อาจารย์กฤษฎ์ อุทัยรัตน์
👨🏻อาจารย์กฤษฎ์ อุทัยรัตน์
🔻นักวิทย์ศิลป์
🔻ผู้เชี่ยวชาญ HRM HRD OD Strategic Management TQM ISO
🔻ผู้นำแห่งกฎหมายแรงงานแบบบูรณาการ อันดับหนึ่งในประเทศไทย
🔻ผู้ไม่เคยแพ้คดีแรงงาน เชี่ยวชาญการบริหาร เข้าใจนายจ้างลูกจ้าง
ชอบด้วยกฎหมาย ขอให้เป็นธรรม ย้ำหลักสุจริต ไม่คิดเอาเปรียบ
✺Credit : 👨🏻อาจารย์กฤษฎ์ อุทัยรัตน์
Ref. : www.KRISZD.com
Credit : ꍏj.Kяιꌗz∂ ꀎ-✞ɧąıཞaṭⒸ
อาจารย์กฤษฎ์ อุทัยรัตน์
นักวิทย์ศิลป์ Sc̫ίArϯίṧt
🕸ωωω.ƘRISZD.ꉓom
|
|||
กฎหมายแรงงานห้ามหักค่าจ้าง|OT(x1.5,x3 แรง)|ค่าทำงานวันหยุด(x1,x2 แรง) แต่ไม่ได้ห้ามตัดค่าจ้าง ฯลฯ นี 🆀&🅰 ✺ถามมา ก็ตอบไป สายแข็ง|เหล็กไหลกฏหมายแรงงาน The remix of Labour laws ... จากใจ 👨🏻AJK | อาจารย์กฤษฎ์ อุทัยรัตน์ ▫️▫️▫️▫️▫️▫️▫️▫️▫️▫️ 🔸เพราะมีผู้ฅน ถก และเถียง แชร์สนั่น ให้ความรู้กฎหมายไม่เต็ม แบบว่าครึ่งๆ กลางๆ จนทำให้ผู้เสพกฎหมายเพื่อนำไปปฏิบัติแบบว่า...เพี้ยน ไปกันใหญ่ กลัวว่าจะกู่ไม่กลับ แม้หมู่นี้อาจารย์จะมีภารกิจเยอะก็จริง แต่อดรนทนไม่ไหว ขอใช้เวลาสั้นๆ (แต่ดันเขียนซะเยอะ) เพื่อบอกเล่าความจริงที่ถูกต้องที่สุด ให้ได้เข้าใจ เอาไปใช้กันได้เลย 🔹หากผิดไปจากนี้มาด่าอาจารย์ได้เลย และถ้านำไปใช้แล้วมีปัญหา มาเบิกค่าเสียหายจากคำแนะนำของอาจารย์กฤษฎ์ได้เลยเช่นกัน ยินดีควักเงินสดๆ จ่ายให้เท่ากับที่ท่านเสียหายเลยครับ ขอให้คำมั่นสัญญาบัดนี้เลย ถ้า...หากคำพิพากษาศาลฎีกาที่ตัดสินสิ่งที่อาจารย์ให้คำแนะนำผิดไปจากที่อาจารย์บอกเล่านี้ ♦️เริ่ม 👨🏻มาทำความเข้าใจคำ 2 คำนี้ก่อน {2.▫️} ♦️ข้อกฎหมาย : ⚖️ พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 มาตรา 76 กำหนดว่า 🚫ห้ามมิให้นายจ้าง หัก เงิน 4 ประเภทที่เป็น ค่าตอบแทนการทำงานคือ ✅เว้นแต่เป็นการหักเพื่อ... 🔻(2) ชำระค่าบำรุงสหภาพแรงงานตามข้อบังคับของสหภาพแรงงาน อันนี้ก็ต้องไปดูว่ามีข้อบังคับของสหภาพแรงงานให้หักได้หรือไม่ ถ้าไม่มีก็หักไม่ได้ ถ้าถามว่าหากสหภาพแรงงานยื่นข้อเรียกร้องอยากให้นายจ้างหักค่าบำรุงฯ นายจ้างต้องตกลงด้วยมั๊ย คำตอบคือก็แล้วแต่นายจ้าง อยากหรือไม่อยากล่ะ ฉะนั้นต้องหรือไม่ต้องก็สุดแต่ตัวนายจ้างครับ 🔺(3) ชำระหนี้สินสหกรณ์ออมทรัพย์ หรือสหกรณ์อื่นที่มีลักษณะเดียวกันกับสหกรณ์ออมทรัพย์หรือหนี้ที่เป็นไปเพื่อสวัสดิการที่เป็นประโยชน์แก่ลูกจ้างฝ่ายเดียว