Group Blog
 
 
กรกฏาคม 2551
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
21 กรกฏาคม 2551
 
All Blogs
 
ยารักษาสิวและรอยแดง รอยดำ

เริ่มจากตัวแรกเลยนะครับ คือ Benzoyl peroxide (BP)

ที่ผมใช้คือ Benzac 2.5% กับ Panoxyl 10% เพื่อรักษาสิวอุดตัน

Benzac คือ BP in water base ส่วน Panoxyl คือ BP in alcohol base

โดยใช้ทาก่อนล้างหน้า จาก 10 นาทีแล้วเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามระยะเวลา

ซึ่งตอนนี้ผมใช้ Benzac 2.5% ทาทิ้งไว้ทั้งหน้าประมาณ 1 ชม ก่อนล้างหน้า

ส่วน Panoxyl 10% จะใช้ทาเฉพาะจุดที่มีการอุดตันทับ Benzac 2.5% อีกที

ผมใช้ 2 ตัวนี้ในตอนเย็น ส่วนตอนเช้าจะใช้อีกตัว เด๋วจะกล่าวถึง :)

หรับคนที่เริ่มใช้แนะนำเป็น Benzac 2.5% ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาทีแล้วค่อยๆเพิ่มขึ้นนะครับ

ที่แนะนำ Benzac 2.5% เพราะ Panoxyl ใช้แล้วหน้าแห้งมากกกกกก

และให้ใช้ 2.5% เพราะ 2.5% 5% 10% ผลที่ได้ในการรักษาสิวต่างกันไม่ถึง 5% ครับ



ตัวต่อไป คือ ล้างหน้า

ใช้ Acne-Aid gentle กับ Anti comedone soapless

ผมใช้ Acne-Aid gentle ตอนเย็น และ Anti comedone soapless ตอนเช้า

ที่ใช้ Acne-Aid gentle เนื่องจากตอนแรกจะไปซื้อ Acne-Aid ที่สีแดง

แต่พอถามราคาAcne-Aid gentle เค้าบอกว่า 65 บาทถูกมากกกกกกกกกกกกกกกกกก

เลยซื้อมา 6 อัน ตอนนี้ยังใช้ไม่ถึง 3 อันเลย :P

พอไปดูราคาที่ boot ก็ประมาณ 145 บาท ถึงรู้ว่าเค้าขายราคาให้ผิด ดีจัง 555+

ก็เลยกลับไปที่ร้านขายยาที่ซื้อมา แต่ไม่ได้จะกลับไปบอกนะว่าเค้าขายราคาผิด :P

แต่จะซื้อมาเพิ่มอีก คราวนี้เค้าบอกราคา 120 เลยยังไม่ซื้อดีกว่า 555+

พูดมาซะยาว สรุปว่า ใช้ Acne-Aid gentle ดีครับ สะอาดดี สิวไม่ค่อยขึ้น
(แต่ไม่ค่อยต่างกับ Acne-Aid สีแดง ตัวเก่าอะครับ สรุป ใช้อันไหนก็ดีทั้งนั้น)

ส่วนตอนเช้าใช้ Anti comedone soapless เพราะรู้สึกว่าล้างอ่อนๆมาก เนื่องจากเป็นเจล ไม่มีฟอง



ลืมตัวนี้อะครับ ที่บอกว่า ทาก่อนล้างหน้าตอนเช้า

ACNE cream ของ Dr.somchai

เป็น Salicylic acid ครับ สำหรับผมทาไว้ก่อนล้างหน้าตอนเช้า ประมาณ 10 นาที เนื่องจากถ้านานกว่านั้น เด๋วไปทำงานไมทัน :P

ที่ใช้เพราะซื้อมาเก็บไว้ 3 อัน ยังไม่หมดเลย เลยใช้ไปให้หมด

สำหรับผม ผมว่า BP ดีกว่าอะครับ ถ้าอันนี้หมดคงเลิกใช้อะครับ

และตอนเช้าก็คงไม่ทาอะครับ เด๋วไปทำงานไม่ทัน :P

ตัวต่อไป คือ isotretinoin 0.1%

ผมใช้ 2 ยี่ห้อ คือ Differin และ Isotrex ใช้ทารักษาสิวอุดตัน ตอนกลางคืน

โดยทั้ง 2 ตัวนี้ claim ว่าทำให้เกิดการระคายเคืองได้น้อยกว่ายารุ่นแรก คือ Retin A นั้นเอง

