราต่างกันที่ความสามารถในการจินตนาการ

  13. จุดที่ตัดสินว่าใครชนะจะเป็นของใครอยู่กับความเข้มของความรู้สึกต่อภาพแห่งความสำเร็จ

  14. ภาพในใจยังไม่มีพลังใดๆจนกว่าจะแปลงเป็นภาพแห่งความรู้สึก

  15. เมื่อเห็นผู้อื่นสบความสำเร็จจงเพ่งมองความรู้สึกของเขาในขณะนั้น ร่วมยินดีกับเขา มีอารมณ์ร่วมกับเขา ภายหลังเมื่อต้องการประสบความสำเร็จแบบนั้นบ้างการดึงเอาความรู้สึกนั้นขึ้นมารวมกับภาพในฝันจะสามารถทำได้ง่ายขึ้น

  16. ความรู้สึกขอบคุณสามารถสร้างความสุขได้อย่างปัจจุบันทันด่วน หากเรารู้สึกขอบคุณบ่อยๆ ความสุขนั้นจะเก็บไว้ในจิตอย่างชัดเจนและสามารถดึงออกมาใช้ได้ตลอดเวลา

  17. ถ้าเราคิดดี สิ่งดีๆก็จะเกิดขึ้น

  18. ความคิดสามารถส่งพลังออกมาภายนอกได้ก็ต่อเมื่อความคิดนั้นเปลี่ยนแปลงเป็นความรู้สึกแล้ว

  19. การหยุดใจแม้จะเป็นเรื่องยากแต่ไม่เกินความพยายาม และวิธีเดียวที่จะทำได้คือใช้สติเข้าไปจับความรู้สึกให้ทัน

  20. ทุกสิ่งมีทั้งลบและบวก ต้องค้นให้พบบวกและนำออกมาใช้ ส่วนสิ่งที่เป็นลบก็ควรหลีกเลี่ยง ผู้ที่คิดบวกอยู่เสมอจะเห็นโอกาสที่ซ่อนอยู่แม้ในสิ่งที่เป็นลบก็ตาม

  21. คัดเลือกเฉพาะความคิดในทางบวกให้เข้ามามีอิทธิพลต่อชีวิต

  22. จงพยายามฝึกมองส่วนบวกที่ซ่อนอยู่ในลบ จนเกิดความสามารถพิเศษ เพราะคนที่จะเป็นอัจฉริยะได้ต้องมีความสามารถพิเศษนี้

  23. ถ้าต้องการให้จิตใต้สำนึกจำได้แม่นยำไม่ลืม ต้องให้สติสัมปชัญญะกำหนดอยู่เป็นประจำ จะทำให้มีการจดจำและฝังไว้ในจิตใต้สำนึก เช่น ก่อนวางกุญแจเรากำหนดสติบอกตัวเองว่าวางไว้ตรงนี้ เราจะไม่ลืมกุญแจนั้นเลย

  24. จิตใต้สำนึกมีพลังมากมายแฝงอยู่โดยเฉพาะอย่างยิ่งพลังแห่งความรู้สึก ถ้าใครพบความลับของการดึงความรู้สึกออกมาจากจิตใต้สำนึกได้ เขาจะกลายเป็นอัจฉริยะบุคคลทันที

  25. จิตสำนึกจะเรียนรู้จากประสบการณ์จริง แต่จิตใต้สำนึกจะเรียนรู้จากความฝันและจินตนาการ

  26. ฝึกพูดบวกให้บ่อยจนกลายเป็นนิสัย แล้วจะพบว่าสิ่งดีๆเข้ามาสู่ชีวิตคุณอย่างมากมายจนเกินบรรยาย

  27. ควรร่วมแสดงความยินดีกับผู้ที่ประสบความสำเร็จ เพื่อส่งสัญญาณไปยังติดใต้สำนึกว่าเราก็ต้องการประสบสิ่งเหล่านี้

