จากนั้นก็เดินข้ามไปวัดนางพญา จ.พิษณุโลก เพื่อกราบขอพรกันต่อนะครับ อยู่ฝั่งตรงข้ามกันครับ

ชาวพิษณุโลกเค้าเชื่อกันว่า ผู้สร้างวัดนางพญา คือ พระวิสุทธิกษัตริย์ พระราชมารดาของพระสุพรรณกัลยา สมเด็จพระนเรศวรมหาราช และสมเด็จพระเอกาทศรถ

เมื่อครั้งสมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราชทรงดำรงตำแหน่งพระมหาอุปราชครองเมืองพิษณุโลกนานถึง 21 ปี ในระหว่างปี พ.ศ.2091 – 2112 จึงได้ชื่อว่า วัดนางพญา ครับ

เมื่อไหว้พระขอพรเสริมความเป็นสิริมงคลเสร็จเสร็จแล้ว เช้าวันที่ 28 ธ.ค. 61 เราก็ออกเดินทางกันต่อครับ จุดมุ่งหมายต่อไปของเราคือ เมืองลับแลครับ 

ซึ่งระยะทางจากวัดนางพญาไปยังเมืองลับแล อีกประมาณ 110 กิโลเมตร ซึ่งใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม.ครับ (ผมขับแบบไม่รีบนะครับ) ครับ เราก็ไปถึงเมืองลับแล จ.อุตรดิตถ์ เช้าวันที่ 28 ธ.ค. 61 ประมาณ 09.00 ครับ และเมื่อไปถึงก็จัดแจงหาที่พักก่อนเลยครับ เพราะเราขับรถกันมากลางคืน เด๋วตื่นนอนแล้วค่อยว่ากันต่อครับ ซึ่งจะมีที่พักเปิดใหม่คืิอ 

เรือนลับแลรีสอร์ท ไม่ไกลจากประตูเมืองลับแล ติดกับปั้มบางจากครับ บรรยากาศดีด้านหลังเป็นทุ่งนาข้าว คืนละ 600 บาท พร้อมอาหารเช้า สุนัขพักได้ เจ้าของอัธยาศัยดี แนะนำถ้าหาที่นอนสบายๆ ครับ

แล้วเราก็หลับกันไปจนถึงช่วง 16.00 เย็นแล้วพอตื่นมาก็เริ่มหิว เลยต้องออกไปหาของกินซะหน่อยซึ่งเมืองลับแล ก็เป็นเมืองเล็กๆ เงียบๆนะครับ ตลาดสดก็จะมาที่ใหญ่ๆ อยู่ที่เดียวตรงแถวสามแยกในตัวเมืองลับแลครับ

ก็จะมีป้ายที่ติดไว้แบบนี้หลายที่นะครับว่า เมืองลับแล เป็นเขต ห้ามพูดโกหก ซึ่งเพื่อนผมในภาพเค้าก็คงจะพูดอะไรยากลำบากสักนิดนึงเมื่ออยู่ที่นี่นะครับ ฮ่าๆๆ

แถวหน้าตลาดก็มี วิวสวยๆ ให้เราถ่ายรูปเล่นกันด้วยครับ

เมื่อได้ของกินเล่นมาแล้ว ไฮไล้ท์ของการมาเที่ยวที่เมืองลับแลก็คือที่นี่ครับ เราต้องมาถ่ายภาพประตูเมืองลับแลครับ มุมนี้ก็อยากให้มาถ่ายกันครับ ห้ามพลาด ช่วงเวลาที่ถ่ายก็เป็นแสงประมาณ 17.00 ครับ แสงกำลังดีเลยครับไม่มีแดดแล้ว มุมมหาชนครับ

และเรือนไทยที่เค้าจัดไว้ให้ถ่ายรูปกันครับ

ภาพก็จะมีกึ่งๆ เว้ดดิ้งด้วยนะครับ ถ่ายแบบว่าเล่นๆ กันในหมู่เพื่อนครับและอันนี้ไฟประดับต้นไม้เค้าก็ติดไว้ให้เราถ่ายรูปกันสวยๆ ครับ แต่ถ้าให้สวยกว่านี้ต้องรอมืดกว่านี้อีกหน่อยเค้าจะเปิดไฟให้ถ่ายรูปสวยๆ สว่างวิ๊งๆ

เจออีกแล้วครับป้ายนี้ ใครที่แฟนชอบโกหก ก็ลองไปถาม-ตอบ กันที่เมืองลับแลดูครับ เผื่อจะจับพิรุธแฟนได้

เพื่อนๆ ที่ชอบถ่ายรูป ถ้ามาเที่ยวที่นี่จะชอบครับ แต่มีข้อแม้อย่างนึงนะครับ ตลาดจะเปิดเฉพาะวันเสาร์อาทิตย์นะครับ

ส่วนคืนนี้เราก็มีปาร์ตี้กันเบาๆ ในร้านเล็กๆ สวยๆ แห่งหนึึ่งในเมืองลับแลครับ

บรรยากาศร้านก็มีแต่พวกเราครับเป็นเมืองที่เงียบจริงๆ นี่ขนาดเป็นวันหยุดยาวช่วงเทศกาลปีใหม่นะครับ เราจึงถ่ายรูปกันสนุกสนานเลยครับ

ร้านชื่อลับแลคลับนะครับ ก็ไม่ไกลจากประตูเมืองนั่นแหละครับ

และคืนนี้เราก็ไปนอนกันประมาณ เที่ยงคืนครับ ร้านปิดประมาณห้าทุ่มครึ่งครับ

เช้าวันที่ 29 ธ.ค. 61 ภรรยาตื่นอนมารับประทานอาหารเช้าของทางรีสอร์ท และซื้ออาหารพื้นบ้านบางอย่างมาเองจากตลาดมาทานที่ห้องอาหารของรีสอร์ทจัดไว้ครับ บรรยกาศริมทุ่งนาสบายๆ ครับ แนะนำอย่างนึงนะครับ มาที่นี่สิ่งที่ต้องหาทานคือ ตำขนุนและไส้อั่วครับ และขอบอกว่าข้าวที่ จ.อุตรดิตถ์ นิ่มและอร่อยมากครับ

เมื่ออิ่มแล้วเป้าหมายของเราที่จะเดินทางต่อไปในวันนี้คือ อุทยานแห่งชาติลำน้ำน่าน ระยะทางประมาณ 75 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาทีครับ

เมื่อไปถึง เมื่อคืนเรานอนรีสอร์ทแล้ว คืนนี้ เราเลือกที่จะกางเต้นท์ครับ และพวกเราก็เอาเต้นท์ไปกันเองด้วยครับ นอนสัมผัสบรรยากาศธรรมชาติกันสัก 1 คืน เราเลือกทำเลจุด ทะเลสาบสุริยันต์จันทรา (ชื่อเหมือนหนังจีนมาก) เป็นจุดกางเต้นท์ของเราครับ

สำหรับท่านที่ไม่ได้เอาเต้นท์ไปเอง เช่าของทางอุทยานก็เสียค่าเต้นท์ประมาณ 250 บาทนะครับ ส่วนถ้าเอามาเองก็เสียค่ากางต่อหัว คนละ 50 บาทครับ

บรรยากาศดีโปร่ง โล่งสบาย พาโนรามาสุดๆ ครับ

อากาศก็หนาวเย็นสบายดีครับ ลมกำลังดี แต่บอกเลยครับต้องมีเสื้อหนาวนะ

บรรยากาศยามเย็นและกลางคืนครับ ยิ่งมืดยิ่งหนาว บรรยากาศดี เงียบสงบมากครับ 

ตอนเช้าด้านบนขึ้นบันไดไปก็จะมีของที่ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ทางอุทยานขาย มีพวกกาแฟ ปาท่องโก๋ หมูปิ้งอะไรพวกนี้นะครับ อร่อยแล้วก็ถูกครับ

เช้าวันที่ 30 ธ.ค. 61 เป้าหมายของเราคือ อ.น้ำปาด ครับ ซึ่งที่นี่จะมีถนนคนเดินครับ (คล้ายๆ เชียงคาน) แต่อย่าลืมแวะเที่ยวเขื่อนและสพานด้วยนะครับ (ผมไม่ได้เขียนผิดนะครับ เขียนแบบนี้จริงๆ ดูรูปได้เลยครับ)

วันนี้เรานอนรีสอร์ทกันครับ เพราะเรากะไปเดินเล่นถนนคนเดินในเมืองตอนกลางคืนครับ เรานอนกันที่ วังน้ำเย็นรีสอร์ท คืนละ 450 บาทครับ รีสอร์ทใหม่มากนะครับ แต่ผมแต่งภาพให้เก่าเอง

จากนั้นก็นอนกันสักตื่นนึง ตื่นขึ้นมาก็คิดว่าจะไปเดินถนนคนเดิน ผลปรากฏว่าเค้าจะมีงานถนนคนเดินแค่บางช่วงเท่านั้นครับ ไม่ได้มีทุกวัน ซึ่งวันที่ผมไปไม่มีครับ ก็เลยต้องแวะร้านยอดฮิตในอำเภอน้ำปาดแทน น้ำปาดซิตี้ ครับ

และในมื้อค่ำแนะนำให้มากินร้านนี้ครับ แนะนำสำหรับคนอยากกินอาหารท้องถิ่น+อินดี้+รักธรรมชาติ อาหารอร่อยแหละบรรยากาศดีมากครับ @ปลายนา ตาอุ้ย