โดย Differin จะมี adapalene 0.1% ซึ้งเป็น third หรือ fourth generation (จำไม่ได้ :P) ของ isotretinoin 0.1% ซึ่งเกิดการระคายเคืองน้อยกว่า

ส่วน Isotrex เป็น isotretinoin เหมือนกับ Retin A แต่ระคายเคืองน้อยกว่าตรับ

โดยในการใช้ยาแรกอาจจะมีสิวเห่อได้และจะหายไปเองใน 2-8 สัปดาห์
(เรื่องการทำงาน ผมไม่ขอพูดนะเด๋วยาว เอาเป็นว่ารักษาสิวอุดตันครับ)

สำหรับคนที่ใช้แล้วสิวลดลง อาจจะลดปรืมาณในการทาลงเป็นวันเว้นวันก็ได้ครับ แต่ควรจะทาเรื่อยๆ เพื่อ maintance ไม่ให้สิวขึ้น อีกครับ

โดยจะใช้ในคนที่ กิน isotretinoin ด้วยก็ได้ครับ แต่เมื่อเลิกกินแล้วก็ควรทาต่อไปเรื่อยๆ แต่ลดความถี่ลงได้นะครับ

ที่ให้ทาตอนกลางคืน เนื่องจากยากลุ่มนี้จะไวต่อแสงแดดมาก (แสงไฟไม่เป็นไรครับ) ถึงแม้ Differin จะ claim ว่าไม่ไวต่อแสงแดด แต่ก็ไม่ควรทาครับ

ที่ผมใช้ Isotrex สลับกันไปเนื่องจาก มีรายงานวิจัย (จริงๆนะครับ) ว่า isotretinoin สามารถกระตุ้นการสร้าง collagen ได้ดีกว่า adapalene เมื่อใช้ติดต่อกันเป็นเวลา 4-6 เดือน ครับ (^-^)

ส่วนผลเสีย ยังไม่มีรายงานว่าทาที่ผิวแล้วสามารถดูดซึมเข้ากระแสเลือดได้ครับ แต่เค้าก็ห้ามใช้ในคนท้อง โรคตับ ไต และอื่นๆมากมาย ไม่ขอกล่าวนะครับ



ตัวต่อไป คือ Clindamycin

ผมใช้ 2 ตัว คือ Clinda-M กับ Cliene ใช้ทาสิวอักเสบและป้องกันสิวอักเสบครับ

ตัวยาไม่ต่างกันครับ แต่ต่างกันตรง Cliene มันเป็นเหมือนแปรงเล็กสามารถแต้มเฉพาะจุดได้ พกพาได้ง่าย

จริงๆแล้ว ตัวนี้ผมทาทั่วหน้า ยกเว้นตรงแก้ม (เด๋วจะบอกว่าทำไม) โดยทาก่อนทา Differin ครับ

ใช้แล้วก็ดีครับ สิวไม่ค่อยขึ้น คงจะใช้ไปเรื่อย อย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้เกิดการดื้อยาอะครับ

ส่วนทาตอนสิวอักเสบ สำหรับผมรู้สึกว่าก็งั้นๆ ช่วยได้นิดหน่อยเองครับ โชคดีที่ผมไม่ค่อยมีสิวอะครับ แต่คนอื่นผมไม่รู้นะครับว่าผลเป็นไง



ตัวต่อไป คือ Erythromycin

ที่ผมใช้ คือ Eryacne

ทาเหมือน Clindamycin ครับ แต่ .................