  28. ถ้าต้องการภาพชีวิตแบบไหนก็เพียงแต่ปรับความถี่ของจอภาพให้ตรงกับคลื่นความถี่ของจักรวาล

  29. เราควรคิดแต่ในทางบวก อย่าไปคิดในสิ่งที่ตัวเองไม่ต้องการ เช่น ไม่ควรคิดว่าฉันไม่อยากอ้วน แต่ให้เปลี่ยนเป็นรูปร่างในฝันของฉันคือผอมเพรียวแทน เพราะจิตใต้สำนึกไม่เข้าใจคำว่าไม่

  30. จิตใต้สำนึกมีพลังอำนาจมากกว่าจิตสำนึกหลายหมื่นหลายแสนเท่า การทำงานของจิตใต้สำนึกอยู่เหนือมิติที่ 4

  31. การสร้างความประทับใจกับใครไม่จำเป็นต้องสร้างด้วยของมีค่าราคาแพง ถ้ารู้จักเล็ดลับในการให้ มีจังหวะที่เหมาะสม แม้สิ่งเล็กน้อย เช่น กาแฟสักถ้วย รอยยิ้มสักนิด ก็สร้างความรู้สึกดีๆขึ้นมาได้

  32. จิตใต้สำนึกทำงานแม้ในขณะหลับ แต่ละวันควรระลึกถึงสิ่งดีๆก่อนล้มตัวลงนอน

  33. ถ้าจำเป็นต้องรับรู้เรื่องทางลบ จงพลิกความคิดนั้นให้เป็นบวก และไม่ยึดติดกับสิ่งลบ

  34. เลิกการสร้างเวรกับผู้อื่นโดยเด็ดขาด เพื่อจะได้ไม่มีสิ่งแย่ๆในจิตใต้สำนึก

  35. ศิลปะการคิดขั้นสุดยอดคือ ดูเหมือนจะอยากแต่ไม่คิดอยาก

  36. จงช่วยตัวเองก่อนแล้วสิ่งศักดิ์สิทธิ์จะช่วยท่าน

  37. ความอยากปิดกั้นการทำงานของพลังจิตใต้สำนึก ที่จะนำคุณไปสู่ความสำเร็จ

  38. ความอยากมีคุณสมบัติเป็นลบในตัวของมันเอง

  39. อย่าอธิษฐานขอที่เป้าหมาย แต่ให้ขอสิ่งที่จะทำให้ไปถึงเป้าหมาย เช่นขอให้มีพลังกาย พลังใจ พลังสติปัญญา

  40. ตั้งจิตอธิษฐานโดยปราศจากความอยาก เชื่อมั่นในสิ่งที่อธิษฐานโดยไม่มีความลังเลสงสัย จินตนาการภาพแห่งความรู้สึกว่าได้สิ่งนั้นมาแล้วด้วยความปรีดาปราโมช และเตรียมกายใจให้พร้อม

  41. ทำราวกับว่าคุณผ่านเหตุการณ์นั้นไปแล้ว แล้วนึกย้อนมาถึงเหตุการณ์นั้น ความอยากก็จะไม่เกิดขึ้น เพราะคุณประสบความสำเร็จไปเรียบร้อยแล้วจึงไม่คิดอย่าก

  42. ความพยายามเป็นตัวระงับความอยากได้

  43. เมื่อมีความรู้สึกอยากสิ่งใด จงเปลี่ยนเป็นความรู้สึกเชื่อแทน เช่น อยากสอบได้ ให้เปลี่ยนเป็นเชื่อว่าสอบได้

  44. พยายามสร้างภาพความรู้สึกลงในเป้าหมายจากเรื่องง่ายๆก่อน เมื่อสำเร็จ ความรู้สึกครั้งต่อๆไปจะเข้มข้นขึ้นโดยอัตโนมัติ

