Facebook เป็นเหตุ...ให้เครียด
เรื่องของเรื่องเริ่มมาจากว่าเรา อยากเล่น facebook อยากจะรู้ว่ามันเป็นยังไง เห็นใครๆเค้าก็เล่นกันอ่ะ เลยสมัครเล่นดูแต่ว่าเมื่อสมัครแล้วก็ต้องมี "เพื่อน"
ตายละหว่า!!! ...จะหาเพื่อนได้จากที่ไหน? แล้วสิ่งแรกที่แว๊บเข้ามาในสมองคือ"เพื่อนร่วมงาน"
รุ่งขึ้น....เราก็เลยแนะนำให้เพื่อนร่วมงานสมัครซะเลยอ้างเหตุผล 108 อย่างโน้น อย่างนี้ จนพี่ๆที่ทำงานเค้าสมัครกันเกือบครบทุกคน
แต่...มีพี่อยู่คนหนึ่งเป็นผู้หญิงอายุก็ประมาณ 40 นิดๆ ไม่่ค่อยสันทัดเรื่องคอมพิวเตอร์เท่าไหร่ (ออกแนวค่อนข้างไม่ชอบไอ้เรื่องอินเตอร์เน็ตเท่าไหร่)เราก็เห็นว่าอยู่ห้องเดียวกันกับที่เราทำงานอยู่ อยากให้เค้าสมัคร(จะได้เลิกแอนตี้เรื่องอินเตอร์เน็ตบ้าง) เลยจัดแจงสมัครให้เค้าซะเลย
มันก็เลยเป็นเรื่อง...ที่ทำให้เครียดจนทุกวันนี้
อย่างแรกขอแจงคุณสมบัติพี่เค้าก่อนนะ
- ผู้หญิง อายุก็ประมาณ 40 นิดๆ อารมณ์ร้อนเชื่อมั่นในตัวเองสูง ไม่ยอมรับสิ่งใหม่ๆที่เข้ามา ขี้โวยวาย เจ้าระเบียบโมโหง่ายแต่ก็หายไว
- แต่งงานแล้ว
- มีลูกแล้ว เป็นผู้ชาย อายุประมาณ 14 ปี
ดูคุณสมบัติรวมๆแล้วก็ดูดีครอบครัวสุขสันต์อ่ะ
เมื่อเราแนะนำให้พี่เค้าเล่นเฟสได้สักประมาณอาทิตย์นึงพี่เค้าก็เริ่มมีเพื่อน และก็มีเพื่อนพี่เค้าอยู่คนนึง เป็นทหารรู้สึกว่าจะคุยกันถูกคอมากกกก ทหารคนนั้นก็อายุน้อยกว่าประมาณ 15 ปีอยู่ต่างจังหวัด
พี่เค้าเริ่มคุยได้สักประมาณ2 อาิทิตย์ก็มาบอกว่าอยากได้เบอร์โทรศัพท์ ทหารคนนั้น แต่ว่าให้ส่งมาทางอีเมล์นะ เราก็จัดการให้เรียบร้อย แต่ก็บอกพี่เค้าไปว่าคุยเล่นๆ ไม่ต้องจริงจังก็ได้ เพื่อนในอินเตอร์เน็ตมันไม่ค่อยจริงใจซะเท่าไหร่และอีกอย่างอายุก็ขนาดนั้น แต่งงานแล้ว มีลูกแล้ว ฯลฯ(คิดเข้าข้างตัวเองว่าพี่เค้าคงน่าจะเข้าใจว่าโลกอินเตอร์เน็ตเป็นยังไง)
พอทุกสิ่งทุกอย่างมันลงตัวเฮ้อ..อ (พร้อมทั้งเฟสและเบอร์โทรศัพท์) พี่เค้า กะ ทหารคนนั้น ก็ติดต่อคุยกันมากขึ้น ไปมาหาสู่กันบ่อยขึ้นจนถึงขนาดไปค้างคืน จนกระทั่งกลายเป็นเรื่องลุกลามใหญ่โต
...ใหญ่มากกกก
มากจนเวลาล่วงเลยมาได้ประมาณ6-7 เดือน พี่เค้ากะทหารคนนั้นก็เกิดความสัมพันธ์กันแนบแน่นมากกก สังเกตได้จาก
-ช่วงวันศุกร์ก็จะเอาเสื้อผ้าแล้วไปนอนที่บ้านทหารคนนั้นแล้วค่อยกลับมาทำงานวันจันทร์
