Group Blog |
มัลดีฟส์ - แบกป้ไปเกาะไหนดี
สถานที่ท่องเที่ยว : Dhiffushi Island, Maldives
พิกัด GPS : 4° 26' 34.46" N 73° 42' 55.46" E แบกเป้เที่ยวมาก็หลายเมือง หลายประเทศ แค่วางแผนคร่าวๆ จองห้องพักแบบเลื่อนวันได้หรือยกเลิกฟรี เพียงแค่ตัดสินใจสองสามวันล่วงหน้าขณะเดินทาง ถ้าหากเปลี่ยนใจเจอข้อมูลอย่างอื่นที่น่าสนใจมากกว่าก็แค่ยกเลิกโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไร ถามว่ามัลดีฟส์เที่ยวแบกเป้แบบเดิมได้มั้ย ก็ได้แต่วางแผนผิดอาจทำให้เกิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากแผนเดิม เดินทางด้วยเรือโดยสารประจำทางคนละประมาณ US$1.5 อาจกลายเป็นต้องเดินทางด้วยสปี๊ดโบ๊ทคนละ US$25 หรือที่แย่กว่านั้นอาจต้องเดินทางด้วยเครื่องบินคนละ US$120-200 แล้วแต่เกาะท้องถิ่นแต่ละเกาะก็มีห้องพักจำนวนจำกัด ถ้าหากแขกเต็มและต้องการพักต่อ แขกที่จองแบบยกเลิกฟรีก็จะโดนยกเลิกการจองห้องพักทันที หรือหากโชคไม่เข้าข้างเรามากกว่านั้น มรสุมอาจเข้า เรือประจำทางเดินทางไม่ได้ ซีเพลนไม่บิน ต้องเดินทางด้วยเครื่องบินอย่างเดียวก็อาจเซ็งกันไปทั้งวัน ไหนต้องติดต่อ เตรียมการ แล้วต้องเสียเงินเพิ่มเยอะมาก เกาะไหนดี มีเกาะให้เลือกมากกว่าพันเกาะแล้วจะไปเที่ยวเกาะไหนดีให้คุ้มค่าเงินที่สะสมมาเกือบทั้งปี และได้เห็นอะไรที่ทุกคนคาดหวังว่าจะได้เห็นที่มัลดีฟส์ แถมลดความเสี่ยงจากค่าใช้จ่ายที่ไม่ได้เตรียมงบไว้ล่วงหน้า ![]() วิธีการเลือกเกาะ ต้องถามตัวเองก่อนเลยว่าอยากไปดูอะไร อ้าวแล้วมัลดีฟมีอะไรให้ดูล่ะ นอกจากทะเลสีคราม นางแบบก้านยาวขายาว ชุดสวยๆ บนหาดทรายสีขาว หรือบนสะพานทอดยาวไปรีสอร์ทกลางทะเล ประเทศมัลดีฟส์มีมากกว่านั้นมากมาย ประวัติศาสตร์ ศาสนา วิถีชีวิตชาวเกาะกลางมหาสมุทรอินเดีย ที่ต้องสอดคล้องกับสภาพอากาศ ธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม ระบบนิเวศทางทะเลที่โดดเด่น เกาะท้องถิ่นมีทั้งหมดประมาณ 200 เกาะ แต่ละเกาะจะมีลักษณะแตกต่างกันไป รวมทั้งบรรยากาศของความเป็นอยู่ของแต่ละเกาะก็แตกต่างกัน บางเกาะใส่เสื้อกล้าม กางเกงขาสั้น เดินบนเกาะได้ แต่บางเกาะปิดหมดตั้งแต่ไหล่ยันเท้าก็เหมือนกับไม่ได้ใส่อะไร โดยสังเกตุได้จากสายตาของชาวท้องถิ่น ก่อนจะตั้งหน้าตั้งตาเก็บภาพเซ็กซี่ สวยๆ ริมหาด สอบถามกับทางเกสต์เฮาส์ให้มั่นใจก่อนว่าหาดไหนสำหรับนักท่องเที่ยว สำหรับผู้ชายไม่น่าจะมีปัญหา เน้นผู้หญิง หากต้องการว่ายน้ำหาดสำหรับคนท้องถิ่นก็ต้องใส่เสื้อผ้าปิปิดมิดชิด ก็ว่ายได้ทุกหาด ![]() เกาะรีสอร์ทประมาณ 74 เกาะ ซึ่งเป็นเกาะสำหรับแขกและพนักงานของรีสอร์ทเท่านั้น โดยมีการแบ่งบริเวณอย่างชัดเจน ไม่มีชาวท้องถิ่นอาศัยอยู่ พนักงานของรีสอร์ท ส่วนมากเป็นชาวต่างชาติ อย่างเช่น มาเลเซีย ไทย ศรีลังกา อินเดีย ยุโรป วิธีการเลือกเกาะสำหรับนักท่องเที่ยวแบกเป้ จำนวนวันสำหรับท่องเที่ยว - ตารางการเดินเรือ แนะนำให้เลือกตั๋วเครื่องบินที่เดินทางถึงประเทศมัลดีฟส์ช่วงเช้า หากตั๋วแพงกว่าช่วงเย็นไม่กี่ร้อย ก็คุ้มกว่า เพราะสามารถเดินทางต่อไปยังเกาะที่ต้องการได้เลย ไม่ต้องเสียค่าที่พักบนเกาะ Male หรือ Hulhumale หากท่องเที่ยวหลายวันแนะนำให้เดินทางไปเกาะที่ไกลที่สุดที่ต้องการไป และพักประมาณสองวัน เพราะกว่าจะไปถึงเกาะก็เกือบจะค่ำแล้ว วันรุ่งขี้นจะได้เดินชมเกาะอีกหนึ่งวัน ส่วนเกาะอื่นๆ ก็ดูตามความสอดคล้องของตารางเรือและกิจกรรมที่ต้องการ วันศุกร์ไม่มีเรือประจำทางไปเกาะต่างๆ ยกเว้น เรือประจำทางระหว่างเกาะ Male - Villingili เรือประจำทางระหว่างเกาะ Male - Hulhule (airport) เรือประจำทางระหว่างเกาะ Male - Hulhumale ![]() ช่วงมรสุมน้ำจะขุ่นและมีคลื่นสูง ไม่เหมาะสมกับการจองทัวร์ไปดูปะการัง เพราะส่วนมากเรือจะจอดในทะเลและให้นักท่องเที่ยวดูปะการัง ถ้าหากมีมรสุมกระแสน้ำจะแรง คลื่นก็เข้าทางช่องหายใจ หายใจทางปากไม่สะดวก และต้องพยายามลอยตัวไม่ให้ไกลจากเรือมาก แทนที่จะได้ดูปะการัง กลับต้องพยายามเอาตัวรอดกลางทะเลลึกที่มีคลื่นแรง ซึ่งจริงๆ แล้ว ประเทศมัลดีฟส์ คือแนวสันปะการังที่เกิดขึ้นรอบขอบของเนินภูเขาไฟที่ยุบตัว แนวสันปะการังก็มีหน้าเกาะต่างๆ ไม่ต้องนั่งเรือออกไปดูก็ได้เห็นระบบนิเวศทางทะเลได้เลย