Interlude of Cabincrew
ชาวบ้านเขาอยากเป็นกันนักหนา เรานี่แปลกไม่อยากเป็น แอร์โอสเตส!!! จำได้ว่าสมัยเด็ก ขึ้นเครื่องบินครั้งแรกคือ สิงค์โปร์แอร์ไลน์ไปเที่ยวสิงค์โปร์กับพ่อแม่ ตื่นเต้นกับการได้นั่งเครื่องบินครั้งแรกในชีวิต ห้องน้ำบนเครื่องมันทันสมัยจัง ที่กดเอนเบาะตรงไหนนะ เครื่องบินขึ้นและลง เสียงเครื่องยนต์ ทุกอย่างดูน่าชื่นชมไปหมดสำหรับเราในตอนนั้น สมัยเด็ก ดูหนังพวกAir Forceแล้ว เครื่องบินที่เป็นนวัตกรรมที่เท่ห์ระเบิดไปเลย คนที่อยู่บนเครื่องบินก็โคตรเก่งเลย จะดีแค่ไหนถ้าโตขึ้นเราได้เป็น นักบิน หรือถ้านักบิน เราอาจเป็นไม่ไหว งั้นเป็น หมอ ก็ดูดีไม่เบานะ แอร์โอสเตส สำหรับเรา เราว่าพวกเขาก็สวยดีนะ ดูดี อ่อนหวาน แถมยังคอยมาบริการพวกเราอีกต่างหาก แต่ก็เป็นอาชีพที่ไม่เคยอยู่ในความคิดเราเลย ถ้าให้เป็น คงไม่ดีกว่า สมัยเด็ก พ่อเราต้องพาลูกค้าไปเที่ยวเมืองนอกบ้างเป็นบางโอกาส พ่อชอบมาเล่าว่าสงสารแอร์บางคนที่โดนผู้โดยสารดุด่าเกินเหตุ เห็นแล้วได้แต่คิดว่า คงไม่ให้ลูกสาวเป็นแอร์เด็ดขาด เรื่องเล่าของพ่อประกอบกับสิ่งที่เราเองเจอบนเครื่องฝังลึกลงไปในซิลิบัมของเรา และทำให้เรามองอาชีพนี้ว่าก็ไม่ต่างอะไรจาก ขี้ข้า มากนัก เราฝันอยากเป็นนักบิน กับ หมอ สองอย่างนี้ละที่สมัยเราอายุไม่ถึง10ขวบ มันคือความฝันของเรา แต่ความฝันก็เป็นได้แค่ฝันเมื่อเราพบว่า เราถนัดด้านภาษามากกว่าเลขและวิทย์ เราเริ่มฉายแววทางด้านภาษาตั้งแต่ม.1และลอกการบ้านเลขจากเพื่อนทุกเช้ายันจบม.3 ม.ปลายเราสอบได้คะแนนเลขต่ำสุดในชั้น นั่นก็คือได้2คะแนนจากคะแนนเต็ม20 ฝันทั้งสองจบลงด้วยม.ปลายเราเลือกเรียนสายภาษาอังกฤษ-ฝรั่งเศส ต่อด้วยการได้เกียรตินิยมจากคณะทางด้านมนุษยศาสตร์จากมหาวิทยาลัยอันดับต้นๆของประเทศ เราเป็นคนวางแผนชีวิตมาตลอด จบที่นี่จะเรียนต่อที่ไหน คะแนนต้องได้เท่าไร แต่คำตอบที่เรายังหาไม่ได้คือ จบแล้วไปทำงานอะไรดี เรารู้แต่ว่าต้องจบปริญญาโทนอก ถึงจะมีหน้ามีตา มีคนอยากรับเข้าทำงาน แต่เรียนด้านไหน ก็ยังไม่รู้เลย เพราะไม่รู้จะไปเป็นอะไรดี แต่ที่แน่ๆ ฉันต้องจบนอก และก็ที่แน่อีกประการหนึ่ง เรียนเมืองนอก ต้องใช้ เงิน พ่อแม่เราก็ไม่มีเงินมากมายที่จะส่งเราเรียนนอกได้ แถมเราก็สัญญากับตัวเองตั้งแต่เด็กว่า เราจะไม่ให้พ่อแม่ส่งเสียเราเรียนอีกหลังจบปริญญาตรี ถ้าเราอยากเรียนต่อ เราต้องหาเงินเอง ยิ่งตอนนี้ พ่อแม่เราไม่ได้ทำงานแล้ว แต่หันมาขายต้นไม้ราคาไม่กี่บาทแทน เราทนดูพ่อแม่ทำงานง๊อกๆทุกวันเพื่อส่งเราเรียนนอกไม่ได้ แม่เคยบอกว่า ถ้าเรียนไทยแม่ส่งไหว เราก็บอกแม่ว่า ถึงเรียนที่ไทย เราก็ไม่ให้แม่ส่งเสียเราเด็ดขาด พ่อแม่เหนื่อยมาพอแล้ว และเราก็โตแล้ว อยากได้อะไรต้องหาเอาเอง ในเมื่อฝันของเรา คือการได้เรียนโทจบเมืองนอก สิ่งแรกที่ต้องทำก็คือการหาบันไดไต่ไปถึงฝัน และนั่นก็คือ อาชีพแอร์โฮสเตส ของสายการบินอาหรับแห่งหนึ่งที่ให้เงินเดือนสูงกว่าสายการบินอื่นๆ บอกใครๆ ก็มีแต่คนบอกว่า อย่างแกนะเหรอจะเป็นแอร์
Free TextEditor
Create Date : 29 พฤษภาคม 2553 | | |
Last Update : 1 สิงหาคม 2553 1:39:37 น. |
Counter : 384 Pageviews. |
| |
|
|
|