ภาพชุดนี้เป็นรูปเก่าๆ ที่ถ่ายไว้ตั้งแต่ 2 ปีก่อนค่ะ แต่ยังไม่เคยเอามาลง bloggang
(ดูจากลายน้ำบนภาพก็จะเห็นว่าเอาไปลงที่อื่นมาแล้วอ่ะนะคะ อิอิ)
คงไม่น่าเกลียดมั๊งคะ ถ้าจะเอามาลงในบล๊อคนี้อีกที แบบว่าทำเป็น port folio ไว้น่ะค่ะ
ถึงจะหลาย signature แต่ก็เป็นคนๆ เดียวกันล่ะนะ

บ้านที่อยู่เป็นทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น สภาพกลางเก่ากลางใหม่ ที่ทำงานเค้าหาเช่าให้น่ะค่ะ ก็อยู่มาเป็นปีแบบไม่คิดจะทำอะไรนอกจากทำความสะอาด แต่ว่ามันก็ร้อนเหลือเกิน เพราะหน้าบ้านหันไปทางทิศตะวันตก รับแดดบ่ายไปเต็มๆ
ยิ่งฝั่งตรงข้ามมีก่อสร้างซะอีก ทั้งฝุ่น ทั้งแดด อยู่ไม่ไหวจริงๆ ค่ะ

เลยเกิดความคิดดีๆ ไหนๆ โลกมันก็ร้อนขึ้นทุกวันๆ เรื่องอะไรจะต้องติดแอร์เพิ่มที่ชั้นล่างให้สิ้นเปลือง

ปลูกต้นไ้ม้ดีกว่า

ว่าแล้วก็ชวนเพื่อนคู่ใจวางแผนจัดการโรงรถร้อนๆ ให้กลายเป็นสวนเย็นๆ ... นี่แหละค่ะ

ทีแรกก็ไม่คิดจะปลูกเยอะ แค่อยากทำสวนหินและอยากเลี้ยงปลาหางนกยูง แซมด้วยต้นไม้นิดๆ หน่อย เพื่อลดแสงสะท้อนจากพื้นโรงรถที่ปูด้วยกระเบื้องโทนสีขาว






ไม่อยากจะบอกว่า... เกิดมาไม่เคยปลูกต้นไม้ได้รอดสักที ขนาดกระบองเพชรยังตาย ปลูกอะไรก็ไม่เคยขึ้นงาม ... หุ หุ
แต่งานนี้ ยังไงๆ ก็จะลองอีกที คราวนี้เอาให้เต็มรูปแบบ จะรอดไม่รอดก็ไม่รู้ แต่คอนเซปท์ดีไว้ก่อน
ถ้าฟลุ๊คสำเร็จขึ้นมา นอกจากบ้านจะสวยน่าอยู่ขึ้นแล้ว ก็ยังช่วยลดโลกร้อนได้อีกด้วย ... อืม ... ดี


แต่พอไปช้อปที่งานต้นไม้ ... มันก็กลายเป็นแบบนี้อ่ะ





สาวนักช้อป ยังไงๆ ก็ยังเป็นสาวนักช้อปอยู่วันยังค่ำ ... ต้นไม้ก็ช้อปมาซะเต็มสตรีม
แต่ทำแล้วรู้สึกดีนะคะ บ้านเย็นขึ้นเยอะเลยค่ะ เพราะต้นไม้นอกจากจะคายน้ำทำให้เพิ่มความชื้นในอากาศแล้ว หินและอิฐในสวนหย่อมยังทำให้พื้นโรงรถเย็นลง และลดแสงสะท้อนอีกด้วยค่ะ

คุณพ่อ คุณแม่มาเห็นเข้าถึงกับตกใจ ... ลูกสาวเปลี๊ยนไป๋ .. 555

ปิดท้ายด้วย combination สวยๆ ต้นไข่มุกและพรมออสเตรเลียค่ะ



ขอให้ทุกท่านมีความสุขนะคะ