ทาเฉพาะตรงแก้มนะครับ เนื่องจากเคยอ่านเจอในวารสาร dermatology ของต่างประเทศว่า เชื้อ P. acne ที่แก้มจะ sensitive กับ Erythromycin มากกว่า Clindamycin


อีกตัว คือ แป้งน้ำทาสิว

ส่วนประกอบ ลืมไปแล้ว 555+

ผมไม่ได้หาหมอที่นี้นะครับ แต่ฝากเพื่อนซื้อ แล้วฝากเพื่อนถามหมอ หมอก็บอกมาแล้ว แต่ผมลืมไปแล้ว

เอาเป็นว่ามัน ทาสิวอักเสบอะครับ

ใช้แล้ว เอ้ย ยังสิ .... ตั้งแต่ซื้อมายังไม่เป็นสิวเลย เกือบ 2 เดือนละ ไม่รู้หมดอายุไปยัง หรือมันกลัวผมใช้มันหมด ดีจัง .... ซื้อมาขู่สิวได้ด้วย 555+

ตัวต่อมาเป็น รอยดำแล้วครับ

ตัวแรก ชื่อ 20%AZ (ของคลินิกนะครับ)

ส่วนใหญ่จะใช้ทารอยดำที่เกิดจากการฉีดสิวอะครับ พอฉีดแล้วมันจะเป็นรอยดำ ทาตัวนี้สัก 6-7 วันก็จะจางลงเยอะเลยครับ

ส่วนรอยดำที่เกิดนานแล้วก็ได้ผลนะครับ แต่จะนานกว่าประมาณเกือบเดือน

ส่วนรอยแดงทาแล้ว ไม่หายอะครับ (T-T)

เห็นเพื่อนที่จบผิวหนังโดยตรง บอกว่าไม่มียารักษารอยแดงหรอกครับ มันจะจางไปเองภายใน 4-6 เดือน ถ้าจะให้เร็วกว่านั้นคงจะต้องเป็น Laser พวก Nd-YAG ครับ ซึ่ง V beam ก็เป็นหนึ่งในนั้น มันจะไปทำให้ hemoglobin บริเวณรอยแดงลดลง

ผมก็เคยทำมาแล้วทุก 2 อาทิตย์ ทำมาประมาณ 10 ครั้ง ก็พบว่ารอยแดงลดลง แต่ผมคิดว่ามันจางลงจากการหายของมันเองมากกว่า :P



ตัวต่อไป คือ MelaKlear

โดยส่วนตัวผมใช้ทั้งกับรอยดำ รอยแดงไม่ได้ผลเลยยยยยครับ

แต่ก็ยังคงใช้ต่อไป เพราะยังไม่หมดและหวังว่าสักวันนึงคงจะได้ผล

ถ้าหมดแล้วไม่มีทางซื้อต่อแน่นอน...... บาย ๆๆๆ MelaKlear


ตัวสุดท้ายละครับ เด๋วจะเยอะเกิน เด๋วโดนว่าอีก 555+

คือ Cybele Scagel

อันนี้เพิ่งซื้อมาประมาณ 2 อาทิตย์ แต่ใช้แล้วดีมากๆๆๆๆๆ

ที่ได้มาเนื่องจาก ไปทำ dermaroller มาแล้วหมอ(เพื่อนผมเองแหละ)แนะนำให้ใช้ Erase

แต่พอไปร้านขายยาที่ซื้อประจำ (เป็นร้านขายส่ง) เค้าบอก ... ประโยคตามนี้เลย

พนักงาน : คุณหมอค่ะ อันนี้ดีกว่า Erase นะค่ะ ถูกกว่าด้วย
ผม : ไม่สนราคาอะ (รวยปะ 555+) ขอให้ดีเป็นพอ แน่ใจนะว่าดี
เป็น sale ยี่ห้อนี้ป่าวเนี้ย ถึงเชียร์เหลือเกิน (ไปด่าเค้าอีก) 555+
พนักงาน : ป่าวค่ะ หนูใช้เอง ทั้ง 2 ยี่ห้อแล้ว อันนี้ดักว่าเลยบอกคุณหมอไง
เห็นว่ามาซื้อประจำ ถ้าไม่ใช่ลูกค้าประจำไม่บอกหรอก
(แหม ปากดีนะเนี้ย) ดูหน้าหนูดิ ดีป่าวละ
ผม : (เงยหน้ามอง) แล้วบอกเอา Erase ดีกว่า 555+ พนักกงานอึ้งไปเลย
สุดท้ายมองหน้าเค้าดีๆ ต้องดีๆด้วยนะ ก็เออ.... เอาอันนี้ก็ได้

ลองเอามาใช้ดูเห็นมี สปก คล้ายๆกัน กลัวเค้าจะเสียน้ำใจ

พอเอามาลองใช้ดู ก็รู้สึกว่าดีมากกกกกกกกกกกก แก้มเป็นสีชมพูเลย (เวอร์ไปป่าว) จริงๆแล้ว เป็นจากไปทำ DMR มาครับ

แต่ใช้แล้วแผลจาก DMR หายเร็วมากๆ และก็รอยต่างๆก็จางลงนิดนึงครับ

สรุปว่าดีครับ คงจะใช้ต่อไปเรื่อยๆ




Create Date : 21 กรกฎาคม 2551
Last Update : 21 กรกฎาคม 2551 11:51:49 น. 8 comments
Counter : 35994 Pageviews.

 

น่าซื้อแป้งน้ำมาขู่สิวมั่งจัง เหอๆ
อ่านได้ความรู้ด้วยฮาด้วยได้อีก55+
ไว้คุณหมอลงวิตามิน อาหารเสริมมั่งนะ ตามมาอ่าน


โดย: NonGFanG วันที่: 22 กรกฎาคม 2551 เวลา:18:28:02 น.  

 
อิอิ จะรีบไปถอย cybele scagel มาลอง ด่วน!!!!

ขอบคุณสำหรับรีวิวดีๆจ้า


โดย: กระเทียมโทน (กระเทียมโทน ) วันที่: 21 สิงหาคม 2551 เวลา:22:42:19 น.  

 
Reveiw ดีมากเลยค่ะ
ขอบคุณมากเลยนะคะ
จะไปซื้อตามค้า


โดย: มิกิโกะ วันที่: 21 สิงหาคม 2551 เวลา:23:43:18 น.  

 
กำลังสนใจพอดีเลยยย ย

พวกรักษาสิวเนี่ย หน้าพึ่งแพ้มา... ^^

ขอบคุณๆที่รีวิวค่ะ


โดย: เมย์ (cHoCz ) วันที่: 31 สิงหาคม 2551 เวลา:16:17:33 น.  

 
โอ้ ละเอียดดีค่ะ
กำลังใช้ BP เพื่อรักษาสิวอยู่พอดีเลย
Dr.Somchai ก็ใช้


โดย: kurapik วันที่: 13 กันยายน 2551 เวลา:15:03:48 น.  

 
โอ้...ขอบคุณมากค่ะ
กำลังกลุ้มใจกะสิวตัวเองพอดี
ขอ add หน่อยนะค้า


โดย: ประกายแก้ว วันที่: 6 ตุลาคม 2551 เวลา:9:08:20 น.  

 
ตามมาอ่านรีวิวคะ

ขอบคุณที่มารีวิวนะคะ

อยากถามเรื่อง ISOTREXIN ค่ะ พอดีได้จากหมอที่ รพ มา

แต่ยังไม่ได้ใช้คะ มันเป้รตัวเดียวกับที่คุณหมอให้รึป่าวอ่ะคะ

ของอีฟเปงสีเขียวอ่ะคะ ฉลากไม่เหมือนกัน แหะๆๆ

ส่วนสกาเจลหลอดนี้เอามาทาแผลเป็นที่แขน ไม่เคยทาที่หน้า

ไม่ทราบว่าทาที่หน้าสิวจะขึ้นมั้ยอ่ะคะ แอบแลัว เพราะตอนนี้สิวบุกไม่ปล่อยเรย

ดูตัวเองในกระจกแล้วกลุ้มมั๊กๆๆ แหะๆๆๆแอบบ่นจิ๊ดนุง


โดย: eve (แม่นางเล็บแดง ) วันที่: 11 ตุลาคม 2551 เวลา:16:07:26 น.  

 
Isotrex ตัว Isotretinoi กระตุ้นคอลลาเจนได้ดีกว่า Adapalene ก็จริง แต่เปอร์เซ็นต์ความต่างน้อยมากนะครับ เปอร์เซ็นต์หลัีกเดียว แต่ผลข้างเคียงอื่นๆต่างกันมาก
ตัว Isotrex อยู่ในเบส Lกฮ (ในปริมาณที่เยอะด้วย) ยิ่งเพิ่มโอกาสต่อการระคายเคือง แห้งกร้านได้มากกว่าไปอีก
พิจารณา ส่วนได้ ต้องพิจารณาส่วนเสียด้วยครับ
สู้ๆ


โดย: NU (To Write ) วันที่: 24 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:14:42:33 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

dentton
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add dentton's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.