[เครื่องบิน]แพคลองคะ เขื่อนรัชชประภา เขาสก สุราษฎร์(วันแรก)

รถไฟฟ้า - เครื่องบิน - รถตู้ - เรือ
แพคลองคะ เขื่อนรัชชประภา(เชี่ยวหลาน) อุทยานแห่งชาติเขาสก สุราษฎร์ธานี

เริ่มจากเห็นโปรของ AirAsia ไปสุราษฎร์ถูกดี เลยซื้อ เป็นครั้งแรกที่ซื้อตั๋วเครื่องบิน LowCost เอง (เคยซื้อตั๋วเองครั้งนึงก็ตอนไปลาวโน่นเลยค่ะ) ตื่นเต้น ทำผิด ๆ ถูก ๆ แต่สรุปก็จองได้ จากที่เค้าโฆษณา โปร 199 (หรืออะไรประมาณนั้นจำไม่ได้) แล้วไปบวกค่าสนามบิน ค่าจองที่นั่ง ค่าโหลดกระเป๋า(20 โล) ค่าประกัน รวม ๆ ก็ปาไปเกือบ 2,600 ต่อ 2 คนไปกลับ ก็โออยู่ หารแล้วก็ตกเที่ยวละ ไม่ถึง 700 บาท จองไว้ตั้งแต่กลางเดือนมกรา เพิ่งจะได้เดินทางกันก็วันที่ 26 สค.

จองไว้เที่ยวไป 14.20 เที่ยวกลับ 15.55

[26 ส.ค. 2554]
เริ่มออกเดินทาง เนื่องจากจองไว้เที่ยวบ่ายเลยไม่รีบไม่ร้อน ออกจากห้องกันประมาณ 11 โมง เดินไปขึ้น Airport Rail Link แบบสบาย ๆ ซื้อตั๋ว 40 บาท นั่งไปประมาณครึ่งชม. ก็ถึง ไปถึงก็ตรงไปโหลดกระเป๋าก่อน(เพราะทำ web check in ไว้แล้วค่ะ) จะได้ไม่ต้องเดินถือไปถือมา (รวมกระเป๋า 2 คน ก็ 10 กว่าโลเองค่ะ เพราะลืมเอากระเป๋าใส่ขาตั้งกล้องไป เค้าเลยไม่รับโหลด ต้องแบกขาตั้งกล้องหนักเกือบ 3 โลขึ้นเครื่อง) เสร็จก็ไปหาข้าวเที่ยงกินกัน แล้วก็ไปรอขึ้นเครื่องกันจ้า

แอบอวดกระเป๋าใบใหม่นิดนึง ยังถักไม่เสร็จเลยค่ะ แต่อยากเอาไปใช้ เลยเอาเข็มกลัดแปะไว้ก่อน

นั่งเครื่องไม่นานก็ถึงแล้ว สนามบินสุราษฎร์

ไปเอากระเป๋าแล้วระหว่างเดินออกมาก็เจอเค้าเตอร์ บ.พันทิพย์ กะนั่งรถบัสเข้าเมือง (100 บาท/คน) พอไปที่เค้าเตอร์ เค้าบอกว่า น้องขึ้นไปจ่ายบนรถเลยก็ได้ เราก็เลยออกไปขึ้นรถไปแป๊บนึง มองไปเห็นรถตู้ "สุราษฎร์-ตาขุน-เขื่อน" เฮ้ยย! มาได้ไง ให้โต้งลงไปถามว่ารับเพิ่มอีก 2 คนได้มั้ย โชคดีมาก ๆ เพราะเค้ามารับผู้โดยสารที่โทรจองไว้ 7 คน (มีคนที่นั่งอยู่บนรถอยู่แล้วด้วย) เราสองคนเลยไม่ต้องเข้าเมืองก่อน ตรงไปเขื่อนได้เลย เย้ ๆ