โดยได้รับความยินยอมล่วงหน้าจากลูกจ้าง อันนี้หักได้ 2 กรณีคือ 🔻(4) เป็นเงินประกันตามมาตรา 10 หรือชดใช้ค่าเสียหายให้แก่นายจ้าง ซึ่งลูกจ้างได้กระทำโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง โดยได้รับความยินยอมจากลูกจ้าง อันนี้มี 2 กรณีคือ 🔺(5) เป็นเงินสะสมตามข้อตกลงเกี่ยวกับกองทุนเงินสะสม อันนี้ ยกตัวอย่างเช่นการหักเพื่อชำระกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ 👉 การหักตาม (2) /(3) /(4) และ (5) ในแต่ละกรณี ห้ามมิให้หักเกิน 10% และจะหักรวมกันต้องไม่ให้เกิน 20% ของเงินที่ลูกจ้างมีสิทธิได้รับตามกำหนดเวลาการจ่ายตามมาตรา 70 เว้นแต่ได้รับความยินยอมจากลูกจ้างก่อนจึงจะหักได้เยอะๆ และหักเกินได้ ⚖️ คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1458/2548 ♦️แม้ลูกจ้างทำหนังสือยินยอมให้นายจ้างหักค่าจ้างชดใช้ค่าเสียหายที่สามีลูกจ้างกระทำละเมิดไว้แก่นายจ้าง นายจ้างก็ไม่อาจหักค่าจ้างของลูกจ้างได้ (เพราะสามีลูกจ้าง มันไม่ใช่ลูกจ้างไงละครับจะไปหักได้ยังไง กฎหมายให้หักได้กับลูกจ้างครับ) ⚖️ คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 14036/2555 ♦️แม้จะมีกฎหมายบัญญัติว่าห้ามนายจ้างหักค่าจ้างของลูกจ้างก็ตาม แต่การที่จำเลยมีคำสั่งลงโทษโจทก์ (ลูกจ้าง) เนื่องจากโจทก์ไม่ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ ไม่เชื่อฟัง แสดงความกระด้างกระเดื่องต่อผู้บังคับบัญชา ไม่ถือปฏิบัติตามระเบียบ (จำไว้ต้องมีระเบียบ ไม่มีไม่ได้ครับ) และ ธรรมเนียมของบริษัท ไม่อุทิศเวลาของตนให้แก่การทำงาน ละทิ้งหรือทอดทิ้งหน้าที่การงาน ด้วยการตัดค่าจ้างของเดือนกันยายน 2548 ในอัตราร้อยละ 10 นั้น การลงโทษของจำเลย (นายจ้าง) ไม่ใช่การหักค่าจ้างโจทก์(ลูกจ้าง) แต่เป็นการลงโทษตามวินัยการทำงานซึ่งได้กำหนดไว้ชัดเจนแล้วตามระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน ทั้งไม่ปรากฏว่าคำสั่งตัดค่าจ้างของจำเลยดังกล่าว เป็นคำสั่งลงโทษที่รุนแรงเกินกว่าเหตุ คำสั่งลงโทษดังกล่าว จึงเป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย 👨🏻 อาจารย์กฤษฎ์ อุทัยรัตน์ ขอสรุปเลยว่าหลักใหญ่ใจความของกฎหมายมาตรา 76 นั้น ท่านกำหนดไว้จะๆ ว่าห้ามนายจ้าง หัก เงิน 4 ประเภท|อย่างของลูกจ้าง เว้นแต่จะเข้าข้อยกเว้น 5 ข้อข้างต้น ที่อาจารย์เรียกว่า การหักหนี้ 5 อย่าง คือ 1.