  45. ไม่ต้องการเจ็บป่วย ให้คิดเป็นต้องการมีสุขภาพที่แข็งแรง และอธิษฐานให้ตัวเองมีสุขภาพที่แข็งแรงสมบูรณ์ ให้เชื่อด้วยว่าสุขภาพแข็งแรงจริงๆ และสุดท้ายคือสร้างความรู้สึกของคนที่สุขภาพแข็งแรงให้เกิดขึ้นกับตัวคุณ

  46. ขณะที่กำลังมีความสุข ลองดึงตัวออกจากความสุขนั้น ดึงความสุขออกจากใจ ให้ดูอาการเกิดดับของมันด้วยสติว่าเป็นเช่นนั้นเอง ไม่มีใครสุขไปตลอด ดูจนมันดับ จะพบว่าความสุขก็คืออารมณ์ มายาหนึ่งเท่านั้น

  47. การฝึกสุขออกจากใจ ไม่ยากเท่าการดึงทุกข์ออกจากใจ ฉะนั้นเมื่อมีความทุกข์ในอนาคตจะสามารถดึงทุกข์ออกจากใจได้โดยอัตโนมัติ

  48. จงเปลี่ยนความอยากให้เป็นความพยายาม

  49. ความกลัวอุปสรรคต่อความสำเร็จในชีวิตมากกว่าความโกรธ เพราะความคิดในเชิงบวกจะหายไปทั้งหมด

  50. อย่ากลัวเหตุการณ์ในอนาคต อยู่กับปัจจุบัน ทำวันนี้ให้ดีที่สุดแล้วพรุ่งนี้จะดูแลตัวของมันเอง

  51. ความกลัวเป็นตัวขัดขวางศักยภาพการทำงานของจิตอย่างรุนแรง ถ้าไม่กลัวเสียอย่างจิตจะเป็นอิสระและมีพลังสามารถทำอะไรได้มากมายมหาศาล

  52. ยิ่งมีสติ ยิ่งไม่กลัว

  53. จงฝึกเปลี่ยนความคิดให้เป็นความเชื่อ พลังของความเชื่อเหนือกว่าการคิดมาก เช่น คิดว่าสามีรักให้เปลี่ยนเป็น เชื่อว่าสามีรัก คิดว่าจะชนะให้เปลี่ยนเป็น เชื่อว่าจะชนะ

  54. ความเชื่อของคุณจะส่งผลไปยังความเชื่อของคนใกล้ชิดได้ด้วย จงเชื่อว่าพวกเขาทำได้ด้วยใจจริง จะเหนี่ยวนำให้พวกเขาประสบความสำเร็จ

  55. ก่อนอื่นต้องเชื่อมั่นในตัวเองเสียก่อน จะเกิดแรงดึงดูดให้คนอื่นเชื่อมั่นในตัวเราด้วย

  56. เหนือฟ้ายังมีฟ้าเหนือกฎแห่งกรรมยังมีวิปัสสนากรรมฐาน

  57. พยายามอยู่ในสังคมดีๆจะทำให้เราก้าวหน้าโดยอัตโนมัติ

  58. ถ้าต้องอยู่ท่ามกลางคนคิดลบต้องพยายามดีดตัวออกมาให้เร็วที่สุด ถ้าทำไม่ได้อย่างน้อยก็อย่าปล่อยให้ความคิดลบนั้นเข้ามาฝังในจิตเรา

  59. เมื่อเรามีสติความคิดลบจะไม่สามารถเข้าไปฝังในจิตใต้สำนึกได้

  60. อย่าคิดลบกับสิ่งที่เป็นลบ จะทำให้เรื่องราวแย่ลงไปอีก

  61. ทุกคนมีส่วนบวกและลบอยู่ในตัว พยายามฝึกมองไปที่ส่วนบวก

  62. จงเอาชนะความตระหนี่ด้วยการให้

  63. ถ้าคุณคิดดี สิ่งดีๆก็จะเกิดขึ้นในชีวิต

  64. ถ้าเจอกับคนคิดลบ ให้ใช้วิธีเติมพลังบวกจากตัวคุณใส่เข้าไปในตัวเขาเรื่อยๆ เพื่อลดสภาพลบของเขา

