ไม่ว่าจะตั้งใจมาเที่ยว หรือแค่แวะมา (แบบรีบๆ) ก็ตามแต่ เอาเป็นว่าตามมาค่ะ
มาแวะชมเมืองหลวงของฟินแลนด์ด้วยกัน
1. มหาวิหารเฮลซิงกิ ( Helsinki Cathedral, Helsingin tuomiokirkko) เชื่อว่าหลายคนน่าจะรู้จักดีค่ะ โบสถ์สีขาวสไตล์นีโอคลาสสิค สร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 1830 - 1852 โดยการออกแบบของ Carl Ludvig Engel สถาปนิกชาวเยอรมัน
โบสถ์ขาวถือว่าเป็น แลนด์มาร์คของเฮลซิงกิ ถ้ามาเฮลซิงกิ ควรแวะถ่ายรูปเกร๋ๆ นะคะ เดี๋ยวเขาจะว่า มาไม่ถึงเฮลซิงกิน๊าาา
เป็นโบสถ์ในนิกายลูเธอร์แรน ซึ่งเป็นนิกายที่คนฟินน์ส่วนใหญ่นับถือค่ะ
สังเกตได้ว่าโบสถ์ในนิกายนี้ จะเน้นความเรียบง่าย ไม่หรูหรา ใหญ่โต อลังการ ข้างในตัวโบถส์ ก็สวยงาม แบบเรียบๆค่ะ
เคยมาก็หลายครั้ง แต่เคยเข้าไปชมข้างในแค่ครั้งเดียวเองค่ะ เอาจริงๆ เมื่อก่อนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาให้เข้า ( แฮ่ะๆ)
รูปปั้นที่อยู่ด้านหน้าโบสถ์ คือรูปปั้นของ พระเจ้าอเลกซานเดอร์ที่ 2 แห่ง
รัสเซีย เป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการปฏิรูปฟินแลนด์
ในยุคสมัยที่ฟินแลนด์อยู่ภายใต้การปกครองของรัสเซีย
เป็นผู้หนึ่งที่มีส่วนสำคัญ ที่ทำให้ภาษาฟินแลนด์ ได้รับสถานะเทียบเท่ากับภาษาสวีเดน
และเป็นผู้สร้างรางรถไฟสายแรก ระหว่าง Helsinki - Hämeenlinna
นอกจากนี้ยังเป็นผู้ริเริ่มการก่อสร้าง Saimaan kanava (คลองน้ำ)
จากเมืองลัปเปนรันตะ (Lappeenranta) ไปยังเมือง วิปุริ ( Viipuri )
ประเทศรัสเซีย (แต่เดิมเป็นของฟินแลนด์) ที่ใช้เป็นเส้นทางสัญจร
เพื่อการค้าขายในสมัยนั้น และยังคงใช้สัญจรมาจนถึงปัจุบันนี้ค่ะ
ถ้ายืนหันหน้าเข้าทางโบถส์ ทางด้านขวามือจะเป็น อาคารที่ทำงานของรัฐบาลของฟินแลนด์ โดยส่วนตัวแล้ว ชอบบรรยากาศ บริเวณรอบๆโบสถ์ขาว ในช่วงฤดูหนาวมากค่ะ (หน้าร้อนก็สวยไปอีกแบบ แต่ มุลชอบช่วงหน้าหนาวมากกว่า )
ยิ่งถ้ามองลงมาจากด้านบนของโบสถ์ วิวบริเวณนี้ ยิ่งสวยมากๆเลยค่ะ
2. Uspenskin katedraali จากโบสถ์ขาว เดินมาทาง ถนน Aleksanterinkatu เดินมาเรื่อยๆ จะมองเห็น Uspenskin katedraali ตั้งตะหง่านอยู่บนเนิน มองไปเป็นภาพที่สวยงามมากๆค่ะ
เป็นโบสถ์ในนิกาย ออร์ธอดอกซ์ ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปเหนือ และ ตะวันตก ออกแบบโดย Aleksei Gornostajev สถาปนิกชาวรัสเซีย
ข้างๆ จะเป็นท่าเรือ เป็นอีกจุดนึงที่มุลชอบมาก ขึ้นไปด้านบน สามารถมองเห็นวิวโบถส์ขาวด้วยค่ะ
ด้านหน้าโบสถ์จะมีสะพานเล็กๆ ชื่อว่า Rakkauden silta
สะพานแห่งความรักค่ะ มีคู๋รัก นำกุญแจที่เขียนชื่อตนเองและคนรัก แล้วนำไปล็อคไว้ที่ราวสะพาน พร้อมอธิฐานให้ความรักยืนยาว เก๋ดีเนาะ
มองไปรอบๆตัว มันสวยอ่ะ
ข้ามถนนมา เจอท่าเรือ มองขึ้นไป เห็นตัววิหารอยู่ด้านบน
พอไปยืนอยู่ตรงนั้น อดไม่ได้ ที่จะกดชัตเตอร์ รัวๆ ตามประสาคนบ้าถ่ายรูป ฮ่าๆ
3. National Museum of Finland หรือ Suomen kansallismuseo พิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งชาติฟินแลนด์ ภายในมีจัดแสดง โบราณวัตถุ บอกเล่าประวัติความเป็นมาของฟินแลนด์ วิถีชีวิตของคนฟินน์ ก่อนเข้าสู่ยุุคอุตสาหกรรม
มีค่าเข้าชมนะคะ แต่ถ้าใครชอบทางนี้ ไม่ควรพลาดค่ะ
ขอบคุณภาพจาก Pizabay ค่ะ
4. Temppeliaukion kirkko ( Rock Chruch ) หรือโบสถ์หิน ก็ตามชื่อเลยค่ะ เป็นโบสถ์ที่สร้างจากการระเบิดหินลงไป
โดยการออกแบบของ สองพี่น้องสถาปนิค ชาวฟินแลนด์ Timo และ Tuomo Suomalainen
นอกจากโบสถ์ขาวแล้ว Rock Chruch ก็เป็นอีกสถานที่หนึ่ง ที่นักท่องเที่ยวนิยมไป เป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทาง เมื่อมาเยือนเฮลซิงกิค่ะ
คือข้างในสวยมากๆ ไม่ได้ใหญ่ อลังการ แต่สวยเรียบ ตามสไตลส์ฟินแลนด์ แลดูเล็กๆ แต่มีที่นั่งจุคนได้ถึง 750 ที่นั่งเลยค่ะ
ความโดดเด่นอีกอย่างของโบสถ์นี้คือ ตัวหลังคาโบสถ์ทำมาจากหินแกะสลัก สวยงามมากค่ะ
มองภายนอกแทบไม่รู้ว่าเป็นโบสถ์ อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองมากนัก
สามารถเดินถึงค่ะ มีค่าเข้าชมนิดหน่อยค่ะ โบสถ์ตั้งอยู่ที่ Lutherinkatu 3
จาก National Museum of Finland สามารถเดินถึงค่ะ
บริเวณด้านหน้าทางเข้าโบสถ์
5. Suomenlinna เป็นอีกสถานที่ ที่ไม่ควรพลาดนะคะ แต่ขอ ยกไปโพสหน้า ก็แล้วกันค่ะ จะได้ไม่ยาวจนเกินไป เจอกันบล็อกหน้านะคะ
เพิ่งจะได้เห็นภายในประเทศก็จากที่นี่ละค่ะ
ขอบคุณนะคะ