-บอกรักบอกคิดถึงหน้าเฟสถึงทหารคนนั้นทุกวัน
- โทรศัพท์แล้วคุยเสียงเบามากกว่าปกติ (ปกติพี่เค้าคุยทีได้ยินกันทั่วห้อง)
-เดี๋ยวนี้โปรแกรมใหม่ๆ อัพเดตตลอด
-รู้ด้วยว่าพี่เค้าแต่งงานแล้ว มีลูกแล้ว แต่..ทหารคนนั้นก็บอกว่า รอได้
มาถึงณ เวลานี้ ล่วงเลยเวลามาได้ประมาณ 8 เดือนเศษผลลัพธ์ที่พี่เค้าได้เรียนรู้การเล่นเฟสคือ
- เปิดเผยแฟนคนใหม่ (ที่เป็นทหาร) ออกหน้าออกตายอมรับหน้าตาเฉยว่าเป็นแฟนกัน
-ลูกเต้าไม่สนใจ ปล่อยไปไม่ค่อนใส่ใจโทรหาแม้ว่าจะเป็นผู้ชาย แต่ก็ยังวัยรุ่นอยู่
สุดท้ายและท้ายสุด ...หย่า..กับสามีคนเก่าเพื่อไปหาสามีคนใหม่ที่เป็น ทหาร (ดูสิสิ่งที่มันรอ สมหวังมันซะทุกอย่าง)
จุดจุดนี้ไม่อยากคิดเลยว่าเรา จะทำให้ครอบครัวเค้าแตกแยกกัน มันบาปมากเห็นหน้าพี่เค้าทุกวันก็เครียด แม้พี่ๆที่ทำงานจะบอกว่าพี่เค้าโตแล้วเค้าตัดสินใจของเค้าเอง แต่...เราเป็นคน เปิดประตู ให้คนสองคนเค้ามาเจอกัน
หัวหน้าที่ทำงานเคยบอกพี่เค้าว่ามันผิดนะ พี่เค้าก็ตอบว่า รู้และยังพูดประโยคนึงมาว่า ตอนที่มีความทุกข์ไม่มีใครมาทุกข์กับเขา แต่พอเขามีความสุข ใครก็อย่าห้าม
ยอมรับตรงนี้เลยว่าตัวเราเองนั้นเลิกเล่นเฟสไปแล้ว เสียใจจริงๆ ไม่คิดว่ามันจะบานปลายอย่างนี้บาปมากๆๆ ทุกวันนี้ไม่อยากเจอหน้าพี่เค้าเลย แต่ก็ไม่แสดงออกอะไรมากแค่พี่เค้าเดินเข้าห้องเราก็ออกจากห้อง แต่ก็คุยทักปกติแต่ส่วนในใจลึกๆอยากเดินไปบอกกับพี่เค้าว่าเราเสียใจมาก เครียดมากคิดมาจนถึงทุกวันนี้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้น มันเป็นเพราะ...เรา...
แค่เพียง...พี่เค้าไม่รู้จักเฟสบุ๊คแค่เพียง...พี่เค้าไม่สนใจโลกอินเตอร์เน็ต แค่เพียง....เราไม่สนับสนุนเค้าให้ได้เบอร์โทรศัพท์ของกันและกันเรื่องมันก็คงไม่เกิดขึ้น เค้าสองคนก็คงไม่รู้จักกัน...
สิ่งหนึ่งถ้าย้อนเวลากลับไปได้จะแก้ไขทุกอย่างไม่ให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้น เสียใจ เสียใจจริงๆ....
แต่มันเป็นกรรมของเค้า ชะตาชีวิตของเค้าถูกกำหนดมาแล้ว มันไม่อาจแก้ไขอะไรได้
ถ้าคุณไม่สบายใจ ก็ทำบุญแผ่ส่วนกุศลให้เค้าด้วยก็ได้ คิดดีทำดีไว้ อะไรที่รู้ว่าหนักก็อย่าแบก ปล่อยวางซะบ้าง สิ่งที่เราไม่รู้ สิ่งที่เราไม่ได้ตั้งใจ ไม่บาปหรอก
...คิดมาก ทำให้ทุกข์ใจซะปล่าวๆ