แต่พอถึงตาขุน คนก็ลงเกือบหมดแล้ว พี่เค้าเลยขอให้เรา 2 คน ลงตรงนี้ด้วย เพราะพี่เค้าจะไปส่งสาว ๆ 7 คนนั้นที่ภูผาฯรีสอร์ต แล้วเรียกรถตู้คันอื่นให้มารับต่อ (จ่ายให้พี่เค้าจากสนามบิน มาตาขุนคนละ 150) พี่คนที่ขับรถพาเราเข้าเขื่อน คงรู้สึกว่าตัวเองเก็บแพง(คนละ 80) ก็เลยพาเราไปทัวร์ตรงจุดชมวิวก่อน แล้วค่อยพาไปส่งที่ท่าเรือเขื่อน


พอถึงท่าเรือ เจอคุณเพชร(มารู้ทีหลังว่าเค้าเ็ป็นหัวหน้าอุทยานฯ - ไม่แน่ใจว่าเฉพาะคลองคะหรือทั้งส่วน) แต่ตอนโทรมาจองแพ ก็ติดต่อคุณเพชรตลอด ก็จ่ายค่าเข้าอุทยาน(คนละ 40) ให้เค้าสแตมป์ Green Passport ให้ แล้วคุณเพชรก็แจกเสื้อกันฝนคนละตัว แล้วขึ้นเรือกันเลย ฝ่าฝนกันไปที่อุทยาน (เพราะเราไปกันแค่ 2 คน เลยต้องเหมาเรือทั้งลำ ราคา 3000 - ค้าง 2 คืน แพงเหมือนกัน) ใช้เวลาประมาณชม.ครึ่ง (อันนี้ไม่แน่ใจว่าเราดูนาฬิกาผิดมั้ย) วิวสวยมาก ๆ แต่ถ่ายไม่ได้เพราะฝนตก ลมแรง สวยจนตะลึง ตลอดทางรู้สึกเลยว่าคนเราช่างเป็นสิ่งที่เล็กจ้อยเมื่อเทียบกับโลก

พอถึงใกล้ ๆ แพพัก ก็ได้กลิ่นแกงทางใต้ ลอยหอมมาแต่ไกล เค้าก็พาไปที่พักวางกระเป๋า นั่งพักกันนิดหน่อย แล้วไปกินข้าวกัน อร่อยมาก มีกับข้าว 4 อย่างกินกัน 2 คน ให้ข้าวมา 1 โถ กินกันไม่หมดเพราะเยอะ ระหว่างกินข้าว ก็มีเจ้าหน้าที่เข้ามาคุย เข้ามาถามเรื่อย ๆ ขาดเหลืออะไรมั้ย ต้องการอะไรเพิ่มมั้ย ดูแลเราแบบ VIP มาก ๆ แต่แพพักที่เราพักกันเป็นกระต๊อบหลังเล็กไม่มีห้องน้ำ (ไปใช้ห้องน้ำ/ห้องอาบน้ำ ที่แพกลาง สะอาดดี) นอกจากจะมีเจ้าหน้าที่มาคอยทักทายแล้ว ยังมีค้างคาวคอยบินวน โฉบไปโฉบมาด้วย บรรยากาศธรรมชาติมาก ๆ (โต้งบอกว่าบินชนหัวโต้งไป 1 ที 555)

กินข้าวเสร็จสักพักก็กลับที่พัก ยังตื่นเต้นกันอยู่ เลยนอนคุยกันไปเรื่อย ๆ ดีเหมือนกัน ไม่มีคอม ไม่มีเนท ไม่มีโทรศัพท์(AIS มีสัญญาณนะ โต้งโทรไปรายงานตัวที่บ้านเรียบร้อย แต่พอฝนตกอีกก็สัญญาณหาย) เลยได้คุยกันมากขึ้น พอประมาณเที่ยงคืนก็หลับ ตอนหลับไม่อยากบอกเลย ว่าอากาศเย็นมากกก เพราะฝนตกตลอด แต่ก็ไม่มีฝนสาดหรือรั่วซึมใด ๆ นะ

ค่าอาหารเป็นแบบเหมาจ่าย(คนละ 150) เลือกไม่ได้ แต่เค้าก็ทำอร่อย และพยายามทำกับข้าวที่คนไม่กินเผ็ดก็กินได้

จบไป 1 วันแบบประทับใจ

>>อ่านต่อวันที่สองกันเลย<<

Create Date : 30 สิงหาคม 2554 Last Update : 30 สิงหาคม 2554 16:53:39 น. Counter : 1954 Pageviews.		6 comments
Share Tweet