ตั้งแต่วันที่ 5 มีนาเป็นต้นมา ทางกรมอุตุก็ได้ประกาศว่า
ประเทศไทยเราเข้าสู่ฤดูร้อนอย่างเป็นทางการแล้วนะคะ
สำหรับคนไทยส่วนใหญ่คงจะบ่นกันว่า ไม่ชอบเลยฤดูร้อน
เพราะร้อนจนเหงื่อออกเยอะ เหนียวตัว เหม็นเหงื่อ ทำให้เหนื่อยง่าย
ทำอะไรก็พาลจะหงุดหงิดโมโหได้ง่าย

แต่สำหรับเรา เรากลับชอบฤดูร้อนนะคะ
(อาจจะเพราะเราเป็นเด็กอีสานที่ทนอากาศร้อนได้ดีมั้ง)
เพราะเป็นฤดูที่เราได้เห็นดอกไม้สวย ๆ พากันบานอย่างพร้อมเพรียงกัน
สมัยที่เรายังเป็นนักศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น
เราจะคอยให้ถึงฤดูร้อนทุกทีเลยค่ะ เพราะดอกกัลปพฤกษ์
ซึ่งเป็นดอกไม้ประจำมหาวิทยาลัยของเราจะบานเต็มต้น
สวยสะพรั่งไปทั้งแถบเลยค่ะ เหมือนอยู่ญี่ปุ่นอย่างไงอย่างงั้น
จนได้ชื่อว่าเป็นดอกซากุระแห่งอีสานค่ะ


(ขอบคุณภาพประกอบจาก https://travel.mthai.com/region/204758.html)

นอกจากดอกกัลปพฤกษ์แล้ว จังหวัดขอนแก่นก็ยังมีดอกไม้ประจำจังหวัด
ที่ออกดอกสวยงามไม่แพ้กัน นั่นก็คือ ดอกคูณค่ะ 
เวลาต้นคูณออกดอกก็จะออกเต็มต้น เป็นพวงสีเหลืองสดใส
และเลือกที่จะทิ้งใบเขียว ๆ ไปหมดเพื่อลดการคายน้ำในฤดูแล้งค่ะ


(ขอบคุณภาพประกอบจาก https://shopping7541.home.blog)

ดอกไม้ที่อวดดอกในหน้าแล้งอีกชนิดที่เรามักเห็นเป็นประจำก็คือ
ดอกทองกวาว หรือ ดอกจาน (ชื่อเรียกภาษาอีสาน)
ซึ่งจะชูช่อดอกสีส้มแดง มองไกล ๆ แล้วเหมือนคบไฟเลยค่ะ


(ขอบคุณภาพประกอบจาก https://th.wikipedia.org/wiki)

ดอกไม้อีกชนิดสวยงามไม่แพ้กันก็คือ
ดอกหางนกยูงฝรั่ง/ไทย ซึ่งจะมีหลายสีด้วยกัน เช่น สีส้ม สีเหลือง สีชมพูอมแดง


(ขอบคุณภาพประกอบจาก https://www.nee4garden.com)

ส่วนเวลาที่เรากลับบ้านที่โคราช ถนนทางไปอำเภอที่เราอยู่
จะมีต้นตะแบกตามทางเป็นระยะ ๆ ที่ออกดอกหน้าร้อนเหมือนกันค่ะ
สีจะออกสีม่วงอ่อน มีสีขาวแซม ๆ บ้าง 
ช่วยเพิ่มสีสันให้ถนนไม่น้อยเลย


(ขอบคุณภาพประกอบจาก https://phmahidol-bhusita.blogspot.com/2011/06/blog-post_9211.html)

ส่วนเวลาที่เรากลับมากทม. ในฤดูร้อน
ดอกชมพูพันธุ์ทิพย์ก็ไม่น้อยหน้าต้นไม้ชนิดไหน
ออกดอกสีชมพูสวยเหมือนกันค่ะ


(ขอบคุณภาพประกอบจาก https://home.kapook.com/view204532.html)


นอกจากนี้ เวลาถึงฤดูร้อนทีไร
มันทำให้เรานึกถึงสำนวนในภาษาอังกฤษที่เกี่ยวกับดอกไม้ทุกทีเลยค่ะ
โดยเฉพาะจากเรื่อง Mulan (1998) ซึ่งเป็นตอนที่มู่หลานรู้สึกเสียใจที่การดูตัว
กับแม่สื่อนั้นล้มเหลว แล้วเธอก็มานั่งเล่นในสวนคนเดียว ฝ่ายพ่อของมู่หลาน
ก็เข้ามาปลอบใจลูกสาวด้วยคำเปรียบเปรยเรียบ ๆ แต่แฝงความหมายลึกซึ้งมาก ๆ
นั่นก็คือ...



