Bloggang.com : LittleMissLuna : 10 ข้อตกผลึกเมื่อนึกถึง "ความรัก"

10 ข้อตกผลึกเมื่อนึกถึง "ความรัก"

ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ที่เรากลายเป็น "ที่ปรึกษา" ของคนทั่วไป เป็นเรื่องน่าแปลกที่ตามปกติเราดูไม่ใช่คนที่น่าเข้าหา พอเราไม่ยิ้ม หน้าเราก็จะดูพร้อมจะหาเรื่องใครได้เลย ทั้ง ๆ ที่ในใจเราตอนนั้นอาจจะไม่ได้โกรธหรือหงุดหงิดใด ๆ ทั้งสิ้น แต่มีหลายคนเคยบอกว่า ตัวเรานั้นให้ความรู้สึกแปลก ๆ เหมือนทำให้คนบางคนอยากจะเล่าอะไรให้ฟัง ซึ่งเราก็มานั่งนึกดูว่า เราก็ไม่ได้ทำอะไรนะ บางทีแค่นั่งเฉย ๆ ทำอะไรก๊อกแก๊กของเราไป

ทุกวันนี้เราได้เป็นที่ปรึกษาและคนรับฟังปัญหาของเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ หรือบางทีก็คนแปลกหน้ามามากมาย หัวข้อสุดคลาสสิกที่ต้องโผล่มา นั่นก็คือ "ความรัก" วันนี้เราก็เลยอยากจะงดโพสอะไรหนัก ๆ มาเป็นเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ บ้าง อาจจะเบาสมองมากขึ้น (รึเปล่า 55555) เป็น 10 ข้อที่เราตกผลึกนึกขึ้นได้จากการรวบรวมเอาประสบการณ์ของตัวเองและของคนอื่นที่เราได้รับฟังมาก เอามาถ่ายทอดเก็บไว้อ่านและเผื่อมีประโยชน์กับใครที่ได้เข้ามาอ่านค่ะ

(ทั้งนี้ 10 ข้อของเรามาจากประสบการณ์ส่วนตัวและการรับฟังคนอื่น ๆ มาผสมรวมกัน อาจจะตรงหรือไม่ตรงกับประสบการณ์ของใครหลาย ๆ คนก็ได้นะคะ เราไม่ได้จะมาบอกว่า สิ่งที่เราคิดถูกต้องทุกอย่าง เพียงแค่อยากเสนอความคิดเห็นส่วนตัวเท่านั้นค่ะ)

💖💖💖💖💖

1) ประสบการณ์ความรักที่เราได้เรียนรู้จากครอบครัว มีส่วนอย่างมากในการเลือกคู่ครองของเราในอนาคต เพราะรูปแบบความรักของพ่อกับแม่คือ "ความรักรูปแบบแรก" ที่เราเรียนรู้เมื่อยังเล็ก เมื่อเราเติบโตขึ้น เราจะเรียนรู้มากขึ้นว่า ความสัมพันธ์นั้นมีหลากหลายแบบ แต่รูปแบบความรักที่ "ฝังใจ" ของเรามากที่สุด คือ "ความรักที่ทำให้เราเติบโตมาได้" ซึ่งในบางครั้ง ความรักของพ่อกับแม่ มันก็ไม่ใช่ความรักหรือความสัมพันธ์ที่ดีหรือสมบูรณ์แบบเสมอไป ซึ่งก็ถือว่า เป็นเรื่องปกติของความสัมพันธ์ที่ต้องมีกระทบกระทั่งกันบ้าง เพียงแต่มันต้องไม่เลวร้ายจนเกินไป

💖💖💖💖💖

2) ผู้หญิงตกหลุมรักด้วยหู ผู้ชายตกหลุมรักด้วยตา ด้วยเหตุนี้ ผู้หญิงจึงแต่งหน้า ผู้ชายจึงแต่งเรื่อง ดังนั้น จงดูผู้ชายที่การกระทำ และจงดูผู้หญิงเมื่อหน้าสด แต่ท้ายที่สุดแล้ว ความเข้าใจ การยอมรับในตัวตนของกันและกัน ความรู้สึกปลอดภัยและความสบายใจเมื่อได้อยู่ใกล้กัน จะเป็นสิ่งที่ทำให้ความสัมพันธ์ไปรอด โดยไม่เกี่ยวกับหน้าตาหรือคำพูดแต่อย่างใดเลย

💖💖💖💖💖

3) เมื่อผู้หญิงพยายามพูดคุย ชวนคุย บ่น ซักไซ้ ตั้งคำถามกับคุณ นั่นหมายความว่า คุณยังคงสำคัญกับชีวิตเธอ เธอจึงอยากมีส่วนร่วม อยากเข้าใจความรู้สึกของคุณ อยากให้คุณเป็นคนที่ดีขึ้น หรือแม้กระทั่งอยากช่วยเหลือคุณถ้าหากเธอทำได้ ถ้าผู้หญิงเงียบกว่าปกติจากที่เคยเป็นและเฉยชากับคุณ แปลว่า คุณไม่สำคัญกับชีวิตเธออีกต่อไปแล้ว

