Group Blog All Blog
|
เคล็ดลับวิธีสอนลูกให้ได้ดีและฉลาด พ่อ แม่ ทุกคนย่อมอยากให้ลูกเกิดมาเป็นเด็กฉลาด เป็นเด็กน่ารัก เด็กดี เป็นที่รักของคนรอบข้าง สิ่งเหล่านี้พ่อ แม่ สามารถสร้างเสริมให้ลูกได้ตั้งแต่เป็นเบบี๋เลยค่ะ วิธีสอนลูกให้ฉลาด ก็ไม่ยากอย่างที่คิดเพียงแต่ต้องอาศัยเทคนิคและเคล็ดลับดี ๆ ในการเลี้ยงลูก ซึ่งเคล็ดลับง่าย ๆ ใช้กับลูกตั้งแต่ยังเล็กจะค่อย ๆ ซึมซับโตขึ้นไปจะต้องเป็นเด็กที่ฉลาดทั้งด้าน IQ (สติปัญญา) , EQ (อารมณ์) และน่ารักมากแน่นอนค่ะ ความฉลาดไม่ได้หมายถึงแค่เรื่องสติปัญญาเพียงอย่างเดียว ยังรวมถึงฉลาดทางด้านอารมณ์หรือ EQ (Emotional Quotient) ในเด็กที่มีอายุระหว่าง 7-12 ปี เป็นวัยที่กำลังเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ จากโลกภายนอก ต้องลองปรับตัวเข้ากับสังคมใหม่ที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเพื่อนใหม่ในวัยเดียวกันหรือกับผู้ใหญ่ ดังนั้นการเลี้ยงดูจากที่บ้านถือเป็นการปูพื้นฐานสำคัญที่ช่วยให้ลูกซึมซับ และนำไปปฏิบัติกับคนรอบข้างให้ลูกได้เป็นที่รักกับคนอื่น มาดูกันค่ะว่า วิธีสอนลูกให้ฉลาด เลี้ยงลูกให้ดี มีวิธีไหนบ้าง โภชนาการที่มีประโยชน์ อยากให้ลูกเป็นเด็กฉลาด เติบโตสมวัย พ่อแม่ห้ามละเลยเรื่องโภชนาการอย่างเด็ดขาด ให้ลูกได้ทานอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่และสารอาหารที่สำคัญสำหรับเด็กในวัยเจริญเติบโตมากที่สุด นั่นคือ “กรดอะมิโนจำเป็น” ผลิตภัณฑ์นมถั่วเหลืองไมโล UHT ที่มีสารอาหารจำเป็นครบถ้วน “กรดอะมิโนจำเป็น 9 ชนิด” อยู่ครบจบในกล่องเดียว หากพ่อแม่อยากให้ลูกเป็นเด็กฉลาด เติบโตสมวัย อย่าลืมให้ลูกทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และเสริมด้วยผลิตภัณฑ์ไมโล UHT นะคะ ฟังเพลง เล่นดนตรี การฟังเพลงทำให้ลูกได้ฝึกสมาธิ มีความจำที่ดี มีความกระตือรือร้น และได้ฝึกทักษะการฟังมากขึ้นอีก อีกทั้งการฟังเพลงยังช่วยผ่อนคลายทางอารมณ์ ให้ลูกมีอารมณ์ดี สมองเปิดรับสิ่งต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี นอกจากการฟังเพลง ลองฝึกให้ลูกเล่นดนตรีประเภทต่าง ๆ เช่น เปียโน กีตาร์ หรือ กลอง จะช่วยพัฒนาสองทั้งซีกซ้ายซีกขวา และอาจทำให้เด็กได้ค้นพบสิ่งที่ชอบและพัฒนาจนเป็นสิ่งที่ถนัด สอนลูกให้เป็นคนดี ด้วยหนังสือ หนังสือนิทานสำหรับเด็กมักจะสอดแทรกคำสอนดี ๆ เข้าใจง่ายมาด้วย หากพ่อ แม่ อยากให้ลูกเป็นคนดีสามารถสอนผ่านหนังสือนิทานได้ โดยการอ่านนิทานให้ลูกฟังและอธิบายพฤติกรรมของตัวละครว่า ใคร ทำอะไร และผลเป็นอย่างไร สิ่งนี้ควรทำหรือไม่ ทำแล้วจะได้รับโทษอย่างไร อีกทั้งการอ่านหนังสือนิทานยังเป็นการช่วยด้านสติปัญญาให้กับลูก เพราะลูกได้เห็นตัวละครต่าง ๆ ที่เป็นรูปภาพและสามารถจดจำชื่อของตัวละครได้ เป็นการฝึกใช้ความจำของสมอง เล่นกีฬา การเล่นกีฬานอกจากจะได้ร่างกายที่แข็งแรงแล้ว การเล่นกีฬาร่วมกับผู้อื่นทำให้ลูกรู้จักแพ้ ชนะ รู้อภัย มีน้ำใจนักกีฬา ได้ฝึกการเข้าสังคม การพูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดกับผู้อื่น ฝึกการพูดคุยแบบเป็นกันเอง หมั่นชวนลูกพูดคุยโต้ตอบกันบ่อย ๆ เป็นการฝึกให้ลูกพูดคุยและสื่อสารความรู้สึกนึกคิดของตัวเองมากขึ้น การชวนพูดคุยจะช่วยสร้างการเชื่อมต่อของสมอง ทำให้สมองจดจำคำศัพท์ใหม่ ๆ ได้ฝึกการออกเสียง การสะกดคำ และความกล้าแสดงออกในการพูด ฝึกให้ลูกเป็นเด็กที่ช่างเจรจา เด็กที่ช่างพูดคุยมักเป็นเด็กฉลาด การพูดคุยกันของคนในครอบครัวอย่างใกล้ชิดยังช่วยทำให้ความสัมพันธ์ในครอบครัวสนิทเพิ่มขึ้นด้วย ทำกิจกรรมยามว่าง ในเด็กช่วงวัยพัฒนาควรได้ทำกิจกรรมที่หลากหลายเพื่อให้ลูกได้ค้นพบความชอบ และด้านเก่งของตัวเอง โดยมีพ่อ แม่ ให้ความสนับสนุน เปิดโอกาสให้ลูกได้เล่นร่วมกันกับเด็กอื่น ๆ เป็นการฝึกให้ลูกเข้าสังคม ลองผิดลองถูก ด้วยตัวเอง คุณพ่อคุณแม่ลองเปิดใจให้ลูกได้ทำอะไรด้วยตัวเอง โดยที่เรานั้นยืนมองดูอยู่ห่าง ๆ เพราะนี่จะเป็นวิธีที่ช่วยให้พวกเขากล้าคิด กล้าตัดสินใจและแก้ปัญหาด้วยตัวเองได้ อย่างเช่น ให้ลูกไปซื้อขนมและพูดคุยกับแม่ค้าด้วยตัวเอง ช่วยให้ลูกมีความมั่นใจเพิ่มมากขึ้น ฝึกความมีน้ำใจ ความมีน้ำใจเข้าอกเข้าใจผู้อื่นเป็นทักษะสำคัญในการอยู่ร่วมกับคนในสังคม ผู้ที่มีน้ำใจ เข้าใจผู้อื่นย่อมเป็นที่รักของทุกคน พ่อแม่สามารถฝึกลูกได้ง่าย ๆ ด้วยการฝึกให้ลูกพูด “ขอบคุณค่ะ/ขอบคุณครับ” เมื่อผู้ใหญ่ให้ของ และสอนให้ลูกรู้จักถามไถ่ความรู้สึกของผู้อื่น อย่างเช่น คุณแม่กลับมาจากที่ทำงาน การถามว่าคุณแม่เหนื่อยไหมคะ คุณพ่อเหนื่อยไหมครับ การฝึกทำแบบนี้จนเป็นนิสัยจะทำให้ลูกของคุณเป็นเด็กที่น่ารักมาก ๆ สามารถตามไปอ่านวิธีเลี้ยงลูกให้ได้ดีต่อที่ https://www.milo.co.th/all-blog/วิธีสอนลูกให้เป็นคนดี-ฉลาด
|
สมาชิกหมายเลข 7250765
 ฝากข้อความหลังไมค์ Rss Feed  ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] | ||||||||||||