ซึ่งเป็นการให้กำลังใจในแบบของพ่อแม่ชาวเอเชีย
ที่มักไม่แสดงการบอกรักหรือไม่แสดงความห่วงใยตรง ๆ
แต่จะใช้วิธีพูดอ้อม ๆ หรือใช้การกระทำแสดงออกแทน 

หากแต่ คำว่า "รัก" ก็สำคัญ เพราะเป็นคำยืนยันว่า
เรานั้นรักใครคนหนึ่งจริง ๆ และอยากสื่อสารให้เขาได้รับรู้
ว่าเขานั้นมีความหมายและมีค่าต่อเรามากแค่ไหน

ฉะนั้นแล้ว คำว่า "รัก" จึงลึกซึ้งและมีความหมายมาก
ในเวลาที่เราได้กล่าวมันออกไปให้คนที่เรารักได้ยิน
ไปพร้อม ๆ กับการแสดงออกถึงความรักอย่างจริงใจด้วย

และที่น่าสนใจคือ ชื่อนางเอกของเรา ฮวา มู่หลาน (花木蘭)
ก็มีความหมายเกี่ยวกับดอกไม้เช่นกันค่ะ นั่นก็คือคำว่า Hua (花) นั้นแปลว่า ดอกไม้
ส่วน Mulan (木蘭) นั้นมีความหมายว่า ดอกจำปีป่าชนิดหนึ่งหรือดอกกล้วยไม้ป่า 
(magnolia blossom or wood orchid)


(ขอบคุณภาพประกอบจาก https://www.donga.com/news/Opinion/article/all/20180320/89179262/1)

คำว่า "Late Bloomer" หมายความว่า บุคคลที่อาจจะมีพัฒนาการ
ทางด้านร่างกาย จิตใจ สังคม อารมณ์ที่ช้าว่าคนอื่น หรือทำอะไรได้ช้ากว่าคนอื่น
หรือประสบความสำเร็จช้ากว่าคนอื่นที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกัน
หรืออาจแปลได้ว่า มีความแปลกแยกแตกต่างจากคนอื่น ๆ ได้เช่นกันค่ะ

ยกตัวอย่างเช่น เด็กสาวที่ขี้เหร่ที่อาจจะเติบโตขึ้นมาสวยผิดหูผิดตาในวัยสาว
หรือเด็กหนุ่มที่ขี้อาย ไม่กล้าแสดงออก แต่อาจจะกลายมาเป็น
ผู้บริหารระดับสูงในเวลารวดเร็ว อะไรทำนองนี้ค่ะ

สำหรับเรา เราชอบการที่เปรียบเปรยคนแต่ละคน
เป็น "ต้นไม้" หรือ "ดอกไม้" ต่างชนิดกันนะคะ
เพราะคนเรามีการเติบโตที่แตกต่างกัน มีสภาพร่างกายที่ต่างกัน
มีความคิด จิตใจ การแสดงออก ความถนัดที่ไม่เหมือนกัน
รวมไปถึงปัจจัยต่าง ๆ ในการเติบโตที่ไม่เหมือนกันด้วย

ก็เหมือนกันพืชพันธุ์ต่าง ๆ ในธรรมชาติที่ต้องการปริมาณน้ำ ดิน ปุ๋ย
สภาพอากาศ สภาพแวดล้อมที่ต่างกันในการเจริญเติบโต

ดังนั้น เราจะไปเร่งให้ต้นไม้นั้นออกดอกในฤดูฝนหรือฤดูหนาวไม่ได้
แต่เราต้องรอให้ถึงฤดูกาลของมัน มันจึงจะผลิบานอย่างสวยงาม
จริงมั้ยคะ ^_^

ขอให้ทุกคนเรียนรู้ตัวเองและคนรอบข้างผ่านวันเวลาอย่างลึกซึ้ง
จนได้เติบโตและเบ่งบานตามฤดูกาลของตัวเองนะคะ