💖💖💖💖💖

4) ประสบการณ์ความรักที่ผ่านพ้นไปของคนทุกคน ไม่เคยหายไปจากความทรงจำ มันจะเป็นเหมือนหยดสีที่หยดลงบนผืนผ้า แม้ว่าเราจะซักมันออกไป แต่เม็ดสีบางส่วนก็ซึมลึกลงในใยผ้า บางครั้งอาจทิ้งร่องรอยจาง ๆ เอาไว้เป็นเครื่องเตือนใจ ว่าครั้งหนึ่งเราเคยมีปฏิสัมพันธ์กับใครคนหนึ่ง และมันเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้น ความทรงจำของมนุษย์เป็นแบบนี้ กลไกในสมองไม่เคยทำให้เราลบลืมเรื่องราวใดได้อย่างหมดจดเหมือนไม่เคยเกิดขึ้น แม้เรื่องนั้นจะเป็นเรื่องที่เจ็บปวดเพียงใด เพื่อให้เราไม่ลืมความรู้สึกนั้นว่า ครั้งหนึ่งเราเคยเจ็บปวดหรือมีความสุขมากเพียงใด เพื่อให้เราหลีกเลี่ยงที่จะเจอเหตุการณ์แบบนั้น หรือพยายามที่จะนึกถึงความทรงจำประทับใจที่แสนสุขขึ้นมาอีกครั้ง

💖💖💖💖💖

5) ความรักกับเซ็กซ์ไม่เคยแยกขาดจากกันเหมือนที่คนเราพยายามแบ่งแยกมัน มันเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน เกี่ยวข้องกันไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เป็นจุดเริ่มต้นและจุดสุดท้ายที่อยู่ที่จุดเดียวกัน เหมือนวงกลมหรือวงจร เราทุกคนล้วนเกิดมาได้เพราะความรักและความใคร่ จะด้วยความตั้งใจหรือความผิดพลาดก็ตาม ความรักและเซ็กซ์เป็นเครื่องมือที่ธรรมชาติสรรสร้างเพื่อผูกมัดสัตว์โลกเอาไว้ให้สืบเผ่าพันธุ์ต่อไป การฝืนธรรมชาติจึงเป็นเรื่องยากของมนุษย์ เพราะเราล้วนเกิดมา ดำรงอยู่ และตายไปใต้กฎของธรรมชาติ ความรักและความต้องการทางเพศเป็นเรื่องปกติ ไม่ใช่เรื่องน่าอาย ไม่ใช่เรื่องผิดบาป สิ่งที่สำคัญคือ การเรียนรู้ที่จะจัดการความรู้สึกและความต้องการของตนเองให้ดี แม้เราจะอยู่ใต้กฎของธรรมชาติ แต่ก็อย่าลืมว่า เราก็ยังอยู่ใต้กฎของสังคมเช่นกัน

💖💖💖💖💖

6) ความรักที่ยั่งยืนยาวนานระหว่างคนสองคน ส่วนมากมักเป็นความรักที่มี "ความเป็นเพื่อน" ผสมอยู่ค่อนข้างมาก เพราะสุดท้ายแล้ว "ความรักและความหลงใหล" ก็คือ "สารเคมีในสมอง" ที่มีขึ้นมีลง มีจางหาย มีเปลี่ยนแปลงตามการเวลา แต่ "มิตรภาพ" นั้นเป็นรูปแบบของความสัมพันธ์ที่ทำให้คนสองคนอยู่ด้วยกันได้ เพราะมีการเข้าใจใน "เนื้อแท้" ของกันและกัน ลงรอยกันได้ ยอมรับในความแตกต่างของกันละกันได้ จึงอยู่กันยืดในที่สุด

💖💖💖💖💖

7) ความสวยงามเป็นดาบสองคมสำหรับผู้หญิง ความสวยงามของรูปร่างภายนอกของผู้หญิงอาจดึงดูดผู้ชายได้เยอะ แต่ปริมาณที่มากมายนั้นก็ไม่ได้มีแค่คนที่มีคุณภาพ แต่ยังรวมคนที่ไม่มีคุณภาพเข้ามาเยอะด้วยเช่นกัน แต่หากเธอไม่สวยเลย ก็จะไม่มีผู้ชายอยากเข้าหาและไร้ตัวตนในสายตาผู้ชาย ถ้าหากว่าเธอสวย เก่ง ฉลาด ดี เพียบพร้อมทุกอย่างมากเกินไป ก็จะกลายเป็นข่มผู้ชายไปโดยไม่ได้ตั้งใจ ผู้ชายก็จะรู้สึกด้อยกว่าและเอื้อมไม่ถึง และในบางที ผู้ชายบางคนก็เห็นผู้หญิงที่ครบเครื่องเป็น "ศัตรู" ไป เพราะส่วนตัว เราเคยเจอผู้ชายหลายคนที่ "จ้องจะหลอกฟัน" หรือ "จ้องจะทำลายเรา" เพราะเห็นว่า ตัวเองสู้เราไม่ได้ หรือตัวเองไม่สามารถเอาชนะใจเราได้ เขาจึงพยายามที่จะเอาชนะเราให้ได้ด้วยความแค้น ด้วยอารมณ์โกรธเคือง ไม่ว่าจะเป็นการใช้เรื่องเพศเข้ามาเป็นอาวุธ เช่น มาคุกคามเรา มาด่าเรา หรือแม้กระทั่งหาเรื่องแข่งขันเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อเอาชนะเราด้วยวิธีต่าง ๆ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมก็ตามเพื่อให้ตัวเองรู้สึกสบายใจขึ้นมาบ้าง ซึ่งเราก็เข้าใจในจุดนี้ เพราะคนเราต่างมีวิธีปรับสมดุลความรู้สึกของตัวเอง ไม่ว่าทางนั้นมันจะดีหรือร้าย สุดท้าย เราต้องเคยเป็นตัวร้ายในเรื่องเล่าของใครสักคนเสมอ