ภาษี|2.สหภาพ|3.สหกรณ์-สวัสดิการ|4.ประกัน|5.สะสม ครับ 🚫ฝ่าฝืน : คุก 6 เดือน |ปรับ 100,000 หรือ|ทั้งจำทั้งปรับ (มาตรา 144 (1)) 🔹แต่ไม่ได้ห้าม ตัด ค่าจ้าง หรือเงินทั้งสี่นี่ ก็จึงตัดได้ซิครับถ้าระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานเขียนไว้ดีๆ ขั้นเทพว่านายจ้างสามารถ ตัด ได้ เนื่องจากลูกจ้างได้ทำผิดวินัย เช่น มาสาย ขาดงาน ละทิ้งหน้าที่ เป็นต้น แต่ถ้าลืมเขียน หรือเขียนไม่ถึง หรือไม่ได้เขียนไว้ ก็จะไม่มีสิทธิไปตัดเด็ดขาดครับ ใครบอกว่ามาสายตัดไม่ได้มีกรณีเดียวเท่านั้นคือ ระเบียบไม่ได้เขียนไว้ ถ้าตอบตีขลุมละก็...ผิดครับ และ มั่ว อาจารย์ขอลงรายละเอียดอีกนิดของฎีกานี้ ▫️คำสั่งลงโทษโจทก์ด้วยการตัดค่าจ้างร้อยละ 10 (10%) เป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่นั้น 1️⃣ ไม่ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ ♦️(👨🏻จะเห็นว่าไอ้ 5 พฤติกรรมเอาเรื่องของลูกจ้างข้างบนนั้นมันคือ การกระทำความผิดทางวินัย เมื่อทำผิดต้องลงโทษซิ หลักเบๆ (Basic) มาก และมันก็ไม่ได้อยู่ใน มาตรา 76 ด้วยครับ คนละบริบทกัน พวกนักกฎหมายที่ไม่ใช่สายแข็งเฉพาะทางด้านแรงงานเมาหมัด ปล่อยไก่หมดเล้า แล้วตามคืนไม่ได้|ไม่ครบมาเยอะแล้ว ออกสื่อให้ว่อน พวกนักข่าวที่ไม่รู้เรื่องก็นำไปสื่อไปปล่อยต่อๆ ผู้ฅนทั่วประเทศจึงเสพข้อมูลผิดๆ ทำกันเพี้ยน ส่งเสริมลูกจ้างเบี้ยวงาน ไร้วินัย เหมือนไร้ขื่อแป จนผมทนไม่ไหว เพราะมักพูด มักชี้แนะว่าห้ามหักค่าจ้าง ฯลฯ นะโว้ย ถ้านอกเหนือ 5 กรณีของมาตรา 76 มันก็ถูก แต่ถูกไม่หมดครับ ยังมีช่องทางอื่นอีกที่ศาลฎีกาเรียกว่า การตัดค่าจ้าง แล้วมัยมึงไม่เอามาอธิบายให้กระจ่างซะคราวเดียวกัน ปล่อยให้ลูกจ้างเข้าใจผิดๆ พอถูกตัดเงินเดือนไปฟ้องศาล ศาลยกฟ้อง มาโอดครวญว่าไหงเป็นงั้น คุณทนาย ทะแนะ ที่ปรึกษากฎหมายหายหัวหมด แถมแถว่า ผมบอกว่าหักไม่ได้ก็จริงนี่ แต่ไม่ได้บอกว่าตัดไม่ได้ ไอ้เวร! ทำลูกจ้างเข้าใจผิดๆ เลยมาสาย บ่ายหลบ จบด้วยการขาดงาน กระหยิ่มยิ้มย่องลำพองใจตัดค่าจ้าง ฯลฯ กูไม่ได้หรอกโว้ย เป็นการชี้ช่องแนะนำให้หนีงานไปซะอย่างนั้น เฮ้อ!!!) 