แค่ยืนหน้าหาดก็มีปลาฉลามหางดำ ปลากระเบน งูทะเล ปลาตัวเล็กตัวน้อย ปะการังต่างๆ ให้เห็นแล้ว หรือถ้าหากอยากเห็นแบบใกล้ๆ ก็แค่ ยืมแว่นตำน้ำ กับตีนกบฟรี จากเกสต์เฮาส์และถามที่เกสต์เฮาส์ว่าแนะนำบริเวณไหน เพราะคนท้องถิ่นน่าจะรู้จักกระแสน้ำมากกว่าเรา เตือนว่าเวลาไปให้มีเพื่อนไปด้วยและอย่านำของมีค่าวางไว้บนหาด จะได้ไม่พะวงและหากมีอะไรหรือกระแสน้ำพาไปไกลจะได้มีเพื่อนคอยดูแลกัน สำหรับนักแบกเป้ที่ต้องการดูปะการังสวยๆ ไปแล้วต้องไปให้ถึงมัลดีฟส์ แนะนำให้หาข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับหมู่เกาะฝั่งตะวันตก และหมู่เกาะตอนใต้ เพราะเรือประจำทางไปเกาะบางเกาะไม่ได้เดินทางทุกวัน ควรตรวจตารางและย้ำเวลากับพนักงานบนเรือเสมอ นี่คือเหตุผลที่ควรจองห้องพักแบบไม่ชำระเงินล่วงหน้าและไม่ใส่รายละเอียดบัตรเครดิตในระบบสำหรับการเดินทางครั้งนี้ ถ้าหากมีนักท่องเที่ยวเยอะแล้วโดนทางเกสต์เฮาส์ยกเลิกจะทำยังไง ก็จองใหม่เพราะดีกว่าต้องเสียเงินแต่เดินทางไปไม่ถึงเกาะ เรือประจำทางก็จะประมาณนี้ ช้าๆ กินลมชมวิวๆ ไป เรื่อยๆ วันไหนคลื่นแรงก็หาเสื้อชูชีพได้ที่ใต้ที่นั่งมาใส่ไว้ให้อุ่นใจ ไม่เห็นคนท้องถิ่นใส่น่ะ แต่ดีกว่าต้องการแล้วหาไม่ทัน หากใครต้องการไปให้ถึงเร็วๆ ก็ติดต่อเกสต์เฮาส์ให้จองสปี๊ดโบ็ทได้ ราคาประมาณ คนละ US$25 โดยความคิดส่วนตัวแล้วเรือประจำทางปลอดภัยกว่าสปี๊ดโบ็ทเพราะ สปี๊ดโบ็ทเบากว่าและล่องเรือไปเร็วกว่ามาก ไปเที่ยวเดือนไหนดี แนะนำช่วงปลายเดือน มีนาคม ถึง ต้น มิถุนายน เพราะเป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวเริ่มน้อย ตั๋วเครื่องบินเริ่มลดราคา หัองพักว่าง ราคาต่ำ สภาพอากาศไม่ร้อนมาก ฝนเริ่มตกแต่ไม่หนักมาก คลื่นลมยังเอื้ออำนวยสำหรับกิจกรรมทางทะเล ถืงแม้เดือนเมษายนจะเป็นช่วงท่องเที่ยวเทศกาลสงกรานต์แต่ก็ยังเป็นช่วงที่ราคาไม่ได้แพงมาก เนื่องด้วยสภาพอากาศดี อาจเดินทางด้วยเรือประจำทางไปเที่ยวเกาะไกลๆ อย่างเช่น เกาะRasdhoo เกาะUkulhas เกาะMathiveri เกาะBodufolhudhoo เกาะFeridhoo เกาะFulidhoo โดยไม่ต้องเสี่ยงใจหายใจคว่ำกับคลื่นสูง ลมแรง ฟ้ามืด ไปแล้วถ่ายรูปไม่สวย หรือไปไกลแต่อยู่แต่ในห้องพัก ไปไหนไม่ได้ เกร็ดความรู้สำหรับเกาะที่เคยไป (ไม่แปลชื่อเกาะเป็นภาษาไทยเพื่อความสะดวกในการค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับผู้อ่าน) North Kafuu Atoll (เส้นทางเดินเรือ Male - Dhiffushi) ตารางเดินทางจากเกาะ Male - Himmafushi - Huraa - Thulusdhoo - Dhiffushi (เรือโดยสารเดินทางห้าเกาะทางเหนือของเกาะ Male ในหมู่เกาะ Kafuu Atoll จากจำนวนทั้งหมด 107 เกาะ) ตารางต้องอ่านจากขวาไปซ้าย ออกเมื่อวันที่ 17 พค 2018 ![]() #updated #timetable #schedule #local #MTCC #ferry #male #himmelfushi #huraa #thulusdhoo #dhiffushi เกาะสุดท้ายบนเส้นทางเดินเรือ ท่าเรืออยูบริเวณทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะ เหมาะกับการจองห้องพักบริเวณนี้เพราะเดินไปมาระหว่างชายหาดได้สะดวกกว่า เพราะอาจจะเดินไปกลับวันละหลายรอบ บางช่วงอากาศก็ร้อนมาก บางช่วงลมพัดแรงมากจนทรายบนชายหาดปลิวว่อนเข้าตา ก่อนใส่ชุดบิกินี่ถ่ายรูปหรือว่ายน้ำ สอบถามที่เกสต์เฮาส์ให้มั่นใจก่อนน่ะว่าหาดไหน เผื่อมีการเปลี่ยนหาดตามช่วงมรสุม ช่วงที่ว่ายน้ำระวังปลาฉลามหางดำว่ายมาชนน่ะ จริงๆ ปลาฉลามหางดำมักจะมาล่าปลาตัวเล็กๆ ว่ายเร็วมากแต่ก็หลบเราได้ทุกครั้ง ตื่นเต้นดี บริเวณหน้าหาดมีปลาเยอะ บางครั้งก็จะเห็นคนท้องถิ่นที่หาปลาได้มานั่งชำแหละ ล้างปลาบริเวณนี้ หรือบางวันก็เห็นขึ้นจากทะเลมือนึงถอปลา อีกมือถือล็อบสเตอร์ แหมะ หาได้หน้าหาดนี่เลย จากหาดทางตอนเหนือของเกาะ สามารถมองเห็นรีสอร์ท Meeru Island Resort and Spa บางวันแขกที่รีสอร์ทก็มายืนโบกมือให้ ที่เกสต์เฮาส์บอกว่าช่วงที่กระแสน้ำไม่แรง ว่ายน้ำไปดูปะการังหน้าหาดเกาะรีสอร์ทได้แต่ห้ามขึ้นหาด ถ้าหากต้องการว่ายไปก็ควรแจ้งที่เกสต์เฮาส์ให้ทราบก่อนน่ะ ดูจากสีน้ำเงินเข้มระหว่างสองเกาะ ว่ายน้ำถึงบริเวณนั้น อาจจะเสียวนิดนึงเพราะสันเขาใต้น้ำระหว่างสองเกาะ หรือถ้าหากสนใจไปนอนที่รีสอร์ทสักคืนสองคืนก็น่าสนใจสำหรับใครที่ต้องการลองสักครั้งว่ารีสอร์ทกลางทะเลที่ประเทศมัลดีฟส์มันเป็นอย่างไร