💖💖💖💖💖

8) เมื่อผู้ชายรักใครมาก ๆ และอยากจริงจังด้วย เขาคนนั้นสามารถทำทุกอย่างเพื่อเธอได้ เขาจะทุ่มเททุกทาง ไม่ว่าจะเป็นเวลา เงินทอง สิ่งของ การนัดหมาย การให้ความชัดเจน หรืออะไรก็ตามที่จะเป็นหลักประกันว่า เขาคนนั้นพร้อมจะลงทุนกับเธอในระยะยาว ไม่ใช่มีเพียงแค่คำพูดหรือการเล่นเกมให้อีกฝ่ายเดาใจหรือคิดไปเอง

💖💖💖💖💖

9) เมื่อเกิดการจบความสัมพันธ์ ปัญหาความรักนั้นอาจมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งคนที่เป็นฝ่ายผิด อาจมีคนทั้งคู่ที่เป็นคนผิด หรืออาจไม่มีใครผิดเลย แต่เนื่องจากไม่สามารถเข้ากันได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับมุมมองและการให้คะแนนความเจ็บปวดจากสิ่งที่ต่างฝ่ายต่างทำให้แก่กัน ความรู้สึกผิดของในใจแต่ละฝ่ายย่อมไม่เท่ากัน และไม่จำเป็นต้องให้อภัยก็ได้หากรู้สึกว่า ตัวเองนั้นยังเจ็บปวดจากการตัดความสัมพันธ์ การบีบบังคับให้ตัวเองให้อภัยอีกฝ่ายก็เหมือนเป็นการทรมานตัวเองให้เจ็บหนักเจ็บนานมากขึ้น หากใจลึก ๆ ยังไม่สามารถให้อภัยได้เต็มที่จริง ๆ การใช้ชีวิตต่อไปแบบไม่ต้องสนใจอะไรคือสิ่งที่ควรทำ ถ้าวันนี้ยังเจ็บ ก็ให้รับรู้ว่าตัวเองยังเจ็บ ยังรัก ยังคิดถึง ยังโกรธ ยังเศร้า ยังห่วง รู้ทันความรู้สึกของตัวเองไปเรื่อย ๆ จนกว่ามันจะจืดจางไปตามกาลเวลา เมื่อนั้นเราจะหันกลับมามองความรักที่จบไปแบบเข้าใจในตัวเองและเหตุผลของอีกฝ่าย โดยไม่มีอารมณ์ขุ่นเคืองมาเจือปน นั่นแหละคือ "การให้อภัยอย่างแท้จริง"

💖💖💖💖💖

10) การรักโดยที่จะเกิดการเจ็บปวดน้อยที่สุด คือการเรียนรู้กระบวนของความรักว่าเป็นอย่างไร เมื่อเราเรียนรู้มันจนขึ้นใจ ตามความรักให้ทัน และเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่า เมื่อมีการเริ่มต้นก็ต้องมีจุดจบ มันจะทำให้เราเจ็บปวดจากการจากลาได้น้อยลง และเข้าใจได้ในที่สุดว่า มันเป็นของมันแบบนั้น ไม่ว่ารักนั้นจะดีงาม เลวร้าย ยั่งยืน ชั่วคราว เล็กน้อย มากมาย หรือยิ่งใหญ่เพียงใด สักวันมันก็ต้องจบลงอยู่ดี ไม่จากเป็นก็จากตาย แล้วเราจะตั้งตัวขึ้นใหม่ได้ง่าย ทำให้เราเจ็บปวดน้อยลงจากการสูญเสียความสัมพันธ์

💖💖💖💖💖

Create Date : 13 กันยายน 2566

Last Update : 15 กันยายน 2566 0:23:05 น.

0 comments

Counter : 294 Pageviews.

(โหวต blog นี้)

ผู้โหวตบล็อกนี้...

คุณcomicclubs, คุณtoor36, คุณnewyorknurse, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณ**mp5**, คุณโฮมสเตย์ริมน้ำ, คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณhaiku, คุณกะว่าก๋า