  65. จงมองด้านดีของคนอื่น ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ

  66. จงพลิกสถานการณ์และทุกอย่างที่เกิดขึ้นในชีวิตให้เป็นบวก

  67. ชีวิตไม่สามารถหนีปัญหาได้ เพียงแต่ต้องกำหนดสติแยกปัญหาออกมา แล้วพิจารณาตามหลักวิปัสสนากรรมฐาน จะสามารถแก้ปัญหาได้ทุกอย่าง

  68. เครื่องมือจำกัดความรู้สึกลบอย่างได้ผลได้แก่ การให้อภัย การแผ่เมตตา การให้ความรัก การแสดงออกในเชิงบวก การยอมรับจุดที่แย่ที่สุด การถอยตั้งหลัก การปลีกวิเวก การระบายความรู้สึก การดูแลสุขภาพให้แข็งแรง การทำงานอดิเรก และ การสำนึกรู้คุณ

          สิ่งเหล่านี้เป็นเครื่องมือและจุดแข็งที่จะสร้างความรู้สึกบวกขึ้นแทนความรู้สึกลบได้

  1. ความรู้สึกพอ จะทำให้ชีวิตมีความสุข และเกิดความรู้สึกอยากจะแบ่งปันให้คนอื่น ความรู้สึกพอนี้เป็นทางลัดที่ง่ายที่สุด และเป็นพลังดึงดูดนำความมั่งคั่งมาสู่ตัวคุณ

  2. จงแผ่เมตตาให้ทุกสรรพสิ่ง

  3. ถ้าตัดสุขได้ ก็จะตัดทุกข์ได้

  4. การตัดความรู้สึกไม่ใช่การตัดครั้งเดียวขาด แต่ต้องค่อยเป็นค่อยไปด้วยความพยายามและอดทน

  5. ความไม่อยาก ถือเป็นปัญหาเช่นกัน เมื่อเรารู้สึกไม่อยากเหมือนเป็นการเปิดจุดอ่อนให้เจ้ากรรมนายเวรได้รับรู้

  6. เกลียดอะไรมักได้สิ่งนั้น

  7. ถ้าเราปล่อยให้ความคิดลบเกิดขึ้นหลายๆครั้ง มันจะกลายเป็นความรู้สึกลบ

  8. ทุกครั้งที่เราคิดบวก กรรมเก่าจะทำอะไรไม่ได้

  9. เราไม่สามารถคิดบวกและลบในเวลาเดียวกันได้สมองเราทำงานทีละหนึ่งความคิด

  10. เมื่อใดรู้สึกเชิงลบแสดงว่ากรรมเก่ากำลังทำงาน สามารถระงับได้ด้วยการกำหนดสติ และเปลี่ยนความคิดซึ่งเป็นกรรมปัจจุบันให้เป็นบวก

  11. ภาพแห่งความรู้สึกจะเกิดขึ้นมาได้ต้องอาศัยองค์ประกอบทั้ง 5 ส่วนของขันธ์ 5 คือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ จะขาดส่วนใดส่วนหนึ่งไม่ได้

  12. พลังแห่งความรู้สึกสูงกว่าพลังแห่งความคิดมากเทียบกันไม่ได้ วิธีเดียวที่จะเอาชนะได้คือการฝึกสติ  จนเกิดปัญญาเห็นว่ามัน ไม่เที่ยง เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป

  13. ถ้ากรรมเก่ายังไม่หมด ความรู้สึกและการตัดสินใจก็จะเป็นแบบเดิม ไม่ว่าจะย้อนอดีตไปสักกี่ครั้งก็ตาม

  14. สิ่งที่ต้องแก้คือ จิต

  15. เมื่อเกิดปัญญาการตัดสินใจในปัจจุบันขณะก็จะไม่ผิด ส่งผลให้เปลี่ยนชีวิตในอนาคตได้