เช้าวันที่ 31 เราก็จะมุ่งหน้าไปเป้าหมายสุดท้ายของเราคือ ภูแลลาว แต่ถ้าท่านมาเสาร์อาทิตย์ ผมแนะนำให้แวะเที่ยวชายแดนด้วยครับ ติดประเทศลาวครับ เอารถข้ามไปได้นะครับ แต่ต้องทำบัตรผ่านทางก่อน หรือจะขึ้นรถสองแถวไปเที่ยวฝั่งลาวก็ได้ครับ เท่าที่ทราบมา ก็พักคืนละ 400 บาท เท่านั้นครับ ไม่แพงครับ เศร้าใจนิดๆ วันที่ผมไป 31 ธ.ค. 61 วันธรรมดาครับ เลยไม่มีของขายเลยครับ คนก็ไม่มีเลยครับ

ระยะทางจากน้ำปาดมาภูแลลาว ประมาณ 60 กิโลครับ แต่จะใช้เวลาเดินทางประมาณ 2-3 ชม.นะครับ เนื่องจากเป็นทางขึ้นเขาและคดเคี้ยวพอสมควร และแล้วเราก็มาถึงที่แหมายของเราครับ ภูแลลาว

เนื่องจากที่นี่ยังไม่เปิดเป็นอุทยานอย่างเป็นทางการ จึงยังไม่มีอาหารและเครื่องดื่มนะครับ มีเจ้าหน้าที่คอยดูแล มีห้องน้ำมีไฟฟ้า และทราบจากเจ้าหน้าที่ว่าปีหน้าอาจจะเปิดเป็นอทยานอย่างเต็มรูปแบบครับ มีเต้นท์ให้เลยนะครับ เราไม่ต้องกางเองหรือพกมา แต่จะเอามากางเองก็ได้นะครับ แต่ผมว่าเต้นท์ของเค้ากางไว้บนแคร่สวยอยู่แล้วครับ 200บาท/หลังเท่านั้นครับ

พเนื่องจากเป็นสถานที่ที่ยังไม่ค่อยมีคนรู้จักมากนักครับ และยังไม่ได้เปิดให้เป็นอุทยานอย่างเป็นทางการ จึงยังไม่มีของอะไรขายนะครับ ดังนั้น เพื่อนๆ ที่จะมาที่นี่ จะต้องแวะซื้อจากตลาดในเมืองพวกของสด ของแห้ง น้ำ น้ำแข็ง เครื่องดื่ม เตรียมขึ้นมาให้พร้อมนะครับ ด้านบนจะมีเจ้าหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัยให้ครับ และมีเต้นท์พร้อมให้บริการ มีไฟฟ้าให้ และมีห้องน้ำสะอาดเรียบร้อยดีครับ ดูจากภาพเอาก็แล้วกันนะครับ นี่คือวันที่ 31 ธ.ค. 61 นะครับ ลานแทบไม่มีคนอื่นครับ มีแต่พวกเราครับ

เมนูของพวกเราก็มีทั้งหมูทอด ปลาทอด ปูอัด เรื่องของกินชนกลุ่มเรา ท้องแตกดีกว่าอดตายครับ ฮ่าๆๆ และระหว่างรอรับประทานอาหารมื้อเย็น เราก็ถ่ายภาพเล่นกันครับ

บรรยากาศด้านบนภูแลลาวก็จะมองเห็นฝั่งประเทศลาวด้วยนะครับ อากาศดีมาก ท้องฟ้าและวิวสวยมากครับ เหมาะกับคนชอบมาถ่ายรูปเป็นอย่งยิ่งครับ

ปิดท้ายด้วยภาพสวยๆ และภาพบรรยากาศภูแลลาวทั้งยามเย็นและยามเช้านะครับ 

ภาพบรรยากาศทะเลหมอกยามเช้าครับ อากาศที่นี่กลางคืน เหลือแค่ 12 องศา นะครับ หนาวมากครับ

สุดท้ายนี้ อยากฝากให้ทุกคนที่ไม่เคยมาเที่ยว จ.อุตรดิตถ์ อยากให้มาลองดูครับ มีอะไรในเมืองไทยสวยๆ ดีๆ เที่ยวสนุกในราคาประหยัดยังมีอยู่ที่นี่ครับ

ขอบคุณเพื่อนสมาชิกหรือทุกท่านท่านที่เข้ามาอ่านบทความนี้นะครับ

สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทรหาหรือไลน์คุยกันได้นะครับ อย่างน้อยก็ได้รู้จักกันครับ

โทร:083-8343434 Line:thaioffroad