ก็ลองเทียบราคาจากเว็บออนไลน์และราคาจากรีสอร์ทโดยตรงและให้เกสต์เฮาส์จัดการเรื่องเรือรับส่งให้ จะได้ไม่ต้องจ่ายแพงมากกับรีสอร์ท (ถ้าหากรีสอร์ทยอมให้จองเรือรับส่งเองได้) ณ วันที่ฝนตกทั้งวันและแดดแรงมากแค่ประมาณสามชั่วโมง น้ำใสน่าว่ายมาก คลื่นแรงทำให้ลมตลอด วิดีโอก็จะเวียนหัวนิดนึง ฝั่งตรงข้ามเป็นเกาะรีสอร์ท ปลาตัวเล็กตัวน้อยว่ายน้ำโต้คลื่นหากินหน้าหาด ปลาฉลามหางดำก็ว่ายมาจู่โจมเป็นระยะ ถ่ายไม่ติดเพราะว่ายเร็วมาก เกาะ Thulusdhoo โดยส่วนตัวชอบเกาะนี้มาก มีเกสต์เฮาส์หลายที่ให้เลือก อยากได้แบบติดหาดหรือราคาเบาๆ ก็เลือกตามใจชอบ เพราะเกาะนี้ค่อนข้างสะอาดกว่าเกาะอื่นๆ ทั้งหกเกาะที่ได้ไปมา ช่วงที่ไปมีกระแสว่ากำลังพยายามจะให้ชายหาดทั้งเกาะสามารถใส่ชุดว่ายน้ำได้หมดทุกหาด แต่ตอนนี้บริเวณที่ใส่ชุดว่ายน้ำเล่นน้ำได้เป็นจุดที่ใกล้กับ Surf break point และ Cokes Beach Maldives มีการกั้นบริเวณให้เห็นอย่างชัดเจน เกสต์เฮาส์บริเวณ Cokes Beach Maldives ราคาค่อนข้างสูงกว่าซอยถัดไป แต่พักซอยไหนก็เดินไม่ไกลเลย หากต้องการประหยัดและไม่หวาดเสียวมากกับเสียงคลื่นตอนกลางคืนก็พักซอยห่างจาก Surf break point สักสองซอย ส่วนทางทิศใต้ของเกาะกำลังมีการก่อสร้างเกสต์เฮาส์ใหม่ ถ้าหากมีเปิดให้จองเกสต์เฮาส์ที่มีระเบียงให้เห็นวิวทะเลและแนวปะการัง ราคาห้องอาจค่อนข้างแพงแต่จะเห็นวิวที่สวยมากๆ ทั้งวันจากระเบียง หากแพงกว่าไม่กี่ร้อย แนะนำให้ลองจองสักคืน อาจจะตลึงกับวิวไปเลย ![]() ตอนที่เรือประจำทางเข้าท่าเรืออาจงงว่าทำไมป้าย โคคา โคล่า ใหญ่ เด่น ตระหง่าน ตระการตาขนาดนั้น ขึ้นมาบนเกาะอาจเห็นทุกหัวโค้งเหมือนเซเว่นบ้านเรา เตรียมท่าเด็ดๆ ไปถ่ายรูปกับโลโก้โค้กได้เลยเพราะเกาะนี้มีโรงงานผลิตส่งขายทั่วทั้งประเทศ แถมมีจุดบริการน้ำจืดฟรี 2 จุด (ทางตอนเหนือและตอนใต้ของเกาะ) จากบริษัท โคคา โคล่า หากใครจะพักที่เกาะนี้ เก็บขวดเปล่าไปใส่น้ำกันได้เลย เพราะไปเกาะอื่นต้องซื้อน้ำดื่มจากบริษัท โคคา โคล่า แต่เกาะนี้ดื่มฟรีจ้า น้ำดื่มที่ประเทศมัลดีฟส์เป็นน้ำทะเลที่เปลี่ยนเป็นน้ำจืดหรือที่เรียกว่า Desalinated Water จุดที่นั่งแล้วเพลินมากที่สุดก็เป็นหาดหน้า Cokes Surf Camp เคยแต่นั่งดูนักโต้คลื่นที่บ้านเรากับบาหลี มาดูที่นี่มันได้คนละอารมณ์ เพราะคลื่นแต่ละลูกซัดเข้าฝั่งสวยมากๆ นักโต้คลื่นก็พลิ้วสมกับเป็นมืออาชีพที่มาเก็บตัวซ้อมโต้คลื่นกันหน้าเกาะนี้ www.cokessurfcampmaldives.com (ภาพถ่ายด้านล่าง) ![]() ![]() ที่เกสต์เฮาส์นี้มีบุฟเฟต์มื้อละ US$15 ต่อคน ลองทานมื้อนึง อาหารอร่อย บรรยากาศลมพัดสบายๆ หน้าหาด ชอบมาก คิดแล้วอยากกลับไปนอนพักผ่อนสักอาทิตย์ ![]() ![]() อีกจุดที่น่าสนใจคือหน้าหาดบิกินี่ (หาดที่ใส่ชุดว่ายน้ำได้) เป็นจุดที่สามารถดูปะการังหน้าหาด กระแสน้ำไม่แรง ปะการังก็สวยกว่าที่ต้องซื้อทัวร์ไปดู แถมถ้าหากใครอยากดูปลาโลมา มานั่งรอดูที่จุดนี้ได้เลย นักท่องเที่ยวที่คุยด้วย บางคนเห็นช่วงแปดโมงเช้า ประสบการณ์ส่วนตัวเห็นประมาณหกโมงเย็น ว่ายน้ำมาเป็นฝูงเลย มีบางตัวกระโดดน้ำด้วย แต่ขอบอกก่อนว่าเห็นจากระยะไกลเพราะไม่ชอบนั่งเรือไล่กวดปลาโลมา บอกเลยว่าสงสารเดี๋ยวเรือไปโดนปลา ใครก็มีกล้องส่องก็นำไปด้วยแล้วกัน เห็นจากธรรมชาติมันช่างแตกต่างจากที่เห็นในสวนสัตว์จริงๆ บริเวณนี้จริงๆ แล้วมีคนเห็นทั้งวัน เพราะเป็นจุดที่ปลาโลมาว่ายผ่าน Surf break point ใครที่ไม่เล่นเซิร์ฟก็ข้ามทางน้ำไม่ลึกมากแต่ต้องว่ายน้ำไปได้ เพื่อนไปนั่งรอถ่ายรูปนักโต้คลื่น ได้รูปสวยๆ มาเยอะเลย แต่บอกก่อนว่าฉีดยากันยุงไปด้วยน่ะ เพื่อนบอกยุงเยอะมากกัดพร้อมกันครั้งละหลายตัวเลยแหละ ถ้าหากยืนนิ่งๆ ไม่ขยับตัวปูเสฉวนบนหาดก็จะเริ่มออกเดิน บอกได้เลยว่าเยอะมาก จนต้องอัดวิดีโอไว้ให้ที่บ้านดูว่าเยอะจริงๆ หากใครชอบเดินชมธรรมชาติ แนะนำให้เดินช่วงเช้าหรือเย็น ในขณะที่แดดไม่ร้อนมาก จาก Surf Camp จากฝั่งตะวันออกไปจนสุดปลายเกาะฝั่งตะวันตก เดินเลียบแนวสันปะการังไปเรื่อยๆ จะเห็นปลาว่ายน้ำไปตลอดทาง ประมาณ 800 เมตร มีสันทรายทอดยาวไปในทะเล จุดนี้แหละควรไปถ่ายรูปที่สุด ก่อนกลับอย่าลืมแวะไปถ่ายรูปกับโลโก้โค้กน่ะ โรงงานติดกับท่าเรือเลยเดินไปไม่เกินห้านาทีก็งัดท่าเด็ดให้หนุ่มหน้าโรงงานต้องอี้งกันไปเลย เกาะ Hulhumale ไม่แนะนำให้พักเกาะนี้ แต่ถ้าหากใครต้องพักเพื่อต่อเครื่องหรือเครื่องลงแล้วไม่สามารถไปเกาะอื่นๆ ได้ แนะนำให้พักไม่ไกลจากชายหาดฝั่งตรงข้ามกับท่าเรือมากนัก เพราะเป็นจุดที่ต่อรถ ต่อเรือสะดวก เกสต์เฮาส์ใกล้กับหาดบิกินี่ค่อนข้างเงียบวังเวง และต่อรถ ต่อเรือไม่สะดวกนัก แถมค่าห้องแพงกว่า เดินไปหาดบิกินี่ไม่ไกลมาก และมีต้นสนกันแดดให้ด้วย หาดก็เหมือนกันหมด ไม่มีจุดไหนที่สวยกว่าเพราะเป็นเกาะที่สร้างจากการดูดปะการังมาทับถมกันเพราะฉะนั้นลืมไปได้เลยกับคำว่าอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เกาะนี้เพิ่งสร้างประมาณสิบปีก่อนและกำลังสร้างต่อเพื่อให้รองรับความเจริญเติบโตของธุรกิจ ถ่ายรูปเกาะ Farukolhufushi ไว้เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ได้เลยเพราะกำลังถมเกาะแนวปะการังด้วยเศษซากปะการังและทรายที่ดูดขึ้นมา เกาะนี้มีคนอพยพจากประเทศอื่นพักอาศัยค่อนข้างเยอะ โดยเฉพาะจากประเทศอินเดีย ศรีลังกา และจีน จนทำให้ชาวมัลดีฟส์สงสัยว่าการขยายตัวทางธุรกิจจะเกิดประโยชน์และสร้างความสุขให้กับชาวท้องถิ่นจริงหรือไม่ มองไปรอบๆ เกาะ ก็จะเห็นเป็นตึกประมาณ สี่ห้าชั้น สร้างเสร็จบางส่วน แต่ส่วนใหญ่กำลังก่อสร้าง เหมือนโครงการเคหะที่เมืองไทย ถ้าหากพักเกาะนี้แล้วอยากไปเที่ยวที่เกาะ Male เดินไปนั่งเรือข้ามฟากที่ท่าเรือของ Hulhumale ไปต่อเดียวได้เลย ไม่ต้องนั่งรถเมล์ไปข้ามฟากที่สนามบินน่ะ บนเกาะนี้มีคนท้องถิ่นเยอะ ต้องระวังเรื่องการแต่งกาย ส่วนมากจะเป็นผู้ชายที่เดินบนท้องถนนทั่วไป ไม่เจอผู้หญิงมากนัก ไม่ต้องแจกยิ้มมาก เพราะเดี๋ยวมีผู้ชายขับรถตาม เผื่อเค้ากำลังหาภรรยาหมายเลขสี่ ไม่รู้สึกอันตรายมากนักแต่ จะรู้สึกเหมือนมีคนจ้องมองตลอดเวลา ![]() เกาะ Male ไม่แนะนำให้พักบนเกาะนี้ หากต้องรอเรือวันถัดไปหรือรอเครื่อง แนะนำไปพักที่ เกาะ Hulhumale เกาะ Male เป็นเมืองหลวงที่มีซอยเล็กๆ เหมือนสำเพ็งที่กรุงเทพ ทางเดินก็แคบแถมสกปรกและมีกลิ่นอับจากปูนกับน้ำ เดินเที่ยวชมเมืองไม่เกินสองชั่วโมงก็เห็นทั้งเกาะแล้ว ที่น่าดูอาจจะเป็น ตลาดปลา เพราะปลาเป็นสินค้าส่งออกที่สำคัญของประเทศมัลดีฟส์ ก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่เพราะทะเลรอบทิศ หากมีโอกาสลองสั่งปลาทูน่าทานน่ะ เพราะสดอร่อยจริงๆ South Kafuu Atoll (เส้นทางเดินเรือ Male - Guraidhoo) ตารางเดินทางจากเกาะ Male - Gulhi - Maafushi - Guraidhu (เรือโดยสารเดินทางสี่เกาะทางใต้ของเกาะ Male ในหมู่เกาะ Kafuu Atoll จากจำนวนทั้งหมด 107 เกาะ) ตารางต้องอ่านจากขวาไปซ้าย ออกเมื่อวันที่ 17 พค 2018 ![]() #updated #timetable #schedule #local #MTCC #ferry #male #maafushi #guraidhoo #gulhi #islands เกาะ Gulhi ลองหาห้องพักที่เกาะนี้ราคาสูงเกินไปสำหรับงบแบกเป้คนเดียว ก็เลยนั่งเรือประจำทาง (เรือสีฟ้าเท่านั้น สีอื่นไม่จอด) เที่ยวแรกจากเกาะ Maafushi และกลับเที่ยวสุดท้าย ยืนยันเวลาบนเรือกับพนักงานอีกรอบน่ะ เกาะนี้เงียบสงบมาก ช่วงที่ไปเป็นช่วงมรสุมเรือประมงไม่ออกหาปลา เลยมีคนนั่งชิงช้ารับลมใต้ต้นไม้กันเยอะมาก ทั้งผู้ชาย ผู้หญิง และเด็ก เลี้ยวซ้ายเดินชมริมชายหาดไปแค่สิบห้านาทีก็ถึงหาดบิกินี่ ประมาณแปดโมงครึ่งแต่แดดเริ่มร้อน เลยรีบถ่ายรูปและหาที่นั่งใต้ร่มไม้เพื่อหลบแดด แดดร้อนมากๆ มีเพิงใกล้ๆ ทางเข้าหาด ให้มีเซิร์ฟบอร์ดให้เช่า เลยชวนเพื่อนลงครีมกันแดดทั้งตัวไม่ลืมหลังหู เช่ากันคนละบอร์ดพายไปดูปะการัง น้ำใสเห็นตัวปลา และทรายเลยทีเดียว คลื่นไม่แรงเท่าไหร่เช่าพายเล่นจนเริ่มร้อนหัวเลยขึ้นไปนั่งหลบแดดใต้ร่มไม้ต่อ แค่นั่งดูทะเลสีครามสลับน้ำเงินเข้ม น้ำทะเลใสสะท้อนแสงกับทรายสีขาว คนท้องถิ่นนั่งชำแหละปลามีเด็กคอยเป็นกำลังใจอยู่รอบๆ พุ่มไม่ไม่ไกลมากมีรูปูดำตัวค่อนข้างใหญ่ แต่วันนั้นไม่มีใครหาปู คงได้ปลาหลายตัวแล้ว มีปลาโลมาว่ายน้ำ ผ่านเป็นบางช่วง แค่นี้ก็สมใจอยากที่ครั้งหนึ่งในชีวิตอยากมาเห็นสักครั้งว่ากลางทะเลเค้าอยู่กันอย่างไร ก่อนขี้นเรือไปนั่งรอที่ชิงช้าใต้ร่มไม้รับลมเหมือนอื่นๆ เค้านั่นแหละ แหมะชวนง่วงนอนดีจริงๆ แนะนำเลยว่าควรไปสำรวจเกาะนี้ มีร้านขายของชำไม่ไกลจากหาดมาก ราคาใกล้เคียงกันแต่ร้านอาหารขายแพงกว่า เพราะมีไม่กี่ร้าน เกาะ Maafushi เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการซื้อทัวร์แทบทุกอย่างที่ขวางหน้า เพราะเกาะนี้มีให้เลือกหลากหลาย ดำน้ำ ดูปะการัง ว่ายน้ำกับปลาโลมา ไปเกาะรีสอร์ทต่างๆ ขายกันตั้งแต่เช็คอินเข้าพักเลยไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีโอกาสเสียเงิน แต่ก่อนซื้อแนะนำให้ย้ำรายละเอียดชัดๆ เน้นๆ เพื่อป้องกันการมั่วนิ่มของผู้ขาย ขายเก่งจริงๆ เพราะส่วนมากเป็นคนอินเดีย สังเกตุจากการสั่นหัวและสำเนียง ย้ำด้วยการถามให้มั่นใจจะได้ไม่เข้าใจผิดว่าคนมัลดีฟส์หลอกขายเก่งจัง ห้องพักแนะนำให้พักบริเวณตอนเหนือใกล้หาดบิกินี่ จะได้เดินไปมาสะดวก และตอนใต้ของเกาะไม่น่าพัก ไม่ใช่เพราะใกล้กับสถานกักกัน แต่เพราะหาดทั้งด้านหน้าและหลังสกปรกเต็มไปด้วยเศษก้อนหิน จักรยาน โถส้วม อุปกรณ์ก่อสร้าง เสื้อผ้า และกองขยะที่เผาส่งกลิ่นเหม็น ถ้าหากกิจกรรมที่ต้องการซื้อ ดำน้ำ ดูปะการัง ว่ายน้ำกับปลาโลมา ไปเกาะรีสอร์ทต่างๆ ที่เกาะอื่นๆ ที่กล่าวมามีทุกเกาะแถมบางกิจกรรมไม่ต้องจ่ายเงินเลย แนะนำให้ไปเกาะอื่นดีกว่า ไม่ต้องมาเจอครอบครัวอินเดียตะโกนใส่ลูกหลานไม่ให้ลงน้ำ หรือคนงานชะเง้อมองเวลาใส่ชุดว่ายน้ำที่หาดบิกินี่ เลยเพิ่งเข้าใจว่าที่เค้ากันรั้วไม่ให้เห็นนี่คือป้องกันนักท่องเที่ยวไม่ให้โดนลวนลามทางสายตาเหมือนว่าเราไม่ใส่อะไรเลย แนวปะการังชายหาดฝั่งตรงกันข้ามกับท่าเรือ มีปลาฉลามหางดำ ปลาหางกระเบนเยอะมาก แต่มีกาเยอะด้วยเพราะฝั่งนี้มีจุดทิ้งขยะ มัลดีฟส์ - เตรียมตัวก่อนไป
เกาะสถานที่ท่องเที่ยว : มัลดีฟส์, Maldives
พิกัด GPS : 4° 10' 30.00" N 73° 30' 32.00" E
แบกเป้ไปชมหกเกาะท้องถิ่นที่ประเทศมัลดีฟส์ ด้วยความสงสัยเกี่ยวกับการตำรงชีวิตกลางมหาสมุทรอินเดีย ว่าเค้าอยู่กันอย่างไร แล้วหน้าตาจะคมขำเหมือนคนใต้บ้านเรามั้ย คราวนี้ไปเที่ยวเกาะสวาท หาดสวรรค์ ที่เค้าลือกันไม่หยุดปากว่าสวยมากและธรรมชาติก็อุดมสมบูรณ์ ไปเที่ยวครั้งนี้ไปคนเดียวแบบสบายกระเป๋า ตั๋วไปกลับวันไหนราคาถูกสุดก็ไปวันนั้น เดินทางไปกัวลาลัมปัวพอดีเลยได้ตั๋วไปกลับ กัวลาลัมปัว - มัลดีฟส์ สำหรับกระเป๋าเจ็ดกิโล ไม่รวมอาหารและเครื่องดื่ม เพราะสนามบิน KLIA2 ใหญ่และสะดวกสบายเหมือนห้างสรรพสินค้าในเมืองไทย แวะเติมพลังเรียบร้อยก่อนขึ้นเครื่อง เลยได้ตั๋วเครื่องบินราคาเบาๆ ไปกลับสนามบินเดิม 3453 บาท Air Asia X ราคาตั๋วถูกได้ใจมาก แถมได้รูปสวยๆ ไว้เช็คอินในโซเซียลให้เพื่อนๆ ได้ติดสอยห้อยตามเสมือนไปเที่ยวด้วยกันแบบฉบับนำร่องสำหรับคนชอบแบกเป้เที่ยว แหลมสันทรายที่เกาะ Thulusdhoo หลายปีก่อนหน้านี้นักท่องเที่ยวไปเที่ยวและพักได้เฉพาะที่เกาะรีสอร์ทเท่านั้นซึ่งโดยทั่วไปหนึ่งเกาะจะมีเพียงแค่หนึ่งรีสอร์ทแต่หลังจากทางการได้อนุมัติให้ชาวเกาะที่อาศัยบนเกาะต่างๆ เปิดบ้านต้อนรับนักท่องเที่ยวได้ เพื่อกระจายรายได้ให้ท้องถิ่น ทำให้ชาวบ้านและนักลงทุนรายย่อยทะยอยเปิดเกสต์เฮาส์บนเกาะที่สามารถไปได้โดยเรือโดยสารสาธารณะ ข่าวนี้ค่อยๆ กระจายปากต่อปาก ไปในกลุ่มนักท่องเที่ยวแบกเป้ตามโฮสเทลต่างๆ ในเอเชีย และเริ่มมีนักแบกเป้นานาชาติที่กำลังแบกเป้กันในบริเวณเอเชียใต้ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สนใจเปลี่ยนแผนมาเที่ยวหมู่เกาะมัลดีฟส์กันมากขึ้น คือประมาณว่าไปให้เห็นกับตาตัวเอง วางแผนเที่ยวมัลดีฟส์ ตั๋วเครื่องบิน สำรวจราคาตั๋วเครื่องบินก่อนลางานแบบง่ายๆไม่ต้องนั่งจ้องมือถือทั้งวันทั้งคืน โดยลงชื่อเข้าใช้เพื่อติดตามราคาตั๋ว https://www.google.com/flights?hl=th&gl=US ตรวจสอบราคาถูกที่สุดได้ที่ปฏิทินซึ่งแสดงวันไปและวันกลับให้ดูง่ายๆ พร้อมคำนวณราคาและแสดงสายการบินให้ดูเลย ต้องการเลือกช่วงบินไป บินกลับวันไหน ก็ดูได้ที่ช่องปฏิทินไม่ต้องคลิกไปคลิกมาให้เวียนหัวตุ๊บๆ สนามบินนานาชาติหลักชื่อว่า VelanaInternational Airport อยู่ที่เกาะ Hulhule (ในกรอบสีส้ม) เกาะตรงกลางระหว่างเกาะเมืองหลวงชื่อว่า Male (ในกรอบสีเขียว) และเกาะ Hulhumale (ในกรอบสีน้ำเงิน) Hulhumale (ในกรอบสีน้ำเงิน) ซึ่งสร้างใหม่ด้วยการขุดทรายและสันแนวปะการังมาถมเกาะใหม่ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องอนุรักษ์ ลืมไปได้เลย และดำเนินการสร้างกำหนดเสร็จภายในสองปีชื่อเกาะ ขณะนี้กำลังดำเนินการสร้างสะพานเชื่อมสามเกาะนี้เข้าด้วยกันเพื่อตอบสนองการขยายตัวของธุรกิจ แนะนำให้ซื้อตั๋วไปช่วงเช้า และกลับช่วงหลังเที่ยง หรือเย็น หากตั๋วบินตรงไม่แพงมากให้เลือกไปเลย ดีกว่าไปบินต่อที่เมืองหรือประเทศอื่นๆ เพราะอาจทำให้เกิดค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิดตามมาทีหลัง รวมไปรวมมาอาจแพงกว่ากว่าตั๋วบินตรง แนะนำให้เลือกที่นั่งข้างหน้าต่าง ควรเป็นฝั่งเดียวกันทั้งขาไปขากลับเพราะจะได้เห็นวิวทั้งฝั่ง หากเลือกนั่งคนละฝั่งจะทำให้เห็นวิวฝั่งเดิม ที่นั่งที่เหมะกับการถ่ายรูปเป็นที่นั่งก่อนปีก หรือเกือบแถวหลังสุดไปเลย หากไม่ต้องการให้เห็นปีกเครื่องบินในรูปถ่ายหรือวิดีโอ ถ้าไปกันหลายคนก็นั่งกระจายกันจะได้มาแบ่งวิวกันดู ชาร์ตแบตให้เต็ม เตรียมเม็มให้ดี พร้อมอัด พร้อมถ่่ายเพราะสวยมาก เป็นช่วงวินาทีทอง ห้ามพลาด ห้ามหลับ ![]() แนะนำให้โหลดแอ็ป MAPS.ME เป็นแผนที่ฟรี และใช้กันแพร่หลายในกลุ่มแบกเป้ทั่วโลก เพราะรวดเร็ว ละเอียดและออฟไลน์ ในขณะที่บินสามารถดูได้ว่าอยู่จุดไหน หากใครบินมาจากกรุงเทพจะมองเห็นเกาะๆ นึง น่าสนใจมาก ชื่อเกาะเซนติเนลเหนือ หมู่เกาะอันดามันและนิโคบาร์ อยู่ในทะเลอันดามันล่างจากประเทศพม่า ลองหาอ่านเพิ่มเติมได้ในเว็บอื่นๆ ค่ะ ![]() วิวเกาะในหมู่เกาะ Kafuu Atoll ที่เห็นคาดว่าเป็นบริเวณแนะปะการังของเกาะ Dhiffushi และ แนวปะการังของ เกาะ Thulusdhoo มองเห็นคลื่นที่เรียกว่า เป็นแนวคลื่นที่นักโต้คลื่นระดับมืออาชีพมาเก็บตัวฝึกซ้อม ไม่แนะนำสำหรับมือสมัครเล่น เพราะคลื่นค่อนข้างใหญ่และมีสันแนวปะการังด้านหน้าคลื่น ภูมิอากาศ สำคัญมาก ก่อนซื้อตั๋วเครื่องบิน แนะนำให้อ่านสภาพอากาศโดยรวมแต่ละช่วงของประเทศมัลดีฟส์ และสำคัญที่สุดคือต้องการดูอะไร เพราะธรรมชาติสวยงามมาก แต่ละช่วงก็มีอะไรให้สัมผัสแตกต่างกัน หาข้อมูลโดยการดูวิดิโอของคนอื่นๆ ที่มีวันที่โหลดในแต่ละเดือน เพราะปกตินักท่องเที่ยว ไปแล้วก็โหลดเลย มรสุมฤดูหนาวเริ่มต้นเดือน ตค. ถึง พย. แนะนำให้พักเกาะไม่ไกลจากสนามบินมาก มรสุมฤดูร้อนเริ่มต้นเดือน พค. ถึง สค. แนะนำให้พักเกาะไม่ไกลจากสนามบินมาก ช่วงเดือนนี้บางเกาะมีแพลงก์ตอนเรืองแสง อากาศดีเริ่มต้นเดือน ธค. ถึง เมย. น้ำใส ไหลเย็นเห็นตัวปลา ตามที่เห็นในประชาสัมพันธ์ต่างๆ ช่วงมรสุมแนะนำให้พักบนเกาะ เดี๋ยวนอนไม่หลับเพราะลมพายุฝนฟ้าคะนองค่อนข้างแรง จะได้ไม่ต้องเปลืองเงินหลายหมื่นไปดูฝนตก ถ้าโชคดีเจออากาศดีก็ค่อยติดต่อขออัพเกรดช่วงที่พัก ช่วงมรสุมรีสอร์ทไม่ค่อยเต็มหรอก ยกเว้นตรงกับวันหยุดของชาวจีน เพราะรีสอร์ทเน้นแขกแถบทวีปยุโรปกับทวีปอเมริกาเหนือ ส่วนเราเป็นแขกเสริมช่วงมรสุม การเดินทางภายในประเทศ สภาพภูมิประเทศมัลดีฟส์เป็นหมู่เกาะปะการัง บนแนวขอบภูเขาไฟไต้น้ำที่มีการยุบตัวลง ในมหาสมุทรอินเดีย การเดินทางหลักเป็นการเดินทางโดยเรือโดยสารสาธารณะ สปีดโบ๊ทสาธารณะ สปีดโบ๊ทส่วนบุคคล เครื่องบินที่จอดบนผิวน้ำหรือซีเพลน เครื่องบินที่จอดบนลานจอดตามเกาะต่างๆ ทำความรู้จักบริเวณที่สนามบินก่อนไปจะได้ไม่งง ซ้ายคืออาคารสนามบิน ขวาคือท่าเรือข้ามฟากไปเมืองหลวง ตรงข้ามหน้าทางออกจากสนามบินเลย เดินตรงออกไปเรื่อยๆ ก็เจอ ถ้าหากต้องการซื้อซิมเน็ตก็ซื้อในอาคารก่อนน่ะ หาง่ายอาคารเล็กเหมือนสนามบินภายในประเทศที่เมืองไทย ก่อนออกมาก็รีบซื้อตั๋วก่อนน่ะ ซ้ายมือ ช่องขายสุดท้ายในอาคาร แล้วก็ถ่ายรูปกันไปเลยช่วงที่รอ แต่ถ้าจะขึ้นรถเมล์ไปเกาะ Hulhumale ออกมาเลี้ยวซ้ายนิดเดียว ไม่ต้องไปไกล ขึ้นฝั่งซ้ายไม่ต้องข้ามถนน รถสังเกตุเห็นง่าย ก็ถ่ายรูปกันไป ![]() การโดยสารเรือท้องถิ่น บนเกาะ Male มีท่าเรือสาธารณะสำหรับเรือโดยสารไปเกาะต่างๆ ชื่อท่าเรือ Villigili Ferry Terminal ซึ่งต้องข้ามฝากจากสนามบินที่เกาะ Hulhule มาก่อนและต่อด้วยรถแท็กซี่ไปท่าเรือ ค่าแท็กซี่ทั่วเกาะราคา 25 MVR วิวเมืองหลวง ถ่ายจากเกาะสนามบิน ![]() แต่หากพักที่เกาะ Hulhumale แล้ว ไม่ต้องมาท่าเรือที่หน้าสนามบินน่ะ มีท่าเรืออีกที่นึงบนเกาะ Hulhumale ข้ามฝากตรงมาที่เกาะ Male เลย จอดท่าเดียวกับเรือข้ามฝากระหว่างสนามบินก้บเกาะ Male ถ้าหากกระเป๋าไม่หนักมากออกจากท่าเรือที่มาจากสนามบินเลี้ยวขวาเดินเลียบริมน้ำมาเรื่อยๆ เจอตลาดขายปลา ขายผลไม้ เดินต่อไปเรื่อยๆ อย่าเพิ่งแวะ ไปซื้อตั๋วก่อนเผื่อทันเรือลำอื่นที่ไม่ได้อยู่ในตารางไม่ต้องเข้าซอยไหน เพราะซอยเล็กมากเดี๋๋ยวงงและอาจหลงได้ง่าย แถมรถขับกันค่อนข้างเยอะ ถนนแคบมาก นึกว่าอยู่สำเพ็ง เดินประมาณ 20 ถึง 30 นาที ท่าเรือจะอยู่ขวามือตรงข้ามกับตึก Dhiraagu (แนะนำให้ดาวน์โหลด MAPS.ME แผนที่ซึ่งไม่ต้องใช้เน็ต) จะได้เดินง่ายๆ สบายใจ ดูบ้านเมืองซึ่งคล้ายกับสำเพ็งที่กรุงเทพเลย จะได้ไม่ต้องมาแวะดูอีกวันที่จะกลับ ซื้อตั๋วแล้วถ้ามีเวลาก็ลองเดินกลับไปดูตลาดขายปลา เพราะปลาเป็นอาหารหลักของขาวท้องถิ่น ส่วนตลาดผลไม้ไม่น่าสนใจมากเพราะส่วนใหญ่มาจากอินเดีย ศรีลังกา ไทยแลนดดดดดด์ ![]() เดินเล่นๆ กับกระเป๋าไม่เกินเจ็ดกิโลตั้งแต่เครื่องลงที่สนามบินมาถึงท่าเรือนี้ใช้เวลาไม่เกินหนึ่งชั่วโมง วันแรกก็ไปพักเกาะท้องถิ่นสวยๆ ตามที่เห็นในเน็ตได้เลย ไม่ไกลมากนั่งเรือเพลินๆ ก็ถึงแล้ว ฝนตกก็ยังเห็นน้ำทะเลสีเขียวอ่อนซึ่งเป็นบริเวณขอบแนวปะการัง สลับไปกับน้ำทะเลสีน้ำเงินเข้มซี่งเป็นบริเวณสันภูเขาไฟ วิวจากเรือ การขุดทรายปะการังขึ้นมาทับถมแนวปะการังเพื่อสร้างพื้นที่เกาะใหม่ ระหว่างนั่งเรือไป กลับ เกาะ Male - Gulhi การขุดทรายจะเห็นได้ทั่วไป ตามเกาะท้องถิ่นและเกาะรีสอร์ทต่างๆ ![]() เตรียมเม็ม เตรีมแบตให้ดี ทั้งอัดทั้งถ่ายได้เลย อย่าหันหน้าไปมามากน่ะ เดี๋ยวเมาเรือ แนะนำให้มีอะไรเปรี้ยวๆ และยาดม ติดตัวไว้ เพราะคลื่นทะเลก็เหมือนผู้หญิงช่วงนั้นของเดือนเลยน่ะ บอกไว้ก่อนเลยว่าวันแรกพยายามไปเกาะที่ไกลที่สุดที่ต้องการไป เพราะอาการโคลงเคลงจะอยู่กับเราไปอีกหลายวัน วันหลังจะเริ่มไม่อยากนั่งเรือ วันสุดท้ายจะได้นั่งเรือโดยสารจากเกาะที่ใกล้ที่สุดที่อยากไป และป้องกันการตกเครื่องอันเกิดจากเหตูการณ์ที่ไม่คาตคิด ภายในเรือในขณะที่นั่งท่องเที่ยวเมาเรือกันไป เดือน พค. คลึ่นสูงประมาณ สองถึงสามเมตร โคลงเคลง ชาวท้องถิ่นหลับไปพลาง นักท่องเที่ยวก็ดมยาไปค่ะ ![]() เรือโดยสารท้องถิ่น ราคา 22 MVR ต่อคน ต่อเที่ยว ตลอดสาย ที่ท่าเรือมีแค่สองตารางที่เป็นภาษาอังกฤษ แต่ดูจากตารางการเดินเรือใน Google map มีเยอะกว่านี้ อย่างเช่น Male - Ukulhas - Rasdhoo - Mathiveri (หากต้องการไป แนะนำให้ติดต่อเกสต์เฮาส์ไหนก็ได้บนเกาะเพื่อขอตารางการเดินเรือฉบับล่าสุด หรือลองหาใน Google โดยพิมพ์ Mathiveri Local Ferry MTCC หากไม่พิมพ์ MTCC จะมีเว็บเช่าสปีดโบ๊ทส่วนตัวขึ้นมาบังข้อมูลเยอะมาก) ช่วงมรสุมฤดูร้อนคลื่นสูงประมาณ 2 ถึง 4 เมตร แต่อาจจะสูงกว่านี้ในวันที่มีลมพัดแรงและพายุฝน มรสุมฤดูหนาวคลื่นสูงประมาณ 1 ถึง 2 เมตร อากาศดีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร เรือกระแทกมั้ยก็แล้วแต่อากาศวันนั้นๆ ตารางเดินทางจากเกาะ Male - Gulhi - Maafushi - Guraidhu (เรือโดยสารเดินทางสี่เกาะทางใต้ของเกาะ Male ในหมู่เกาะ Kafuu Atoll จากจำนวนทั้งหมด 107 เกาะ) ตารางต้องอ่านจากขวาไปซ้าย ออกเมื่อวันที่ 17 พค 2018 ![]() ตารางเดินทางจากเกาะ Male - Himmafushi - Huraa - Thulusdhoo - Dhiffushi (เรือโดยสารเดินทางห้าเกาะทางเหนือของเกาะ Male ในหมู่เกาะ Kafuu Atoll จากจำนวนทั้งหมด 107 เกาะ) ตารางต้องอ่านจากขวาไปซ้าย ออกเมื่อวันที่ 17 พค 2018 ![]() เรือกำลังล่องออกจากท่าเรือ ที่เกาะ Huraa เดือน พค. ในวันที่ฝนตกสลับแดดออก ร้อนสลับฝนมันก็จะเกือบจับไข้ได้ ![]() สำหรับนักแบกเป้ที่ไม่ชอบเดินทางโดยเรือตรวจสอบรายชื่อสนามบินภายในประเทศได้ตามลิ้งค์ https://en.wikipedia.org/wiki/List_of_airports_in_the_Maldives เที่ยวเกาะไหนดีรายชื่อสายการบินภายในประเทศ สายการบินเหล่านี้ยังไม่เห็นมีแสดงใน Google flight https://en.wikipedia.org/wiki/List_of_airlines_of_the_Maldives หมู่เกาะมัลดีฟส์มีมากกว่า 1,200 เกาะ (islands) แบ่งเขตการปกครองเกาะทั้งหมดออกเป็น 26 หมู่เกาะ (หมู่เกาะ = atoll) แต่ละหมู่เกาะประกอบด้วย เกาะเล็ก เกาะใหญ่จากต่ำสุดประมาณ 7 เกาะ จนถึงประมาณ 100 เกาะ แล้วจะเลือกหมู่เกาะไหน และไปพักเกาะไหนดี ดูการเกิด หมู่เกาะ (atoll) ซึ่งประกอบด้วยเกาะเล็ก เกาะใหญ่ หลายเกาะ ที่เกิดขึ้นริมแนวสันเขาได้เลย จะได้ไม่เข้าใจผิดว่า หนึ่งภูเขาไฟทำให้เกิดหนึ่งเกาะ เพราะจริงๆ แล้ว หนึ่งภูเขาไฟทำให้เกิดหนึ่งหมู่เกาะ นับรวมแล้วแสดงว่าประเทศมัลดีฟส์มีภูเขาไฟที่จมใต้น้ำ 26 ที่ แผนที่ประเทศมัลดีฟส์ด้านล่างจะทำให้เข้าใจง่ายนิดนึงสำหรับคนไปครั้งแรก และอาจทำให้อยากไปอีกหลายๆ ครั้งสำหรับคนที่เคยไปมาแล้ว เพราะเกาะเยอะเหลือเกิน แล้วสวยแทบขาดใจ แค่นั่งหน้าชายหาดก็ไม่อยากไปทำกิจกรรมอะไรแล้ว สำหรับนักเดินทางแบบแบกเป้มีให้เลือกสามเส้นทาง เข้าใจได้คร่าวๆ คือเมืองหลวงอยู่ในหมู่เกาะ Kaafu Atoll เหนือ ในกรอบสีแดง สามารเดินทางโดยเรือประจำทาง ตารางออกเดินทางจากเกาะ Male - Himmafushi - Huraa - Thulusdhoo -Dhiffushi ในกรอบสีเขียวอยู่ในหมู่เกาะ Kaafu Atoll ใต้ สามารถเดินทางโดยเรือประจำทาง ตารางออกเดินทางจากเกาะMale- Gulhi - Maafushi - Guraidhu (Guraidhoo) ส่วนในกรอบสีส้มอ่อนอยู่ในหมู่เกาะ Rasdhoo Atoll สามารถเดินทางโดยเรือประจำทาง ตารางออกเดินทางจากเกาะ Male - Ukulhas - Rasdhoo - Mathiveri แผนที่จาก https://www.mondomaldive.com/Maps.html แบกเป้เบี้ยน้อย แนะนำให้เลือกเกาะใกล้ๆเดินทางโดยเรือโดยสารท้องถิ่นประมาณ 30 นาที ถึง 2 ชั่วโมง อย่างเช่น Male Dhiffushi หรือ Male Guraidhoo แล้วค่อยๆ เดินทางกลับมาครั้งละเกาะ สองเกาะแล้วแต่เลือก หากมีงบและเวลาแถมอากาศดีก็เลือกเกาะที่สามารถเดินทางโดยเรือโดยสารท้องถิ่น 3 ถึง 4 ชั่วโมงได้ อย่างเช่น เส้นทาง Male Mathiveri ตอนที่ไปเดือน พค. ไม่ได้เลือกเกาะ เส้นทาง Male Mathiveri เพราะตรวจสภาพอากาศในแอ็ปล่วงหน้าหลายอาทิตย์ ลมพัดแรงมากประมาณ 20-25 mph แล้วจะรู้ได้ไงว่าตัวเลขนั้นแปลว่าอะไรก็ลองเปรียบเทียบสภาพอากาศกับเมืองที่เราอยู่ ว่าลมพัดประมาณเท่าไหร่ แล้วเราคิดว่าแรงมั้ย ปกติลมพัดแบบชื่นใจจะประมาณ 5-10 mph ที่ประเทศมัลดีฟหากลมพัดแรงจะมีผลให้คลื่นสูงเลยจองที่พักเกสต์เฮาส์ แบบ No show และติดต่อกับเกสต์เฮาส์ทาง whatsapp ทั้งสามเส้นทางเรือโดยสารตามที่เขียน เรือจะจอดแวะรับส่งผู้โดยสาร ตามเกาะต่างๆ ต้องดูรายละเอียดเพิ่มเติมจากตารางเรือนักท่องเที่ยวก็สามารถหยุดพักตามเกาะนั้นๆ ได้ ตามแต่จะเลือกเกาะไหนเพิ่มเติมหรือนอนพักเกาะละคืน แต่เกาะแรกควรพักสองคืน เพราะกว่าจะถึงก็อาจเกือบเย็นแล้ว หากชอบเกาะไหนก็นอนต่อ ราคาห้องไม่ได้แตกต่างกันมากมายยกเว้นช่วงเดือน ธค. ถึง กพ. ซึ่งเป็นช่วงท่องเที่ยวของชาวยุโรป ซึ่งเดินทางมาพักเกาะท้องถิ่นเยอะเหมือนกัน เพราะมัลดีฟส์เป็นที่นิยมากสำหรับชาวอังกฤษ และสภาพฝนฟ้าอากาศแต่ละฤดู
เบี้ยมากแนะนำให้เลือกรีสอร์ทบริเวณเกาะใต้ซึ่งมีสนามบินและอากาศโดยรวมทั้งปีฝนตกน้อยและน้ำใสกว่าภาคเหนือ หรือรีสอร์ทบนแนวปะการัง Ari atoll ไม่ต้องจองล่วงหน้าไปดูอากาศและที่พักก่อนแล้วค่อยตัดสินใจ ไม่ต้องห่วงมีคนมาเสนอให้ตั้งแต่เช็คอินเลย ของฝาก ไม่มีอะไร ส่วนมากมาจากอินเดีย ศรีลังกา และประเทศไทย ไม่ต้องเตรียมเงินไปซื้อ งบเท่าไหร่ดีสำหร้บแบกเป้ ตั๋วเครื่องบิน US$ 100 - 200ค่าเดินทางภายในประเทศ US$ 10 (ขึ้นอยู่กับตัวเองว่าอยากเดินทางด้วยอะไร ไปเกาะไหน กี่เกาะ) ค่าที่พัก ค่าอาหาร ทานอาหารท้องถิ่นมือละประมาณ US$ 4 ทานบุฟเฟ่ต์ตามเกสต์เฮาส์มื้อละประมาณ US$ 10-15 กิจกรรม เบื้องต้นประมาณ US$ 25 - US$ 125 เน็ต (ไม่ติดโซเซี่ยล ไม่อยากนั่งแชท อยากเห็นมัลดีฟส์ และส่วนมากที่ไปพักเน็ตดี เลยไม่แนะนำเพราะส่วนมากทำกิจกรรมและอยู่บนเรือ) สรุปรายจ่ายเจ้าของบล็อก 11 วัน 10 คืน พักและเที่ยวชมหกเกาะท้องถิ่น อาหารท้องถิ่น บุฟเฟ่ต์สองมื้อ ดูปลาโลมาและดำน้ำดูปะการังหน้าเกาะที่พัก รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด 18,000 บาท ข้อมูลเพิ่มเติมจะแตกย่อยเป็นบล็อกอื่นๆ เพื่อให้อ่านง่ายกว่าและไม่ยาวเกินไป |
สมาชิกหมายเลข 4627418
![]() ![]() ![]() ![]() เริ่มต้นด้วยความสงสัยที่คนชอบพูดประโยคว่า ดูประเทศนั้นสิดีกว่าเมืองไทยตั้งเยอะ ทำไมประเทศไทยยังเป็นแบบนี้ เลยเก็บออมเงินไปดูหน่อยสิ ว่าที่เค้าพูดกันมันเป็นความจริงเหรอ |