  16. อดีตผิดแล้วให้มันผิดไป สิ่งที่ต้องแก้ไขคือปัจจุบัน

  17. คนทั่วไปจะเห็นทุกข์ง่ายกว่าสุข ถ้าฝึกจับที่ทุกข์ก่อน จะทำให้เห็นสุขชัดขึ้นด้วย

  18. ความคิดคือกรรมปัจจุบันความรู้สึกคือกรรมเก่าสามารถระงับได้ด้วยการเจริญสติเปลี่ยนความคิดซึ่งเป็นกรรมปัจจุบันให้เป็นบวก

  19. อารมณ์เป็นผลของความรู้สึก ถ้าฝึกควบคุมความรู้สึก อารมณ์ก็จะไม่เกิด เป็นการตัดไฟเสียแต่ต้นลม

  20. เจ้ากรรมนายเวรคือกรรมเก่า รวมไปถึงความรู้สึกที่ปรุงแต่งขึ้นจากจิตของคุณในปัจจุบันด้วย

  21. คิดบวกอยู่ตลอดเวลา คือคนที่มีวาสนาดี

  22. จงมองความรู้สึกของคนอื่นที่กระทำต่อเรา ว่ามีเหตุปัจจัยเป็นกรรมเก่าของเขาเอง อย่าเอาใจเข้าไปรับอารมณ์นั้น มิฉะนั้นเราจะร่วมรับกรรมด้วย

  23. ความรู้สึกคือพลังงานอย่างหนึ่งไม่มีวันสูญหายแต่เปลี่ยนรูปได้

  24. การเลิกแล้วต่อกันมีผลทำให้ไม่ต้องมาเจอกันอีกไม่ว่าชาตินี้หรือชาติไหน

  25. จงคิดแต่สิ่งที่ดี สร้างมโนกรรมทางบวกให้กลายเป็นความเคยชิน จึงจัดว่าเป็นอาจิณณกรรม ซึ่งกรรมนี้ตามนี้จะปรากฏขึ้นในจิตก่อนตาย

  26. ยิ่งคิดลบจะดึงดูดให้เกิดเหตุการณ์ร้ายเข้ามา การจะกำจัดสิ่งเหล่านี้ออกจากชีวิตต้องคิดบวกเท่านั้น

  27. การคิดบวกจะเหนี่ยวนำให้ศัตรูคิดบวกด้วย ในที่สุดกรรมจะหมดสิ้นเลิกแล้วต่อกัน

  28. เมื่อมีเหตุการณ์ร้ายๆเกิดขึ้นซ้ำในชีวิตคุณคุณสามารถกำจัดได้ด้วยการคิดบวก  

  29. จงคิดบวกเสมอไม่ว่าสถานการณ์ใดๆ

  30. พูดแต่สิ่งดี คิดแต่สิ่งดี ทำแต่สิ่งดี จิตใต้สำนึกจะดึงดูดสิ่งที่เป็นบวกเข้ามาหา นำพาคุณไปสู่สิ่งที่ดี  

  31. ถ้าอยากปลี่ยนวิถีชีวิตตัวเองจนเริ่ม ณ บัดนี้ หากคุณฝึกเจริญสติ รู้ทันความคิดความรู้สึกได้มากเพียงใด ชีวิตของคุณก็จะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นเรื่อยๆ มากเพียงนั้น

    เรียบเรียงจากหนังสือ เดอะ ท๊อป ซีเคร็ต 
    ผู้เขียน - ทันตแพทย์สม สุจีรา 




Create Date : 15 มีนาคม 2562
Last Update : 15 มีนาคม 2562 11:02:37 น. 0 comments
Counter : 505 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
space

สมาชิกหมายเลข 5152377
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






space
space
[Add สมาชิกหมายเลข 5152377's blog to your web]
space
space
space
space
space