🔸แต่ถ้าไม่กำหราบด้วยการตัดค่าจ้าง หรือกำหราบแล้วไม่แคร์ ยังหน้าด้านมาสาย ขาดงาน วินัยหย่อนยานอีก ผมว่านำไปพิจารณาขึ้นค่าจ้างประจำปี จ่ายโบนัส พิจารณาความดีความชอบ ใช้มาตรการทางวินัยออกใบเตือนถ้าไม่ร้ายแรง ซ้ำใบเตือนไล่ออกไปเลย ถ้าร้ายแรงไม่ต้องเตือนให้เสียค่ากระดาษ ไล่ออกไปเลย แล้วนายจ้างก็สร้างวัฒนธรรมวินัยที่ดี ทำตัวเป็นแบบอย่าง กฎหมายถือว่าเป็น สิทธิฝ่ายจัดการ (Management Rights) อยู่แล้ว จะเข้าท่ากว่าเป็นไหนๆ นะ อย่าเส้นผมบังภูเขา มีอีกหลายวิธี คิด🤔ซิคิด 💭 ▪️ด้วยการตัดค่าจ้างของเดือน กันยายน 2548 ในอัตราร้อยละ 10 (10%) นั้น การลงโทษของจำเลย มิใช่เป็นการหักค่าจ้างโจทก์ ▫️แต่เป็นกรณีลงโทษตามวินัยการทำงานซึ่งได้กำหนดไว้ชัดเจนแล้วตามระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการงาน ทั้งไม่ปรากฏว่าคำสั่งตัดค่าจ้างของจำเลยดังกล่าวเป็นคำสั่งที่รุนแรงเกินกว่าเหตุ ดังนั้นคำสั่งลงโทษโจทก์ด้วยการตัดค่าจ้างร้อยละ 10 (10%) ตามเอกสารหมาย ล.17 จึงเป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย 🔺คำพิพากษาศาลฎีกานี้วินิจฉัยว่า หากข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานได้เขียนไว้เป็นบรรทัดฐานอย่างดีชัดเจนแล้ว การลงโทษโดยตัดค่าจ้างจึงเป็นกรณีการลงโทษทางวินัย ไม่ใช่เป็นการหักค่าจ้าง และนายจ้างมีเหตุในการลงโทษดังกล่าวและเป็นการลงโทษพอสมควรแก่เหตุ จึงสามารถลงโทษโดยการตัดค่าจ้างได้ 𗀼 หัก ค่าจ้าง จึงต่างจาก ตัด ค่าจ้าง ด้วยประการฉะนี้ ครับ 👌🏻 ตามนั้น คงจะแล้วใจกันมั่ง ไม่มากก็น้อยนะครับ ▶️ https://youtu.be/nq56s5wVwtg 🔸ที่มา : *f live "ผ่าประเด็นบริหาร 'ฅน' ชี้ถูกผิดกฎหมายแรงงาน" กับ 👨🏻อาจารย์กฤษฎ์ อุทัยรัตน์ (H͛ཞ&LДЩ 4.0 by Aʝƙ) 👨🏻อาจารย์กฤษฎ์ อุทัยรัตน์ ชอบด้วยกฎหมาย ขอให้เป็นธรรม ย้ำหลักสุจริต ไม่คิดเอาเปรียบ ✺Credit : 👨🏻อาจารย์กฤษฎ์ อุทัยรัตน์ #สำนักงานอาจารย์กฤษฎ์ #AJKsMissionDevelopmentCenter #อาจารย์กฤษฎ์#AJK #AjKriszd #SciArtist . |
สมาชิกหมายเลข 4713931
Rss Feed ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] 👨🏻อาจารย์กฤษฎ์ อุทัยรัตน์ 🔻นักวิทย์ศิลป์ 🔻ผู้เชี่ยวชาญ HRM HRD OD Strategic Management TQM ISO 🔻ผู้นำแห่งกฎหมายแรงงานแบบบูรณาการ อันดับหนึ่งในประเทศไทย 🔻ผู้ไม่เคยแพ้คดีแรงงาน เชี่ยวชาญการบริหาร เข้าใจนายจ้างลูกจ้าง ชอบด้วยกฎหมาย ขอให้เป็นธรรม ย้ำหลักสุจริต ไม่คิดเอาเปรียบ Group Blog All Blog
| ||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |